พอลล่า เกลียดนักคำว่า โกอินเตอร์

'พอลล่า' เกลียดนักคำว่า 'โกอินเตอร์'

 **สาเหตุที่พอลล่ารับงานแสดงน้อยมันเกิดจากอะไร?
   
“เราพยายามรับแต่สิ่งที่เราอยากทำ เราอยากรับงานที่เราชอบและรัก แล้วเราเชื่อว่าเราทำออกมาแล้วจะดีกว่า แต่ว่างานน้อยมั้ย ก็ไม่ได้น้อย เพราะเราก็ทำงานทุกวันนะ แต่จะหนักไปทางถ่ายแบบ คือการเล่นหนัง เล่นละคร มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างเต็มที่มาก เพราะใช้เวลานานมาก ฉะนั้นเราจะต้องเลือกเล่นอะไรที่เราชอบจริง ๆ เพราะต้องอยู่กับมันนาน ๆ ถ่ายแบบ ทำโน่นนี่วันเดียวก็จบ แต่ถ่ายละครกับหนังนาน 4 เดือนขึ้นไปค่ะ”

**มีถ่ายแบบที่เมืองนอกเยอะ เป็นยังไงบ้างไปทำงานที่เมืองนอก?
    
“ปีนี้ตั้งแต่ต้นปีแล้ว เราโฟกัสที่ฮ่องกงมากขึ้น ก็เริ่มดีขึ้นมากเลยนะ เพราะพอลล่าเพิ่งได้งานโฆษณา แคนนอนที่โน่น ถ่ายกับดาราฮ่องกง ชื่อ เอริค โค้ท เขาเป็นดาราพิธีกรด้วย เพิ่งเริ่มฉายเอง ตอนนี้กระแส ก็ดี เริ่มได้งานเรื่อย ๆ เลย ก็ดีค่ะ ตื่นเต้นดี ตอนนี้เราโฟกัสที่ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และเมืองไทยค่ะ ชีวิตก็ต้องเดินทางทุกอาทิตย์เลยค่ะ โอ้โฮเหนื่อยมาก แต่ก็สู้ ๆ ค่ะ”

**ทำไมเลือกที่จะทำงานหลายประเทศ?
 
“สำหรับพอลล่าตอนนี้เพื่อสะสมประสบการณ์ ทุกอย่างที่เราทำไม่ใช่เพราะเงินอย่างเดียว บางทีเหมือนเราพ้นจุดนั้นมาแล้ว เราอยู่ในวัยที่เหมือนหาประสบการณ์เข้าตัวเองมากขึ้น ไปแล้วก็ได้ทำอะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ ยินดีเลย เหมือนสร้างตัวเองเรื่อย ๆ”

**ประสบการณ์ที่ได้จากประเทศอื่น ๆ ต่างจากประเทศไทยยังไง?
   
“ทุกประเทศไม่เหมือนกันเลย แม้กระทั่งรูปที่เขาชอบ เขาชอบพอลล่ามุมนี้นะ ชอบรสนิยมการแต่งหน้า ทำผมที่เขาคิดว่าสวย เราอยู่นี่เราจะชินว่าเราทำแบบนี้สวย อย่างเช่นตอนไป  ญี่ปุ่นเราชอบทรงผมแบบนี้ แต่เขา จะไม่เอาแบบนี้ถึงสวยนะ การที่เราทำงานหลายที่เราต้องสามารถออกจากความเคยชินว่าแบบนี้สวย เราต้องหลุดออกมาให้สวยในแบบของเขาให้ได้ มันยากเหมือนกันนะ เพราะเหมือนบางทีเราก็เสียเซลฟ์ เอาโบมาผูกผมแบบนี้มันสวยตรงไหน แต่เขาคิดว่ามันสวยของเขา ก็ช่างเหอะปล่อยมันไป เราก็โอเคสวยให้ก็ได้ (หัวเราะ)”

**ไปทำงานที่เมืองนอกคู่แข่งเยอะไหม?
     
“คงเยอะแหละ แต่เราไม่ค่อยได้เจอ เพราะเราไม่ได้เข้าไปอยู่ในสังคมนางแบบเท่าไหร่ แต่ละประเทศที่เราไปเหมือนมีสังคมของเขา สำหรับพอลล่าไม่ว่าที่ไทยหรือต่างประเทศจะไม่ค่อยแข่งอะไรกับใคร ไม่เคยคิดจะต้องแข่ง เพราะเมื่อไหร่ที่เราเอาตัวเองไปแข่งกับชาวบ้านนะ มันจะเป็นอะไรที่เราจะเริ่มตัดสินใจผิด แล้วก็เครียด ฉะนั้นเราต้องเอาตัวเองออกมาตั้งใจทำงานทุกวันจะดีกว่านะ เมืองนอกเหมือนกันไม่สนคนอื่น เราทำของเราให้ดีที่สุดพอ ส่วนมากก็ขึ้นอยู่กับดวงด้วยแหละ บางทีเราไปก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองสวยที่สุด เก่งที่สุด เรารู้ว่าต้องมีสวยแล้วเก่งกว่าเรา แต่ว่าเราก็ยังยิ้มได้ค่ะ”

**ทำงานที่ไหนถือว่าโอเคสุด?
   
“สำหรับพอลล่าเหรอ รักเมืองไทยที่สุด เมืองไทยให้โอกาสเราดีที่สุด การทำงานเมืองนอกมันคนละแบบจริง ๆ พอลล่าทำงานเมือง  ไทยอย่างเดียวก็เหมือนเดิมตลอด ซ้ำ ๆ ที่เราเคยทำตลอด แต่ไปเมืองนอกก็สะสมประสบการณ์ทำอะไรใหม่ ๆ ไม่เหมือนกันค่ะ”

**ตอนนี้งานอยู่แถบเอเชีย มีแนวคิดจะไปทางอเมริกาบ้างไหม?
   
“ถ้ามีโอกาสแล้วมีคนให้งานก็คงไป แต่ถ้าจะให้ไปอยู่ที่โน่นไปสู้ คนอื่นคงไม่ เพราะเรารู้สึกว่าแถวนี้มีโอกาสที่ดีสำหรับเราแล้ว แค่ทุกวันนี้เรายังไม่มีเวลาเลย จะไปที่โน่นมีคนที่ยอมทุกอย่างเพื่อทำสิ่งนั้นมากกว่าเรา พอลล่าไม่ได้มีความอยากมากขนาดนั้น แต่ถ้าเราบังเอิญได้โชคที่จะทำ แล้วไปได้ด้วยดีก็อยากจะทำค่ะ”

**ทำไมต้องทำงานเยอะขนาดนี้?
   
“เพราะเรารู้สึกว่ามีอะไรหลายอย่างมากที่อยากทำแล้วก็เวลามันน้อยจังเลย ไม่ใช่ปีหน้าค่อยทำ เป็นคนทำอะไรก็ต้องทำเลย เรื่องสุขภาพเราก็ค่อนข้างให้ตัวเองได้พักผ่อน เพราะเราดูคิวเองด้วย ถ้าทำงานเต็มที่ 7 วันเราก็มีวันพักให้ตัวเองตลอด บางทีเหนื่อยแต่ก็สนุก เป็นคนที่มีพลังเยอะ จริง ๆ เราค่อนข้างมีอะไรจะเต็มที่มาก อย่างถ้าว่างก็เต็มที่กับการว่างมาก เราเต็มที่กับทุกอย่างที่เราทำ อย่างปีที่แล้วก็เคยไปเที่ยว 2-3 อาทิตย์ พอกลับมารู้สึกตายแล้วเที่ยว 3 อาทิตย์ โอเคเรากลับมาก็มาลุยงานเต็มที่ไม่พัก 2 อาทิตย์เลยค่ะ”

**เวลาเขาเรียกว่านางแบบโกอินเตอร์รู้สึกยังไง?
   
“ไม่ชอบคำว่าโกอินเตอร์ เพราะเรารู้สึกว่าคำนี้เหมือนโดนใช้จนไม่ค่อยมีความหมายแล้ว จะโกอินเตอร์เหรอ ก็แค่ทำงาน  ต่างประเทศ จะโกอินเตอร์ก็ได้ แต่ไม่อยากจะเรียกแบบนั้นไม่ชอบค่ะ”

**ไปทำงานจนไปพบรักที่ฮ่องกงเป็นยังไงบ้าง?
   
“ตอนนี้ดีมาก เขาเป็นลูกครึ่งจีน-อังกฤษ เราเจอกันแทบจะทุกอาทิตย์เลยนะ ถ้าเราทำงานที่เมืองไทยหนัก เขาก็จะมาหาเราที่นี่ แต่ตอนนี้เราก็โชคดีที่ทำงานฮ่องกงบ่อย เราก็เลยเจอกันบ่อย แต่ถ้าให้เลือกก็คงอยากอยู่ด้วยกันทุกวันแหละ แต่ตอนนี้มันยาก เพราะเราก็ต้องทำงานอยู่ ทุกวันนี้ก็เป็นกำลังใจให้กันก็โอเค โทรศัพท์หากันนี่ดีที่สุดแล้ว”

**เวลามีแฟนเป็นคนต่างชาติต่างกับคนไทยยังไง?
   
“พอลล่าว่ามันก็อาจจะมีบ้าง เพราะเขาอยู่อังกฤษมาเกือบตลอดแล้วค่อยมาอยู่ฮ่องกง 2 ปีเอง เขาก็คงค่อนข้างเป็นคนอังกฤษมาก แต่เขาก็ซึมซับเอเชีย เพราะมีแม่แล้วมีพี่สาวอีก 2 คนด้วย เขาก็ดูแลเรา แต่ไม่ฝรั่งจ๋านะ ถ้าฝรั่งจ๋าเลยก็คงไม่ไหว ถ้าผู้ชายไทยเกินไปก็ไม่ได้เหมือนกัน เราชอบลูกครึ่ง หรือคนไทยที่เรียนเมืองนอกนิดหนึ่ง ถ้าไทยเกินไปอาจจะแบบเข้ากันยาก เพราะเราก็ลูกครึ่ง สองอย่างเหมือนกันค่ะ”

**มีพูดถึงเรื่องอนาคตกันบ้างไหม?
   
“อนาคตตอนนี้คงยัง พอลล่าคงไปเรื่อย ๆ ค่ะ ยังไม่ถึงขนาดนั้น คบ กันประมาณ 7 เดือนเอง แต่ก็ไม่ได้มีขั้นตอนที่ต้องเป็นแบบนี้นะ เราไปเรื่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ มากกว่าค่ะ”

**เขามีความเข้าใจในความเป็นคนบันเทิงของเราแค่ไหน?
   
“เขาก็พยายาม ทำความเข้าใจ เพราะมันเป็นอะไรที่แปลกใหม่ของเขาเลย ทำไมคนต้องมองเขา ก็รู้สึกแปลกที่คนเข้ามา แต่ส่วนมากเขาจะเป็นห่วงว่าใครจะเข้ามาทำอะไรหรือเปล่า พอลล่าก็บอกว่าไม่เป็นไร คนไทยใจดีแฟนคลับน่ารัก บางทีเขาก็เกร็งและเขิน เวลาเขาตามเราไปทำงานถูกคนถ่ายรูปเขาก็จะเขิน แต่ก็เริ่มปรับตัวได้บ้างแล้ว”

**มุมมองความรักของพอลล่าในแต่ละครั้งแตกต่างกันไหม?
   
“ไม่ได้แตกต่างกันนะ ตอนเรามีความรักก็เต็มที่มาก ให้เต็มที่เลย แต่ว่าความเข้าใจกับความรักมันก็อาจจะเพิ่มขึ้นทุกครั้ง เหมือนเรามีประสบการณ์เยอะขึ้นเกี่ยวกับความรักค่ะ พอลล่าว่าการที่เราเข้าไปคบใครใหม่ ก็ไม่ควรสร้างกำแพงระหว่างกัน คบใครใหม่ ๆ ก็ไม่ควรเอาอะไรในอดีตมาใส่ความรักใหม่ ควรให้มันเป็นธรรมชาติใส ๆ มากกว่า”

**ทุกวันนี้ยังสะสมที่ดินอยู่ไหม?
   
“ก็เรื่อย ๆ ค่ะ เพราะเป็นแค่วิธีเก็บเงินของเรา เก็บเงินเองไม่ได้จริง ๆ ลงทุนกับบ้านที่ดินทุกอย่างค่ะ เพราะเราเก็บเงินไม่ได้มีพวกนี้ก็เพื่ออนาคตเรา ตอนนี้ก็สะสมเรื่อย ๆ อาจจะมีบ้านราว ๆ เกือบถึง 10 หลังได้มั้งคะ (หัวเราะ)”

**บางคนบอกว่าเราเป็นเศรษฐินี?
   
“เศรษฐีหนี้ค่ะ เราจะตอบแบบนี้ตลอด จริง ๆ ไม่ค่อยมีที่ดินหรอก ส่วนมากเป็นคอนโด ถ้าเป็นเศรษฐีส่วนมากเขาทำงานเหรอ ก็ไม่ค่อยนะ เรายังทำงานทุกวันอยู่เลย มีหนี้เยอะแยะเลย คงยากแหละค่ะ”

**ตอนนี้มาเปิดบริษัททำโมเดลลิ่ง?
   
“ตื่นเต้นมากค่ะ ตอนนี้ก็เปิดบริษัทใหม่ ชื่อ “สเตล่า อาร์ตทิส เมเนจเม้นท์”  เกี่ยวกับการดูแลดาราศิลปิน หรือโมเดลลิ่งก็ได้ เพราะรู้สึกว่าถนัดด้านนี้ ตั้งแต่เราเข้าวงการมาตั้งแต่เด็ก ค่อนข้างทำทุกอย่างเอง เลยรู้สึกว่าเราถนัดด้านนี้ หลายคนอาจจะหันไปทำเบื้องหลัง  ทีวี เราไม่ถนัด แต่สิ่งนี้คือสิ่งที่เราถนัด เพราะตั้งแต่เด็ก   รับงานเอง สกรีนเอง ลองผิดลองถูก คิดว่าน่าจะรู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดีประสบการณ์ทั้งหมดที่มีของพอลล่าเลย มีหุ้นกับ   คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการ เป็นพี่ที่เราทำงานกับเขาตั้งแต่ตอน  อายุ 13”

**ธุรกิจนี้ถือเป็นชิ้นแรกของพอลล่า?
           
“ใช่ ถือเป็นธุรกิจเต็มตัวจริง ๆ ตื่นเต้นมากจริง ๆ น้องที่เข้าวงการถ้าเขาไม่มีใครให้คำปรึกษามันง่ายมากที่จะไปผิดทาง แล้วเราก็อยากเปิดบริษัทที่ถ้าตอนเด็ก ๆ เราอยากอยู่บริษัทแบบนี้นะ และน้องที่เข้าวงการมาใหม่แล้วอยู่นาน ๆ มันค่อนข้างยาก บริษัทเพิ่งเปิดเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้เอง แต่ตอนนี้ยังมีส่วนที่ต้องแก้ไขเยอะอยู่ แต่ตอนนี้เราก็ยังมีน้อง ๆ ที่ดูแลอยู่บ้าง เวลาไปไหนมาไหนพอลล่าจะนำเสนอตลอดว่าจะถ่ายพอลล่าแต่เรามีน้องคนนี้ด้วยนะคะ”

**ความที่เป็นพอลล่าทำให้งานชิ้นนี้ง่ายขึ้นหรือเปล่า?
   
“เพิ่งเริ่มนะ แต่เราคิดว่าเรามีคนรู้จักเยอะและดี มีความน่าเชื่อถือ พอลล่าก็คงมีตรงนั้น เราก็อยากทำเป็นบริษัทที่คนเชื่อถือจริง ๆ ว่าใครที่จะจ้างคนในบริษัทของพอลล่า เขาต้องเซฟให้เด็กมีภาพลักษณ์ที่ดี แล้วคนที่มาอยู่กับเราก็อยากให้เชื่อใจว่าเราดูแลดีค่ะ”
   
แหม...น่ารักมีเสน่ห์แบบนี้ ใคร ๆ ก็คงอยากให้พอลล่าดูแลใช่ไหมล่ะ.



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์