คู่นี้ถึงไหนแล้ว ลิเดีย โอ๊ค เดีย

นักร้องสาว ลีเดีย ยอมรับ


บินไปประเทศญี่ปุ่นจริงช่วงปลายปีแต่ไม่ได้ตาม "โอ๊ค พานทองแท้" ยันเป็นพรีเซ็นเตอร์โทรศัพท์มือถือไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับครอบครัว "ชินวัตร" พร้อมโต้ข่าวสวย(ขึ้น)ด้วยมีดหมอ ทุกอย่างธรรมชาติล้วนๆ

ตกเป็นข่าวค่อนข้างจะหนาหูขึ้นเรื่อยๆ สำหรับความสัมพันธ์ของนักร้องสาวอาร์แอนด์บีจากค่ายอาร์เอสฯ "ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา" ที่มีต่อคนในตระกูล "ชินวัตร"

ล่าสุดก็กรณีการบินไปที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่หนุ่ม "โอ๊ค พานทองแท้" บินไปหาผู้เป็นพ่อ "ทักษิณ ชินวัตร" ที่นั่นพอดี


เกี่ยวกับเรื่องนี้นักร้องสาวยอมรับว่าตนได้เดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่นจริงๆ แต่ไม่ได้ไปพบหนุ่มโอ๊คแต่อย่างใด...


"ก็ไปมาจริงค่ะ แต่ว่าเดียไปกับแม่ เพราะว่าเดียไปหาซื้อเสื้อผ้ามาใส่ในอัลบั้มชุดใหม่ มีข่าวออกมาบอกว่าเดียบินตามพี่โอ๊คไป อันนี้ไม่ใช่แน่ๆ ค่ะ เดียกับพี่โอ๊ครู้จักกันจริง

แต่ว่าไม่เกี่ยวว่าเดียบินไปเพื่อไปหาเขา

เพราะไปที่นั่นเดียก็ไม่ได้เจอกับพี่โอ๊คเลยด้วยซ้ำ เดียไปกับคุณแม่ ไปช็อปปิ้งที่ฮาราจุกุ ไปชิบุยะ อะไรพวกนี้ ไปดูเสื้อผ้า ดูแฟชั่น เพื่อที่จะมาออกอัลบั้มใหม่ค่ะ"

เอ่ยปากปฏิเสธได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของ AIS ไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับครอบครัวอดีตผู้เป็นเจ้าของหุ้นใหญ่...

"คือตอนนั้นเดียอยู่เยอรมัน ไปคอนเสิร์ตมาดอนน่า ทีนี้พี่ที่เขาเป็นหัวหน้าของทางบริษัทเขาโทรมาหา บอกว่าทางบริษัทสนใจ เพราะว่าเขาจะเอาลุคส์ใหม่ เขาจะเปลี่ยนการตลาดจากปาล์มมี่

เมื่อสักสองปีที่แล้ว

เขาก็จะเปลี่ยนพรีเซนต์เตอร์ใหม่ มีตัวเลือก 4 คนเท่าที่ทราบตอนนั้น ซึ่งใน 4 คนนั้นมีเดียเป็นนักร้องคนเดียว ที่เหลือเขาจะเป็นดารา นักแสดง นางแบบ"


เขาก็เลือกระหว่าง 4 คนนี้


แล้วเขาก็เรียกเข้าไปคุยทีละคน ดูประวัติ ดูว่าเรามีคุณสมบัติพอไหมที่จะเป็นพรีเซนเตอร์ และถ้าเป็นพรีเซนเตอร์แล้วจะทำภาพของสินค้าเขาให้ดีขึ้นหรือเปล่า จะเจาะตลาดวัยรุ่นได้มากขึ้นหรือเปล่า

เขาเน้นเป็นคนรุ่นใหม่

แล้วก็เป็นตัวอย่างที่ดีด้วยค่ะ เขาก็ถามเดีย ดูว่า เออ เดียก็ไม่ค่อยมีข่าวไม่ดีอะไรอย่างนี้นะ ข่าวเรื่องผู้ชายอะไรอย่างนี้ก็ไม่มี ไม่มีข่าวเสียหาย"

เขาก็โอเคค่อนข้างดี

เขาก็ดูตรงนี้ด้วย ดูภาพลักษณ์ ภาพรวมของเราด้วย เพราะคนที่ตัดสินใจนี่ไม่ใช่คนเดียว มีเป็น 10 คนเลยค่ะ ก็เลยค่อนข้างนานนิดนึง กว่าเขาจะตัดสินใจได้ ที่เดียได้มาเป็นพรีเซนเตอร์นี่ มันไม่เกี่ยวกับที่เดียรู้จักกับครอบครัวพี่โอีคเลยค่ะ..."


นอกจากเรื่องของความสัมพันธ์กับตระกูลชินวัตรแล้ว


นักร้องสาวยังขอโต้ข้อหาสวยขึ้นเพราะไปทำศัลยกรรมมา

โดยยืนยันว่าที่เห็นนั้นของจริงทั้งหมด แต่ที่ดูดีขึ้นอาจจะเป็นเพราะเปลี่ยนสีผม และผอมลง 5 กิโลฯ จากการควบคุมอาหาร วิ่ง และเล่นกีฬาโปรดอย่างกอล์ฟซึ่งเจ้าตัวเคยคิดจะเอาดีเพราะมีดีกรีเป็นถึงระดับทีมชาติมาก่อน

เดียคิดว่าคงจะเป็นเพราะสีผมนะคะ

เพราะว่าจากที่ปล่อยอัลบั้ม ลิเดีย 19 ออกมานั่น สีผมลิเดียจะเข้มกว่านี้ แล้วก็ไปทำสีให้มันอ่อนลง อาจจะทำให้ดูขาวขึ้นหรือเปล่า หรือว่าทำให้ดูหน้าสว่างขึ้นหรือเปล่า

เห็นบอกว่าเดียไปทำคางมาใช่ไหมคะ

ได้ยินเขาบอกว่าเดียไปทำคางมา ไม่ได้ทำค่ะ จับดูได้เลย ก็เป็นของธรรมชาติแม่ให้มาทั้งนั้น อาจเป็นเพราะผอมลงด้วยมั้งคะ เลยดูคางแหลมขึ้น"


ผอมลงไปหรือเปล่า


เดียผอมลงไปเยอะเลยนะ ประมาณ 5-6 กิโลได้มั้งคะ จากอัลบั้มแรกค่ะ คือเขาบอกว่าเดียผอมลงได้แล้วนะ เวลาออกกล้องมันดูไม่ดี มันดูบวม เราก็เลยตั้งใจลด ก็มีคุมอาหาร วิ่ง แล้วก็ไปตีกอล์ฟ

เรื่องกอล์ฟนี่จริงๆ เดียเป็นเยาวชนทีมชาติตั้งแต่อายุ 14 แล้วนะคะ

เพราะคุณพ่อเขาบ้ากอล์ฟมากๆ ตั้งแต่ก่อนเดียจะเกิดอีก เขาก็เลยทำสนามไดร์ฟกอล์ฟ แล้วเขาก็เหมือนปลูกฝังว่ากีฬาของครอบครัวเราคือกอล์ฟ"

ทุกคนในครอบครัวก็เล่นกันหมด ยกเว้นน้องสาวคนเล็กที่เล่นไม่เป็นค่ะ

ทีแรกมุ่งหน้าไปทางนั้นอยู่แล้วค่ะ ว่าจะเป็นเยาวชนทีมชาติ แล้วจะไปเอเชียนเกมส์ แต่ว่าช่วงนั้นเรียนหนักเลยไปทางด้านเรียน ไม่ได้มาเล่นกอล์ฟ

เพราะว่ากอล์ฟนี่ต้องหยุด 4 วันเวลาแข่งขัน ไม่ไหวค่ะ ขาดเยอะแล้วเขาจะให้ซ้ำชั้น เดียก็เลยไม่เอา พอดีกว่า เรียนดีกว่า"


แง้มซุ่มทำอัลบั้มใหม่ โดยเพิ่มเพลงเต้นเข้ามามากขึ้น บอกแฟนเพลงเตรียมจับตามองลุคส์ใหม่ของตนให้ดี


"ตอนนี้เดียกำลังเตรียมตัวทำอัลบั้มสองอยู่ค่ะ ตอนนี้ก็เลยต้องลบภาพจากอัลบั้มที่แล้ว เพื่อที่จะมาร้องในอัลบั้มใหม่ ให้มันมีความแตกต่างค่ะ แนวเพลงก็อาจจะมีเต้นเพิ่มเข้ามา

แล้วเรื่องลุคส์นี่ก็เปลี่ยนไปเลย

แต่ว่ายังไม่ขอบอกตอนนี้ ขออุบไว้ก่อน ก็จะเปลี่ยนไปค่ะ เพราะอย่างอัลบั้มแรกก็เป็นลุคส์หนึ่ง อัลบั้มสองก็เป็นอีกลุคส์หนึ่ง อัลบั้มสามก็เปลี่ยนเป็นอีกลุคส์หนึ่ง แต่ว่ายังไม่บอก"


ต้องติดตามกันเองค่ะ


จริงๆ แล้วแพลนไว้ว่าอีกประมาณสองเดือนจะวางแผง ตอนนี้ก็เริ่มจะเข้าห้องอัดแล้วค่ะ ก็ยังคงเป็นอาร์แอนด์บีเหมือนเดิมนะคะ เพราะว่าเหมือนว่าเราเป็นคนแรกๆ ที่นำแนวนี้เข้ามาในเมืองไทย

เราก็ต้องสานต่อไป

แล้วปกติที่ผ่านๆ มานี่จะเป็นเพลงช้า อัลบั้มนี้ก็จะเพิ่มเพลงเต้นเข้ามา ให้มันสนุกมากขึ้นเวลาไปเล่นคอนเสิร์ต ตอนนี้ยังไม่ได้ไปเรียนกับคุณครูเลย แต่ในอนาคตก็คงต้องไปเรียนเต้นกับครูค่ะ"

เดียขอฝากอัลบั้มใหม่ด้วยนะคะ

ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นอัลบั้มเต็มหรืออัลบั้มอีพีนะคะ แต่เพลงที่ออกมานี่เดียค่อนข้างตั้งใจทำมากๆ หวังว่าทุกคนคงชอบ

แล้วมันจะมีแนวเพลงที่เป็นแดนซ์มากขึ้น อย่างไรก็ขอฝากไว้ด้วยแล้วกัน แล้วก็เตรียมพบกับเดียในลุคส์ใหม่แล้วกันนะคะ"



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

ผู้จัดการออนไลน์


Special Thanks Photo By:

นิตยสารทีวีอินไซต์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์