มารู้จัก!! ดากานดา จากหนังเรื่องเพื่อนสนิทกัน

แนะนำตัวก่อน


ชื่อ-สกุล : ศิรพันธ์ วัฒนจินดา
ชื่อเล่น : นุ่น
เกิด: 22 พฤษภาคม 2525
สัดส่วน : 170 ซม. น้ำหนัก 50 กิโลกรัม
พี่น้อง : มีน้องชาย 1 คน
การศึกษา : คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ผลงาน : MV จากคนรักเก่า ของ ออฟ วีเฟรนด์,ละครเรื่องแผ่นดินหัวใจ,
หนังเรื่อง เพื่อนสนิท ,โฆษณาหมากฝรั่งลอตเต้ฟลาโวโน
งานอดิเรก: ว่ายน้ำ ,บาสเกตบอล,ปิงปอง
คติ: ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น


วินาทีนี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่รู้จักผู้หญิงชื่อ ดากานดา


วินาทีนี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่รู้จักผู้หญิงชื่อ ดากานดา หรือ นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา จากหนังเรื่อง เพื่อนสนิท สาวน้อยจากเชียงใหม่ที่ก้าวเข้ามาในวงการไม่ทันไร ชื่อเสียงก็ทำท่าจะดังไกล งานละครจ่อเตรียมออกอากาศ งานหนังกำลังไปโลด แถมยังมีงานโฆษณาพ่วงท้ายอีกหลายชิ้น ขึ้นแท่นนางเอกหน้าใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว

สาวคนนี้เข้าประกวดดัชชี่เมื่อปี 2004 และก็กลายเป็นสาวดัชชี่เกิร์ลสมใจ จากนั้นงานละครเรื่อง แผ่นดินหัวใจ ก็ตามมาให้ได้ชิมลางกันซึ่งกำลังรอการออกอากาศ ไม่นานก็ได้เล่นหนังเรื่อง "เพื่อนสนิท" และเป็นที่รู้จักและเป็นขวัญใจของหนุ่มๆ ไม่น้อย

มาถึงตรงนี้ถ้าถามเธอ นุ่นบอกว่า มันไกลเกินที่คาดฝันเยอะมาก เพราะวันนั้นที่ยอมประกวดดัชชี่เพราะเพื่อนยุเท่านั้น

นุ่นไม่ได้เป็นคนชอบการแสดงออกนะตอนเด็กน่ะ แต่อยากเป็นนักแสดง แต่ไม่ใช่คนชอบ
พรีเซ้นท์เว้นเสียแต่ว่าอาจารย์มอบหมายให้ทำนุ่นก็เต็มที่นะ นุ่นเป็นนางรำของโรงเรียนรำไทยตั้งแต่เด็กๆ คุณแม่ให้รำตั้งแต่ 3- 4 ขวบจ้างอาจารย์มาสอนที่บ้าน นุ่นไม่ตะกายอยากจะเป็นนะ แต่ถ้าใครมอบหมายก็ไม่เคยปฏิเสธ

นุ่นเรียนวิศวะ ก็แต่งตัวโทรมๆ ใส่ช็อปวิศวะเดินกับเพื่อนผู้ชาย เป็นกลุ่มๆ ไปเดินซื้อวีซีดีกัน ก็มีพี่คนหนึ่งเข้ามาติดต่อบอกว่าอยากประกวดดัชชี่ไหม วันนี้ประกวดวันสุดท้ายนะ มีคนชวนประกวดนางงามบ่อยมาก ซึ่งนุ่นก็ไม่ได้สนใจเพราะมันเป็นผู้หญิงมากๆ มันไม่ใช่ตัวนุ่นเท่าไหร่ พอเขาบอกว่าเป็นดัชชี่ก็เริ่มๆ นิดหนึ่ง อีกอย่างไอ้เพื่อนผู้ชายของนุ่นมันก็ปากดี นุ่นก็ถามว่าต้องอายุเท่าไหร่ 16 - 22 พอดีนุ่น 22 พอดีเพื่อนเลยบอกเดี๋ยวแก่ก็ประกวดไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจเข้ามาประกวด

นุ่นก็เลยเอาวะ ก็แค่ถ่ายรูปไม่เคยคิดว่ารูปที่ถ่ายจะผ่านการคัดเลือก ถ่ายเล่นๆ อย่างน้อยเราก็ตัดสินใจแล้ว แค่อยากลอง ก็ค่อยๆ บอกแม่ว่ามีคนชวนไปประกวดดัชชี่ แม่ก็อะไรเนี่ย ให้เรียนวิศวะอยู่ดีๆ จะไปประกวด พ่อเค้าเป็นทหาร หวงลูกสาวค่อนข้างจะหัวโบราณมากก็เลยหวงๆ หน่อย

บ้านนุ่นเน้นเรื่องการเรียนมาอันดับ 1 ตั้งแต่เด็กๆ แล้วถ้าเกิดเรียนแล้วได้เลข 2 ตัวจะต้องโดนตี ตอนป.4 ได้เลข 2 ตัว ได้ที่ 11 โดนตี 11 ที จำได้ติดตาเลย พ่อเค้าอยากให้รับราชการ อยากให้เป็นหมอแต่นุ่นไม่ชอบก็แบบมาลงเอยที่วิศวะ นุ่นค่อนข้างโชคดีที่นุ่นมีโอกาสมีคนจุดประกายแล้วก็ได้ทำถือว่าโอกาสดีมากๆ


ยอมรับ ชีวิตจริงก็ไม่ต่างอะไรจากดากานดาในหนังเรื่องเพื่อนสนิทมากนัก


นุ่นเล่าว่าชีวิตจริงนุ่นก็ไม่ต่างอะไรจากดากานดาในหนังเรื่องเพื่อนสนิทมากนักเพราะในชีวิตจริงเรียนวิศวะก็มีแต่เพื่อนผู้ชาย สุดปลื้มได้เล่นหนังเรื่องแรกแล้วคนชอบแม้ติบ้างก็จะรับฟังคำวิจารณ์
ส่วนใหญ่มีคนบอกว่าหนังน่ารัก ในเรื่องไม่หวานเลยนะ นุ่นก็มีส่วนคล้ายดากานดานะ เพราะชีวิตจริงนุ่นก็มีเพื่อนผู้ชาย พอๆ กันห้าวๆ ตั้งแต่แคสแล้วล่ะ พอเล่นเป็นคนนี้มันเหมือนตัวนุ่นมากเลย ตื่นเต้นมากที่ได้เล่น เพราะพอประกวดดัชชี่ได้ปุ๊บ ก็ได้เล่นละคร ก็มีหนังตามมาอีก รู้สึกตื่นเต้น มันเป็นโอกาสที่ดีนะนุ่นว่า น้อยคนที่จะมีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้

นุ่นไม่ได้เล่นเก่งหรอก บางคนก็บอกเล่นแข็ง ซึ่งนุ่นก็ยอมรับนะ เพราะว่านุ่นไม่ใช่เกิดมาปั๊บจะเป็นเลย เราก็ตั้งใจเต็มที่ พอเค้าพูดมาก็นิดหนึ่งที่รู้สึกเสียใจบ้าง พอเค้าวิจารณ์เราก็เก็บข้อดีข้อบกพร่องของเรามาแก้ไขให้ดี

สำหรับงานโฆษณาหมากฝรั่งลอตเต้ก็เป็นผลพวงมาจากหนังเรื่องเพื่อนสนิท ซึ่งคอนเซ็ปต์ที่เค้าอยากได้คือ ความเป็นตัวตนของนุ่นในปัจจุบันไปตรงกับคอนเซ็ปต์เค้าพอดี เค้าอยากได้คนที่บุคลิกสดใส พูดเก่ง ดีใจมากที่ได้เล่น

แม้จะถือเป็นความโชคดีที่พอได้ตำแหน่งดัชชี่เกิร์ลแล้วก็มีทั้งงานละครงานหนังเข้ามาแต่นุ่นก็ไม่ถือคติน้ำขึ้นรีบตัก ขอเลือกทำงานที่ชอบก่อน
นุ่นไม่ถือคติน้ำขึ้นรีบตักนะ ต้องทำในสิ่งที่อยากทำ งานมันจะได้ออกมาดี ไม่ใช่ว่าโลภมีอะไรก็รับ บางทีมันไม่เหมาะกับเรามันก็ไม่ดีค่ะ ถ้าเราทำที่เรารักเราชอบนุ่นว่ามันออกมาดีทุกงานนะ

ก็มีละครติดต่อมาเหมือนกัน ให้ผู้ใหญ่ที่ดัชชี่พิจารณาให้ส่วนหนึ่งนุ่นก็ขอมีส่วนร่วมในการพิจารณาด้วยว่าเราชอบมากชอบน้อยกับบทด้วยค่ะ คืออย่างน้อยๆ นุ่นว่าน่าจะโตขึ้นในการทำงาน โชคดีงานที่เข้ามาเป็นงานที่เราชอบ

กระแสภาพปาปารัซซี่ยิ่งนับวันก็ยิ่งตามติดดาราเป็นเงาตามตัว นุ่นยอมรับว่าชอบอ่านเรื่องดาราเหมือนกัน แนะทุกคนต้องเห็นใจกัน หน้าที่ใครก็หน้าที่มันอย่าละเมิดจนเกินไป พร้อมเคลียร์ "แท่ง ศักดิ์สิทธิ์" เป็นแค่อาจารย์การแสดง ไม่ใช่แฟน เล่นละครด้วยกันก็ต้องมีข่าวเป็นเรื่องธรรมดา

ยอมรับว่าเมื่อก่อนนี้ ตอนที่เป็น นุ่น ศิรพันธ์ นักศึกษาวิศวะคนหนึ่ง นุ่นก็อ่านนะภาพพวกปาปารัซซี่เนี่ย เพราะบางทีมันมีหนังสือกอสซิปอยู่ตามสถานที่ต่างๆ นุ่นก็อ่านนะ เราเป็นคนอ่าน เราก็อยากรู้เรื่องดารา พอมาเป็นเราก็เข้าใจระดับหนึ่งว่าถ้าเราเซฟตัวเองให้มากที่สุดได้ก็จะดี ตอนนี้มันก็เหมือนการละเมิดนะ อย่างน้อยมันเป็นอาชีพของเค้า ก็คงต้องเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันมั้งคะ เอาใจเค้ามาใส่ใจเราบ้างก็คงจะดี


คิดอย่างไร ถ้ามีแฟน


ถ้านุ่นมีแฟนนุ่นก็คงไม่ป่าวประกาศว่าคนนี้นะแฟนนุ่น ก็ใช้ชีวิตปกติ นุ่นก็ถือว่านุ่นเป็นคนปกติ ไม่ใช่ดารา นุ่นก็เป็นนุ่น การจับมือถือแขนสำหรับวัยรุ่นเป็นเรื่องธรรมดา แต่นุ่นว่าในสังคมบ้านเราคงยังยากอยู่ ถ้ารู้สึกดีกะใครก็รู้สึกได้ พ่อเค้าห่วงมาก ที่บ้านนุ่นให้เกียรติกันนะ เค้าเป็นพ่อเป็นแม่ เราต้องให้เกียรติท่าน เค้าก็ไม่เคยบังคับนะว่าต้องกับบ้านเวลานี้นะ ไม่ห้ามนั่นห้ามนี่ ไม่ได้บอกว่าห้ามมีข่าว โชคดีที่ที่บ้านเข้าใจ แม่จะเข้มเรื่องเรียนค่ะตอนเด็กๆ แต่โตขึ้นมาไม่แล้ว

ข่าวกับพี่แท่งที่ไปงานน้าโย่งมันไม่ไม่ใช่ว่านุ่นไปด้วยกันต่างคนต่างไป เล่นละครเรื่องเดียวกัน เป็นพระนางคู่กัน น้าโย่งก็ชวนนุ่นว่าพี่เค้าเป็นเหมือนอาจารย์นุ่นมากกว่าสำหรับพี่แท่ง เค้าเป็นดาราคนแรกที่นุ่นได้ร่วมงาน แล้วเค้าสอนนุ่นทุกอย่าง สอนกระทั่งเรื่องการเขียนลายเซ็น แต่พอมีข่าวก็ยอมรับว่า ก็ระวังตัวขึ้นมาก ภาพที่ออกมาดาราเองก็ต้องเซฟตัวเองด้วยนะ

บางทีนุ่นชินกับการมีเพื่อนผู้ชาย เรียนวิศวะมันเฮฮามาก ผู้หญิงผู้ชายมันเท่าเทียมกัน มันไม่มีเรื่องเพศเลยด้วยซ้ำ กอดคอได้ ควงแขนได้ในแง่ของความเป็นเพื่อน เราก็ต้องระวังตัว ปรับตัวมากขึ้น เรามีอีกสังคมที่ใหญ่มากขึ้นแล้ว

ชื่อเสียงโด่งดังขึ้นทำเนียบนางเอกหน้าใหม่ไฟแรงไปแล้วเรียบร้อย แต่สาวนุ่นก็ยืนยันว่าไม่ได้อยากดัง ขอทำดีที่สุด ส่วนงานด้านวิศวะถ้ามีโอกาสก็จะทำ
ตัวนุ่นในอนาคตอยากทำงานที่นุ่นได้รับมอบหมายให้ทำให้ดีที่สุด เท่านั้นเอง ไม่ได้อยากดัง มีชื่อเสียง นุ่นถือว่าตั้งแต่เด็กมันเป็นสิ่งที่เราอยากทำ แต่ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำเพราะเรียนคนละเส้นทาง มันเหมือนมีโอกาสก็ทำให้มันดีๆ

ส่วนงานด้านวิศวะ ตอนนี้นุ่นเรียนจบแล้วรู้สึกอยากทำงานด้านนี้เหมือนกันนะไม่ใช่ไม่อยากทำแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันต้องขึ้นอยู่กับโอกาสว่าจะได้ทำหรือเปล่า ซึ่งตอนนี้ก็เข้ามาวงการบันเทิงแล้วก็ขอทำงานตรงนี้ให้เต็มที่ก่อนส่วนเรื่องวิชาชีพยังไงก็ไม่ทิ้งค่ะ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์