ถึงชื่อเสียงโด่งดัง แต่ไม่ทำให้ ณเดชน์ เปลี่ยน

“ณเดชน์ คูกิมิยะ” หนุ่มที่มีชื่อเล่นน่ารัก ๆ ว่า “แบร์รี่”

หนุ่มคนนี้เราเคยพูดคุยกับเขาไปแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนที่ละครเรื่องแรก “เงารักลวงใจ” จะออกอากาศ และในวันนี้ ณเดชน์ กลับโด่งดังมากยิ่งขึ้นหลังจากละครเรื่อง “ดวงใจอัคนี” ออนแอร์ จนวันนี้เขากลายเป็นหนุ่มฮอตที่สาว ๆ อยากจะเจอมากที่สุดในชั่วโมงนี้ และแน่นอนว่าในวันนี้ แบร์รี่ หรือ ณเดชน์ กลับมาเยี่ยมเดลินิวส์อีกครั้ง พร้อมทวนความทรงจำสมัยวัยเด็กให้เราฟังอีกด้วย

'วัยเด็ก'

ตอนเด็กเราเป็นยังไงบ้าง?
   
“เป็นคนอยากรู้อยากเห็น ก็ดื้อ ชอบหาอะไรทำ ถามนู่นนี่คุณแม่ ส่วนเรื่องวีรกรรมก็เยอะนะ เช่น เล่นล้มบ้าง ปีนต้นไม้”

ตอนเด็กเราเคยขอพ่อแม่ซื้ออะไรบ้างมั้ย?
   
“ผมชอบต่อเลโก้มาก ทุกครั้งที่มากรุงเทพฯ ก็จะไปเซ็นทรัล เวิลด์ ก็จะไปดูว่ามีเลโก้อันใหม่มาหรือเปล่า ก็ซื้อมาต่อเล่นกับพี่ชาย แต่ยังไม่เคยเก็บตังค์ซื้อเองเลยครับ (หัวเราะ)”

เป็นลูกคุณหนูมั้ย?
   
“ไม่เชิงนะครับ อะไรที่เราทำเองได้คุณแม่ก็จะให้เราทำ แต่อะไรที่แม่เห็นว่าทำให้เราได้ คุณแม่ก็ทำให้”

ตอนเด็กมีความฝันมั้ย?
   
“มีหลายความฝัน อยากเป็นนู่นนี่ เช่น วิศวกร นักประดิษฐ์ นักอวกาศ ก็คิดไปหลาย ๆ คนก็คิดประมาณนี้แหละ ส่วนเรื่องดาราไม่เคยคิดเป็นเลยครับ เรียกว่ามาแบบฟลุก เราไม่ได้ขวนขวายมา แต่มันมาหาเราเอง”


'ฮีโร่ของ ณเดชน์'

ณเดชน์ มีฮีโร่มั้ย?


“คงเป็นคุณพ่อของผมเองครับ”

แต่ตอนนี้คนอื่นเอาเรามาเป็นฮีโร่ของน้อง ๆ แล้ว รู้สึกยังไง?

“มีคุณแม่บางคนก็บอกว่า ลูกชาย อยู่ ป.5-ป.6 เขาชอบน้องมาก เอาเป็นตัวอย่าง และก็มีน้องคนหนึ่งในเว็บพันทิปหรือเว็บแฟนคลับผมนี่แหละไม่แน่ใจ เขาอยู่มหาวิทยาลัย ประมาณรุ่นเดียวกับผม แล้วเขาไม่ตั้งใจเรียน พอเขาได้รู้จักผม ที่เป็นนักแสดงแต่ไม่ทิ้งการเรียน แล้วเขาก็มาเม้นต์ให้ผมว่าเขาคิดใหม่ ทำใหม่ ผมก็คิดว่าคนที่เขาศรัทธาในตัวเรา มันเป็นประกายให้เราอยากทำอะไรที่ทำให้เขาทำตามเราอีก เหมือนเป็นแรงบันดาลใจให้เขา และเราก็อยากสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองอีก”


'คนของประชาชน'

หลังจากที่ละครออกอากาศไปแล้ว ชีวิตเราเปลี่ยนไปมั้ย?

   
“มันก็เป็นเรื่องเดิม ๆ ที่เราต้องปรับเปลี่ยนให้มันดีกว่าเดิม เช่น เรื่องการเรียนที่เราก็ต้องวางแผนเวลา วางระบบเรียนให้มันดีมากกว่าเดิม เรื่องการควบคุมอารมณ์ พอเราได้ดึงธรรมะมาใช้มันก็นิ่ง มีสติ”

แสดงว่าที่ผ่านมา เราก็เคยมีหงุดหงิดบ้าง?
   
“ไม่เชิงว่าวุ่นวายกับชีวิต แต่เป็นแบบว่าทำไมเขาต้องเข้ามาหาเราบ่อยขนาดนี้ ทำไมเขาต้องตามขนาดนี้ มันเป็นความสงสัยและไม่เข้าใจ ทุกวันนี้พูดง่าย ๆ คือ ผมกลับไปคุยกับพระอาจารย์ ท่านก็สอนหลายอย่าง ได้ข้อคิดดี ๆ คือเขาศรัทธาในตัวเรา จึงเป็นแบบนี้ ดังนั้นเราจึงต้องศรัทธาในตัวเขาเช่นกัน ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวดี แต่อนาคตข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง”

เราศึกษาธรรมะด้วยเหรอ?
   
“แน่นอนครับ ผมเป็นคนธรรมะธัมโม ทุกครั้งที่กลับไปขอนแก่นจะหาเวลาไปหาพระอาจารย์ รอบนี้กลับไปก็ได้ไปวัดหลวงพ่อเมือง อยู่ที่ จ.กาฬสินธุ์ ไปกราบท่าน และไปต่อที่ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ไปหาหลวงพ่อเฉย ล่าสุดก็ไปหาหลวงพ่อที่อยู่ภูเวียงครับ”

ทำไมศึกษาธรรมะ?

“หลวงพ่อทองใบ วัดนาหลวง ท่านเคยพูดว่าคนเราที่ไม่ใช่พระ มันอยู่บนโลกที่ทางโลกและทางธรรมเป็นของคู่กัน ถ้าเราอยู่ทางโลกมากเกินไป ธรรมก็แตก โลกก็แตก ถ้าเท่ากัน มันก็มีทั้งสุขและทุกข์ โดยที่เราอยู่บนทั้ง 2 ทางมาผสมกัน มันจะทำให้เราดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง ดีที่สุด ส่วนเรื่องสมาธิ ผมยังไม่ได้ปฏิบัติขนาดนั้น ด้วยความที่อยู่ในวัยนี้อยู่ ยังไม่นิ่งพอที่จะนั่งได้ ผมนั่งได้ประมาณ 5 นาที ก็สวดมนต์บ้าง พยายามดึงข้อคิดหลายอย่างที่ท่านเคยสอนมาใช้กับเราบางทีอาจลืมบ้าง แต่ถ้าเรามีสติ ก็สามารถนำกลับมาได้ไม่ยาก ก็แล้วแต่คนจะเลือกครับ”

เหมือนเราดังเร็ว แบบนี้ตั้งตัวทันมั้ย?

“ก็ถ้าหลายคนคิดอย่างนั้น ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน มันก็เร็วไปสำหรับผม แต่โอกาสมาแล้ว ก็ไม่อยากปล่อยมันไป ส่วนตัวก็ดีใจครับที่เรามาได้ถึงทุกวันนี้ และคนที่อยู่ข้างหลังเรา คือคุณพ่อ คุณแม่ ครอบครัวเรา เขารู้ปีติ เวลาที่เห็นคนรักเรา เขาก็จะพูด มันไม่ใช่การหลง แต่มันเป็นความรู้สึกยินดี ทำให้เรามีกำลังใจในการทำงาน ทุกวันนี้เราทำงานหาเงิน ไม่ใช่เพราะตัวเองแต่เพราะคนในครอบครัวของเรา เราต้องรับผิดชอบใครบ้าง ก็รู้อยู่ในตัวแล้ว”


'ยิ่งสูงยิ่งหนาว'

ณเดชน์ ว่าจริงไหมที่เขาว่า ยิ่งสูง ยิ่งหนาว?


“ใช่ครับ แต่ถ้าเราเตรียมเสื้อกันหนาวไว้ก่อน ก็จะไม่หนาว รากฐานมันต้องแน่นก่อน สูงแค่ไหนค่อยว่ากันอีกที แต่ผมคงไม่หวังสูงเกินไปหรอก เอาไปเรื่อย ๆ ดีกว่า”

จริง ๆ เราเรียนเก่งมั้ย แล้วพอมาเป็นดาราเรากดดันเรื่องเรียนหรือเปล่า?

“ผมเรียนไม่เก่งครับ ไม่ใช่คนขยันอะไร บางทีผมก็ไม่ได้เข้าเรียน ติดงาน แต่ทุกครั้งที่ไปก็พยายามฟังอาจารย์ที่สอน มองตาอาจารย์ ส่วนมากอาจารย์ก็จะมองตาเรา ใครที่ฟังครูจริง ๆ ท่านก็จะรู้ ถ้าเราฟัง เขาก็รู้สึกอยากสอน ทำให้เราอยากซึมซับความรู้ตรงนั้น เวลามีสอบก็อ่านแค่พอเข้าใจ เวลานั่งสอบก็ทำถูก เกรดก็ใช้ได้”

เป็นคนดังแบบนี้เรากดดันมั้ย เช่น ต้องเรียนเก่ง?

“สำหรับผม ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาซีเรียสตรงนี้ ผมมีหน้าที่เรียน และทำงาน ผมตั้งเป้าหมายว่าหน้าที่แรกคือเรียน ก็ต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเทอม 2 ที่ผมจะจบ ผมก็บอกแม่ไว้ว่าเกรดอาจจะไม่ได้ 3 เท่าเดิม แม่ก็บอกไม่เป็นไร ซึ่งเรื่องที่ผมต้องกังวลคือผมต้องจัดเวลาเรียนยังไง ผมต้องแสดงละครยังไงให้มันดีกว่าเดิม ก็เหนื่อยอยู่ แต่ทำงานอะไรก็เหนื่อยหมดแหละ”

เราท้อบ้างมั้ย?

“ท้อครับ ก็ได้แต่พูดกับตัวเอง กับคุณแม่ว่าเหนื่อย แต่พอเอาเข้าจริง ๆ มันก็ไม่ได้เหนื่อยมากขนาดเลือดตกยางออก ถ้าไปเทียบกับคนที่เขาได้รับค่าจ้างวันละ 150 บาท เพื่อแบกถุงข้าวเป็น 10 กก. เขาคงเหนื่อยกว่าผมเยอะ และผมคิดว่าผมมีค่าตอบแทนที่คนอายุเท่าผมถือว่าประเสริฐที่สุดแล้ว ในวัยเท่าผม อายุ 19 แล้วหาเงินได้เยอะขนาดนี้ ก็ดีใจ ถ้าทุกคนคิดได้แบบนี้ก็น่าจะดีครับ”


'หนุ่มเนื้อหอม'

ช่วงนี้ เราเนื้อหอมมั้ย?

“รู้สึกว่ากลิ่นตัวยังไม่ถึงใคร (หัวเราะ) ผมยังไม่มีใครเลยครับ ก็มีแต่เพื่อนเก่า ๆ ก็เป็นเพื่อนกันดีกว่า ไม่ได้ไปจีบเขา ซึ่งผมก็เปิดใจเสมอนะครับ ส่วนเรื่องสวย ผมก็ใครก็ได้ นิสัยดีก็พอ ไม่ต้องขั้นสวย แต่งหน้าทาปาก ผมไม่ชอบ ผมชอบแบบเฉย ๆ สบาย ๆ ครับ”

ไม่มีสาว ๆ เข้ามาเลยเหรอ?

“มีครับ แต่ก็ไม่เชิงเขาจีบก่อน ก็มาคุยเป็นเพื่อน เพราะถ้าเขาไม่ชอบเราก็คงไม่เข้ามาหาเราหรอกนะ เขาอยากเป็นเพื่อนเรา ก็ไม่ได้หมายความว่าอยากเป็นแฟน ส่วนเรื่องมีใจให้เขาบ้างมั้ย ก็คงเป็นเรื่องความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กัน ณ ตอนนี้เวลาที่ผมจะเอาไปให้แฟนสักคน ผมว่าผมยังไม่พร้อม อาจจะแค่ส่งเมสเสจคุยกัน แต่คงไม่ได้พาไปดูหนัง ฟังเพลง เลยคิดว่าผมรักตัวเองก่อนดีมั้ย ช่วงนี้เวลาที่ไปดูหนังก็ยังไม่ค่อยมีเลย ก็ไปดูกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ มันมีความสุขกว่า แต่ไปดูกับสาว ๆ ก็เป็นความสุขอีกแบบหนึ่ง แต่เก็บไว้ก่อน”

ถ้าเรามีแฟนจะเปิดเผยมั้ย?

“สักวันมันมาเอง ผมอาจจะ 20 หรือ 21 ปี ผมจึงสามารถอยู่ในวัยที่รับผิดชอบใครในบางเรื่องได้ ผมก็จะทำ แต่ตอนนี้ผมเรียนหนัก แต่ถ้ามีใครเป็นกำลังใจให้ ก็เป็นความสุขอีกแบบ แต่ตอนนี้ความสุขนั้นคงมาจากคุณพ่อคุณแม่ เพื่อน ๆ พี่ ๆ เพื่อนสาว ๆ ก็มี แต่คบเป็นแฟนยังไม่มีครับ”

สุดท้ายฝากถึงน้อง ๆ เนื่องในโอกาสวันเด็กหน่อย?

“ฝากถึงผู้อ่านและน้อง ๆ ให้เชื่อฟังคำสอนของพ่อแม่ จะโตเป็นผู้ใหญ่ยังไงถ้ามีคุณพ่อแม่ก็ฟังไว้ อย่าลืม เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา ก็เก็บมันไว้ครับ รู้ว่าอาจจะไม่อยากฟัง แต่คำสอนของพ่อแม่นั่นแหละ จะย้อนมาสู่วงจรชีวิตคุณเอง อาจจะเจอในอนาคตข้างหน้า อยากให้จำในสิ่งที่ท่านสอน ไม่ต้องเอาใครเป็นแบบอย่างหรอก ให้เอาพ่อแม่ ซึ่งเป็นอรหันต์องค์แรกของเรานี่แหละครับ”

ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าหนุ่มคนนี้นอกจากหน้าตาดีโดนใจสาว ๆ ทั้งประเทศแล้ว ในเรื่องของความคิดก็ไม่ได้ธรรมดา ตรงนี้ต้องขอยกความดีให้กับคุณพ่อ คุณแม่ของหนุ่มคนนี้ที่สั่งสอนลูกมาดี ให้มีแนวคิดและใช้ชีวิตไม่ประมาท.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์