ซันแฉแหลก!เอเป็นคนสั่งให้ศัลยกรรม


ตกเป็นข่าวเม้าท์ว่าบินตรงเกาหลีเพื่อทำศัลยกรรมกรีดตาและโมหน้าใหม่จนบวมฉึ่งทำเอาละคร 'เรือนซ่อนรัก'ที่ถ่ายทำอยู่ถึงกลับต้องสั่งตัดจบก่อนกำหนด

แถมด้วยโดนนักปั้น และผู้จัดการดาราคนดังอย่าง เอ ศุภชัย แฉแหลก ว่าเบี้ยวค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรม จนต้องเดือดร้อนถึง คุณแดง สุรางค์เจ้าแม่ 7 สีต้องควักเงินจ่ายแทนให้ โดนหลายเรื่องถาโถมเข้าใส่แบบสุดๆขนาดนี้ หนุ่ม ซัน-พิชยดนย์''  เลยขอโต้กลับบ้าง โดย แฉว่าที่ตนตัดสินใจไปทำศัลยกรรมตานั้นเพราะถู กผู้จัดการคนดังหว่านล้อมต่างๆนานาจนตนหลังเชื่อต่างหาก และตอนแรกตนกะจะทำแค่ตาแต่สุดท้ายกลับลามไปถึงจมูกด้วย  แถมเอ ศุภชัย เป็นคนบอกเองว่าจะออกเงินค่าทำหน้าให้ก่อน และจะหางานให้ทำส่วนเงินที่ออกให้ก่อนจะหักจากค่าตัวที่ ''เอ-ศุภชัย'' หาให้นั่นเอง

เรื่องศัลยกรรมตกลงทำจริง?

''ทำจริงครับ แต่ว่าข่าวที่ออกมาก็มีทั้งจริงและไม่จริงนะครับ ผมต้องบอกก่อนว่าตอนแรกที่ตกลงไปทำกับพี่เอ ทีแรกคุยกันแค่ทำตา และซันไม่ได้เป็นคนไปขอเข้าไปทำ เขาเป็นคนชวนเองเพราะว่าไปรู้จักกับพี่เขาเมื่อตอนไปบวงสรวงละครเรื่องเรือนซ่อนรักนี่แหละครับ เจอเขาครั้งแรก ตอนนั้นซันอยู่กับพี่ตุ๊ก (ผู้จัดการส่วนตัว) เขารู้ว่าซันเป็นเด็กพี่ตุ๊ก คุยกันปกติ ตอนนั้นคิดว่าเป็นพี่ในวงการรู้จักกันไว้ก็คงไม่เสียหาย และหลังจากนั้นพี่เอโทร.มาบอกว่ามีไปคุยงาน มีเอเยนซี่เขาสนใจน้องซันให้ไปคุยหน่อย ผมก็เออ ทำงานก็คุยปกติ ผมก็บอกว่าถ้าพี่เอหางานมาให้ก็ส่งผ่านมาทางสปีดวันแล้วกัน เพราะผมอยู่สปีดวัน เขาก็บอกว่าโอเค เขารู้จักกันกับพี่ตุ๊ก สบายมาก ไม่ต้องเป็นห่วง''

 ''จนมาคุยเรื่องการศัลยกรรม เขาก็แนะนำว่า ซันน่ะตาเล็กไปนะ ปลายตาตกไป ผมก็เฮ้ย จริงเหรอพี่ ก็เริ่มคิดนิดนึงแล้ว และเขาก็ยกตัวอย่างเด็กของเขาครับ ว่าคนนั้นดูสิ พี่พาคนนี้ไปทำมา ตอนนี้ดีแล้ว เป็นไง 3-4 วันก็หาย ผมบอกจะจริงหรือพี่ ก็คิดว่าเทคโนโลยีอะไรมันน่าจะโอเคมั้ง เพราะเป็นทางเกาหลี ก็กลับไปคิด ยังไม่ได้อะไร แค่คิดไว้เฉยๆ และพี่เขาก็มาคุยเรื่อยๆ บอกว่าเดี๋ยวพี่จะพาเด็กของเขาไปทำอีกลอตหนึ่งนะ ไปทำกับเขาไหม และผมถามค่าใช้จ่ายล่ะพี่ และตอนนี้ผมถ่ายละครอยู่ด้วย และมันกลับมาจะผิดปกติหรือเปล่า เขาบอกไม่ พี่พาไปทำมา 3-4 วันก็หายจริงๆ ตอนที่คุยก็คุยเรื่องทำตาอย่างเดียว และค่าใช้จ่ายยังไงผมต้องเตรียมค่าใช้จ่ายยังไงบ้าง เขาบอกไม่ต้อง เวลาพี่พาไปเนี่ย ก็ไปทำก่อน และพี่หางานมาพี่ก็หักจากงาน พี่ไม่ได้ให้ทำฟรีอยู่แล้ว เออ ถ้าอย่างนั้นก็โอเคนะ ถ้าเราทำแล้วตัวเราดีขึ้นด้วย แล้วก็ได้ทำงานเยอะขึ้น หักจากงานที่เราทำไป เพราะผมมาทำตรงนี้ก็อยากจะช่วยเหลือครอบครัว''

 ''ตอนแรกที่ตกลงกับพี่เอไว้คือทำตาอย่างเดียว เพราะถ้าไปทำเยอะผมคิดว่าคงไม่ทำอยู่แล้ว เพราะละครก็ถ่ายอยู่ด้วย มันทำไม่ได้อยู่แล้ว ทำมามันต้องมีปัญหาแน่นอนแต่พอไปถึงที่โน่นพี่เอเขาก็พาไปคุยกับคุณหมอ ก็บอกว่า นอกจากตาแล้วเนี่ยก็มีการแก้จมูกด้วย และก็จับผมฉีดเหมือนคล้ายๆ โบท็อกซ์ เหมือนสเตมเซลล์ แต่ใช้เลือดของเราฉีดเข้าไป ตอนนั้นผมคิดว่ามีปัญหาแน่นอนกลับไปไม่เหมือนเดิมแน่ มันไม่ใช่แค่ตาแน่ เพราะปัญหามันเริ่มลุกลามไป พี่เอก็บอกไม่เป็นไรเดี๋ยวมันหายแล้วมันจะดี เพราะเตรียมเปิดละครเรื่องใหม่ด้วย ตอนนั้นเรือนซ่อนรักที่ยังไม่เปิด และเป็นช่วงสงกรานต์หยุดอาทิตย์ถึงสองอาทิตย์ ก่อนไปผมก็บอกพี่ตุ๊ก จะไปปรึกษา แต่พี่เอไม่ให้บอกว่าไปกับใคร บอกแค่ว่าไปทำได้ แต่ไม่ให้บอกว่าไปกับใคร เพราะเดี๋ยวมันจะมีปัญหา และที่มันบวมอาจจะเพราะไอ้ที่ฉีดนี่แหละ คงประมาณ 2 เดือนมันก็จะละลายไปแล้ว''
 




แต่มีข่าวว่าพี่เอจะฟ้องเพราะซันเบี้ยวค่าใช้จ่าย
 ''คือไอ้เรื่องฟ้องนี่ไม่น่าจริงนะครับ ตอนกลับมาผมก็ยังเข้าใจว่า พี่เอหางานมาและก็หักจากงานที่ผมทำให้กับพี่เอ ผมก็ยังเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น พี่เอก็เข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น''

ได้ยินว่าโดนผู้ใหญ่ทางช่องติงด้วย

 ''นี่เป็นเรื่องมีปัญหาขึ้นมาครับ ผมกลับมามันไม่เหมือนเดิม มีอาการบวม เพราะมันทำมาหลายอย่าง ไม่ใช่แค่ตาอย่างเดียวที่ตกลงไว้ตอนแรก ผมเลยเข้าไปหาผู้ใหญ่ก็โดนอบรมมาว่า ทำไมทำอย่างนี้ ไม่ปรึกษาก่อน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ตกลงกัน แต่ยังไงผมก็ต้องใช้คืนอยู่แล้ว  มันไม่ใช่เงินเรา เราก็ต้องใช้คืน คือช่วงแรกๆ ผมเองยังเครียดเลยครับพี่ จากรูปที่ออกมาในหนังสือพิมพ์ วันแรกที่ไปถ่ายละครเรือนซ่อนรัก ก็มีนักข่าวตามไปถ่ายผม ผมก็ให้ถ่าย
 
ก็บอกว่าไปทำมาจริงๆ ตอนนั้นบวมด้วย และผมไม่รู้ว่าเพราะอาหารการกินที่โน่นหรือเปล่า กิมจิมันอร่อยเหลือเกิน อาหารดอง (หัวเราะ) ของแสลง เลยทำให้บริเวณตามันบวม แต่ตอนนี้ก็โอเคนะครับ แล้วตอนนี้ไม่ได้คุยกับพี่เอเลย เพราะเขาก็ไม่ได้ติดต่อมา ผมก็ไม่กล้า ผมก็กลัวไม่รู้จะคุยไปแล้วเขาอะไรหรือเปล่า ถามว่ากลัวมีปัญหากับพี่เอไหมที่ออกมาพูดแบบนี้ ไม่กลัวเลยครับ เพราะผมพูดไปคือความจริง ที่ผมคิด ถ้ามันทำแล้วมันไม่ดีเหมือนอย่างที่ออกมา ผมก็คงไม่ทำแน่ครับ ผมก็ต้องขอโทษที่การตัดสินใจของผมส่งผลให้การถ่ายทำละครมีปัญหา ผมก็ขอโทษผ่านไปทางนี้ด้วย ถามว่าอยากแก้ไขอะไรไหม (หัวเราะ) ไม่เอาแล้วครับ พอแล้วครับ ตอนนี้โอเคดีแล้ว''  

มีข่าวเม้าท์ด้วยว่าเรากับพี่เอ กิ๊กกั๊กกัน
 ''มันจะไปมี ไปกิ๊กกันแบบไหน ท่าไหนครับ ไม่มีแน่นอนครับ แล้วตัวผมเองก็ไม่ได้เลิกยุ่งกับพี่เอ เพราะตอนนั้นที่โดนเรียกไปอบรม คือผู้ใหญ่บอกว่าให้อยู่เฉยๆ ตั้งใจทำงานให้ดี พลาดไปแล้วก็ถือเสียว่าเป็นบทเรียน อย่าทำอีกครับ''






เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม บันเทิงดารา


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์