ลาบ้านAFมาร์คร่ำไห้ เผยเจวายพีทาบ


มารค์ วี 11 ขึ้นเวทีร้องเพลงครั้งสุดท้าย ร่ำไห้ลาบ้านเอเอฟ บอยโปรดิวเซอร์ แจงหาคนแทน ปัดสร้างกระแส พ่อ เผย ค่ายเจวายพี ติดต่อเป็นศิลปินให้เจ้าตัวตัดสินใจเอง...

จากกรณี นายวิทวัส ท้าวคำลือ หรือ มาร์ค วี 11 ผู้สมัครเข้า แข่งขันแห่ง “อคาเดมี  แฟนเทเชีย” ผู้เข้าแข่งขัน ทรู อคาเดมี แฟนเทเชีย  ซี ซั่น 7 และ ครอบครัว ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองใน เฟซ บุ๊ก ถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง โดยมาร์ค วี 11 ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบพร้อมแถลงข่าวเพื่อขอขมาและลาออกจากบ้านเอเอฟ แล้วตามข่าว ไปแล้วนั้น


ล่าสุด ช่วงเช้าของวันที่ 17 ก.ค.2553 ซึ่งเป็นวันที่ มาร์ค วี 11 จะต้องขึ้นเล่นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายกับเพื่อนๆ ที่ธันเดอร์โดม  เมืองทองธานี ก่อนที่จะถอนตัวออกจากการแข่งขัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากผู้ใกล้ชิดว่า มาร์ค วี 11 ตื่นนอนตั้งแต่เช้า และเข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ด้วยการซ้อมเต้น ซ้อมร้องเพลง ซ้อมบล็อกกิ้ง กับเพื่อน ๆ ด้วยทีท่าที่เป็นไปอย่างปกติ ไม่แสดงอาการซึมเศร้าแต่อย่างใด ขณะที่เพื่อนๆ ที่เข้าร่วมแข่งขันต่าง ไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวมาร์ค เลยสักคนเดียว เนื่องจากเป็นกฎกติกาของบ้าน อคาเดมี แฟนเทเชีย ที่ห้ามไม่ให้ผู้ที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมดรับรู้ข่าวสารภายนอกได้เลย


ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า ในส่วนบรรยากาศบริเวณด้านนอกของอาคารธันเดอร์โดม ยังคงเป็นไปอย่างปกติ ไม่มีแฟนคลับ มาร์ค วี 11 มาให้กำลังใจเนื่องจากเป็นการฝึกซ้อม ของกลุ่มผู้เข้าแข่งขัน อคาเดมี  แฟนเทเชีย ไม่มีการเปิดเผยให้คนภายนอกได้รับรู้มากนัก  อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงเย็นจะมีแฟนคลับของ มาร์ค วี 11 มาให้กำลังใจอย่างล้นหลาม


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พยายาม ติดต่อ นายวทัญญู และนางเร็จวรรณา บิดาและมารดา ของ มาร์ค วี 11 ทาง โทรศัพท์ โดยนางเร็จวรรณา เป็นผู้รับสาย แต่ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น และอ้างว่ากำลังเดินทางมาจากเชียงใหม่เพื่อไปที่อาคารธันเดอร์โดม เมืองทองธานี จึงไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์


ต่อมาเวลา 19.00 น. บรรยากาศบริเวณด้านนอกของอาคารธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ยังคงดำเนินการจัดการแข่งขัน ทรู อคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น 7 เป็นไปอย่างปกติ โดยมีแฟนคลับของบ้านเอเอฟเดินทางมาเชียร์ และให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางทรู และสปอนเซอร์ มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้แฟนคลับได้ร่วมเล่นเกมก่อนเข้างาน ทั้งมีแฟนคลับของมาร์ค วี 11 เดินทางมาให้กำลังใจกันอย่างคึกคัก มีการแต่งกายใส่เสื้อวี 11 และถือป้ายวี 11 ร้องเชียร์มาร์ค วี 11 สู้ๆกันอย่างต่อเนื่อง


นอกจากนี้แฟนคลับของบ้านเอเอฟ ยังมีการทำซุ้มขายสินค้าของที่ระลึก และจัดกิจกรรมต่างๆ ทุกครั้งที่มีการแข่งขัด ทรู อคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น 7 เพื่อให้แฟนคลับได้เข้ามาพบปะพูดคุยกัน พร้อมทั้งร่วมกิจกรรมกันอย่างสนุกสนาน ส่วนซุ้มแฟนคลับของมาร์ค วี11 คึกคักเป็นพิเศษ ทุกคนร่วมใจกันใส่เสื้อสีชมพู มีข้อความด้านหน้า เป็นรูปหัวใจ ว่า MARK 11 โดยตามกำหนดการมาร์ค วี11 จะขึ้นร้องเพลงเป็นคนที่ 11 เพลงขออุ้มหน่อย ของเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย


ทั้งนี้ ครอบครัวท้าวคำลือ นายวทัญญู และนางเร็จวรรณา พ่อแม่ และน้องนุ๊ก น้องชายของมาร์ค วี 11 ได้เดินทางมาให้กำลังใจกับลูกชายอย่างใกล้ชิด โดยทั้งพ่อแม่ ยังคงเดินทักทายกับแฟนคลับของมาร์ควี 11 พร้อมรวมถ่ายรูปกับทุกคนที่ของถ่ายรูปด้วย โดยมีสีหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด


นายวทัญญู และ นางเร็จวรรณา เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณแฟนคลับของน้องมาร์ค ที่ยังคงเดินทางมาร่วมให้กำลังใจ ในวันนี้น้องมาร์ค จะขอร้องเพลงขออุ้มหน่อย ของพี่เบิร์ด ธงไชย ซึ่งเป็นเพลงที่น้องมาร์ค เป็นคนเลือกที่มอบให้กับทุกคน เพื่อพิสูจน์อะไรหลายอย่าง โดยอยากจะให้คนทุกคนรักกัน ดั่งกับสยามเมืองยิ้มและไม่อยากให้คนไทยต้องมีความขัดแย้งกัน อยากให้กรณีของน้องมาร์ค เป็นกรณีตัวอย่าง เหมือนไม้ขีดก้านเล็กๆ ก้านเดียว และเป็นคนตัวเล็กที่ไม่มีอะไร แต่กลับถูกโจมตีอย่างรุนแรง


ส่วนการที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องการให้น้องมาร์คไปขอโทษนั้น คงต้องขอขอบพระคุณท่าน คงเป็นเพราะท่านมีภารกิจที่ใหญ่ และ งานยุ่ง อาจจะไม่มีเวลาที่จะให้น้องมาร์ค คนตัวเล็กเข้าไปขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ต่อไปคงจะพาน้องมาร์ค กลับไปอยู่บ้านกับครอบครัวระยะหนึ่งก่อนค่อยหาทางอื่น เพื่อให้เรื่องราวอะไรหลายๆ อย่างผ่านพ้นไป หลังจากนั้นค่อยว่ากันใหม่ แต่เห็นว่าน้องมาร์ค อยากเรียนต่อ แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเรียนต่อที่ใด หากไปเรียนต่อต่างประเทศก็ดี หรือ อยากจะเรียนที่ประเทศไทยก็ได้ ตนต้องส่งเสียให้ลูกทุกอย่างเท่าที่ผู้ที่เป็นพ่อแม่ทำได้ เพราะลูกยังไงก็คือลูก แม้จะเกิดอะไรขึ้น พ่อแม่ก็ยังคงรักลูกเหมือนเดิม


ส่วนน้องนุ๊ก น้องชายของมาร์ควี 11 กล่าวว่า รู้มึนงง กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และ รู้สึกสงสารพี่มาร์ค แต่ตอนนี้เป็นห่วงพี่มาร์คมากกว่า เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดกับพี่อีก อยากจะให้พี่มาร์ค ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศระยะหนึ่งก่อน เพื่อให้เรื่องราวทั้งหมดผ่านพ้นไปก่อน แต่คงต้องคิดถึงพี่มาร์คมาก

 


 



ต่อมา 22.00 น. มาร์ค วี 11 ผู้เข้าแข่งขันในเวทีเอเอฟ ได้ขึ้นโชว์เป็นครั้งสุดท้าย หลังตัดสินใจลาออก โดยได้ร้องเพลงขออุ้มหน่อย และเก็บตะวัน ท่ามกลางเสียงเชียร์ลั่นธันเดอร์โดม ในขณะที่พ่อวิทวัส ท้าวคำลือ ปล่อยโฮร้องไห้ให้ลูกก่อนที่เสียงเพลงจะจบลง

โดยหลังจากเสร็จคอนเสิร์ต มาร์คได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน กรณีที่ได้ตัดสินใจลาออกจากบ้านเอเอฟอีกครั้ง ว่า ต้องการขอบคุณแฟนๆ ที่เชียร์มาตลอด วันนี้รู้สึกเครียดและต้องการลาออกไปเพื่อศึกษาต่อ

ขณะที่พ่อของมาร์ค บอกว่า ต้องการให้สื่อออนไลน์ เสนอความจริง และวอนให้กระทรวงไอซีที และกระทรวงศึกษาธิการ เข้ามามีส่วนในการพิจารณากรณีของมาร์คเพื่อจะได้ไม่เกิดความเสียหายต่อ เยาวชนคนอื่นต่อไป

ทั้งนี้มาร์ค บอกอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นบทเรียนให้แก่เยาวชนคนอื่นและไม่อยากให้เกิดซ้ำอีก

พ่อของน้องมาร์ควี 11 กล่าวอีกว่า ทางค่ายเพลงเกาหลี เจวายพี ต้นสังกัดเดียวกับ นิชคุณ ได้ติดต่อมาให้มาร์คไปเป็นศิลปินในค่าย แต่การตัดสินใจขึ้นกับตัวน้องมาร์คเอง

ทางบอย อรรถพล ณ บางช้าง โปรดิวเซอร์เอเอฟ เปิดเผยหลังจากจบคอนเสิร์ค ว่า ถือว่าโชคดีที่รายการผ่านมาได้ ในจุดนี้ เหตุที่เกิดขึ้นคิดว่าเป็นเหตุบังเอิญไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการแทรกแซงการรัฐบาล ในการลาออกของมาร์คหรือไม่เขาบอกว่าไม่มี และ เขาเองก็ไม่ได้กดดนมาร์คให้ออกจากบ้าน การตัดสินใจเป็นของเขาเอง ผู้สื่อข่าวถามว่า หากแฟนคลับจะโหวตให้มาร์คกลับมาอีกได้หรือไม่ เขาบอกว่าทำไม่ได้ เพราะกติกานี้เคยใช้แล้วและจะไม่ใช้อีก


ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุดังกล่าวทำให้เรตติ้งรายการสูงขึ้นไหม บอย กล่าวว่า รายการเอเอฟ อยู่มาถึง 7 ซีซั่นคงไม่ต้องการสร้างเรตติ้งด้วยวิธีการแบบนี้ รายการเอเอฟมีศักยภาพพอที่จะทำเรตติ้ง จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อไปอีกว่า ถือว่ารายการประสบความสำเร็จหรือไม่ ที่สามารถทำให้เป็นข่าวได้ ขอบอกว่าเรื่องนี้ มันเกิดขึ้นในสื่อออนไลน์ ตนเองไม่ได้มองว่าสำเร็จหรือไม่ คิดว่าตอนนี้เสมอภาค ดีใจด้วยซ้ำที่พ่อแม่ของมาร์คยังไม่รู้สึกแย่กับรายการเอเอฟ


"ผมเสียดายน้องมาร์คเขานะ เขามีความสามารถ แต่เมื่อตัดสินใจแบบนี้ก็ต้องปล่อยเขาไป เราจะหาคนใหม่มาแทน เข้าใจว่าถ้าเกิดน้องยังอยู่ในบ้าน ความขัดแย้งจะไม่จบ เขาอยากทำสิ่งนั้นเอง ส่วนตัวผมสงสารมากๆ ถ้าเป็นลูกเราต้องสงสารมาก" บอย อรรถพล กล่าว



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์