พจน์ เชิดใส่ลดบท กาย แค่พระรอง

 "อยากจะบอกตรงนี้ว่า คนเราเวลาพูดอะไรต้องคิดก่อนพูด เพราะไม่งั้นคำพูดจะเป็นเจ้านายเรา จริงๆ เขาไม่ได้มาขอโทษเป็นการส่วนตัว แค่ผ่านสื่อมา เวลาเขาด่า ก็ด่าผ่านสื่อ เวลาขอโทษ เขาก็ขอโทษผ่านสื่อ ก็ไม่เป็นไร กับกายก็ยังเจอกันอยู่ ที่จริงวันนี้ (4 พ.ค.) เขาต้องถ่ายหนังกับผมเป็นคิวสุดท้าย แต่เขาไม่มา เขาบอกว่าไม่มีคิวให้ เพราะต้องเล่นละคร ทั้งๆ ที่เขาบอกทีมงานว่า ถ้าคิวละครชนหนัง เขาเลือกหนังก่อน เพราะหนังใกล้เสร็จแล้ว แต่พอคิวชนเข้าจริงๆ เขากลับเลือกถ่ายละคร ก็ไม่เป็นไร เพราะเราก็มีฮารุ (ฮารุ ยามากูชิ) กับพอร์ช (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) พอดี เลยจบเรื่องที่ฮารุกับพอร์ช ไม่จำเป็นต้องมีกายก็ได้ ไม่ได้ซีเรียสอะไร"

 อย่างไรก็ดี พจน์ ยังออกอาการฉุนที่ กาย ออกมาขอโทษผ่านสื่อ แทนที่จะขอโทษกับตนเอง ทั้งที่มีโอกาสเจอหน้ากันในกองถ่ายหนัง หลังเกิดเรื่อง

 "เขาขอโทษผ่านสื่อ อาจเป็นเพราะเขาเห็นหน้าผมดุมั้ง เขาก็เลยไม่กล้าขอโทษตรงๆ เพราะตอนอยู่ในกองถ่ายก็เจอกัน ทำไมเขาไม่เดินมาขอโทษล่ะ เราก็งง ตอนถ่ายทำผมก็ไม่มองหน้าเขาเลยนะ พอคัทก็ต่างคนต่างอยู่ ผมโกรธที่เขาพูดไม่คิด ไปพูดทำไม เพื่ออะไร วันที่เขาไม่มา เขาบอกติดละคร ไม่มีคิวให้เรา คิวเขาแน่นเอี้ยด เขาต้องถ่ายหนังของผมตอนกลางวัน แต่ผมรู้มาว่าเขาติดงานอีเวนท์ที่เอ็มโพเรี่ยม ตอนสามโมงเย็น ก็เลยรู้สึกว่า อ้าวเหรอ...

ไม่เป็นไร ไม่แคร์ ปิดกล้องไปแล้ว แต่หนังไม่เสียแน่นอน ตอนนี้ก็จัดให้ตามที่เขาอยากได้ อยากเป็นตัวรอง โปสเตอร์ก็จัดให้หมด คือหนังของผม ใครเป็นพระเอกก็ได้ เพราะหนังของเราสนุกโดยเนื้อหามากกว่า ไม่จำเป็นที่กายต้องเป็นพระเอก ใช่ว่ากายเป็นพระเอกแล้วหนังเราจะได้ 100 ล้าน เขาแค่กายนะ ไม่ใช่พี่หม่ำ จ๊กมก ถ้าเป็นพี่หม่ำสิ ผมถึงต้องง้อ" พจน์ กล่าวปิดท้าย