ป๊อก-ตั๊กล้างอาถรรพณ์7ปี รักจริงหวังแต่งแต่ไม่คิดมีลูก

กลิ่นอายเดือนแห่งความรักยังคงหอมกรุ่น ซึ่งในวีกนี้จึงมีความรักของ ป๊อก-ปิยธิดา วรมุสิก นางเอกสาวละคร "ส้มหวานน้ำตาลเปรี้ยว" กับ ตั๊ก-นภัสกร มิตรเอม นักแสดงหนุ่มมาดเข้ม

โดยร่วมย้อนวันเก่าๆ "คนดังนั่งคุย" คอนเฟิร์มสุดหวาน มันส์ ฮา เจงๆ

ย้อนวันวานจุดเริ่มต้นที่มาเจอกัน

ป๊อก : "เกือบ 8 ปีแล้วค่ะ ป๊อกไปทานข้าว ไปส่งพี่ปุ้ย-อรัญญา ประทุมทอง เค้ามีร้านอยู่แถวๆหน้าพระลาน แล้วป๊อกถ่ายละครเลยไปหาพี่ปุ้ยที่ร้านและไปเจอเค้าที่ร้านอยู่แล้ว แนะนำกัน" เจอกันครั้งแรกปิ๊งเลยมั้ย ตั๊ก ตอบ "ทักทายปกติแต่มองๆ ผู้หญิงคนนี้ผอมจัง ผมก็แซวเค้าทำไมผอม ดูน่ารักแต่ไม่ถึงกับปิ๊ง" ป๊อก เสริมว่า "เค้ามาจับเอวแล้วทำให้ป๊อกโกรธ คนเราไม่เคยเจอกันแต่มาถึงเนื้อถึงตัว คุยกันเอื้อมมือจะมาจับเอวเรา" ตั๊ก รีบแก้ "ไม่ได้จับยังไม่โดนเลย" ป๊อก โต้ "ก็เอื้อมมือมันจะโดน ป๊อกเลยเอี้ยวตัวหลบ เจอกันครั้งแรกถึงมันจะดึกแล้วก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าจะจับเอวได้ ตอนนั้นอารมณ์บูดเล็กน้อย"


ความสัมพันธ์มางอกเงยได้ยังไง

ป๊อก : "ยังอีกหลายเดือนค่ะ เจอกันอีกที พี่ปุ้ยโทร.ชวนป๊อกออกไปที่ร้าน ป๊อกก็มีบ่น พี่ 4 ทุ่มแล้วนะ ให้ออกไปอีกเหรอ แต่ก็ไปนะ (หัวเราะ) ก็เจอเค้าด้วยเลยนั่งคุยกันยาว" ภาพแรกที่ป๊อกรู้จักตั๊กเป็นยังไง? "เป็นผู้ชายสูงๆ ขาวๆ หน้ายาวๆ ผูกผ้าขนหนูที่หัว ใส่กางเกงเล เซอร์มาก" สเปกนี้ถึงกับยี้? "ไม่นะ ป๊อกไม่ชอบแบบกริบมา หล่อมาเลย ถ้าคบผู้ชายสไตล์นี้เราต้องเหนื่อย ทำให้ตัวเองสมบูรณ์ และเพอร์เฟกต์ตลอด" เคยบอกว่าถูกใจตั๊กเพราะโพกผ้าบนหัวเหมือนพ่อ? ป๊อก ตอบ "ใช่ เพราะคุณพ่อเวลาทำงานอยู่ที่บ้านจะมีผ้าโพกหัวเอาไว้เหมือนกัน เลยดูเป็นผู้ชายลุยๆ"

ภาพที่มองป๊อกดูเป็นคุณหนู

ตั๊ก :
"ไม่นะ เค้าเป็นธรรมชาติ ถ้าเป็นคุณหนูคงไม่มีเพื่อนอย่างปุ้ย นึกออกป่ะ ปุ้ยจะเป็นคนเฮฮา คิดว่าถ้าป๊อกเรียบร้อยขนาดนั้นคงไม่มานั่งที่ร้านแบบนี้หรอก" ป๊อก พยักหน้ารับหงิกๆ จีบนานมั้ยกว่าป๊อกจะยอมตกลงเป็นแฟนด้วย? ป๊อก ตอบ "มันเป็นเรื่องของการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันมากกว่า พอคุยกันแล้วรู้จักตัวตนเลยรู้สึกชอบกัน แต่ถามว่าใครมาใครคนใดคนนึงมันไม่ใช่ มันซึมๆ แล้วเหมือนจูนกันติด อยากคุยต่ออยากเรียน รู้เรื่องราวซึ่งกันและกัน" คิดว่าอะไรคือส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับเราสองคน? ป๊อก ตอบ "เป็นเพราะความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ทำให้คุยกันอยู่ได้เพราะซื่อสัตย์ต่ออารมณ์ของตัวเอง" ตั๊ก เสริม "ผมว่าเป็นเรื่องของการยอมรับด้วย เค้ายอมรับในสิ่งที่เราเป็น และเรายอมรับในสิ่งที่เค้าเป็น เขายอมรับในสิ่งที่ผมเป็น ยอมรับความเป็นจริงเป็นอย่างนี้ เรามีความสุขกับมันได้มั้ย ไม่ต้องหลอกตัวเอง" ป๊อก อธิบาย "โชคดีที่เจอกันตอนที่โตแล้วด้วยกันทั้งคู่ พอมาเจอกัน การไตร่ตรอง ยอมรับ มีเหตุผล เข้าใจมันมาระดับนึงแล้ว เพราะฉะนั้นการเรียนรู้กันต่อไปคงไม่ใช่เรื่องยากแล้วล่ะ"


ที่บ้านแรกๆมีเปรยๆ ผู้ชายคนนี้ไม่ผ่าน

ตั๊ก : "ผมไม่ทราบนะ แต่เคยเห็นพ่อเค้ามองๆ อย่างพี่สาวเค้าจะค่อนข้างแรง อย่างช่วงแรกๆมีไปบ้านเอาของไปให้แล้วป๊อกไม่อยู่ พี่สาวจะมองซะ ถ้าผมเป็นเมล็ดข้าวเค้าคงเป็นไก่จิก" ป๊อก หัวเราะก่อนอธิบาย "เพราะครั้งแรกเลยที่เจอกันมันดึกมากจนเกือบจะเช้ามืด ทำให้เค้ารู้สึกว่าคนเพิ่งเริ่มรู้จักกันทำไมเจอกันตอนดึก เลยอคติ" ตั๊กทำยังไงให้แม่ไก่ (พี่สาวของป๊อก) เปลี่ยนไป? "ผมคุยปกติ เค้าไม่คุยเราก็ไม่คุย ไปเรื่อยๆ ถ้าคิดว่าเราทำดีอยู่แล้ว ครั้งแรกที่เจอกันอาจจะผิดเวลาไปหน่อย กลายเป็นประทับตราแทน (หัวเราะ)" ต้องใช้เวลาตรงนั้นนานมั้ยกว่าจะผ่านไปได้? ตั๊ก ตอบ "สักพักเหมือนกัน แต่ก็เนียนๆไป" ป๊อก เสริม "ปกติคุณพ่อจะแทนตัวเองว่าผมกับเพื่อนลูก ไม่เคยแทนตัวเองว่าพ่อ เคยจะมีพี่ตั๊กนี่แหละที่พ่อแทนตัวเองว่าพ่อ จริงๆพี่ตั๊กไม่ทันสังเกต แต่ป๊อกสังเกตเลยบอกกับเค้า"

คนเค้าพูดอาถรรพณ์ 7 ปี เรารู้สึกคบๆแต่ละปีแตกต่างบ้างป่ะ

ตั๊ก :
"ไม่เคยรู้สึกเลย" ป๊อก เสริม "มันก็เป็นแค่ระยะเวลาที่คนกำหนดมาเอง คู่ที่เลิกกันตอนอาถรรพณ์ 7 ปี อาจจะแค่ 1 ใน 100 แต่คู่พ่อแม่เรา คู่เพื่อน พี่น้อง ที่อยู่บนโลกนี้กี่ล้านคู่เค้ายังไม่โดนอาถรรพณ์เลข 7 เลย" ตั๊ก ตอบ "ผมไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้ เราเชื่อตัวเรามากกว่า ปี 1-2 เราคบกันมันสนุกกันมากขึ้น มีอะไรเรียนรู้กันมากขึ้น เราแฮปปี้กับตรงนั้น แทนที่มานั่งเครียดกับเวลา เรามามีความสุขกับตรงนั้นดีกว่าที่มานั่งนับ 1-2-3-4-มันไม่มีประโยชน์" ความสม่ำเสมอ 7-8 ปีที่ผ่านมา? ป๊อก ตอบ "ความสม่ำเสมอดีทุกอย่าง เวลาเราต้องการความช่วยเหลือ พี่ตั๊กยินดีช่วยเหลือจนถึงปัจจุบันไม่เคยอิดออด ไม่เคยบอกว่าไม่ได้" ทางป๊อกดูแลตั๊กยังไงบ้าง ตั๊ก ตอบ "ผมไม่ได้ขอ แต่เค้าจะซื้อโน่นซื้อนี่มาให้ คือผู้หญิงผมเข้าใจนะชอบซื้อของมาให้ อันนี้ไม่ได้ว่านะ (หันไปมองหน้าป๊อก) แต่ไม่อยากได้ เค้าก็จะซื้อมาให้ ถ้าอันไหนใส่แล้วดูโอเคกับเรานะก็ใส่"


ช่วงนึงป๊อกเปลี่ยนลุคเซอร์ตามตั๊กไปเลย

"บอกได้เลยว่าใช่ ถ้าเราแต่งตามสไตล์เราแล้วไปเดินกับเค้ามันดูไม่เหมาะ เหมือนมาจากคนละที่ แต่พอใส่แบบนี้ไปมันก็สบายดีนะ แต่ตอนหลังเราค่อยๆดึงเค้ามา ด้วยความเหมาะสมช่วงนั้นมากกว่า พี่ตั๊กเล่นหนังควรใส่กางเกงยีนส์ดีกว่า พอเราไปเห็นอะไรที่ใส่แล้วมันดูเท่ดีก็จะซื้อให้ มีซื้อผิดซื้อถูกบ้าง" มีซื้อของให้แล้วตั๊กไม่ยอมใส่จนเรางอน ป๊อก ตอบ "มีนาฬิกาอีกเรือน อันนั้นแพงมากไม่ใส่ ป๊อกเลยบอกว่าแพงยิ่งต้องใส่ เพราะว่าเฉลี่ยต่อวันจะถูกลง แต่เค้ากลัวมันพัง กลับเป็นรอย" เอาอย่างนี้ตั้งตัววันนี้มีอะไรที่เป็นของตัวเองบ้าง ตั๊กก้มมองตัวเองก่อนตอบ "ไม่มีครับ อ๋อ! ยกเว้นสร้อย แต่พระเค้าก็เป็นคนซื้อให้ ทั้งหมดเค้าเป็นคนให้ครับ"

ไม่ค่อยเห็นป๊อกกับตั๊กรับงานอีเว้นท์คู่กันเลย


ตั๊ก : "ผมไม่มีปัญหา ต้องแล้วแต่เค้า" ป๊อก เสริม "จะเขินมากกับการไปทำงานรับสตางค์ที่เราไม่ได้ใช้ความสามารถอะไรของเรา ให้เราทำอย่างอื่นก็ได้ ขายบัตรสอยดาว ขายทองปิดลูกนิมิต แต่อยู่ๆ ให้ไปยืน เป็นเรื่องที่เรารู้สึกเขินๆ ถ้าใครทำได้ยินดี แต่เราเอามือไปวางไม่ถูก ทั้งๆ ที่เราไปเล่นละครเวที เรามั่นใจมาก คิดว่าถูกที่ถูกทาง แต่ตรงนั้นเรารู้สึกไม่ถูกที่ถูกทาง จะเขินและอายในการรับสตางค์ เรายังไม่ได้ทำอะไร ให้สตางค์เหรอ ขอทำอะไรนิดนึงดีกว่า"


คบกัน 8 ปีมีคิดเรื่องแต่งงานแล้วหรือยัง

ตั๊ก : "มีคิดครับ" อีกนานมั้ย? "จริงๆ ตอนนี้จะบอกว่าคือคิดไว้แล้วแต่อย่าไปกะเกณฑ์ คิดอีกไม่นานเกินรอในชีวิตเราหรอก ผมเชื่อว่าสิ่งที่เรากะ เกณฑ์อย่าไปขีดเส้นมันเลยดีกว่า" ป๊อก เสริม "ยังไม่อยากมากดดันตัวเองว่าเป็นช่วงนี้ ช่วงนั้น เอา เป็นว่าวันไหนรู้สึกว่าไม่ต้องคิดเรื่องอื่นเยอะ ให้รู้ สึกมีกำลังอยากจะจัดจริงๆ ดีกว่า" แสดงว่ามีคุยเรียบร้อย? ป๊อก ตอบ "มีคุยกันบ้าง จะแต่งหรือไม่แต่งเราอยู่แบบนี้ เหมือนจัดงานวันเกิดใหญ่ๆ พร้อมกัน 2 คน จะแต่งหรือไม่แต่ง ทุกคนจะเจอเราในสภาพแบบนี้ ความสัมพันธ์เป็นแบบนี้ไม่ได้มากหรือน้อยลง เราค่อนข้างมั่นคง ความสัมพันธ์แข็งแรงมาก"

การแต่งงานพร้อมที่จะพัฒนามีลูกเลยมั้ย

ป๊อก : "คงไม่มีลูก คุยกันไว้ตั้งแต่แรก ก็ตลกดีกล้าคุยเรื่องลูกตั้งแต่เพิ่งเริ่มคบกัน ทั้งๆที่ป๊อกไม่เคยคิดว่าเรื่องแต่งงาน หรือมีลูกจะต้องไปนั่งถามใคร เพราะป๊อกไม่ชอบความสัมพันธ์แบบผูกมัด แต่อยู่ๆเราคุยกันกับเค้าเลยคุยกันแนวทางถ้าอีกหน่อยต้องมีชีวิตคู่เป็นยังไง ปรากฏว่าบังเอิญมีความคิดตรงกันคือเราไม่อยากมีภาระ มันน้อยกว่าคนที่เราคุยด้วยได้และบอกว่าเราไม่อยากมีลูกเหมือนกัน" เพราะอะไร? ตั๊ก ชี้แจง "เรามองถึงอนาคตข้างหน้าเศรษฐกิจประเทศชาติจะเป็นยังไง  เราไม่รู้จะดูแลเค้าได้ดีแค่ ไหน" ป๊อก เสริม "ป๊อกคงกลายเป็นคนโรคจิตและรู้สึกว่าตัวเองคงไม่สามารถดูแลใครได้ 24 ชม. มีคนบอกว่าเดี๋ยวมีจะรับได้เอง มันก็ใช่ แต่ถ้ามีแล้วเรารับไม่ได้จะทำยังไง ถ้าใครถามแล้วป๊อกไม่มีเวลาตอบก็จะเป็นคนชอบกวน บอกว่าป๊อกกลัวเสียหุ่น เหนื่อย ง่วงนอน รับภาระไม่ได้ขนาดนั้นหรอกจบ ทุกคนจะสาปแช่ง แค่นั้นก็สบายใจไม่ต้องอธิบายนาน (หัวเราะ)"

ของหยั่งเงี้ย...ไม่ลองไม่รู้ร้อก...ก.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์