น้ำฝน-กุณณัฏฐ์ อยากได้ที่สุด เหรียญทองสำหรับชีวิต??


            เอ่ยชื่อ “น้ำฝน-กุณณัฏฐ์” นางเอกละครชื่อดัง ที่อยู่ในวงการบันเทิงมานานกว่า 15 ปี มีผลงานการแสดงผ่านสายตาผู้ชมมาแล้วจนนับไม่ถ้วน และที่เพิ่งลาจอไปหมาด ๆ ละครเรื่อง “7 ประจัญบาน” ทางช่อง 3 เธอเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 19 และตลอดระยะเวลาที่เดินบนถนนมายาสายนี้ เธอได้สัมผัสกับเรื่องราวมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตทั้งเรื่องดีและไม่ดี บางครั้งก็ประสบมรสุมชีวิตอย่างหนัก แต่สุดท้ายเธอก็ผ่านวิกฤติเหล่านั้นมาได้ เรียกว่าดำเนินชีวิตแบบคนปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
   
วันนี้เราได้มานั่งคุยกับ “น้ำฝน” ผู้หญิงแกร่ง ที่พร้อมเปิดใจถึงเรื่องราวในอดีต ที่เราเชื่อว่าสิ่งที่เธอกำลังจะพูดต่อไปนี้ อาจจะให้แง่คิดกับหลาย ๆ คนได้ไม่มากก็น้อย เธอคุยให้ฟังว่า “ให้กำลังใจตัวเองก่อน และอีกด้านหนึ่งก็ครอบครัว ฝนคิดว่าฝนได้เลือดนักสู้ของพ่อและแม่มา ไม่ว่าบ้านเราจะเกิดเรื่องอะไรที่ไม่ดี เรามักจะมีคำพูดอะไรหลาย ๆ อย่างที่ทำให้เราคิดอะไรได้”
 
เวลาเจอเรื่องเครียด ๆ ทำยังไง “ฝนไม่มีกิจกรรมตายตัว เวลาฝนเครียด ฝนจะดูว่าอารมณ์ตอนนั้นฝนอยากทำอะไรฝนก็ทำ แต่มันไม่ใช่หมายความว่า ฝนอยากฆ่าตัวตายฝนก็ไปฆ่าตัวตายนะมันไม่ใช่ ฝนไม่เคยมีความคิดนี้เลย แต่ความหมายคือแบบฝนอยากอยู่คนเดียวฝนก็อยู่คนเดียว แต่ถ้าฝนไม่ไหวฝนอยากจะออกไปหาเพื่อนฝนก็ไปหาเพื่อน ฝนอยากจะร้องไห้ฝนก็ร้องไห้ คือพยายามอย่าไปกดดันตัวเอง”
   
“ฝนเป็นคนโชคดีอยู่อย่างหนึ่งคือ เป็นคนที่มีกระบวนความคิดเป็นลำดับว่า ฝนจะหาเหตุและผลของมันก่อน ถ้าสมมุติเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นเพราะอะไร ทำไมถึงเป็นอย่างนี้แล้วจะแก้ไขยังไง แต่ตอนนี้เรายังแก้ไม่ได้ กว่าจะแก้ได้ก็ต้องอีกหลายวัน เราทำได้แค่นี้คือเราคิดเป็นลำดับนะ เหมือนบางทีฝนโมโหใครสักคน ฝนอยากจะไปด่าเขาฝนก็จะถามเขาว่า ฝนจะด่าเขาว่าอะไร แล้วเขาก็จะตอบฝนกลับมาว่าอะไร แล้วหลังจากด่าเสร็จแล้วฝนจะได้อะไร”
   
ดูเหมือน..ฝนเป็นคนที่ชอบเก็บความทรงจำในอดีต แทบจะทุกเรื่องเลยมั้ง? “ฝนเป็นคนคนหนึ่งที่ฝนจะไม่พูดว่า เสียดายเวลากับสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต อย่างถ้าฝนเลิกเป็นแฟนกับใครสักคนหนึ่ง แฟนเก่าฝนคนก่อนฟานสิบปี ถามว่าฝนเสียดายเวลามั้ย..ไม่ เพราะเวลาทุกอย่างมีความสุขหมด เราต้องคิดอย่างนี้ ที่เราพูดว่าเราเสียดายเวลา เพราะเราไปมองว่าทำไมไม่ลงเอยด้วยการแต่งงาน เพราะเราไปหวังผลไง แต่ทำไมเวลาที่เรามานั่งคิดว่า เวลาเราไปเมืองนอกอาทิตย์หนึ่ง เรากลับมาเราก็เสียดายเวลาเหมือนกันน่ะ เราไป 7 วัน กลับมาไม่ได้ทำงาน 7 วันทำไมไม่คิดอย่าง นี้ล่ะ แต่เรากลับมองว่าโอเคมันแฮปปี้    ถูกมั้ย”
     
“ฝนจำทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตฝน ไม่แต่เฉพาะความรักแม้กระทั่งตอนที่พ่อป่วยเป็นมะเร็งแล้วฝนรู้สึกยังไง ก่อนที่ฝนรู้ว่าป๋าป่วยฝนรู้สึกยังไง ในชีวิตฝน ฝนถูกป๋าเลี้ยงมาแบบโอบอุ้มเหมือนไข่ในหิน ลูกผู้หญิงคนเดียวผู้ชายสี่คน พี่ว่าฝนทำอะไรเป็นบ้างล่ะ ฝนคือเด็กผู้หญิงสปอยล์คนนึง แต่พอวันหนึ่งที่ฝนรู้ว่าพ่อฝนป่วยเป็นมะเร็ง ฝนรู้ว่าเดี๋ยวป๋าจะไม่อยู่แล้ว ฝนไม่ได้หมายความว่าแม่ไม่อยู่ แต่ฝนรู้ว่าวันข้างหน้าฝนจะต้องดำเนินชีวิตยังไงต้องทำอะไรเพื่อครอบครัวของฝน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นฝนต้องเข้มแข็งและอดทน”
   
ความทรงจำด้านความรักล่ะ
 “พูดถึงเรื่องความรัก ฝนก็จะเป็นคนที่โอเค เวลาที่มันผ่านไปมันเป็นสิ่งที่ทำให้ฝนมองว่า มันมีความสุขยังไง ข้อเสียมันคืออะไร ปัญหาทั้งหมดมันคืออะไร ถ้าวันหนึ่งข้างหน้าฝนมีรักใหม่ฝนจะต้องเป็นยังไง และทำยังไง”

ในช่วงที่คบอยู่กับสเตฟาน มีโครงการจะแต่งงาน!

“ที่มีข่าวว่าจะแต่งงาน ไม่เคยออกจากปากฟานหรือฝนเลยสักครั้ง เป็นสิ่งที่พวกพี่ ๆ นักข่าวเขียนกันเองทั้งนั้น เสร็จแล้วพอวันหนึ่งที่เลิก พวกพี่ ๆ ก็เหมือนกับสงสารฝน เหมือนแบบความฝันพังทลาย ซึ่งฝนเคยพูดมาตั้งหลายครั้งแล้วว่า ฝนไม่ได้มีความใฝ่ฝันในชีวิตว่าจะแต่งงาน การแต่งงานไม่ใช่เหรียญทองสำหรับชีวิตของฝน”
   
แล้วเหรียญทองสำหรับชีวิตฝนคืออะไร
“ฝนอยากรวยค่ะ อยากรวยกว่านี้ ไม่อยากตื่นขึ้นมาแล้วมานั่งคิดว่าเดือนหน้าจะผ่อนรถยังไง จะมีงานมั้ย พูดตรง ๆ นะตราบใดที่พี่ยังนอนกินดอกเบี้ยธนาคารอยู่เฉย ๆ ไม่ได้แสดงว่าพี่ไม่รวย ถ้าตราบใดที่พี่ตื่นขึ้นมาแล้วพี่ยังต้องคิดว่าเฮ้ย..ต้องไปทำงานถ้าหยุดทำงานซิรวยหรือยังล่ะ ถ้าถามว่าพอใจในเงินที่มีอยู่ตอนนี้ โอเคมันอยู่ได้ แต่คำว่ารวยของฝนคือ อย่างฝนชอบนาฬิกาเรือนนี้ อยากจะซื้อ แต่ไม่ได้ถึงขนาดว่า ฝนชอบเฟอร์รารี่แล้วฝนซื้อเฟอร์รารี่ คือฝนไม่ได้ต้องการรวยขนาดที่ฝนซื้อนาฬิกาเรือนละล้านได้ โดยไม่รู้สึกอะไร คำว่ารวยในความรู้สึกของฝนประมาณ 3-4 ล้านฝนว่าโอเคแล้วนะ”
   
อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกใบนี้ พรุ่งนี้ฝนตื่นขึ้นมา อาจจะได้รับโชคมากกว่า 3-4 ล้าน ก็เป็นได้ แล้วจะทำยังไง
 
“อย่างแรกเลยปลดหนี้ทุกอย่าง บ้านกับรถ เป็นบ้านที่ซื้อให้แม่ราคาก็หลายล้าน พูดตรง ๆ นะไม่มีใครอยู่กับเราไปตลอดชีวิต เราอยู่ในวัยที่ตอนนี้    สามารถสร้างอะไรให้ตัวเองได้ก็น่าจะสร้าง โดยที่แบบว่าทุกคนก็อ้าว..เดี๋ยวก็ต้องแต่งงานไป แล้วจะสร้างบ้านทำไม ถ้ารู้อนาคตก็ไม่มาเดินอยู่ตรงนี้หรอก ณ ตอนนี้สมองที่คิด อย่าไปคิดว่าเดี๋ยวอีกวันหนึ่งข้างหน้าจะต้องแต่งงาน จะต้องมีความรัก แกจะสร้างบ้านทำไมแกก็ต้องไปอยู่บ้านแฟน คิดกันอย่างเนี้ย ทำไมไม่คิดว่าจะเดินแล้วจะยืนอยู่ยังไงด้วยตัวเองก่อน”
   
ฝนคิดว่า ตัวเองเป็นผู้หญิงเก่ง และมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมั้ย
“ฝนไม่ได้เก่ง ฝนเคยมีแฟนมาทั้ง 10 ปีและ 5 ปี ถ้าเกิดฝนเป็นผู้หญิงอย่างนี้จริง ๆ ฝนคงไม่คบกับใครมา 5 ปี 10 ปีหรอก แล้วฝนก็เชื่อว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้น มันไม่ใช่เกิดขึ้นจากความผิดของฝนคนเดียว แต่เราจะไม่มานั่งพูดว่า การที่เราจะเลิกกันมันคือความผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มันต้องมีเหตุและมีผลทุกอย่าง ทำไมเราต้องมานั่งวิเคราะห์ว่า เพราะผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างนี้แกก็อยู่คนเดียวไป แสดงว่าผู้ชายในโลกนี้ทุกคนชอบผู้หญิงปัญญาอ่อนและติงต๊อง แล้วก็ทำมาหากินไม่ได้เหรอ”
   
แล้วผู้ชายที่ไหนจะกล้าเข้ามาจีบล่ะเนี่ย
 “ไม่จริงค่ะ ผู้หญิงเก่งไม่ใช่แปลว่าคนไม่กล้าจีบ แต่แปลว่าเขาไม่มีปัญญาที่จะจีบมากกว่า ฝนอยากจะบอกว่า ผู้หญิงที่อกหักแล้วโดนผู้ชายทิ้ง แล้วหลงทางทำอะไรไม่ได้เพราะอะไรล่ะ เพราะไปพึ่งเขามากเกินไป” (จัดไป..)
    
เรื่องที่คุยกันมาทั้งหมดเนี่ย อาจจะดูซีเรียสไปนิดหนึ่ง แต่เราก็หวังว่า  แฟน ๆ คงจะได้แง่คิดบางมุมของชีวิตนางเอกสาวคนดัง “น้ำฝน-กุณณัฏฐ์” ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย.


'ปิ๊กมี่'



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์