แอนนี่ทำบุญ-เปิดใจ ห่วงฟิล์ม หวั่นอาร์เอสลงโทษ


"แอนนี่" เปิดใจหลังอุ้มลูกทำบุญวัดดังย่านบางกรวย ขอพรพระให้เรื่องยุติด้วยดี และขอให้ลูกเป็นคนดี
 
เผยก่อนหน้าเป็นข่าว ลูกชายไม่งอแง แต่เหมือนมีลางสังหรณ์ จู่ๆ โยเย ร้องไห้หนัก ระบุยังไร้ชื่อเล่น "ฟิล์ม" เคยตั้งชื่อให้ว่า "น้องสตาร์" แต่คงไม่ใช้...

หลังจากดาราสาว แอนนี่ บรู๊ค อุ้มลูกน้อย "น้องฑีฆายุ" ออกมาแถลงข่าว และได้รับความเห็นใจจากคนในสังคมอย่างมาก ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ว่า ในช่วงบ่าย นักแสดงสาว แอนนี่ บรู๊ค พา "น้องฑีฆายุ" ลูกน้อยวัย 3 เดือน ไปทำบุญที่วัดแก้วฟ้า ย่านบางกรวย จ.นนทบุรี โดยมีประชาชนให้ความสนใจจำนวนหนึ่ง ซึ่ง แอนนี่เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่ลูกน้อยเกิดมายังไม่ได้ พาไปทำบุญ วันนี้จึงตัดสินใจพาไปทำบุญไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต และขอพรให้เรื่องราวยุติลงด้วยดี และขอยังให้ลูกเป็นเด็กดี ซึ่งระหว่างการพูดคุยกับผู้สื่อข่าว แอนนี่หยอกล้อเล่นกับลูก โดยหนูน้อยมีสีหน้ายิ้มแย้มหัวเราะและไม่ตื่นคน

แอนนี่ยังเปิดเผยว่า ลูกชายเป็นเด็กเลี้ยงง่าย ไม่งอแง แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ข่าวพระเอก ฟ.ทำสาวท้องจะปูดขึ้นมา ลูกร้องไห้งอแงหนักโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งมีคนใกล้ชิดบอกตนว่าอาจจะเป็นความเชื่อของคนโบราณว่า คนเป็นแม่กำลังจะมีเรื่องเดือดร้อน ลูกจึงรู้ก่อนเป็นลาง ถึงตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งชื่อเล่นของ "น้องฑีฆายุ" แต่มี ชื่อเรียกเล่นๆ เปลี่ยนไปทุกวัน เช่น บิ๊กเปา คากิ เพราะความจ้ำม่ำของเด็กที่มีน้ำหนักถึง 6 กิโลกรัม ในวัยเพียง 3 เดือน แอนนี่ยังเผยว่า ฟิล์ม-รัฐภูมิ เคยตั้งชื่อเล่นลูกไว้ให้ว่าชื่อ "น้องสตาร์" แต่ตนคงไม่ใช้ชื่อนี้

แอนนี่ยังได้เปิดใจถึงชีวิตความเป็นอยู่อันแสนลำบากระหว่างตั้งท้องและเลี้ยงทารกแรกเกิดว่า ก่อนหน้านี้ตนเช่าบ้านอยู่ที่ย่านสวนหลวง ร.9 เขตประเวศ เพื่อจะได้ไกลผู้คน เพราะฝ่ายชายสั่งตนไว้ว่าไม่ให้บอกใคร กระทั่งญาติสนิทก็ไม่ให้บอก จึงต้องอยู่ตัวคนเดียว ไม่ได้คุยกับใคร อยู่แต่กับสภาพแวดล้อมเดิมๆ ในห้องมีโทรทัศน์และหนังสือเป็นเพื่อน คนละแวกนั้นส่วนใหญ่ไม่มีใครจำได้ว่าตนเป็นดารา ต้องอดมื้อกินมื้อ เพราะคนท้องจะหิวไม่เป็นเวลา อยากกินอะไรก็ไม่ได้กิน เมื่อหิวมากต้องโทรศัพท์ไปจ้างวินมอเตอร์ไซค์แถวบ้านให้ไปซื้อข้าวให้ โดยเอาเงินแขวนหน้าประตูแลกกับการเอาข้าวมาแขวนไว้แล้วตนออกมาหยิบภายหลัง




เมื่อถามว่า แอนนี่มีความเห็นอย่างไรกับการที่ เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ บอสใหญ่ค่ายอาร์เอส ต้นสังกัด ฟิล์ม-รัฐภูมิ เตรียมออกมาชี้ชะตานักร้องดังในวันที่ 20 ก.ย. แอนนี่เผยว่า ถ้ามีบทลงโทษกับฟิล์ม ตนคงรู้สึกเสียใจ เพราะไม่ได้อยากให้เหตุการณ์เป็นแบบนี้ และลึกๆเชื่อว่าทางค่ายก็ต้องดูแลฟิล์ม

เมื่อถามอีกว่า หากฟิล์มกลับมาขอดูแลลูกอย่างจริงจัง แอนนี่จะทำอย่างไร คุณแม่มือใหม่กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นฝ่ายวิ่งเข้าหาฟิล์มมาตลอดตั้งแต่แรกว่าเกิดอะไรขึ้น ฟิล์มกลับไม่สนใจจะรับผิดชอบอย่างจริงจัง จนขณะนี้เริ่มทำใจได้แล้ว และยังยืนยันว่าไม่ต้องการให้ฟิล์มมาช่วยเหลืออะไรอีก ถึงตรวจดีเอ็นเอแล้วจะมีอะไรดีขึ้น ตนขอเลี้ยงลูกให้ดีด้วยตัวเอง ส่วนอนาคตก็จำเป็นต้องอธิบายให้ลูกฟังว่าใครเป็นพ่อ ไม่ว่าเขาจะรักลูกหรือไม่รัก เขาก็คือพ่อ ให้ลูกได้ตัดสินใจเองถ้าเขาจะไปอยู่กับฝ่ายฟิล์มก็ไม่เป็นไร เพราะเราเลี้ยงเขาได้ แต่ตัว เรื่องอื่นก็ให้เขาตัดสินใจเอง เป็นข้อดีเสียอีกที่ลูกเกิดมาในช่วงลำบาก เริ่มต้นจากความไม่มีอะไร เพราะบางครั้งเด็กที่เกิดมาพร้อมทุกอย่างไม่รู้จักต่อสู้ชีวิต

เมื่อถามว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะเลือกรักผู้ชายคนนี้หรือไม่ แอนนี่ตอบทันทีว่า ก็จะรักเขาอยู่ดี เพราะเขาเป็นคนดี รักครอบครัว เราผ่านช่วงเวลาลำบากตอนเด็กมาเหมือนกัน และคงไม่อยากกลับไปแก้ไขอดีตใดๆ เพราะ ณ ขณะนั้นทุกอย่างเกิดจากความรักจริงๆ การคบหากับคนมีชื่อเสียงระดับซุปเปอร์สตาร์ก็ได้บทเรียนหลายอย่าง และเป็นบทเรียนราคาแพง เพราะเราต้องหลบซ่อนเหมือนความรักเป็นสิ่งที่ผิด ทั้งที่ความรักเป็นสิ่งสวยงาม

นอกจากนี้ ดาราสาวยังแสดงความเป็นห่วงนักร้องสาว ฝ้าย-อริญรดา ปิติมารัชต์ สาวคนสนิทของฟิล์มที่ยังสะเทือนใจกับเหตุการณ์ โดยเผยในช่วงที่ตนคบหากับฟิล์มก็ไม่เคยทราบว่าฟิล์มมีใครอยู่แล้วหรือไม่ ตนเข้าใจความรู้สึกของฝ้ายและเห็นใจอย่างมาก และไม่เคยทราบความสัมพันธ์ของทั้งคู่มาก่อน

ส่วนกรณีที่ผู้กำกับชื่อดัง พจน์ อานนท์ ออกโรงปกป้องฟิล์ม แอนนี่เผยว่า ตนไม่ติดใจอะไร เพราะพี่พจน์ สนิทกันกับฟิล์มมานาน ก็คงไม่แปลกที่พี่น้องจะปกป้องกัน พี่พจน์ยังคงเป็นผู้ใหญ่ที่แอนนี่เคารพ ไม่ได้รู้สึกโกรธคงไม่มีปัญหาอะไรกันแน่นอน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ผลพวงหลังจากที่แอนนี่อุ้มลูกน้อย เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ปรากฏว่าก็ได้รับเสียงตอบรับและการแสดงความเห็นใจจากคนวงการบันเทิง รวมถึงยื่นมือให้ความช่วยเหลือทันที โดยมีรายงานว่า อดีตนางเอกรุ่นพี่ ชฎาพร รัตนากร ได้เดินทางไปพบแอนนี่ที่คอนโดมิเนียมในซอยเสือใหญ่อุทิศ ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของ 2 แม่ลูก โดยชฎาพรได้แสดงความเห็นอกเห็นใจดารารุ่นน้อง และลูกน้อย อีกทั้งยังแสดงความจำนงว่าพร้อมที่จะช่วยเหลือหากแอนนี่ต้องการอีกด้วย ซึ่งแอนนี่รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจและขอบใจนางเอกรุ่นพี่คนนี้มาก นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนดาราสาวแม่ลูกอ่อน หลิว-มนัสวีย์ กฤตยานุกูล ซึ่งมีลูกอ่อน และเป็นซิงเกิ้ลมัมเช่นเดียวกับแอนนี่ เดินทางไปเยี่ยมแอนนี่เหมือนกัน โดย 2 คุณแม่ นอกจากจะตกที่นั่งแบบเดียวกันแล้ว ยังเป็นเพื่อนรักกันอีกด้วย เนื่องจากทั้งสองเคยถ่ายอัลบั้มเซ็กซี่ "คลับเอฟ" มาด้วยกัน โดยหลิวยื่นมือให้ความช่วยเหลือแอนนี่และลูกน้อยก่อนหน้าที่จะเป็นข่าวฮือฮามาบ้างแล้ว

นอกจากความช่วยเหลือจากเพื่อนดาราด้วยกันแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้แอนนี่ได้กลับไปทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้งหนึ่ง โดยทีมงานรายการ "ชิงช้าสวรรค์" ของค่ายเวิร์คพอยท์ฯ ได้ติดต่อแอนนี่กลับไปเล่นช่วง "เรื่องสั้นตลาดสด" ซึ่งเป็นช่วงซิทคอมในรายการ และแอนนี่ได้กลับไปเล่นอีกครั้ง หลังจากหายไปเป็นเวลา 7-8 เดือน โดยบันทึกเทปไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวน 10 ตอน ซึ่งตอนที่แอนนี่กลับมาแสดงนี้จะออกอากาศในวันที่ 2 ต.ค.นี้ เป็นตอนแรก และจะมีคิวบันทึกเทปอีกครั้งในวันที่ 5 พ.ย. อย่างไรก็ตาม การมาบันทึกเทปรายการที่ผ่านมา ทีมงานยังไม่ทราบข่าวว่าแอนนี่มีลูกแล้ว บรรยากาศการถ่ายทำวันนั้น จึงเป็นไปตามปกติ มีแค่ดาราตลกหญิงเพื่อนสนิท "ส้มเช้ง สามช่า" บุญญาวัลย์ พงษ์สุวรรณ เท่านั้นที่ทราบเรื่อง แต่เมื่อทีมงานทราบข่าว ได้รีบโทรศัพท์ติดต่อแอนนี่ทันที เพื่อแสดงความเห็นใจ และจะแสดงความจำนงให้ความช่วยเหลือ แต่แอนนี่ไม่ยอมรับสายทีมงาน และไม่รู้ว่าแอนนี่จะกลับมาแสดงต่ออีกหรือไม่



ด้านผู้บริหาร บมจ.อาร์เอส ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังไม่มีการแสดงท่าทีอะไรออกมาอีก เพียงแค่รอในวันจันทร์ที่ 20 ก.ย. ที่นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส จะออกมาแถลงข่าวถึงอนาคตของฟิล์มเท่านั้น โดยฟิล์มถือเป็นศิลปินซุปเปอร์สตาร์ที่ค่ายอาร์เอสหมายมั่นปั้นมือที่จะส่งสู่ตลาดเพลงโกอินเตอร์ โดยมีการทำอัลบั้มเพลงเสร็จเรียบร้อยแล้วชื่อว่า "ฟิล์ม ไคล์แมกซ์" เพื่อบุกทำตลาดเพลงที่ประเทศเกาหลี และที่สำคัญฟิล์มเป็นนักร้องตัวแทนประเทศไทยเพียงคนเดียวที่จะถูกส่งไปร่วมงานเทศกาลเพลงยิ่งใหญ่ระดับเอเชีย "เอเชีย ซอง เฟสติวัล 2010" ที่ใช้ชื่องานว่า "เอเชีย สตาร์ แชริตี้ วิท ยูนิเซฟ" ในวันที่ 23 ต.ค.นี้ ที่ประเทศเกาหลี จึงเป็นที่จับตามองว่าอนาคตที่กำลังพุ่งแรงของฟิล์มจะดับวูบหรือไม่

ส่วนที่บ้านของนางจันทร์คำ หรือน้อย มีเลข อายุ 54 ปี มารดาของแอนนี่ ซึ่งอยู่ที่ ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เป็นบ้านหลังเล็กๆชั้นเดียว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนางจันทร์คำ ที่มีหลานสาววัย 15 ปี มาอยู่เป็นเพื่อน โดยนางจันทร์คำเปิดเผยว่า ลูกแอนนี่ เป็นลูกสาวคนเดียวที่ตนรัก สำหรับฟิล์มหากอายที่จะตรวจดีเอ็นเอในบ้านเราก็ไปตรวจที่ต่างประเทศได้ อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายชายไม่รับเป็นพ่อ ตนจะขอเลี้ยงหลานด้วยตนเอง แม้ครอบครัวจะยากจน แต่สามารถเลี้ยงได้ เมื่อครั้งเลี้ยงแอนนี่ตั้งแต่เล็กๆ ยังเลี้ยงได้จนโตเป็นสาว ตนรู้สึกภูมิใจที่คนลำปางและชาวแจ้ห่มเข้าใจและเห็นใจลูกแอนนี่ ไม่มีใครซ้ำเติมลูกแถมยังสงสาร ขอวอนสังคมช่วยส่งเสริมลูกแอนนี่ให้มีงานเข้ามากๆ จะได้มีเงินมาเลี้ยงลูกที่ไม่มีพ่อ

"ทุกวันนี้แม้ว่าแอนนี่จะประสบเรื่องร้ายๆในชีวิต แต่แอนนี่ยังห่วงแม่เพราะป่วยเป็นโรคไทรอยด์ มักโทร.มาสอบถามอาการเป็นประจำ เพราะเป็นห่วงแม่มาก" นางจันทร์คำกล่าว

ขณะเดียวกันเมื่อสอบถามชาวบ้าน ที่มีบ้านใกล้เรือนเคียงกับแม่ของแอนนี่ ปรากฏว่าชาวบ้านต่างรู้สึกสงสารแอนนี่กับลูกเป็นอย่างมาก รวมทั้งคนลำปางตลอดจนชาวแจ้ห่มต่างเข้าใจและเห็นใจแอนนี่ ไม่มีใครซ้ำเติม โดยเฉพาะเด็กๆบ้านสา มีความผูกพันกับแอนนี่มาก เพราะช่วงที่งานแสดงเฟื่องฟู แอนนี่กลับบ้านครั้งใดจะนำอาหารไปเลี้ยงเด็กที่โรงเรียนบ้านสาเป็นประจำ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์