ใคร ๆ ก็สร้างกระแสได้ แต่ จอย-รินลณี เลือกที่จะไม่ทำ

* ตอนนี้ไปไหนมาไหน มีคุณแม่คุมตลอดเหมือนเดิม            

“คุณแม่ไม่ได้คุมค่ะ ใครที่รู้จักกับจอย ได้ทำงานกับจอยจะรู้เลยว่า จอย ไม่ใช่ดูเป็นคุณหนู ไม่ได้เป็นคนติดแม่ เป็นคนง่าย ๆ แล้วก็สบายมาก แต่ที่คุณแม่ไปด้วยเพราะคุณแม่เป็นห่วง บางทีแม่ไม่ได้ไปพี่สาว  ก็ไป ที่บ้านเค้าไม่อยากให้จอยขับรถเอง อยากให้มีคนอยู่เป็นเพื่อน กลัวว่าถ้าขับรถกลับบ้านเอง จอย จะเหนื่อยแล้วจะง่วง
 
* แล้ว อย่างนี้ หนุ่มที่ไหนจะกล้าเข้ามาจีบล่ะ

“ไม่เกี่ยวหรอกค่ะ (หัวเราะ) คือถ้าใครเป็นแฟนกับจอย ก็ค่อนข้างจะต้องเข้า-ออกบ้านจอยได้อยู่แล้ว เพราะ จอยอยู่กับครอบครัวตลอดเวลา เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว คุณแม่ไม่ดุเลย พี่สาวก็ใจดีมาก ทุกคนสามารถที่จะเข้าหาได้ง่ายมาก”
     
* ที่พูดเนี่ย ตกลงมีหนุ่มเข้ามาหรือยัง
   
“ก็เรื่อย ๆ มากกว่าค่ะ  มีเข้ามาคุยแต่ไม่ได้จะมาเป็นแฟน มีความรู้สึกว่าดูไปเรื่อย ๆ แล้วจอยก็ไม่ได้อยากมีแฟน ณ ตอนนี้ เพราะทำงาน 7 วัน  จริง ๆ กลับบ้านก็อยากนอนแล้ว จะให้มีเวลาไปทานข้าว โทรศัพท์ ไปคุยกันนาน ๆ คงไม่ใช่ การมีแฟนมันต้องมีเวลาแชร์ให้ตรงนั้นด้วยจอยไม่ซีเรียสเลย ถ้าซีเรียสคงมีแฟนไปนานแล้ว”

* ถ้ามีคนอยากจะเข้ามาเป็นแฟน “จอย” จะดูอะไรเป็นอย่างแรก 
   
“คงดูที่นิสัย ดูไปเรื่อย ๆ จอยมีความรู้สึกว่าไม่ได้รีบร้อน หรือจะต้องมีแฟน รู้สึกมันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น แล้วอายุเราก็ประมาณนึงแล้ว ไม่ใช่เด็กมาก 30 แล้ว คือถ้าจะคบใครก็ต้องจริงจัง ซีเรียสมากกว่าเมื่อก่อน”
   
* มีแฟนละครฝากถามมาว่า “จอย” เล่นละครเชลยศักดิ์ ดูสวยเปล่งปลั่ง กว่าทุกเรื่องที่ผ่านมา แอบไปพึ่งศัลยกรรมอะไรมาหรือเปล่า 
   
“ไม่ได้ไปทำอะไรมาเลยเป็นคำถามที่เอาจริง ๆ มีคนถามเยอะมาก ไปทำตาทำจมูกอะไรมาหรือเปล่า ถ้าเกิดใครเจอก็จะรู้ว่า จอยเหมือนเดิม  จอยก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างมากจอยก็ไปหาหมอที่รักษาเรื่องผิวพรรณเป็นปกติ คือรักษาสิว ไม่ให้ผิวแห้ง ขนาดหมอเองไปรักษาอยู่ประจำ ยังถามจอยเลยว่าไปทำ อะไรมาหรือเปล่า เพราะมีคนไข้คนอื่นถามหมอว่า ทำไมจอยสวยขึ้น จอยว่าอาจเป็นด้วยช่างแต่งหน้า ด้วยแสงในฉากด้วยมั้งคะ หรืออาจจะถึงวัยด้วยมั้งคะ”
   
* รู้สึกยังไงที่มีคนพูดว่า “จอย” เป็นนักแสดงที่เรียบง่าย ไม่หวือหวาเหมือนดาราบางคนที่ชอบสร้างกระแส
   
“อย่างจอยไปงานอีเวนต์ เวลาที่พี่ ๆ นักข่าวสัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้จริงหรือเปล่าคะ จอยไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลยค่ะ จอยก็จะไม่มีประเด็นให้สัมภาษณ์ จอยมีความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีประเด็นอะไร มีความสุขที่เป็นแบบนี้ จอยไม่ชอบทำอะไรหวือหวา หลายคนชวนถ่ายชุดว่ายน้ำทุกปี บอกว่าถ่ายมั้ยจะได้มีกระแสไง จะได้มีข่าว จอยบอกไม่ค่ะ ถ้าเกิดเราจะถ่ายชุดว่ายน้ำเพื่อให้มีกระแส จอยไม่อยากมีกระแส” 

* “จอย” ก็เป็นคนสวยเซ็กซี่.. กลัวอะไรเหรอ ถึงไม่ยอมถ่ายชุดว่ายน้ำ
   
“คือจอยไม่ได้กลัวหรอกค่ะ จอยไม่ชอบ เป็นคนคิดมาก จอยจะเกรงใจพ่อแม่พี่น้อง จอยไม่อยากแบบว่าไปถ่ายเซ็กซี่แล้ว มีป้ามาถามแม่ว่า อู้ย.. ทำไมลูกสาวถ่ายแบบนี้ อีกอย่างจอยก็ไม่ได้มีความสุข ไม่ได้แฮปปี้ว่า เฮ้ย..แต่งเซ็กซี่แล้วมั่นใจหรืออยากถ่ายรูปเซ็กซี่แล้วเก็บไว้ จอยไม่ใช่แนวนั้น จอยไม่ได้มองว่ามันไม่ดี มันไม่ถูกต้อง โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้ชอบ เดินแบบมาตั้งหลายปี ก็ไม่เคยเดินชุด  โป๊ ๆ เลย โป๊มากสุดก็อาจประมาณนึง แต่ไม่เหมือนคนอื่น เพราะ จอยไม่ชอบ ไม่รู้จะทำไปทำไม
   
แล้วอย่างตอนเป็นข่าว อาจจะเป็นการต่อยอด เช่น พอมีกระแสนี้ออกมาปุ๊บ ทำไมอันนี้ไม่ให้มีการต่อยอด ให้คนพูดถึงล่ะ  คือหลายคนอาจจะทำแบบนี้ แต่จอยรู้สึกว่า จอยไม่ได้ต้องการ ที่จะต้องเป็นกระแสหรือเป็นข่าว จอย รู้สึกว่าจอยก็ทำงานคนหนึ่ง จอย มีความสุขเวลาที่ไปถ่ายละคร เวลาที่ไปอีเวนต์เป็นพิธีกร จอย ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นโปรดักท์ที่จะต้องให้มีข่าวอยู่ตลอดเวลา นิสัยส่วนตัวจอยไม่ได้เป็นคนแบบนั้น แล้วจอยก็ไม่ได้คิดว่า ถ้าจะต้องทำอย่างนั้น ถึงจะอยู่ได้ จอยก็ ไม่ทำ”
   
* รู้สึกยังไงที่ดาราสมัยนี้ สร้างกระแสข่าวเก่งมาก
   
“จอยว่าเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน เค้าไม่ได้ผิด เค้าฉลาดด้วยซ้ำ ที่เค้าสามารถทำให้ตัวเค้ามีโอกาสที่จะทำงานไปเรื่อย ๆ แต่ตัวจอยขอทำผลงานของตัวเอง ถ้าเกิดคนแฮปปี้ในแบบที่เราเป็นเรา เค้าก็คงจะจ้างเรา แต่ถ้าเกิดให้จอยไปสร้างกระแส คือถามว่าจอยทำได้มั้ย จอยทำได้นะ เราก็คิดได้แหละว่า เราต้องทำยังไงเพื่อจะเป็นกระแส แต่จอยเลือกที่จะไม่ทำ จอยมีความรู้สึกว่า จอยไม่ได้ภูมิใจและไม่ได้มีความสุขที่จะทำแบบนั้น จอยมีความสุขกับชีวิตเรียบง่ายของจอย อาจจะไม่โดดเด่น ดังหรืออะไรมากมาย แต่จอยมีความสุขที่อย่างน้อยที่สุดอยู่มาได้สิบกว่าปี อย่างไม่น่าเชื่อ
   
จอยมีชีวิตเรียบง่าย แล้วก็เป็นคนที่ไม่ได้เหมาะกับนิสัยที่จะอยู่ในวงการบันเทิงเลย จอยเป็นคนที่แบบไม่ได้ชอบปาร์ตี้ ไม่ได้ชอบคนเยอะ ๆ ไม่ได้สนิทสนมกับใครมากมาย ทำงานเสร็จกลับบ้านเป็นอย่างนี้มาสิบกว่าปีแล้ว ยังสามารถทำงานได้มาถึงวันนี้ ถ้าเกิดต่อไปจอยไม่ได้ทำแล้ว ไม่มีงานแสดงจอยจะไม่เสียใจเพราะจอยมีความรู้สึกว่า มันเกินที่เราคาดหวังไว้แล้วซะอีก เพราะตอนแรกจอยคิดว่าทำแค่เล่น ๆ ปีสองปีก็คงไม่มีใครจ้างแล้ว เพราะตอนนั้นจอยยังเรียนหนังสืออยู่  ถึงแค่นี้จอยก็พอใจแล้วค่ะ”
   
*  มาถึงคำถามสุดท้าย..ท้ายสุด ไม่บอกก็คงเดาออกว่า จะถามเรื่องแฟน จริง ๆ คุณแม่ช่วยสกรีนหรือเปล่า 
   
“คุณแม่ไม่ได้สกรีนค่ะ แม่เคารพการตัดสินใจของลูกอยู่แล้วแต่ด้วยความที่อยู่กับแม่ตลอด พอใครเข้ามาเค้าก็จะเห็นตลอดคือบ้านจอยแปลกมาก ใครที่จีบต้องมาบ้าน เพราะจอยไม่ได้ไปไหนแต่ไม่ได้หมายความว่า จะต้องเป็นแฟนนะ”
   
แล้วมีมาที่บ้านกี่คนแล้วล่ะ โอ้.. “จอย” ไม่ได้นับ งานนี้ใครอยากรู้ต้องไปถามคุณแม่สุดยอดของความจำเป็นเลิศ จำได้ทุกเรื่องจริง ๆ และทุกช็อตด้วยค่า.

คนกลาง : เรื่อง/สุรเชษฎ์ วัชรวิศิษฎ์ : ภาพ