ละครพีเรียดในความทรงจำ : สายโลหิต


จากความผูกพันฉันญาติกลายมาเป็นความรักท่ามกลางฉากหลังของการเสียกรุงครั้งที่ 2

ขุนไกรและดาวเรือง เป็นญาติกันเพราะพี่ชายและพี่สาวของทั้ง 2 คนแต่งงานกัน ทำให้ทั้งสองสนิทสนมกันเสมือนพี่ชายน้องสาวในครั้งแรก และค่อย ๆ พัฒนามาเป็นความรัก  เหตุการณ์ช่วงนี้กินเวลา 10 ปี ก่อนการเสียกรุง

เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก พี่น้องพลัดพราก ในขณะที่หลวงเทพและลำดวน โดนกวาดต้อนไปพม่าพร้อมกับเจ้านายคือ ขุนหลวงหาวัด (เจ้าฟ้าอุทุมพร) ส่วนขุนไกรพาดาวเรืองมาร่วมกับพระเจ้าตากที่กรุงธนบุรี โดยมีสัญญากันว่าสักวันเมื่อระยะทางจากพม่ากับไทยใกล้กันมากกว่านี้ ญาติพี่น้องก็จะได้พบกันอีกครั้ง


นวนิยายเรื่องเยี่ยมของ โสภาค สุวรรณ เรื่องนี้ได้ถูกนำมาสร้างเป็นละครมาแล้ว 3 ครั้ง

ช่อง 3 ปี 2529 นำแสดงโดย ฉัตรชัย นพพล อาภาพร
รอบนี้ไม่ได้ดู เนื่องจากตอนปี 2529 ยังอยู่บ้านนอก สัญญาณช่อง 3 ยังไปไม่ถึง แต่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ทำดีมาก ๆ ทำให้อยากดู
รางวัลทางโทรทัศน์ที่เวอร์ชั่นนี้ได้รับมีดังนี้
รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 1
ละครอิงประวัติศาสตร์ชุดดีเด่น
ผู้กำกับการแสดงดีเด่น ได้แก่ สุพรรณ บูรณะพิมพ์
ผู้สร้างฉากดีเด่น ได้แก่ เพิ่มศักดิ์ อาบทิพย์, อภิชาติ นาคน้อย, สายัณห์ ตั้งวิชิตฤกษ์
ดาราสนับสนุนดีเด่น (หญิง) ได้แก่ จุรี โอศิริ
ดาราแสดงนำดีเด่น (ชาย) ได้แก่ ฉัตรชัย เปล่งพานิช

รางวัลเมขลา ครั้งที่ 6
ผู้กำกับการแสดงละครดีเด่น ได้แก่ สุพรรณ บูรณะพิมพ์
ผู้ประพันธ์เพลงละครดีเด่น ได้แก่ มีศักดิ์ นาครัตน์
ผู้แสดงประกอบชายดีเด่น ได้แก่ นพพล โกมารชุน



ช่อง 7 ปี 2538(?)  นำแสดงโดย ศรราม ศตวรรษ สุวนันท์
ครั้งนี้สร้างตอนเราเรียนอยู่ที่ มข. จำได้ว่าดูที่หอเพื่อน มีตอนที่ศรรามเขิน สาว ๆ ในห้อง กรี๊ด ละลายลงตรงหน้าทีวี (เวอร์มั่ก ๆ ) เวอร์ชั่นนี้ก็ได้หลายรางวัลเช่นกัน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมี ละครดีเด่นของเมขลาด้วย แต่ช่อง 7 ไม่ค่อยเก็บประวัติละครตัวเอง ไม่เหมือนช่อง 3 เลยหามายืนยันแน่ไม่ได้]

เวอร์ชั่นนี้ ตอนแรกจะได้พีทมาประกบกับศรราม โดยพีทจะเล่นเป็นตัวร้ายเป็นครั้งแรก ในบทขุนทิพ (บทที่ทำให้นพพลได้รางวัลของเวอร์ชั่นแรก) ถึงกระทั่งมาถ่ายภาพนิ่ง ทำพิธีบวงสรวงเรียบร้อยแล้ว แต่สุดท้ายพีทก็ขอถอนตัว ช่อง 7 เลยนำพระเอกอีกคนของช่องในตอนนั้นคือ ศตวรรษ ดุลยวิจิตร มารับบทร้ายเป็นครั้งแรก ซึ่งคุณเจคทำได้ดีมาก จนกระทั่งแทบไม่ได้รับบทคนดีอีกเลย (ฮา)

เรื่องนี้เป็นการแจ้งเกิดนางเอกตอนเด็กคือ น้อง บี มาติกา ที่เล่นได้น่ารักสุด ๆ จนมีหลายคนไม่อยากให้ดาวเรืองโตเลย แต่สุวนันท์ก็เล่นได้น่ารักเช่นกัน
เรื่องนี้เป็นละครที่เรตติ้งดีของช่อง 7 เรียกว่าได้ทั้งเงิน (เรตติ้ง) ได้ทั้งกล่อง (รางวัล)

ช่อง 3 ปี 2547 นำแสดงโดย พุฒิชัย (อัครา) พิมลรัตน์



จากละคร สายโลหิต ครั้งที่ 2 ทางช่อง 7 เรตติ้งอันดับ 1
ทำให้เกิดพระราชเสาวนีย์ให้แปลนวนิยายเรื่องนี้เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อนำเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก

คว้า 6 รางวัลเมขลา  (แต่คุ้นๆ ว่าน่าจะ 8 รางวัล..นึกออกแค่ 6)
1. ละครดีเด่นประจำปี 2538
2. ผู้กำกับการแสดงดีเด่น - สยาม สังวริบุตร
3. ผู้กำกับรายการดีเด่น - สยาม สังวริบุตร
4. ฉากละครดีเด่น
5. เพลงนำละครดีเด่น - สุทธิพงษ์ วัฒนจัง
6. ผู้เขียนบทละครดีเด่น - ศัลยา

คว้า 3 รางวัลโทรทัศน์ทองคำ
1. ผู้กำกับละครดีเด่น - สยาม สังวริบุตร
2. เพลงนำละครดีเด่น - สุทธิพงษ์ วัฒนจัง
3. ดนตรีประกอบละครดีเด่น

ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สอง ที่ผลการตัดสินรางวัลเพลงนำละครดีเด่นจากเมขลาและโทรทัศน์ทองคำ ออกมาตรงกัน
หลังจากที่ทั้งสองรางวัลเคยเทคะแนนให้ "สุดแต่ใจจะไขว่คว้า" ได้รับรางวัลเพลงนำละครดีเด่นในปี 2532 อย่างเป็นเอกฉันท์มาแล้ว
ในปีอื่นๆ ก่อนหน้า และปีต่อๆ มาจนปัจจุบัน ทั้งสองรางวัลก็ยังไม่เคยตัดสินให้รางวัลเพลงนำละครดีเด่นตรงกันอีกเลย

หลังจากละคร สายโลหิต ครั้งที่สอง ออกอากาศไป  เจ้าของบทประพันธ์-คุณโสภาค สุวรรณ ก็ได้รับชมเทปละคร
อยู่ที่ต่างประเทศ  คุณโสภาคได้ส่งจดหมายชื่นชมทีมงานดาราวิดีโอที่ผลิตงานออกมาอย่างประทับใจ






ขอบคุณข้อมูลจาก
คุณผู้สาวเมืองยศ

และ คุณ
อนาฆิส

เวปพันทิป ห้องเฉลิมไทย


เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม บันเทิงดารา


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์