เพชร ไม่แคร์ แอร์-ภุมวารี แฉเป็นมือที่3

ถามถึงเรื่องข่าวบ้างว่าที่แอร์เคยออกมา พูดว่า โทนี่คบเพชรซ้อนกับเขา

” ก็รู้สึกไม่จริง เพราะว่าอย่างตอนที่เขาเป็นแฟนกัน เราก็รู้ว่าเขาเป็นแฟนกัน เราก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย ไม่ได้ไปยุ่งอะไร พอวันหนึ่งที่เขาเลิกกัน เราก็ไม่รู้ว่าเขาเลิกกันเมื่อไหร่ เราเห็นเขาเราก็ยังคิดว่าเขาเป็นเพื่อนคนหนึ่ง เพราะว่าเรารู้จักกันมาก่อนตั้งนานแล้วเป็นปี เพราะว่าเคยทำงานร่วมกัน 2-3 งาน ก็รู้ว่าเขาเออ มีแฟนแล้ว แต่เราก็ไม่รู้ไม่ได้ มานั่งถามว่าเป็นไงมั่ง อะไรอย่างนี้ เพราะว่านั่น คือเรื่องส่วนตัวของเขา เราก็ไม่ได้ไปสนใจอ่ะ เขาจะเลิกกัน คบกันมันก็ ไม่เกี่ยวกับเรา แต่พอวันหนึ่ง เราคุยไปคุยมา เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเลิกแล้ว เราก็ตกใจ ก็ไม่ได้สนใจอะไร

พอ เห็นว่าเราไปไหนมาไหน ด้วยกัน มันก็มีข่าวออกมาว่า เราเป็นมือที่ 3 ทำให้เขาเลิกกัน

เพราะว่าเขาก็เพิ่งออกมาพูดเหมือนกันว่า เลิกกัน แล้วก็กลายเป็นทุกคนเพ่งมองว่าคนใหม่ ยังไงก็ต้องถูกมองว่าเป็นมือที่ 3 ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้น เพชรไม่คิดมากเลย รู้อยู่แล้วว่ายังไงโดนชัวร์ๆ เลย รู้อยู่แล้วอ่ะ มันเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก แล้วเราจะออกมาพูด ทำไม พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ อยู่เฉยๆ ดีกว่า เราก็ไม่รู้สึก เพราะเรารู้ตัวดีว่าเราทำอะไรอยู่ เพราะฉะนั้น เราไม่ต้องแคร์เลยอ่ะ ว่าใครจะออกมาพูดว่าอะไร เขาก็จะออกมาพูดว่า เออเนี่ยรู้ตั้งนานแล้ว

เพราะว่าเพชรก็เคยโดนสัมภาษณ์เมื่อไม่นานมานี้ ที่บอกว่าเขาออกมาพูดอีกรอบว่าแบบ เขารู้อยู่แล้วว่าเพชรคบกับโทนี่มาก่อนที่เขาจะเลิกกัน

เพชรก็บอก เออช่างเหอะ คือคนเราทำอะไรมันก็ต้องแบบรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ยอมรับความจริง ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตายเพราะฉะนั้น เพชรก็ไม่ซีเรียสจะพูดอะไรก็พูดไป หรือใครจะพูดอะไร หรือใครจะมองยังไงก็ช่าง เพราะเพชรไม่แคร์อยู่แล้ว เพราะเรารู้สึกกันแค่ 2 คน แต่เรื่องของเขาก็คือ อดีตของเขาไปคือเราก็ไม่เกี่ยว เพราะเราเริ่มต้นกันใหม่ เพชรก็ไม่ซีเรียสอยู่แล้วเรื่องความรัก เพชรก็เลยรู้สึกแบบจะไปแคร์ทำไม เพชรก็เลยไม่แคร์เลยนะ เพราะแบบ เคยมีข่าวว่าไปแย่งใครมาเราทำไมต้องไปแย่งอ่ะ เรามีค่าพอทำไมต้องไปแย่งใคร”

โทนี่ เคยออกมาพูดว่าผู้ชายมีสิทธิ์เลือกหวั่นไหม ว่าเขาจะคบซ้อนอีกหรือเปล่า

” ไม่ค่ะ ไม่ ไม่กลัวเลย เพราะว่าเรารู้ว่าเขา สกรีน เขาจากการที่เราศึกษาดูแลกัน เราก็ดูและเห็นซึ่งกันและกัน ว่าเขาเป็นแบบไหน เราก็รู้แล้ว เรามั่นใจนะ”

จะมีเคลียร์กับพี่แอร์ไหม

” ก็ไม่อยากเคลียร์นะ เพราะว่าพูดไปก็ไม่มีประโยชนื เพราะว่าเรื่องมันผ่านมาแล้ว คนมันจะคิดก็จะคิดอยู่วนเวียน อยู่อย่างงั้นแหละคือไม่รู้นะ มันเป็นเรื่องปกติพื้นฐานมันแก้ความคิดของคนมันยาก เพราะฉะนั้นยิ่งเป็นเรื่องรักๆด้วยอ่ะ มันเฮิ้ร์ตอ่ะ เราก็เห็นใจทุกคน คนเรามันคิดได้ต่างๆนานาเป็นพันเรื่องอ่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ไม่รู้อ่ะ คนจะคบกับเขามันยังไง เราไม่รู้ เราแบบไม่ได้ไปเกี่ยวด้วยอ่ะ”

กลัวว่าจะมองหน้ากันไม่ติดไหม

” ก็ดูความเป็นไปได้แล้วคงไม่ได้มาทำงานร่วมงานกันแน่ๆ คงไม่ได้มาเจอกัน แต่ถ้าเจอกันก็ปกติ ทักก็ทัก ถ้าไม่ทักก็ไม่ทักก็ไม่เป็นไร เพราะว่าเขาก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตเราอยู่แล้ว ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับชีวิตเรา ” เรามั่นใจว่าเขาไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ๆ แต่ถ้าวันหนึ่งสมมุติหรือว่าอะไรก็แล้วแต่ พลิกล็อกว่าเขามี ก็ต้องคุยกันว่าแบบจะเอายังไงจะไปทางโน้นไหมหรือจะมาทางนี้ คือเราก็ให้เกียรติการตัดสินใจ”