เปิดประตูหัวใจ : ?ท็อป-พิพัฒน์? ผู้ชายหัวใจขาดรัก

เปิดประตูหัวใจ : ท็อป-พิพัฒน์ ผู้ชายหัวใจขาดรัก

หลังจากโบกมือลากับนางเอกสาว เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา อย่างเป็นทางการ ท็อป-พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร นักแสดงหนุ่มก็ปล่อยหัวใจว่างเปล่ามานาน จนล่าสุดมีข่าวหนุ่มท็อปพบรักใหม่ แหม !!! เมื่อเป็นอย่างนั้น กามเทพ...ตัวดำ อย่างเราก็ไม่พลาด เลยตามติดไปถึงกองถ่ายละครเรื่อง พ่อแกกับแม่ฉัน เพื่อไปไขความลับมาบอกกัน ส่วนรักครั้งใหม่จะเป็นยังไง สดใสแค่ไหน เราไปคุยกับเขาเลยดีกว่า

ทุกวันนี้ดูเหมือนว่าท็อปจะไม่ค่อยพูดถึงเรื่องของความรักสักเท่าไหร่

ไม่หรอก จริง ๆ ก็พูดได้ใครถามก็ตอบ ถ้าเราตอบได้ในส่วนที่โอเคก็น่าจะได้ แต่ถ้าเจาะลึกเกินไปมันก็เกินไปหน่อย ณ วันนี้มุมมองความรัก ผมก็ยังอยากจะมีแฟน อยากจะมีความรักตลอด แต่มันโตขึ้น เมื่อก่อนเราอาจจะมองสวย หรือขาสวยมาก่อน จะมองสเปกภายนอก แต่พอโตขึ้นก็ขอแค่คนที่คุยกันรู้เรื่อง มีให้กำลังใจกันในการทำงานหรือการใช้ชีวิตมันก็โอเค

ดูเหมือนท็อปจะแปลกกว่าผู้ชายคนอื่นนะ เพราะมองผู้หญิงที่ขาสวย

ผมชื่นชม เพราะคนที่ขาสวยมันไม่ได้มีเยอะ ถ้าเกิดเห็นคนขาสวยแล้วมองว่ามันเซ็กซี่ดี ก็ชื่นชม ไม่รู้มันเป็นยังไง อาจจะเป็นเพราะว่าเราเคยเห็นขาของผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมากแล้วมันทำให้กลายเป็นภาพติดตา ทำให้เรารู้สึกดี

ตอนนี้ท็อปมีคนที่คุยด้วยอยู่หรือเปล่า

จริง ๆ แล้วก็มีมาตลอด ถ้ามีโอกาสที่เราจะศึกษาใครได้ เราก็คุย เพราะเราไม่ปิดกั้นตัวเอง และไม่ใช่คนลึกลับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าผมไม่ค่อยได้ไปไหนด้วย ไม่ได้เที่ยวกลางคืน หรือถ้าไปจุดประสงค์เราก็แค่ไปหาเพื่อน สนุกกับเพื่อน และส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพื่อนผู้ชาย เพื่อนผู้หญิงก็มีไม่ใช่ไม่มีซะทีเดียว แต่เวลาเราไปจะออกแนวเฮฮา คือ เราทำงานตลอดเวลาไปเจอเพื่อนก็อยากจะสนุกอย่างเดียว เรื่องไปดูแลสาวมันไม่ใช่ประเด็น มีคนเข้ามาเหมือนกัน และคนที่ดี ๆ คุณสมบัติพร้อมส่วนใหญ่เขาก็มีแฟนกันหมดแล้ว หรือไม่ถ้าที่เขาไม่มีแฟนเขาก็อาจจะไม่ ชอบเรา

ส่วนหนึ่งท็อปกลัวหรือเปล่าว่าผู้หญิงที่เข้ามาหาเราจะเข้ามาเพราะชื่อเสียง

ผมไม่ได้คิดถึงตรงนี้ เราให้เกียรติเขานะ เพราะตรงนี้มันฉาบฉวย ถ้ามีผู้หญิงคนหนึ่งชอบผู้ชายคนหนึ่งด้วยฐานะหรือชื่อเสียง วันหนึ่งมันอาจจะหมดไปถ้าคุยกันไม่รู้ ณ วันนี้ความรักของผมค่อนข้างที่จะจริงจังขึ้นมาก อะไรที่มันพอดีจะดีที่สุดไม่มากหรือน้อยเกินไป คนสองคนจะอยู่กันได้มันต้องปรับ ก่อนหน้านี้เวลาอกหักก็แย่เหมือนกัน อย่างประสบการณ์อกหักตอนเรียนอยู่ เราก็ต้องหางานทำ เพราะว่าถ้าอยู่เฉย ๆ แล้วเราจะคิดมาก ครั้งล่าสุดมันก็ไม่หนักหนา ผมว่ามันอยู่ที่วัยด้วย ตอนอายุ 15 มันเจ็บสุดแล้ว ตอนอายุ 25 มันก็เจ็บ แต่ถ้าจะให้เปรียบเทียบกันว่าครั้งไหนเจ็บมากกว่ากันมันคงเปรียบเทียบกันไม่ได้

ณ วันนี้มีคนที่ดูอยู่หรือเปล่า เพราะได้ข่าวว่ามีคนที่ปิ๊ง ๆ อยู่แต่เขาไปเรียนต่อเมืองนอก

จริง ๆ ก่อนหน้านี้ผมได้รู้จักผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง คุยกันแต่ยังไม่ได้คิดอะไรเลย เพราะคนที่จะเป็นแฟนกันมันต้องนับหนึ่งถึงสิบ แต่คนนี้มันเพิ่งที่จะเริ่มคิดว่าเราจะนับหนึ่งดีมั้ย สุดท้ายมันก็เป็นอย่างนี้ ไม่มีแฟนแล้วก็ต้องไปเรียนต่อเมืองนอก ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกัน เรารู้สึกดี แต่ยังไม่ศึกษาหรือได้คุยกันเลย จะสานต่อหรือเปล่า มันเป็นเรื่องพูดยากมาก เพราะว่าผมเองก็ทำงาน มีละคร 2 เรื่อง พิธีกรอีก 2 รายการ มันมีงานต้องทำ ถ้าให้โทรศัพท์บ่อย ๆ ก็ไม่ได้ มีติดต่อบ้าง เพราะเดี๋ยวนี้การสื่อสารมันค่อนข้างรวดเร็ว มีส่งเมล์ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้พิเศษกว่าคนอื่น

แล้วมันมีโอกาสจะพัฒนามาเป็นแฟนได้หรือเปล่า

บอกไม่ได้หรอก ผมยังบอกไม่ได้เลยว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง รู้แค่ว่าวันนี้ทำตรงนี้ให้มันดีที่สุด อย่างที่ผ่านมาก็บอกว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งผมก็บอกไม่ได้จริง ๆ ว่าคนนี้ใช่หรือเปล่า วันนี้ตอนเย็นผมอาจจะเจอกับใครอีกคนผมก็ไม่รู้ จริง ๆ ผมก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองนะ เปิดตัวเองมาตลอด ถ้าเกิดเจอคนที่มันใช่ก็จะบอกแน่นอน แต่จะให้นั่งบอกว่าผมทำอะไรอยู่บ้างมันก็ไม่ใช่เรื่อง

ถ้าให้เรียงลำดับความรักท็อปวางไว้ที่เท่าไหร่

มีสองอย่างที่มาพร้อมกันและเป็นคู่ขนานเลยคือ เรื่องครอบครัวและเรื่องงาน มันเป็นสองเรื่องที่ผมโฟกัสอยู่ ณ ขณะนี้ แต่เรื่องความรักผมก็ไม่ได้ทิ้ง ถ้าเจอคนที่ใช่จริง ๆ ผมก็เปิดและลองศึกษากับเขาดู ตอนนี้อายุเท่านี้แล้ว มันก็ไม่แก่มากเกินไป แต่ถ้าเราได้เริ่มต้นกับใครมันก็ดี ผมไม่ชอบคำว่าคบเลิก มันไม่มีอะไรช้าหรอก บางคนแต่งงานกันมาเป็น 10 ปี แต่เลิกกันก็มี ส่วนตัวผมไม่อยากจะให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น ชีวิตผมก็ไม่มีอะไรมาก ทำงาน มีครอบครัว มีเมีย มีลูก อยู่กันแบบแฮปปี้ ชีวิตมันก็มีแค่นี้แหละ

เราจะมีใครสักคนต้องให้ทางบ้านมีส่วนในการตัดสินใจด้วยมั้ย

แน่นอนครับ เพราะว่าคนที่จะมาอยู่กับผม ก็ต้องรับสภาพแวดล้อมของครอบครัวผมให้ได้ แต่ผมพูดได้เลยว่าครอบครัวผม ไม่ได้แบบแย่ ไม่ได้เข้ากับคนอื่นยาก ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว เวลาผมพาเพื่อนมาบ้านแม่จะเปิดตลอด ท่านไม่เคยบังคับ แม่ไม่ได้หวงด้วย ท่าน บอกว่าเราเป็นผู้ชาย เราต้องให้เกียรติคนอื่น การที่พาใครมาที่บ้านก็เหมือนกับการให้เกียรติเขาเหมือนกัน ผมว่าการที่เราพาให้เขารู้จักกันมันดีเสียอีก เพราะบางครั้งเรามองแค่ด้านเดียว แต่แม่อาจจะมอง 8 มุม

เคยวางแผนชีวิตไว้หรือเปล่าว่าเราจะแต่งงานมีครอบครัวเมื่อไหร่

ไม่เคยเลยครับ อย่างที่บอกไว้อยากจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อน ใช่อนาคตเป็นเรื่องที่ต้องวางแผนให้ดี ผมก็วางแผนไว้ว่าชีวิตต้องทำงานให้ดีที่สุด แต่ถ้าจะกำหนดว่า 30 จะต้องแต่งงาน ต้องหาเมียให้ได้ ซึ่งถ้ามันมาถึงอายุ 29 แล้วผมยังไม่มีใครผมก็ต้องรีบหา ซึ่งมันก็ไม่ได้

ต้องถามว่าอยู่คนเดียวอย่างนี้มีอารมณ์แบบเหงา ๆ มั้ย

มีอยู่แล้ว แต่ผมมีเพื่อนที่ซี้กันมากซึ่งโทรฯ หาเมื่อไหร่ก็ได้เจอแน่นอน แต่มันก็มีบางอารมณ์ ที่เรารู้เหงา ๆ เหมือนกัน อย่างที่พี่เต๋า (สมชาย) เขาคุยกับพี่นัท เราก็รู้สึกว่าถ้าเรามีใครสักคนเราก็อยากจะคุยกับเขาแบบนี้เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้อิจฉาใครนะ เพราะทุกวันนี้ยังเชื่อว่าชีวิตตัวเองยังมีความสุขอยู่

และนี่ก็คือเรื่องราวความรักของ หนุ่มท็อป-พิพัฒน์ ว้าว ! ประกาศว่ายังโสดอย่างนี้ เดี๋ยวสาว ๆ ก็แห่ไปเขียนใบสมัครกันเพียบหรอกขอรับ.


กามเทพ ตัวดำ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์