น้ำชา สาวโลกส่วนตัวสูง

เป็นสาวน้อยที่มีทั้งความสามารถทางด้านการร้องเพลงและการแสดง

ทำให้ น้ำชา-ชีรณัฐ ยูสานนท์ แจ้งเกิดในวงการได้อย่างไม่ยากเย็น เพลงของเธอฮิตติดชาร์ตแทบทุกซิงเกิ้ลที่ออกมา แต่เรื่องความรักนี่สิ ดูจะกระท่อนกระแท่น เพราะมีข่าวเดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิกกับ ก้อง-กรุณ ซอโสตถิกุล ตลอดเวลา ซึ่งน้ำชาบอกว่า เป็นเรื่องปกติที่ความรักจะต้องมีงอนกันบ้าง วันนี้ “ดาวต่างมุม” เลยขอไปอัพเดททั้งชีวิตรักและชีวิตส่วนตัวของน้ำชามาฝากกัน 

@@@อัพเดทผลงานหน่อยตอนนี้มีอะไรบ้าง?
   
ช่วงนี้มีละครเรื่อง ช็อคโกแล็ต 5 ฤดู แล้วก็มีละครเรื่อง “พิมมาลา” ของช่อง 3 เล่นกับพี่อั้ม-อธิชาติ พี่พลอย-เฌอมาลย์ พี่ศรีริต้า เจนเซ่น และอีกหลายคนเลย เป็นแนวดราม่าเลย อารมณ์แบบสุดขีด ก็เปลี่ยนแนวจากที่เคยเล่นขำ ๆ มาเป็นซีเรียสเลย ก็เล่นเป็นแบบผู้หญิงเอ๋อ ๆ ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ก็ไม่ใกล้เคียงตัวเองเลย


@@@ได้ทำงานหลายอย่างทั้งเพลง ละคร ชอบแบบไหนมากกว่ากัน?
   
ชอบทั้ง 2 อย่างนะ แต่ถ้าให้เลือกก็คงเป็นเพลง เพราะเป็นอะไรที่ชาเกิดมาด้วย เป็นอะไรที่ชาเริ่มต้นมาทุกอย่าง เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องมานั่งสร้างคาแร็กเตอร์อื่น แต่ได้มีงานละครก็แปลกไปอีกแบบนะ นอกจากจะมีแฟนเพลงแล้ว ก็มีแฟนละครด้วย ก็ดี จะได้เพิ่มคนติดตามมากขึ้นนะ

@@@ต้องปรับตัวเองเยอะขึ้นไหมจากนักร้องมาเป็นนักแสดง?
   
ไม่เยอะ เพราะชาคิดว่ามันอยู่ในพื้นที่เดียวกัน คือ อาร์ตไง ศิลปะก็คือ ดนตรี ศิลปะก็คือ การแสดงออก มันจะต่างกันตรงที่ว่าการร้องเพลง เราเป็นตัวเรา แต่การแสดงละคร เราต้องเอาตัวเราไปสวมกับในหนังสือนิยายเล่มนั้น การร้องเพลงง่ายกว่า ไม่ต้องคิดมาก ในส่วนของการแสดงต้องทำการบ้านเยอะขึ้น

@@@ทุกวันนี้งานที่มีอยู่กับตารางเวลานั้นโอเคไหม ดูแน่นไปหรือเปล่า?
   
ก็ไม่แน่นเกินไปนะ ชาก็รู้สึกว่าโอเค แน่นพอดี 7วัน (หัวเราะ) อันนี้ก็นับรวมเรื่องชีวิตส่วนตัวด้วย ก็โอเค ไม่ได้มีเวลาพักเลย แต่โดยปกตินิสัยชาไม่ได้อยากจะพักอยู่แล้ว ชาชอบทำอะไรตลอดเวลา ชอบทำงาน ไม่รู้สึกเหนื่อย แต่จะเหนื่อยก็คืออะไรที่มันต้องตื่นเช้า ๆ แต่ว่าแค่นั้นเองที่เหนื่อย แต่หลังจากเช้าไปแล้ว เราก็รู้สึกว่าเราเต็มที่กับมัน มีความรู้สึกว่าเรารักและชอบการทำงาน ถ้าเป็นงานที่เรารักและก็ถนัด เราก็จะยิ่งรู้สึกว่าเราได้มีชีวิตกลับมา เคยว่างมากจะรู้สึกว่าสับสนวุ่นวาย คิดโน่นคิดนี่ ทำอะไรดี ความคิดจะไม่อยู่นิ่ง เคยมีแบบว่างอยากนอนทั้งวัน ก็จะนาน ๆ ทีที่อยากจะทำ ไม่ใช่ตลอดเวลา ถ้าให้เลือกมีอย่างนั้นทั้งอาทิตย์ ชาไม่เอาดีกว่า ขอทำงานดีกว่า ชอบออกไปนอกบ้าน ทำโน่นทำนี่


@@@แล้วมีความรู้สึกที่เหนื่อยจังเลยอยากพักไหม?
   
มีนะ มีอารมณ์งอแงบ้าง โอ๊ย เหนื่อยแล้ว อยากกลับบ้าน จะมีช่วงที่ทำงานหนักจริง ๆ แล้วไม่ได้นอน ซึ่งจะง่วง อารมณ์แบบนี้ก็มีแบบนาน ๆ ที แต่มันก็เป็นเรื่องปกติ ก็ 2 ปีแล้วที่เป็นน้ำชาที่ทุกคนรู้จัก ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับชื่อเสียงตัวเองเลย แต่แบบก็ต้องเจอคนมากขึ้น และก็รู้สึกว่าได้ทำงานที่เราชอบ ก็แค่นั้นเอง ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นไปกับการมีชื่อเสียง

@@@ต้องปรับตัวอะไรไหม?
   
ก็ไม่นะ แต่แค่เวลาออกไปไหนก็อย่าไปหน้าโล้น เพราะเวลาที่ไม่แต่งหน้าก็จะเป็นอีกคนเลยนะ อาจจะต้องแต่งตัวเยอะขึ้น นี่คือส่วนที่อึดอัดมั้ง ถ้าคนเห็นเราแบบใส่กางเกงขาสั้น เสื้อยืด รองเท้าแตะ ก็จะแบบ อี๋ น้ำชา เห็นตัวจริงแล้วน่าเกลียดจังเลย ก็ในเน็ตมันก็มีวิจารณ์ ชาก็เข้าไปอ่าน แต่ก็ไม่ได้นอยด์นะ ชาคิดว่าคนที่เห็นชาแบบนั้นก็คงเป็นส่วนน้อยของประเทศอ่ะ (หัวเราะ) เขาเอาไปเมาท์ก็ไม่เป็นไร

@@@แล้วเวลามีข่าวรับมือกับมันยังไง?
   
ก็ถ้ามันมา ก็รับมัน เท่านั้นเอง ทุกอย่างมันมีทางแก้ไข เราพูดจาให้มันเป็นความจริงและให้คนเข้าใจ ไม่คิดเบี่ยงเบน เราไม่ได้โกหก ชาว่าหลักมันก็แค่นี้เอง ก็เป็นตัวของตัวเองตั้งแต่ต้นจนจบ บางคนเนี่ยแรก ๆ ดีมากเลย และพอหลัง ๆ ไม่เหมือนเดิม ชาคิดว่าถ้าเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นตั้งแต่แรก ชาคิดว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ต้องอดทนสูงมาก ต้องรับให้ได้ถ้าขาดชีวิตส่วนตัว ต้องมีใจที่ให้กับคนอื่นเยอะมาก แม้กระทั่งชีวิตส่วนตัวก็ให้เป็นอะไรที่ทำเพื่อสังคม ก็ต้องคิดถึงประโยชน์ส่วนรวม



@@@การที่ชีวิตส่วนตัวเราหายไปอึดอัดไหม?
   
บางทีค่ะ เพราะชาเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงมาก แต่เราก็ไม่ได้อะไรมาก คือเรารู้สึกว่าเราโอเคในจุด ๆ นี้ โดยที่บางเวลาเราต้องการโลกส่วนตัวบ้างก็แค่นั้นเอง ชาเป็นคนมีโลกส่วนตัวมาก โลกส่วนตัวของชาต้องไม่มีกฎ ไม่มีอะไรมาห้ามชา เรียกว่าทำอะไรก็ได้ คิดอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ไม่ผิด มีอิสระในความคิด ชาเป็นคนรักอิสระ อย่ามากีดขวาง คือไม่เห็นด้วยโอเค แต่ว่าถ้ามันไม่มีเหตุผลแล้วมาห้ามชา ชารู้สึกว่ามันเกิดช่องว่างของชา แต่พอมาอยู่ตรงนี้จะมามีโลกส่วนตัวแบบนั้นไม่ได้ ถ้าเราต้องการของเราอย่างเดียวมันก็ไม่ใช่ มันก็เอาแต่ใจ มันก็ต้องอยู่ตรงกลาง คือฟังเขาฟังเรา

คุณพ่อคุณแม่มีห่วงหรือเตือนเรื่องอะไรเป็นพิเศษบ้าง?
   
เยอะมาก จริง ๆ คุณแม่เป็นคนไม่อยากให้มีข่าวไม่อยากให้อะไรเลย ตอนแรก ๆ ก็จะมีรับไม่ได้บ้าง แต่ว่าตอนนี้เขาก็ชินแล้ว เขาอาจจะต้องปรับตัวกับการที่บางทีเราไม่อยู่บ้านเลย เพราะออกไปทำงาน ซึ่งแต่ก่อนเราอยู่บ้านมากกว่านี้ ที่บ้านก็จะเข้มงวดให้ประพฤติตัวให้ดี เราไปไหนบางทีคนก็จับตาโดยที่เราไม่รู้ตัว เขาก็จะเตือนตรงนี้ตลอด ซึ่งบางทีชาจะชอบลืมจุดนี้ไป และทำอะไรตามใจชา คือชาชอบอิสระ อยากทำอะไรก็ทำ จะไม่ค่อยได้สนใจสายตาใคร ซึ่งเราก็จะต้องนึกถึงตรงนี้นิดหนึ่ง เวลาทำอะไรก็จะต้องนึกถึงภาพของตัวเองและครอบครัวมากขึ้น

งานในวงการนี้มีอะไรที่อยากจะทำเพิ่มเติมไหม?
   
อยากเป็นผู้กำกับ อยากอยู่เบื้องหลัง อยากทำงานโดยที่ไม่ต้องมานั่งแต่งหน้าเลย คือก็ชอบแต่งหน้านะ แต่ให้แต่งทุกวันบางทีก็ไม่อยากแต่ง ชาอยากเป็นผู้สร้างและให้คนอื่นไปทำ อยากเป็นผู้สร้าง ผู้คิด เพราะชาเป็นคนชอบคิดโน่นคิดนี่ ชอบคิดเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่งบางทีคิดว่าอาชีพนี้อาจจะเหมาะกับเรา ก็เคยลองเขียนโครงเรื่องอะไรอย่างนี้เก็บไว้บ้าง แต่ก็ไม่เคยเอาไปเสนอใคร



เรื่องความรักล่ะมีข่าวเดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิกมาตลอด?
   
ทุกอย่างมันก็เป็นเรื่องปกติ มันจะเป็นอย่างนี้ตลอด เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บางคนอาจจะไม่เข้าใจกัน ซึ่งชาเชื่อว่าทุกคนก็เป็นกัน การมีข่าวออกมาบ่อย ๆ ก็ไม่ได้สะเทือนอะไร บางทีชาก็ขี้งอน แต่เราเป็นผู้หญิง ผู้หญิงก็จะเป็นแบบนี้ คือไม่ว่าจะเป็นยังไง สุดท้ายมันก็มีเก็บเล็กเก็บน้อย

ถึงขั้นบอกเลิกเขาไปเลย?
   
ก็จะมีตามอารมณ์ แต่ก็พูดไปอย่างนั้นแหละ ที่เคยมีสัมภาษณ์ไป อันนี้ก็ต้องขอโทษสื่อด้วยที่พูดไป เพราะเป็นช่วงที่ไม่เข้าใจกัน คงเป็นอารมณ์ ณ ตอนนั้น ด้วยความเหนื่อยจากงานด้วย มันบวก ๆ กันเยอะ ๆ ชาก็เลยพูดไป ตอนนี้ก็ดีกันแล้ว

มุมมองความรักในแบบของน้ำชาเป็นยังไงบ้าง?
   
ให้โดยที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน ชาว่ามันจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ให้และเข้าใจอย่างเดียวเลยนะ จริง ๆ แค่พูดว่ารัก รัก รัก มันไม่พอ มันต้องให้และเข้าใจ ให้ในที่นี้หมายความว่า ให้โดยที่ไม่คิดกลับกันว่าเธอก็ต้องให้ฉันเหมือนกัน ไม่งั้นก็มีปัญหาทุกครั้งไป ให้แล้วเธอไม่เห็นให้ฉันเลย มันไม่ใช่แพ้ชนะ หรือใครดีกว่า สูงกว่า ต่ำกว่า ไม่ใช่ มันคือให้และเข้าใจในความเป็นตัวของแต่ละคน และรับกันได้ขนาดไหน



ต้องมีการปรับตัวกันอย่างไรบ้าง?
   
ด้วยอายุที่ห่างกันเกือบ 10 ปี มันก็ต้องมีบ้าง ปีหนึ่งที่ผ่านไป ก็ต้องเรียนรู้อะไรเยอะมาก ซึ่งความคิดบางทีมันไม่ตรงกันบ้าง เป็นเรื่องปกติ แต่ว่ามันดีตรงที่ว่า เราเข้าใจ รู้สึกว่ามันโอเค ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรที่จะปรับและเข้าใจกัน ตอนนี้งอนกันเหมือนเป็นเรื่องปกติ งอนแบบนิด ๆ หน่อย ๆ  ทุกคู่เป็นหมดแหละ เวลางอนกันใช้เวลาวันเดียวก็ดีกันแล้ว คือนิสัยชากับพี่ก้องบางทีมันคล้ายกันมาก คล้ายที่แบบโกรธง่ายหายเร็ว นิสัยเราไม่ได้เหมือนกันหรอก แต่แค่คล้ายมากกว่า อย่างความใจร้อน บางทีอาจจะมีโลกส่วนตัวกันมากเกินไป แต่มันก็ไม่ได้หนักหนาสาหัส คิดว่ามันเรื่องเล็กน้อยมาก แค่เรารู้จักที่จะโอเคกับมัน และก็ดีที่เราจะใจเย็นลง

กับพี่ก้องนี่ถือว่าเริ่มใช่หรือยัง?
   
มันเป็นเรื่องของอนาคตเลย เพราะชาเชื่อว่ามันมีอะไรที่ต้องเรียนรู้กันอีกเยอะ แต่ก็รู้จักกันมากพอสมควร ก็คงใช้เวลาไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะรู้สึกว่าโอเค มันไม่ใช่การมานั่งคุยกันแล้วเรียนรู้กัน ถามกันตลอดเวลา แต่มันคือการปล่อยชีวิตไป แล้วเราก็จะเรียนรู้เองโดยธรรมชาติ บางคนอาจจะพูดกันว่า ฉันเป็นอย่างนี้ แล้วเข้าใจได้ใน 5 นาทีก็ได้ แต่ชาเชื่อว่าหลักนี้มันไม่จริง มันต้องปล่อยไหลไป ให้เวลามันบอกว่า เรารู้จักเขาดีพอหรือยัง



เวลาที่ความรักของเราถูกจับตามองรู้สึกอย่างไร?
   
ชากลัวพี่นักข่าวรำคาญชามากกว่า เพราะว่าบางทีมันเป็นเรื่องแบบรัก ๆ เลิก ๆ พี่ ๆ จะเบื่อกันหรือเปล่า สำหรับชาไม่ได้อะไรเลย ไม่ได้รู้สึกว่ามันเหนื่อยหรืออะไร พี่ ๆ จะเหนื่อยกันมากกว่า ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร มันชินแล้ว

ท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงแฟน ๆ ไหม?

   
ก็ฝากละครด้วยแล้วกันทั้ง ช็อคโกแล็ต 5 ฤดู และเรื่องใหม่ “พิมมาลา” และอัลบั้มเพลงชุด 2 แล้วก็มีซิงเกิ้ลเพลง “รักทุกฤดู” “รักน่าดู” ที่ชาร้องร่วมกับวงไมท์ตี้ เม้าท์ ของเกาหลี ฝากทวิตเตอร์ด้วยนะคะ @namcha_tea
   
เรียกว่าเป็นสาวมั่นที่มีอิสระในความคิดจริง ๆ แต่ถึงอย่างไรก็เอาใจช่วยให้รักสมหวังนะจ๊ะ.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์