หัวอกคาสโนว่า(จำเป็น) กึ้ง เฉลิมชัย


แม้จะ "สวมหัวโขน" ผ่านงานมาหลากหลายรูปแบบ ทั้งในแวดวงการเมืองที่เริ่มต้นจากตำแหน่ง "ผู้ติดตามนายกรัฐมนตรี" เดินตาม(ก้น)อดีตนายกฯ ทักษิณต้อยๆ กระทั่งขยับขึ้นมาเป็น

อีกทั้งบริษัทระดับกลางอีกหลายแขนง หรือแม้กระทั่งงานในแวดวงบันเทิง แต่เอาเข้าจริงๆ ต้องยอมรับว่าชื่อของ "กึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ" นั้นกลับไม่ได้โดดเด่นในสิ่งเหล่านี้สักเท่าไหร่


อย่างเก่งก็คือ ความคุ้นหู


การที่คนส่วนใหญ่ได้รู้จัก และการได้มาซึ่งไอดี (Identity)เก๋ๆ อย่าง "ทายาทเจ้าพ่อกาแฟ", "ผู้บริหารรุ่นใหม่" จนถึง "พิธีกร-ดาราหนุ่มตี๋ไฮโซ" ซึ่งเมื่อถามว่าเขามีความสามารถโดดเด่นในระดับ "หัวแถว" ที่ "น่าพูดถึง" หรือเปล่า? คำตอบคือไม่

กลายเป็นว่าสิ่งที่ชัดเจน

สำหรับเขาคนนี้และเป็นข่าวมากที่สุดก็คือเรื่องผู้หญิงกระทั่งบรรดานักข่าวบันเทิงหลายสำนักต่างยกให้เขาเป็นหนึ่งใน "คาสโนว่า" ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนมองว่าค่อนข้างจะเหลือเชื่อ

หากพิจารณาคุณสมบัติทางด้านหน้าตาของเขาที่ต้องยอมรับว่าแม้จะไม่ขี้เหร่ แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดที่จะเรียกว่าหล่อพอที่จะทำให้สาวๆ ปิ๊งปั๊งได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแต่อย่างใด


ยิ่งไปกว่านั้น


ในบรรดาสาวๆ ทั้งหลายที่เข้าเป็นข่าวด้วยแต่ละคนต้องบอกว่าไม่ใช่ธรรมดา มีทั้งดารา นางแบบ ไล่ไปตั้งแต่นางเอกลูกครึ่ง "แอนจี้ เฮสติ้ง", "ซาร่า มาลากุล เลน", "หยาด หยาดทิพย์", "วิกกี้ สุนิสา", "ศรีริต้า เจนเซ่น" รวมทั้งล่าสุดกับนางเอกวัยกระเตาะ "ขวัญ อุษามณี" และสาวไฮโซ "ตั๊น" น้องของ "ต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี


อย่างไรก็ตามสำหรับหนุ่มกึ้งแล้ว


เขาบอกว่าไม่ตนขอรับตำแหน่งที่ว่านี้แต่อย่างใด พร้อมยอมรับมีข่าวในทำนองนี้มากๆ ส่งผลให้ตนเองรวมทั้งคนที่จะเข้ามาหาต้องมีอาการรู้สึกเกร็งๆ..."ไม่รับน่ะครับ จริงๆ ยังมีผู้ชายคนอื่นที่ดูดีกว่าผมตั้งเยอะแยะแต่ว่าคนก็พยายามจับให้ผมเป็นคาสโนว่า ซึ่งจริงๆ แล้วผมไม่ค่อยออกไปไหนนะครับ ก็อยากให้ผมเป็นขุนแผนจังเลย หน้าผมก็ออกจะจีนซะขนาดนี้"


การมีข่าวแบบนี้


มันก็ทำให้สาวๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ผมเหมือนกันนะ บางทีเวลาเราไปกับเพื่อนหรือว่าไปกับคนอื่นที่เป็นเพื่อนจริงๆ หรือคนที่รู้จักเขาก็จะเกร็งๆ น่ะครับ เพราะเขากลัวเป็นข่าว เวลาไปไหนกับผู้หญิงปุ๊บเขาก็อาจจะคิดว่ามีอะไรที่มากกว่าเพื่อนคือจริงๆ แล้วคนที่เป็นเพศตรงข้ามเราก็คบเป็นเพื่อนได้ พี่ก็ต้องมีเพื่อนที่เป็นผู้ชายและผู้หญิงถูกต้องมั้ยครับ


ก่อนจะไล่ปฏิเสธทีละคนๆ เริ่ม


จากข่าวว่าจีบนางเอก "ขวัญ อุษามณี" ..."ผมยังไม่ได้อ่านข่าวนี้นะครับ ก็ไม่รู้สึกอย่างไรเพราะยังไม่เห็นข่าวแต่ผมเคยเจอน้องแค่ครั้งเดียวเองครับ ร่วมงานกันครั้งหนึ่งแต่นานแล้วและก็ไม่เคยเม็จเส็จไปหาน้องเขาครับ ถามว่าน้องเขาเป็นสเปกมั้ยก็ผมชอบสไตล์ลูกครึ่งน่ะครับและน้องเป็นคนน่ารัก"


ตอบไหลออกนอกประเด็น


ต่อกระแสรีเทิร์นกับ "แอนจี้ เฮสติ้ง" พร้อมแจงเลิกติดต่อกันได้สักพักแล้ว..."ดูเรื่องงานดีกว่าเป็นสเต็ปๆ ไป เพราะเราต้องเจอกันอีกนานใช่มั้ยครับ อย่าเพิ่งหนีไปไหนเลยเอาเป็นตอน 1 ตอน 2 ละกัน ตอน 1 แค่นี้พอก่อน (หัวเราะร่า)

ตอนนี้มันมีหลายข่าวมากเลย ยังไม่มีข่าวไหนจริง รอให้มีข่าวจริงๆ แล้วจะบอก ความสัมพันธ์กับแอนจี้ตอนนี้ก็ไม่ได้เจอและไม่ได้คุย แต่ถ้าสมมติมีอะไรก็ผมยังมีความรู้สึกดีอยู่ก็เป็นเพื่อนกันแต่เราก็เลิกติดต่อกันไปพักหนึ่งแล้ว"


ส่วนกรณีถูกปาปารัซซีถ่าย


ขณะควง "ตั๊น" น้องสาว "ต๊อด ปิติ" ไปดูสัตว์น้ำที่ห้างดัง เจ้าตัวบอกก็แค่พาน้องสาวไปดูปลาเฉยๆ..."ก็ไปดูปลาเฉยๆ เขาเหมือนน้องคนหนึ่งน่ะครับ ไม่มีอะไร ตอนนี้มีหลายข่าวมากก็รอดูๆ อยู่ว่าจะเป็นอย่างไร

ต้องติดตามต่อไป ถามว่าการเป็นข่าวกับสาวๆ ถือเป็นโอกาสที่ทุกคนหยิบยื่นรึเปล่า อันนี้ไม่ใช่ครับ เป็นเรื่องของบุคคลแล้วเป็นเรื่องของจิตใจครับ

อันที่จริงแล้ว

คือเราไปกันหลายคนครับแต่ว่าช่างภาพจะเก่งครับในการเลือกมุมมอง สมมติถ่ายเดี๋ยวนี้เขามีการอีดิท(Edit)กัน มีการรีทัชกันแต่นี่อาจจะเป็นการเลือกมุมภาพแบบว่าถ่ายให้เห็นแบบนั้นมากกว่า

คือเราไม่เรียกว่าดูใจกันครับตอนนี้ผมก็ยังเปิดอยู่ เมื่อกี๊พี่ก็ยังถามถึงน้องคนหนึ่งพี่คนนี้ก็ถามเรื่องรีเทิร์นกับอีกคนหนึ่ง ถ้าสมมติผมมีตัวจริงอยู่ผมจะบอก"


ออกปากอยากให้ทุกคนมองตนที่ผลงานบ้าง ไม่ใช่จ้องแต่จะคอยจับคู่ให้เช่นนี้


ขอเป็นว่าโฟกัสที่งานดีกว่า เรื่องความรักเอาไว้ดูดีกว่าว่าจะเป็นใคร ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ตอนนี้ขอมุ่งเรื่องงานและขอให้คนมองผมเรื่องงานมากกว่าเพราะที่ผ่านมาข่าวจะมีแต่เรื่องความรักว่าผมจะคู่กับใคร ก็พยายามจะจับคู่ให้ ไปกับเพื่อนก็จับคู่ กึ้งเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นว่าคนไม่สนใจเรื่องงาน ที่สัมภาษณ์มาก็ใครจะเป็นคู่ของผมตลอดเวลา"


สำหรับการรับมือกับข่าวทำนองนี้


ผมว่าพี่ๆ(นักข่าว)น่ารักอยู่แล้วไม่เห็นต้องรับมือเลยนี่ครับ ถ้ามีอะไรอัพเดทผมจะอัพเดทให้แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไร ยังเป็นกึ้งคนนี้คนเดิม ยังไม่มีตัวจริงใดๆ ทั้งสิ้น ที่คนจะมองว่าไม่น่าเชื่อเพราะผมหล่อรวยขนาดนี้ นั่นมันคือนิยามที่คนตั้งให้ จริงๆ ผมก็เป็นกึ้งธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้ดีกว่าผู้ชายคนอื่น ยังมีผู้ชายที่ดีกว่าผมมากมาย"



หันมาพูดถึงเรื่องงานในวงการบันเทิง


ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้กลับมาทำ(คั่นเวลา)อีกครั้งกับการเป็นพิธีกรรายการ "เบื้องหลัง" คู่กับ(อดีต)เพื่อนซี้ "มดดำ คชาภา ตันเจริญ" และการมาเป็นนักแสดงรับเชิญละคร "ทาสรักทรนง" ของเอ็กแซ็กท์

"บทที่ผมรับในเรื่องนี้จริงๆ ไม่ได้เป็นบทที่เยอะครับตอนนี้มารับเชิญครับ มีไม่รู้กี่ตอน แต่ก็ไม่ได้ยากมากเพราะพี่บอยก็ไม่ได้ให้บทที่เปลี่ยนคาแร็คเตอร์ตัวเองซะทีเดียวเลย ก็ยังเป็นตัวเองบ้างอยู่

แต่ถามว่าที่ผมตัดสินใจกลับมาเล่นละครเพราะเคลียร์งานการเมืองลงตัวแล้วหรือเปล่า

ก็..จริงๆ แล้วเอ็กแซ็กท์เป็นบริษัทที่ให้ผมเข้ามาอยู่ในวงการนี้นะครับ ในการที่มาอีกทีเพราะผมเห็นว่าเป็นอีกบ้านหนึ่งที่ผมได้รับความอบอุ่น"


โอกาสนั้นมาทำให้เป็นประโยชน์ได้


ถ้าถามต่อว่าผมจะเอาจริงเอาจังกับละครหรือว่ามาพักระหว่างรอการเมืองอันนี้ก็ไม่ได้บอกว่ามาลงเต็มตัวก็คือมาเป็นรับเชิญซึ่งช่วงนี้ยังว่างอยู่ไม่มีอะไรที่จะทำ ซึ่งก็เป็นโอกาสดีที่เอ็กแซ็กท์เป็นสถานที่ที่ทำให้พี่ๆได้รู้จักแล้วการที่นี่เรียกตัวมาผมก็ยินดีและพร้อมที่จะปฏิบัติตรงนี้"



แม้จะห่างงานแสดงไปร่วม 2 ปี


เนื่องจากไปเอาดีด้านการเมืองแต่เจ้าตัวคุยไม่ถึงขั้นต้องรื้อฟื้นแต่อย่างใด ส่วนรายการ "เบื้องหลัง" ที่ทำร่วมกับดีเจปากกล้า "มดดำ คชาภา" ทางช่อง 5 ที่ออกแนวผสมระหว่างรายการ "คุยแหกโค้ง" กับ "เจาะใจ" กึ้งลั่นน่าจะไปได้ดี..."

ก่อนหน้านี้ก็มีไปแคสติ้งทีหนึ่งก็พยายามให้เป็นธรรมชาติแต่เนื่องจากเคยผ่านงานละครมาและมีพิธีกรซึ่งไม่ได้แตกต่างซะทีเดียวก็อยู่ทางหน้าจอ ก็ไม่ได้ห่างหายไปไหนนานคือมีความที่เป็นธรรมชาติอยู่บ้างแต่เป็นธรรมชาติที่แข็งหน่อย"


ส่วนงานพิธีกร


ผมว่าเป็นรายการที่ผมเห็นคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกันมาก มดดำจะเป็นแบบกัดจิก ถามตรงไปตรงมาโดนใจ ผมก็จะเป็นคนที่ถามในมุมมองหนึ่ง นอบน้อมหรือทางการบ้าง รวมกันระหว่างความแตกต่าง ทำงานไม่ยากเลย มันอยู่ที่การรับ-ส่งแล้วก็ทุกอย่างค่อยๆ เป็นค่อยไป

เพิ่งร่วมงานกันได้ครั้งเดียวเองกับมดดำคิดว่าเทปแรกก็ดีใช้ได้ แต่ไม่ได้บอกว่าดีที่สุดนะ แต่มันก็สามารถพัฒนาไปมากกว่านี้ได้ ผมมองว่าการที่เอาคน 2 บุคลิกมารวมกันจะทำให้มันมีความหลากหลายมากกว่าเพื่อที่จะครอบคลุมได้ทุกมุมมอง"



ครั้นพอถูกถามว่าสาเหตุที่เจ้าตัวกลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้งเป็นเพราะไม่ประสบความสำเร็จทางการเมืองหรือเปล่า?

เรื่องนี้ทายาทกาแฟรีบตอบกลับทันควัน...ไม่เกี่ยวมั้งแต่ก็แล้วแต่มุมมองของคน คนมองได้หลายแบบ ผมไม่สามารถเปลี่ยนมุมมองของคนได้ คนอาจพูดได้ทุกอย่าง มันคือลูกกลมๆ คนอาจดูได้หลายมุม

มองขาวก็ได้ดำก็ได้ ส่วนเรื่องที่ว่าผมจะกลับไปเล่นการเมืองมั้ยเป็นเรื่องอนาคต ไม่แน่ครับ ทุกอย่างคือโอกาสน่ะครับ โอกาสตรงนี้มันคือสิ่งที่ดีที่สุดของเรา"



เช่นเดียวกัน เมื่อถูกถามว่าเป็นเพราะบทบาทหน้าที่การงานอื่นๆ ยังไม่เด่นชัดเท่าเรื่องความรักหรือเปล่าถึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนอื่นไม่สนใจในเรื่อง

เจ้าตัวบอกว่าเป็นเรื่องของแต่ละคนที่มีมุมมองที่แตกต่างกันไป ตนคงไม่สามารถตอบแทนได้ ก่อนจะยืนยันเป็นการปิดท้ายว่ากรณีของเรื่องการคบสาวๆ ที่เป็นข่าวออกไป ตนเองไม่เคยเป็นคนพรีเซ้นต์เลย หากแต่เป็นสื่อฯ นั่นแหละที่เลือกจะนำเสนอในเรื่องที่ว่า



"ผมไม่ได้เป็นคนพรีเซ้นต์ทางด้านนั้นแต่พี่ๆ สื่อมวลชนเป็นคนพรีเซ็นต์ผมด้านนั้น จริงๆ ผมต้องถามว่าทำไมชอบพรีเซ้นต์ผมทางด้านคาสโนว่า ทางด้านความรัก ทั้งๆ ที่ยังมีผู้ชายคนอื่นที่ยังหล่อยังเท่ห์กว่าผมตั้งเยอะแยะและเขาก็มีทางด้านนี้ที่เยอะกว่าผมอีก ทำไมโฟกัสผมละครับ ผมต้องถามพี่ๆ มากกว่า"



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นิตยสารทีวีอินไซต์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์