แคลช ขออีก 2- 3 ชุด พร้อมแขวนไมค์

มั่นใจ "โรแมนติก ร็อก"เป็นแนวทางที่เหมาะ.....

"แคลช" ส่งงานเพลงอัลบั้มใหม่กระทบหูแฟนเพลง มั่นใจ "โรแมนติก ร็อก"เป็นแนวทางที่เหมาะกับตัวตนของวงมากที่สุด ไม่มีแรงหรือหนักกว่านี้อีกแล้ว บอกมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนไม่มีทางแย่งแฟนเพลงกับศิลปินร็อคก้นใหญ่อย่างแน่นอน

ศิลปินกลุ่มร็อคมาดเซอร์ "แคลช" ส่งงานเพลงอัลบั้มล่าสุด Clashing ออกมาเอาใจแฟนเพลง เผยระยะเวลา 3 เดือนในการทำไม่น้อยไปเพราะมองตาก็รู้ใจกันแล้ว ภาคดนตรีในชุดนี้ไม่ได้หนักขึ้น เพราะมั่นใจว่ารู้ระดับของวงว่า มาถึงจุดที่แรงที่สุดแล้ว



พวกเราเริ่มมาจากมัธยมไงครับ .....

"ใช้เวลาทำสามเดือน นั่นคือเวลาที่ใช้กันในห้องอัด สามเดือนนี่มันดูเหมือนเร็ว ที่มันเร็วเพราะว่าคือพวกเราเริ่มมาจากมัธยมไงครับ มันไม่ใช่วงที่เพิ่งมารวมตัวกันเหมือนหลายๆ วงสมัยนี้ พอเรามาเล่นมันก็เป็นความรู้สึกที่ว่า เออ พอแฮ็คเล่น พลเล่น คือมันฟังแล้วก็ได้เลย แล้วจากประสบการณ์ที่ผ่านมา คือ5-6 ปีที่เราทำงานมันทำงานติดกันหมดเลย แล้วเราเกาะอยู่กับการทำงาน มันเป็นลักษณะของการมองตาแล้วรู้ใจมากกว่า"


ทำภาพให้ออกมาใสๆ คงไม่ได้อยู่แล้ว ....


"คือเราเป็นร็อคหน่ะครับ ผมว่ามันก็ต้องโชว์ในลักษณะอย่างที่เห็นในปก ในโปสเตอร์ คือถ้าวงแคลชทำเพลงเบาลง ทำภาพให้ออกมาใสๆ คงไม่ได้อยู่แล้ว ลองนึกภาพพวกผมใสๆ นี่มันไม่เข้า พวกเราโตขึ้นเรื่อยๆ ครับจะมาทำให้มันเป็นป็อปมากขึ้นมันก็คงไม่ใช่ ก็ทำออกมาให้มีความเป็นร็อกอยู่ แต่ทำให้รู้สึกว่า เด็กสมัยนี้เขาเสพเพลงแบบนี้ได้ในความหนักหรือว่าความไพเราะจะให้มันมีอยู่รวมๆ กัน"


>>>หมายความว่าจะต้องแรงขึ้น


"แต่โตขึ้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องแรงขึ้น คือถ้าพูดก็ต้องแยกด้วยครับ เรื่องโตก็โตในฐานะของการทำงานดนตรีที่เราทำกันอยู่ ส่วนเรื่องความแรงเรารู้เลเวลของเราแล้ว ว่ามันอยู่แค่นี้นะ ที่เหลือนี่คือเราจะหาอะไรใหม่ๆ มาใส่ มาทำให้คนฟังเขารู้สึกว่าซื้อไปแล้วไม่ใช่ว่าเพราะแค่เพลงสองเพลงหรือเจ๋งอยู่แค่เพลงเดียวแบบนั้น"





คืองานในลักษณะเอากล่องอย่างเดียวไม่เอาตังค์แบบนั้น


"นอกจากจะเป็นงานศิลปะถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ซัดเต็มๆ ไปเลย หนักๆ ตามใจเรา คืองานในลักษณะเอากล่องอย่างเดียวไม่เอาตังค์แบบนั้น อยากลองสักหนึ่งชุด แต่ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้นะครับ"

ย้ำชัดกลุ่มเป้าหมาย แฟนเพลงไม่มีทางซ้ำซ้อนกับศิลปินร็อกรุ่นพี่อย่าง "บิ๊กแอส" ที่ออกมาไล่เลี่ยกันในช่วงนี้แน่นอน ส่ววนความรู้สึกกดดันตอนทำอัลบั้มนั้นแทบไม่เกิด ถึงจะมีปัญหาเล็กในเรื่องการแต่งเพลงอยู่บ้าง แต่ทุกคนในวงก็เชื่อว่าถึงเวลามันจะผ่านพ้นไปได้
"เพลงของเรามันก็คือเพลงสไตล์แบบนี้ครับ อย่างบนแผงทั่วไป มันก็คงไม่มีวงไหนที่มาเล่นแทนวงนี้และอย่างวงผมก็คงจะไม่สามารถไปแทนวงประเภทนั้นๆ ที่อยู่บนแผงเทปด้วยกันได้อยู่แล้ว"


ซ้ำกันทางค่ายก็คงไม่ให้ออก....


"ถ้าทำออกมาซ้ำกันทางค่ายก็คงไม่ให้ออกเทปหรอกครับ คือมันมีจุดยืนของตัวศิลปินที่ชัดเจนอยู่แล้ว ผมว่าคนฟังบิ๊กแอสก็อีกอารมณ์หนึ่งนะครับ ซึ่งถ้าจะต้องมานั่งเครียดว่า เออเดี๋ยวบิ๊กแอสจะออกแล้ว ซิลลี่ฟูลส์จะออก บอดี้สแลมจะออก เราก็ไม่ต้องทำงานพอดี ก็ทำไปตามครรลองของมัน แล้วก็ออกไปเผชิญความจริงข้างนอกว่า มันจะเกิดอะไรขึ้น"






มันเขียนจนกระทั่งบางทีถึงจุดที่ว่าวันนี้มานั่งมองหน้ากัน

"มันไม่กดดันนะครับ แต่มันจะมีในลักษณะที่ตันมากกว่า เพราะที่ผ่านมา 4 ชุดแล้วมันเขียนเยอะไงครับ 40 เพลงแน่ๆ แล้ว แล้วไหนจะอัลบั้มพิเศษ เพลงพิเศษอีก มันเขียนจนกระทั่งบางทีถึงจุดที่ว่าวันนี้มานั่งมองหน้ากันแล้วจะเล่นอะไรดีวะก็มี มีวันที่ไม่ได้งานเลยก็มี แต่พอถึงเวลาที่คิดออกมันก็ไหลออกมา"

"เขียนอย่างไรมันก็เป็นวงแคลชครับ แบงค์ทำเมโลดี้ออกมาอย่างไรก็เป็นวงแคลช คือเราไม่ได้กดดันหรอกครับ เพราะเชื่อว่าเดี๋ยวมันก็มีทางออก เดี๋ยวมันก็หลุดออกมาเองแหล่ะ แต่ถ้าจะกังวล ก็คงจะเป็นในด้านที่ว่าเดี๋ยวมันจะช้าไปหรือเปล่า จะไม่ทันเวลา เพราะบางทีมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเราแค่ 5 คนไงครับ มันมีทีมงานอีก ก็ไม่อยากให้เขาต้องมาเลื่อนเพราะว่าพวกเราช้า"

"คือเราเคยคุยกันไว้ว่า เราจะไม่ยอมออกเทปจนกระทั่งคนเบื่อแล้ว แบบ ออกมาอีกแล้วเบื่อจังเลย แล้ววงนั้นก็ไม่เป็นตำนานนะ ตำนานในประเทศไทยมีอยู่สองอย่าง คือตายกับทะเลาะกันแล้วก็มาเล่นใหม่อีกห้าปี แต่ว่าเราก็พยายามที่จะให้มันอยู่อย่างสวยงาม คือเลิกก็บอกเลิกเล่นเป็นวงแรก เลิกครับ อะไรอย่างนั้น"


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์