ประวิทย์ เซ็งเป็ด ละครกระแสดี ไฉนเรตติ้งไม่ขยับ


เคยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อช่วงปี 2544 สำหรับผล  การวิจัยเรตติ้งรายการทีวีของบริษัท วิจัยรายใหญ่ที่อาจจะไม่สอดคล้องกับสายตาเจ้าของสถานี
 
ถึงขนาดว่าจะมีการหาบริษัทสำรวจเรตติ้งทีวีรายใหม่ ให้เข้ามาดำเนินการแทน แต่เรื่องนี้ก็ จางหายไป จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

ถึงตอนนี้ ′ประวิทย์ มาลีนนท์′ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ที่เผชิญปัญหากับผลสำรวจเรตติ้งมาโดยตลอดเริ่มจะเบรกแตก และทนกับผลการวัดเรตติ้งที่ออกมาค้านสายตาไม่ได้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เผชิญศึกจนกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมามารอบหนึ่งแล้วเมื่อ 9-10 ปีก่อน


′ประวิทย์′ ให้สัมภาษณ์ว่า ปัญหาเรื่องเรตติ้งหรือความนิยมของสถานีถือเป็นปัญหาเรื้อรังต่อเนื่องมานาน โดยจะพบว่าละครที่สร้างกระแสจนโด่งดังทั่วบ้านทั่วเมืองแทบทุกเรื่องมีเรตติ้งต่ำกว่าสถานีคู่แข่งค่อนข้างมาก บางเรื่องต่ำกว่าเกือบเท่าตัว ซึ่งในความเป็นจริงแทบเป็นไปไม่ได้เลย   ปัญหาเรื่อง ′เรตติ้ง′ จึงยังกลายเป็นเรื่องที่หนักใจมาตลอด


"ในปีที่ผ่านมาส่วนตัวค่อนข้างพอใจกับละครมาก บางเรื่องก็ได้เรตติ้ง บางเรื่องก็เรตติ้งไม่ขึ้นเลย แต่ถ้าดูจากกระแสพบว่ากระแสของละครทุกเรื่อง     ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นวนิดา ระบำดวงดาว  4 หัวใจแห่งขุนเขา ฯลฯ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในเชิงสถิติแล้วตัวเลขเรตติ้งละครเราจะไม่สูงเท่ากับคู่แข่ง แต่เราเชื่อว่ากระแสเราดีกว่าแน่นอน ทำให้ผู้จัดละครมีกำลังใจในการสร้างผลงานมากขึ้น"


"ประวิทย์" บอกว่า ที่ผ่านมาตัวเลข ′เรตติ้ง′ ไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรง  ต่อการขายโฆษณาในรายการต่าง ๆ ของสถานี เนื่องจากอุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวมเริ่มฟื้นตัวตามสภาวะเศรษฐกิจ ทำให้เจ้าของสินค้าต้องแย่งชิงเวลาโฆษณากันจนไม่มีขาย และรายได้จากการขายโฆษณาของสถานีก็ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องประมาณ 12-13% ในปีที่ผ่านมา

แต่ท้ายสุดตัวเลข ′เรตติ้ง′ ก็ยังเป็นอะไรที่ต้องกลับมาขบคิดกับระบบการ วัดเรตติ้งของประเทศไทยที่แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาแล้วรอบหนึ่ง แต่ก็ไม่ทำให้อุตสาหกรรมโฆษณาและสื่ออยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงได้


ผู้บริหารใหญ่ช่อง 3 ยังยกตัวอย่างด้วยว่า กรณีล่าสุดละครเรื่องมงกุฎดอกส้มของค่ายบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ออกอากาศช่วงหลังข่าวค่ำคืนวันพุธ-พฤหัสฯ มีเรตติ้งเฉลี่ยเพียงแค่ 3-4    ทั้ง ๆ ที่กระแสการตอบรับค่อนข้างดี


ล่าสุดนี้บรอดคาซท์ฯจึงได้จ้างคณะวิจัยของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทำการสำรวจความนิยมของละคร ′มงกุฎดอกส้ม′ ในช่วงวันที่ 23 ธันวาคม 2553-13 มกราคม 2554 ที่ผ่านมาเพื่อใช้เป็นข้อมูลเชิงเปรียบเทียบกัน โดยใช้กลุ่มตัวอย่างถึง 2,300 ครัวเรือน ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ชัยนาท เชียงใหม่ ขอนแก่น อยุธยา  พบว่าเกิน 50% ดูละครทาง ช่อง 3 ใน ทุกพื้นที่ที่ทำการสำรวจ และผลที่ได้ สวนทางกับการวัดเรตติ้งของบริษัทวิจัยที่เคยทำอยู่อย่างสิ้นเชิง

จากผลที่ได้รับทำให้ ′ช่อง 3′ จำเป็นต้องกลับมาทบทวนเพื่อหาแนวทางจัดการกับระบบเรตติ้งของบริษัทวิจัยรายใหญ่ดังกล่าวอีกครั้ง


ส่วนจะออกมาในรูปแบบไหน ′ประวิทย์′บอกว่า คงต้องพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่ที่แน่ ๆ ในเบื้องต้นนี้อาจมีการลงทุนจ้างบริษัทวิจัย หรือองค์กรที่เป็นกลางมาทำข้อมูลเพื่อนำไปใช้เปรียบเทียบ    หรือจะเลิกลงขันและเลิกซื้อข้อมูลของบริษัทวิจัยรายใหญ่แห่งนี้ เช่นเดียวกับ ATV สถานีโทรทัศน์ชื่อดังแห่ง ฮ่องกงที่ได้ตัดสินใจยกเลิกการจ่ายเงินให้กับบริษัทจัดเรตติ้งทีวีไปแล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากเชื่อว่าข้อมูล    ดังกล่าวไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงอีกต่อไป
  

ชั่วโมงนี้ ′ประวิทย์ มาลีนนท์′ ออกอาการ  หงุดหงิดใจเหลือเกิน...

( ประชาชาติธุรกิจ)



เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์