´เต๊ะ´กลับมาเมืองไทยแล้วจ้า รับ กิ๊กสาว ธรรมดา ´ผู้ชาย´

หายหน้าหายตาจากเมืองไทยไปหลายปี


พุ่งเป้าไปขุดทองระหว่างไต้หวันและจีน อาศัยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ สำหรับ หนุ่ม เต๊ะ-ศตวรรษ เศรษฐกร ที่ร้างลาวงการบันเทิงไทยพักใหญ่ ๆ โดยทิ้งท้ายผลงานล่าสุดไว้ 2 เรื่อง คือ มังกรเดียวดาย และ คุณชายจำแลง เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา


ล่าสุดกลับมาพักผ่อนที่เมืองไทยราว ๆ 1 เดือนครึ่ง


หลังจากนั้นก็เตรียมบินกลับไปรับงานละครและภาพยนตร์ต่อช่วงต้นเดือน มี.ค.นี้ ไหน ๆ ก็กลับมาสู่ดินแดนบ้านเกิด เลยเคลียร์คิวเดินสายเยี่ยมพี่ ๆ สื่อมวลชนก่อนเลย พักไมค์ ขอมือไวปัดเก้าอี้รอหนุ่มเต๊ะเปิดใจถึงเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งช่วงไม่ได้อยู่เมืองไทย และข่าว ฉาว ๆ ที่โผล่มาเป็นระลอก


ก่อนอื่นต้องให้เล่าถึงงานในช่วงที่ผ่านมาว่าทำอะไรมาบ้าง?


หลังจากที่ผมไปอยู่เอเจนซ์ที่ไต้หวัน อยู่ค่ายเดียวกับหลินจื้ออิงครับ เขาก็ส่งงานให้ผมตลอด ช่วงแรก ๆ ก็มีงานเพลงด้วย ทำได้ไม่กี่อัลบั้ม ก็มีงานแสดงเข้ามา ส่วนสัญญากับแกรมมี่เป็นไปในลักษณะสัญญาใจด้วย กลับมาเมืองไทยก็เซ็นสัญญาทิ้งไว้ แต่ก็ไม่ได้มีเวลามารับงานบันเทิงไทยเท่าไหร่ เรียกว่าเราเชื่อใจกันแล้ว

ไม่คิดอะไรมากครับ อยู่ด้วยความสบายใจด้วย

จะได้ไม่คิดว่าเราจะไปโผล่ค่ายไหน แต่ถ้าผมจะรับละครที่เมืองไทยก็ต้องปรึกษาผู้ใหญ่ด้วย นี่ผมก็ไปรับงานที่ไต้หวันและจีนเองมา 8 ปีแล้ว ก่อนหน้านั้นทำงานเมืองไทยมาแค่ 2 ปีครึ่ง ทำอัลบั้มเพลงมา 2 อัลบั้มเอง จากนั้นก็บินไปรับงานที่โน่นอย่างเดียวเลย


อย่างนี้ก็แทบจะกลืนเป็นคนจีนเลยรึเปล่า เห็นรับงานที่ไต้หวันเสียส่วนใหญ่


ไม่หรอกครับ ยังไงผมก็เป็นคนไทย ปีแรกที่ไปคนไต้หวันเรียกผม คนไทย เพราะเป็นคนไทยคนแรกที่ไปทำงานเต็มตัวที่นั่น เขายังจำชื่อเราไม่ได้ พอมา หลัง ๆ เริ่มจำเราได้จากงานแสดง ผมรับมา 10 กว่าเรื่องแล้ว ส่วนภาพยนตร์ก็มี 3-4 เรื่องครับ ด้านของภาษายังไงผมก็ไม่ลืมความเป็นไทยแน่ ๆบ้านเราแค่มองตากันก็รู้ว่ารู้สึกอย่างไร เราเกิดที่นี่ โตที่นี่ วันหนึ่งยังไงผมก็ต้องกลับมาอยู่ที่นี่อยู่แล้ว แต่จะกลับมาสถานะไหนเท่านั้น




เต๊ะ-ศตวรรษ

แล้วคิดอยากกลับไปจับไมค์ร้องเพลงอีกหรือไม่?


เอาจริง ๆ เลยนะครับ ว่าคงไม่แล้ว ยิ่งถ้าให้ผมออกอัลบั้มเพลงจีนคงไม่ไหวแน่ ๆ ผมรู้สึกว่าภาษาของเขาเราเรียนขนาดไหนก็ได้แค่นี้ อีกอย่างผมอยากเรียนรู้งานแสดงให้มากขึ้น ผมไม่อยากเป็นแค่ ไอดอล มันเป็นภาพที่เดี๋ยวจางหายไป สู้การเป็นนักแสดงไม่ได้ เราสามารถปรับเปลี่ยนเล่นบทอะไรก็ได้ ภาพตรงนั้นเราภูมิใจมากกว่า เราเก็บเป็นพอร์ตของตัวเองได้ด้วย

อย่างปีที่ผ่านมามีเรื่องหนึ่งที่ผมเล่นเป็นพระทิเบต แล้วตาบอดด้วย

เรื่องนี้พลิกบทอย่างมาก จนแฟนคลับถามกันเยอะมากว่านี่เหรอเรา ผมเลือกที่จะเล่นบทที่ท้าทายมากกว่า เป็นการฝึกฝนเราไปในตัวด้วย เราไม่ได้ยึดติดแค่บทพระเอกหน้าใส ๆ ตลอด ผมอยากให้ตัวเองไม่ต้องมีตัวตนที่ชัดเจนนัก แบบว่าเล่นได้ทุกบท


ทำงานหลายประเทศอย่างนี้ แล้วกลุ่มแฟนคลับจะตีกันมั้ย


แม้ว่าผมจะไม่มีงานในเมืองไทยแล้ว แต่ก็มีแฟนคลับ ที่ตามดูงานของผม การแสดงบางเรื่องก็มีเข้ามาฉายในบ้านเราครับ ลักษณะแฟนคลับก็คล้าย ๆ กัน ไม่ต่างกันมาก


แว่ว ๆ ว่าแฟนคลับที่ไต้หวันกับจีนเนี่ย แสดงออกค่อนข้างแรงไม่ใช่หรือ?


ก็มีมาแปลก ๆ เหมือนกัน บางคนก็ส่งรูปที่ใส่ชุดแต่งงานส่งมาเป็นอัลบั้มให้ผมเลย แบบว่าจะรอผมเป็นเจ้าบ่าว บางคนถึงขั้นส่งแหวนเพชรมาให้ผมก็มีนะ แบบราคายังไม่แกะเลย (ยิ้ม) อายุส่วนใหญ่ไม่เกิน 20 ปีครับ

บางคนเขียนจดหมายแรก ๆ ก็ยังไม่มีอะไร มาหลัง ๆ เริ่มคุยถึงเรื่องบนเตียงมากขึ้น อีกอย่างเคยมีจดหมายเขียนทำนองห้ามให้การ์ดดึงมือเรานะ ไม่งั้นตาย ขำดีครับ การที่เกิดเรื่องแบบนี้มันดีอย่างที่รู้สึกว่าเขารักเรา เอาจริง ๆ นะครับ ผมไม่กลัวหรอก คงไม่มีอะไร




เต๊ะ-ศตวรรษ

กลับมาคราวนี้ หนุ่มเต๊ะ วางแผนจะเที่ยวพักผ่อนอย่างเดียวเลย


โดยเฉพาะจะพุ่งตรงไปทะเลกับเพื่อน ๆ เพราะเขาพิสมัยการดำน้ำมาก ๆ ที่สำคัญกลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัวด้วย นอกจากกลับมาพักผ่อนแล้ว ผมพยายามใช้เวลาส่วนใหญ่กับครอบครัวด้วย กลับมาคราวนี้ผมรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่แก่ลงเรื่อย ๆ ผมเลย

อยากใช้ชีวิตกับท่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะได้ไม่กลับมานั่งเสียใจทีหลัง ทุกอย่างมันคือความรับผิดชอบของเราครับ การทำงานของผมอย่าเรียกว่าเป็นหัวเรือหลักเลย ทุกคนในครอบครัวช่วยเหลือกันตลอด แม้แต่น้องชายผมเขายังเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยเลย ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองดี




เต๊ะ-ศตวรรษ

อยู่ไกลขนาดนี้แล้วเรื่องของหัวใจล่ะเป็นอย่างไรบ้าง


ที่ผ่านมาเห็นมีข่าวกับสาว ๆ ไต้หวันเหมือนกัน ยิ่งกลับมาเมืองไทยไม่นานก็มีข่าวกับสาว ๆ เสียแล้ว มีคนเห็นไปเดินเยาวราชกับ กุ๊กกิ๊ก-อินทร์กรแก้ว ดาราจากวิก 7 สี ด้วย เรื่องราวรักเนี่ย ผมมีให้คุณพ่อ-คุณแม่และที่มีข่าวกุ๊กกิ๊กกับคนนั้นคนนี้เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายนะ




เต๊ะ-ศตวรรษ

กลายเป็นว่าภาพของ เต๊ะ กลายเป็นหนุ่มเจ้าชู้เลยล่ะสิ


ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากรักใครจริงจังนะ แต่พอคบ ๆ ไปก็ไม่เวิร์ก ไปกันไม่ได้ ที่ดูจะเป็นอุปสรรคเลยคงเรื่องของเวลาและการทำงาน บางทีคุย ๆ กันไป ก็เจอกันบ้าง ไม่เจอบ้าง ก็จะมีปัญหาไปเอง ห่างกันไป อย่างดาราคนในวงการเนี่ยมีโอกาสเจอกันบ่อย ก็จะมีข่าวกับกลุ่มคนเหล่านี้มากกว่า ยิ่งเวลาเล่นละครหรือหนังด้วยกันผมจะเจอกันบ่อย

ในกองถ่ายไม่ค่อยได้คุยกับใครอยู่แล้ว

ก็จะเจอกันเองกับนางเอกและนักแสดงนี่แหละ พบปะพูดคุยกันธรรมดา จนสนิทกันไปเอง ลองศึกษานิสัยใจคอกัน แต่เมื่อความสัมพันธ์กำลังจะพัฒนาเป็นอีกขั้น ไหนจะเรื่องกรอบของเวลา ก็มักไปกันไม่ได้ อีกอย่างเราเคยใช้ชีวิตคนเดียวมาเป็น 10 ปี วันหนึ่ง เราต้องมาแชร์ทุกอย่างลงครึ่งนึง ก็จะกลายเป็นปัญหา สุดท้ายก็ต้องเลิกรากันไป




เต๊ะ-ศตวรรษ

อย่างนี้จะพูดว่า เต๊ะ เจ้าชู้-ขี้เหงา ได้มั้ย?


(หัวเราะ) ผมอยู่ที่นั่นไม่มีใครก็ต้องมีความรู้สึก เป็นเรื่องธรรมดานะครับ

แล้วเจ้าตัวเองอยากได้สาวรู้ใจเป็นคนนิสัยแบบไหน

ผมชอบคนลุย ๆ ไม่ใช่คุณหนูเกินไป ผมเองเป็นคนต่างจังหวัดธรรมดาคนหนึ่ง ใช้ชีวิตธรรมดาเหมือนคนทั่วไป แบบติดดินหน่อย ถ้าวันไหนมีคู่ครองชอบคนสบาย ๆ ถ้าเจอคนมีกรอบคงอยู่กันไม่ได้นานแน่ ๆ

เอ้า! สาวคนไหนสเปกแบบนี้น่าจะใจชื้นขึ้นบ้าง....



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


special thank by: เต๊ะแฟนคลับ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์