เมืองไทย... สังคมอุดมคลิป

ถล่มเป็นระลอกคลื่นกันเลยเชียว ก็เรื่องคลิปร้อนๆ เขย่าอก เขย่าใจ เขย่าขวัญสั่นสะท้านเมืองนั่นแหละ

เห็นบรรยากาศแล้วก็ต้องบอกว่าสังคมไทยยามนี้เป็นสังคมอุดมคลิปจริงจริ๊ง ผับผ่าสิ เดี๋ยวคลิปนั้นโผล่ เดี๋ยวคลิปโน้นโผล่ ทั้งคลิปการมุ้งและคลิปการเมือง เล่นเอาผู้เกี่ยวข้องออกอาการเซโรงังกันเป็นแถบๆ

      ไม่เพียงผู้เกี่ยวข้องในคลิปนั้นที่ในใจร้อนระอุ แต่สังคมไทยก็หยิบจับเอาประเด็นในคลิปมาโขกสับ เอ๊ย!! มาวิเคราะห์เจาะลึก ก่อนจะฟันธงกันฉึ่บฉับตามสไตล์คนไทยที่ชอบบอกว่าเรื่องของชาวบ้านคืองานของเรากันอย่างร้อนทุรนทุรายเชียว

      
แต่เรื่องการเมือง “จันทร์ฉาย” ไม่ค่อยถนัด เลยต้องตัดฉั่ยไปโฟกัสที่การมุ้งเพียงอย่างเดียว เพราะหลังจากปล่อยให้กระแสสังคมกระพือด้วยความเมามันส์เพียงพักเดียว คนในคลิปก็ออกมาสยบปากขาเม้าท์ซะด้วยการเดินขึ้นโรงพักแจ้งความ

      
ก็ทำเอาร้อนอกร้อนใจ กระทั่งร้อนตัวไปเป็นแถวๆ หลัง “หนุ่มเป๊ก-สัญชัย เองตระกูล” เดินขึ้นโรงพักแจ้งความเอาผิดกับคนที่เอาคลิปเสียงตนเองกับภรรยา “ธัญญ่า-ธัญญาเรศ” ไปเผยแพร่ สร้างความเสียหายชื่อเสียง

      
ถึงตอนนี้คดีจะคืบหน้าไปยังไงก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ แต่ที่แน่ๆ เบรกกระแสการส่งต่อคลิปได้ชะงักดีนักเชียว เรียกว่าอารมณ์ของผู้คนในสังคมไทยที่กำลังเมามันส์เม้าท์สนั่นอารมณ์ค้างกันไปเลย แหม!! กำลังตั้งตนเป็นผู้พิพากษาคาดโทษผู้อื่น โดยลืมไปว่ากำลังจุ้นเรื่องชาวบ้านเกินงาม ตอนนี้เลยเกิดโกลาหน อลหม่านขนานใหญ่ ก็เหงาปากกันน่ะซี่

      
ที่ผ่านมาสังคมไทยเราสนุกกับการบริหารปาก วิพากษ์วิจารณ์กระทั่งด่าทอชาวบ้านกันแบบไร้ขอบเขตเยอะไปแล้ว โดยเฉพาะกับบุคคลสาธารณะ ที่หลายคนมองว่าความเป็นคนสาธารณะของเค้าทำให้เราสามารถจ้ำจี้จ้ำไช จิกกัดเรื่องราวของเขาได้ทุกเรื่องทุกราว ทุกซอกทุกมุม ทุกหลืบทุกรู

      
ก็จริงครับที่ว่าทำได้ แต่ทำได้อย่างพอเหมาะพอสมเท่านั้น วิจารณ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทำได้ แต่ถึงขั้นด่าทอสาดเสียเทเสีย จิกหัวด่าเหมือนแค้นข้ามปีข้ามชาติกันมา อันนี้เกินขอบเขตครับ

      
โดยเฉพาะชุมชนออนไลน์ ต้องบอกว่า นับวันชักจะเกินเลย เกินงาม เกินพอดี กระทั่งล้ำเส้นไปเยอะแล้ว ดูประหนึ่งจะเป็นตลาดสดน้ำเน่าเจิ่งนอง มากกว่าจะเป็นชุมชนออนไลน์ของคนที่มีวุฒิภาวะและมีปัญญาใช้เทคโนโยลีทันสมัย

      

ดาราหรือบรรดาคนดังทั้งหลายที่กำลังตกเป็นข่าวฮอตๆ ในช่วงนี้ถูกเอามาประจาน ด่าทอต่อว่าเสียยับเยิน ชนิดเจ้าตัวอ่านแล้วอาจถึงขั้นน้ำตาตกหน้าจอ จนอยากไปเกิดใหม่เป็นดาวลูกไก่เสียให้รู้แล้วรู้รอด

     
และหลายครั้งหลายหน สังคมเราก็พิพากษาคนด้วยการลงโทษทางสังคม และใช้การพูดจาที่รุนแรงเกินกว่าความผิดของเขา ยิ่งคนที่ไม่มีข้อมูลแต่ขอผสมโรงด้วยความชังน้ำหน้ากันมานานด้วยแล้ว ยิ่งดูเหมือนจะด่าทอแบบขาดสติ ไร้วุฒิภาวะ เล่นขึ้นอีขึ้นไอ้ ตั้งฉายาปวดแสบปวดร้อนให้เค้า โดยที่บางคนลืมไปว่า ถ้าด่าเค้าแบบนั้น ตัวเองก็น่าจะใจต่ำกว่าเค้าซะอีก

       
แล้วที่มันน่าชิงชังเข้าไปใหญ่ ก็เพราะคนในแวดวงด้วยกันเองที่ทำตัวเป็นอีแอบ ต่อหน้าก็ทำไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องคนอื่น ให้เกียรติคนในวงการ แต่ที่ไหนได้ พรางตัวไปร่วมกระแสด่าเพื่อนร่วมวงการชนิดสาดเสียเทเสียในโลกออนไลน์กับเค้าด้วย ด่าไม่ด่าเปล่า ไปปลุกกระแสหาแนวร่วมรุมถล่มซะยับเยิน เพราะความอคติเป็นส่วนตัว

    
ล่าสุดโดนอีกแล้ว มีคลิปที่ระบุว่าเป็น “อ้อม-พิยดา” กับสามี “อาร์ท-ศรา จุฑารัตนกุล” ไปทะเลาะกับเด็กอายุ 5 ขวบกับแม่ของเด็กหน้าโรงหนังว่อนทั่วอินเตอร์เน็ต ยังไม่ทันจับต้นชนปลายยังไม่รู้ว่าความเป็นมาเป็นไปของเรื่อง ก็มีคนออกมาด่าคนในคลิปเพลินปากเชียว

      
คลิปที่ว่าเป็นคลิปวงจรปิดของโรงหนังซะด้วย ไม่รู้โรงหนังอะไรเที่ยวปล่อยคลิปมาแฉชาวบ้านแบบนี้ น่าจะมีการเอาเรื่องเอาราวได้นะ

      
จะว่าไปสังคมยุคปากเรียกหาความปรองดอง เรากำลังขอคืนความสงบสุขให้บ้านเองเรา ก็ไม่ควรเอาเรื่องชาวบ้านมาทำลายความสงบสุขทางอารมณ์ของผู้คนในสังคมสิครับ!!

      
ด่าชาวบ้านโครมๆ ว่าไม่อยากเห็นคนไม่ดีมาโลดแล่นในวงการบันเทิง แล้วตัวเราดีแค่ไหนครับ อยากให้สังคมดี
 
มันต้องเริ่มที่ตัวเองก่อนด้วยการไม่ดุด่าว่ากล่าวใครแบบหยาบคาย แต่หันมามอบความเข้าอกเข้าใจกัน มันน่าจะช่วยหาทางออกที่จรรโลงสัมคมได้ดีกว่าการด่าพ่อล่อแม่นะครับ