ป๊อปปี้ 321สาววัยใส ที่ไม่เคยทิ้งคำว่าพยายาม

ป๊อปปี้ 321” หรือ “ป๊อปปี้–ชัชชญา ส่งเจริญ” สาวน้อยคนนี้เราเชื่อแน่ว่าในกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียนไม่มีใครที่ไม่รู้จักเธอ

เพราะชั่วโมงนี้ ป๊อปปี้ เธอคือขวัญใจวัยรุ่นตัวจริงที่มากับเสียงเพลงทั้ง 4 ซิงเกิ้ลของเธอไม่ว่าจะเป็น “เขย่า” “แค่ที่รัก” “ไม่มีใครผ่านมาทางนี้” “ไม่ต้องให้ทั้งโลกรัก” แน่นอนว่าครองใจวัยรุ่น วัยเรียนขนาดนี้ ด้วยวัยเพียง 16 ปี เราเชื่อแน่ว่าเธอต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงอยากให้ทุกคนรู้จักเธอกันให้มากขึ้น ว่าจริง ๆ แล้วเส้นทางการเป็นขวัญใจวัยรุ่นนั้น มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลยสักนิดเดียว 

ป๊อปปี้ คิดว่าตัวเองเป็นคุณหนูไหม?
   
“ไม่เลยค่ะ เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยตามใจเท่าไหร่ จะเลี้ยงด้วยเหตุผล คุณพ่อตามใจกว่า คุณแม่จะไม่ คุณแม่จะค่อนข้างเรียกว่าเลี้ยงแบบไม่ปล่อย  เพราะว่าพ่อแม่รู้อยู่แล้วอยู่กับเราไม่ได้ตลอดชีวิต  ถ้าแม่ปล่อยหนูตั้งแต่เด็กหนูรู้นะว่าหนูคงเละแน่  แม่จะสอนหนูด้วยเหตุผล อะไรที่ไม่ดี แม่จะสอนเลย จะว่าเลย บางทีจะให้หัดทำอะไรด้วยตัวเอง แม่ชอบพูดว่า แม่ไม่อยู่กับเราตลอดชีวิตนะ ถ้าแม่ไม่อยู่เราจะอยู่ได้อย่างไร แม่จะสอนแบบมีเหตุผลมากกว่า”

เคยโดนตีไหม?
   
“เด็ก ๆ ตีค่ะ หนูว่าตีดีแล้ว  มันเหมือนการตีทำให้จำ เพราะอะไรที่ผิดแล้วคุณแม่ตีเราก็จะไม่ทำอีก จะได้รู้ถ้าทำไปโดนตี ความคิดเด็ก ๆ  ก็จะกลัวโดนแม่ตีเลยพยายามไม่ดื้อ แต่พอโตขึ้นมาก็รู้ และคิดได้ว่า เขาตีเพราะอะไร เขาว่าเพราะอะไร เพราะตัวเราทั้งนั้น เขาอยากให้เราได้ดี”   



แล้วเข้าวงการได้ยังไง?
   
“จริง ๆ คุณพ่อคุณแม่สนับสนุนค่ะ คุณพ่อคุณแม่ชอบอยากให้ร้องเพลงตั้งแต่เด็ก ตัว “ป๊อปปี้” เองก็ชอบ ตอน 8-9 ขวบ คุณแม่ก็จะพาไปดูคอนเสิร์ต  เราก็รู้สึกว่า ทำไมเขามีเต้น มีร้องเพลง มีแสง สี เสียง คุณแม่เห็นแวว ก็เลยจับให้มาเรียนร้องเพลงตั้งแต่ 8-9 ขวบ เลยตัวหนูก็ชอบด้วย ก็เลยบอกคุณพ่อคุณแม่”

เข้าวงการมาได้แล้วรู้สึกยังไงบ้างกับวงการนี้?
   
“คือก่อนที่จะได้มาอยู่ตรงนี้  ก็ออดิชั่นมาเยอะมาก อยากเป็นศิลปินมาก ๆ  ออดิชั่น
ทุกรูปแบบ เต้น ร้อง ก็ไม่ได้  โดนคัดออกตลอด (หัวเราะ)
  ก็ท้อ ทำไมเราไม่ได้สักที  แล้วท้อบ่อยมาก แต่มีคุณพ่อ คุณแม่ ให้กำลังใจตลอด คือพอท้อมีอะไรก็เล่าให้แม่ฟัง แม่ก็ให้กำลังใจ  ให้คำปรึกษา ก็เปลี่ยนความคิดหันกลับมาคิดว่า ที่เราไม่ได้เพราะอะไร เราต้องกลับมาดูตัวเราเอง ที่เราไม่ได้เพราะอะไร เพราะเราร้องไม่ดีหรือเปล่า  เราเต้นไม่ดี ก็เลยเอาใหม่กลับไปฝึกใหม่ ปีหนึ่ง ฝึกร้อง ฝึกเต้น  แล้วไปออดิชั่นใหม่ ทำไปเรื่อย ๆ  จนได้  ก็รู้สึกภูมิใจว่าเราทำได้แล้วนะ  เราประสบความสำเร็จแล้ว”

ไปออดิชั่นกี่ที่ เยอะไหม?
   
“หลายที่ค่ะ ทุกที่ที่มีประกวดร้องเพลง ประกวดเต้น “ป๊อปปี้” ไปหมดเลย ที่อาร์เอสฯ ก็เข้ามาออดิชั่น 3-4 รอบ แล้วรอบสุดท้าย รอบที่ 4 เขาต้องการหา “ทรี ทู วัน” เขาต้องการหาผู้หญิงคนหนึ่งแล้ว เพราะเขามีผู้ชายสองคนแล้ว ก็เลย ตอนนั้นจำได้ยากมาก ๆ ต้องหาผู้หญิงประมาณ 30 คน จนคัดเหลือ 10 คน คัดเหลือ 4 คน จนสุดท้ายคัดเป็น “ทรี ทู วัน” ต้องแบบว่าคัดหลายรอบมาก  เพราะทุกคนเก่งหมด ก็กดดัน  เราจะรอดเหรอ ตั้ง 30 คนนะ ก็เลยกลับมาฝึก ฝึกเต้นฮิปฮอป ฝึกร้องอาร์แอนด์บี เพิ่มขึ้น จนสุดท้ายเมื่อกลางปีที่แล้ว  จนได้เขามาอยู่ “ทรี ทู วัน” ค่ะ”



จำความรู้สึกตอนเข้าห้องอัดครั้งแรกได้ไหม ตอนนั้นเป็นยังไง?
   
“ตื่นเต้นมาก ๆ เอาเป็นว่า ตื่นเต้นตั้งแต่ได้ยินไกด์ เดโม ของเพลง นี่เหรอเพลงของเรานะ เป็น ซิงเกิ้ลแรกของเราเลยนะ พี่เขาจะส่งเสียงเป็นไกด์เดโมให้เราฝึกร้องก่อน ก็ฝึกทั้งวันทั้งคืนเลย ตื่นเต้น ๆ อยากให้ออกมาดีที่สุด พอเข้าห้องอัดครั้งแรก โปรดิวเซอร์ให้เราดีไซน์การร้องของเรา  พี่เขาบอกว่าถ้าอยากจะใส่คาแรกเตอร์ความเป็นตัวเองไปเราต้องคิดเองนะ ว่าจะดีไซน์อย่างไร เราต้องทำให้ได้นะ ตอนนั้นเครียดมากเพราะคิดไม่ได้ และตื่นเต้นด้วย ก็กลับไปฝึกใหม่อาทิตย์หนึ่งก็มาอัด อัดประมาณครึ่งวันเสร็จ ก็มีแก้บ้าง ก็ออกมาเป็นเพลงแรก “เขย่า”

แล้วพอได้ฟังเพลงตัวเองล่ะ เป็นยังไง?
   
“ตอนออกครั้งแรก ที่ปล่อยในคลื่นวิทยุ คลื่นซี้ด  มันแบบว่าทุกคนที่เขาเปิดคลื่นนี้เขาจะได้ยินเพลงเราเป็นครั้งแรก พอเขาเปิดแล้วเราได้ยิน ก็ให้พ่อหยุดรถ ทั้งครอบครัวก็เต้นกันในรถ ก็ตลกดีเหมือนกัน”

ขึ้นคอนเสิร์ตครั้งแรก คอนเสิร์ตอะไร แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
   
“คอนเสิร์ต กามิกาเซ่ เวฟ ค่ะ เป็นคอนเสิร์ตที่รวมศิลปินค่ายกามิกาเซ่ ทั้งค่ายไว้ทั้งหมด เป็นคอนเสิร์ตแรกของ “ป๊อปปี้”  เป็นคอนเสิร์ตที่ใหญ่มาก ๆ เล่นที่ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก ใหญ่มาก ๆ  เป็นฮอลล์วงกลม ซึ่งตอนนั้น “ทรี ทู วัน” จำได้มีแค่สองซิงเกิ้ล คือ “เขย่า” และ “แค่ที่รัก”  ก็คิดว่าใครจะรู้จักเรา ใช่ไหม เราเป็นแค่ศิลปินกามิกาเซ่รุ่นน้องด้วย ที่ออกมาแค่ไม่ถึงเดือน จะมีคนรู้จักไหม จะมีใครมาดู ก็กดดันทั้ง 3 คน นั่งคุยกันว่า เวลาขึ้นคอนเสิร์ตถึงใครจะชอบหรือไม่ชอบเราจะทำให้ได้เต็มที่ เราจะตั้งใจซ้อม ยิ่งเพลง “แค่ที่รัก” เนี่ยปล่อยแค่หนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้าคอนเสิร์ต คงยังไม่มีใครฟัง แต่พอขึ้นไปขนลุกเลย  ขนลุกมาก ๆ มีคนกรี๊ด มีคนชูป้ายไฟให้ ยิ่งเพลงแค่ที่รัก คนร้องเพลงตามลั่นฮอลล์เลย เป็นความทรงจำที่จะไม่ลืมเลยค่ะ”



ร้องไห้ไหม?
   
“ลงมาหลังเวที ร้องไห้กันทั้งสามคนเลยค่ะ เพราะว่าดีใจด้วย  เพราะตอนแรกก่อนที่จะขึ้นไปบนเวที ก็รู้สึกตื่นเต้น พอขึ้นไปทุกคนช่วยกันร้องเพลง ก็รู้สึกหายตื่นเต้นมีแรงฮึดขึ้นมา  ก็สนุก วิ่งไปทั่วเวที แล้วจริง ๆ ก่อนหน้านั้นวันคอนเสิร์ต พวกเราต้องไปซ้อมรันทู ก่อน แล้ว “ป๊อปปี้” เท้าพลิก ต้องเปลี่ยนจากร้องเท้าส้นสูง เป็นรองเท้าผ้าใบ  ก็มีปวดขาก่อนขึ้นคอนเสิร์ต แต่พอขึ้นไปผลตอบรับที่แฟน ๆ ทั้งร้องเพลงเราได้  ก็ทำให้หายปวด วิ่งรอบเวทีเลย  พอลงมาเสร็จ ร้องไห้เพราะขาบวม เพิ่งจะมาเจ็บ (หัวเราะ)”

ดู “ป๊อปปี้” เป็นคนร่าเริงนะ?
   
“ค่ะเป็นคนไม่ค่อยคิดมาก ร่าเริง ใครว่าอะไรก็ไม่ค่อยคิดมาก ใครว่าอะไรก็จะลืม ๆ ไม่ซีเรียสเท่าไหร่ค่ะ”

มาทำงานอย่างนี้แล้วเวลาที่ไปเรียนล่ะมีไหม?
   
“ตอนนี้สนุกอยู่ เพราะชอบมานานแล้ว ก็คิดว่าเรามาอยู่จุด ๆ นี้ เราทำอะไรที่มากกว่าเพื่อนที่อยู่ในรุ่นเดียวกัน อายุ 16 ซึ่งเพื่อน ๆ ปกติจะเรียนหนังสือ แต่เราเลือกที่จะมาทางนี้ เราต้องแบ่งเวลาให้ได้ จะเหนื่อยอย่างไรมันก็เป็นความฝัน ต้องทำให้ได้  ต้องแบ่งเวลาให้ดี”



โตขึ้นป๊อปปี้อยากทำอะไร?
   
“จริง ๆ ชอบด้านการแสดงตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ก็คงมาแนวนี้ พวกเกี่ยวกับการแสดง พวกดารา นักแสดงก็จะชอบ ถ้าไม่ได้เป็นนักร้องก็คงมาแนวทางนั้นมั้งคะ”

คิดจะเรียนต่อด้านไหน?

   
“จริง ๆ อยากเข้ามหาวิทยาลัยที่ทุกคนใฝ่ฝัน คือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คุณพ่อคุณแม่ก็อยากให้เข้า แต่เข้าใจว่าหนักเหมือนกัน แต่ต้องตั้งใจเรียนมาก ๆ  เพราะคนที่เข้าได้ต้องตั้งใจเรียน ต้องอ่านหนังสือทั้งวัน ทั้งคืน ซึ่งตอนนี้ “ป๊อปปี้” ยังทำงานอยู่ด้วย เตรียมขึ้น ม.5 ด้วย ก็คงต้องเริ่มต้นตั้งใจอย่างเต็มที่  ถ้าได้ ก็จะดีใจมาก ตอนนี้ก็พยายามแบ่งเวลา พอทำงานเสร็จก็กลับไปอ่านหนังสือต่อ อยากเข้านิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ให้ได้ค่ะ”

ถึงวันนี้ ป๊อปปี้ คิดว่าตัวเองดังรึยัง?
   
“ยังค่ะแค่รู้สึกว่ายัง เพิ่งระดับเริ่มต้น ระดับแรกที่เราผ่านมาแล้วก้าวขึ้นมาอยู่ขั้นแรก ก็ดีใจ ที่ทุกคนให้การตอบรับ เกินคาดจริง ๆ และก็ชอบขนาดนี้  ตอนแรกคิดว่าจะมีคนรู้จักรึเปล่าเนี่ยเพราะเพิ่งออกซิงเกิ้ลแรก  แต่ที่บอกไปในคอนเสิร์ตทุกคนชอบรู้จักร้องเพลงได้  ไปไหนก็มีแฟนคลับมาหา  แต่ “ป๊อปปี้” ว่าเพิ่งเป็นขั้นแรก  เพราะว่าเราเพิ่งอายุ 16 ปี เอง  เพิ่งเข้ามาในวงการ  เราควรที่จะพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ถ้าเรายังอยากอยู่ในที่นี้ตลอดไป  พัฒนาฝีมือคุณแม่เคยสอนไว้ถ้าเราอยากอยู่ไปนาน ๆ เราต้องใช้ทุกอย่างและทำทุกอย่าง ด้วยความตั้งใจ และถ้าสมมุติเราหยุดพัฒนาคนอื่นที่เขากำลังจะออกอัลบั้มเนี่ยเขาก็จะสามารถแซงหน้าเราขึ้นไปได้  แต่ถ้าเราไม่หยุดพัฒนาเราก็จะอยู่ตรงนี้ไปเรื่อย ๆ”  



ขอถามเรื่องข่าวบ้าง มีข่าวกับพี่ซี?
   
“เป็นพี่น้องกัน จริง ๆ ตอนแรกไม่สนิทแต่รู้จักกันมาปีสองปีแล้ว ก็อยู่ในค่ายด้วยกันก็เดินสวนไปสวนมา แต่พอมาในคอนเสิร์ต “ดิ  ไอดอล แบทเทิล คอนเสิร์ต” แล้วก็จะเป็นผู้ชายหมดเลย มีแต่ “ป๊อปปี้” กับพี่ “ซี” ที่เป็นผู้หญิงกันอยู่สองคน ไม่กล้าคุยกับคนอื่น ตอนซ้อมก็เลยอยู่กันสองคน พอดีต่อช่วงไปทัวร์ เพลง “ทรี ทู วัน” ออกสามซิงเกิ้ล พี่ “ซี” ออกสองซิงเกิ้ล ก็เลยจับคู่ไปทัวร์ด้วยกันภาคเหนือ ภาคตะวันออก  และภาคอื่น ๆ ก็เลยสนิทกัน”

มีข่าวอย่างนี้ที่บ้านว่าไงบ้าง?

   
“คุณพ่อคุณแม่ก็รู้อยู่แล้ว เขาก็รู้จักอยู่แล้ว ไปทัวร์คุณพ่อคุณแม่ก็ไปด้วยตลอดและรูปที่เอาไปลงก็มีคุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วย เวลาไปทัวร์ก็ถือโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัดด้วยกับครอบครัวค่ะ” 

สุดท้ายอยากจะฝากอะไรถึงใครมั้ย?
   
“อยากขอบคุณทุกคนที่ให้การต้อนรับ ทั้ง “ป๊อปปี้”, พี่ “ทีเจ”, พี่ “กวินท์” วง “ทรี ทู วัน” จากกามิกาเซ่ ที่ติดตามผลงานของพวกเราตั้งแต่ซิงเกิ้ลแรก “เขย่า” จนมาถึง ซิงเกิ้ลที่สี่ ก็เร็ว ๆ นี้ ก็จะมีคอนเสิร์ตตัวเองครั้งแรกที่จะมีขึ้นในวันศุกร์ 18 มีนาคมนี้ รับรองว่าคอนเสิร์ตมันส์แน่ ๆ อยากให้มาดูก็จะตั้งใจซ้อมกันตั้งแต่วันนี้ และก็อยากฝากงานเพลงทั้งสี่ซิงเกิ้ลด้วยนะคะ”
   
ต้องยอมรับว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ของ 321 ไม่ใช่เรื่องง่ายจริง ๆ
 
ถ้าสาวน้อยคนนี้ ป๊อปปี้ มีคำว่าถอดใจ เราก็จะไม่เห็นเธอในวันนี้บนเวที ที่ทั้งร้องทั้งเต้นให้เราได้ชื่นชมความสามารถกัน เธอกลับเลือกที่จะมีคำว่าพยายามและไม่ท้อ พร้อมทั้งแรงใจจากคุณพ่อ คุณแม่ ที่มีให้ จึงทำให้เราได้รู้จักเธอในวันนี้ ป๊อปปี้ 321 สาวมั่น สดใส ร่าเริง ที่ไม่เคยทิ้งความฝันของตัวเอง.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์