มรดกพุ่มพวงร้อนเพชรฟ้องพ่อ

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย มรดกพุ่มพวงร้อนเพชรฟ้องพ่อ

ทนายยื่นขอแบ่ง80ล้าน ไกรสรรับเหินห่างมานาน

“น้องเพชร” ลูกชายอดีตราชินีลูกทุ่ง“พุ่มพวง ดวงจันทร์” เปิดใจพร้อมทนายความ ศาลนัด 5 เม.ย. ในคดีฟ้องเรียกมรดก 80 ล้านบาทจากพ่อ “ไกรสร ลีละเมฆินทร์” ระบุ ไม่เคยได้รับมรดก 80 ล้านบาท จำเป็นต้องฟ้องให้พ่อมาแจกแจงทรัพย์สิน ด้าน “ไกรสร” ห่วงลูกชายแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร มึน ยังไม่รู้เรื่องลูกฟ้องศาล ระบุ ไม่ได้คุยกันนานแล้ว

ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ก.พ. นายสาคร ศิริชัย ทนายความ นำ นายสรภพ ลีละเมฆินทร์ หรือ นายภัควรรธน์ พิสิษวุฒิรัชต์ หรือน้องเพชร บุตรชายของ นางรำพึง ลีละเมฆินทร์ หรือ พุ่มพวง ดวงจันทร์ อดีตราชินีลูกทุ่ง มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย นายสาคร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2552 น้องเพชร ได้ยื่นคำร้อง ขอให้ศาลแพ่งมีคำสั่งเรียก นายไกรสร ลีละเมฆินทร์ บิดา ในฐานะผู้จัดการมรดก ของ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” มาชี้แจงเรื่องการจัดการมรดก มีทรัพย์สิน 15 รายการ มูลค่า 80 ล้านบาท ซึ่งน้องเพชรยังไม่เคยได้รับการแบ่งมรดก ซึ่งศาลแพ่งมีคำสั่งเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2553 ให้ไต่สวนน้องเพชรในวันที่ 5 เม.ย. เวลา 09.00 น. และสำเนาให้นายไกรสร ทราบ หากประสงค์จะคัดค้านในวันดังกล่าว

นายสาคร ยังกล่าวอีกว่า ผ่านมา 17 ปี น้องเพชรยังไม่ได้รับแบ่งมรดกเลย ทั้งมรดก 15 รายการมีการจำหน่ายจ่ายโอนไปให้บุคคลภายนอกแล้ว จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลเรียกบิดา มาสอบถามว่าจัดการมรดกไปอย่างไร เท่าที่ทราบทรัพย์สินมีที่ดินเหลืออยู่ 3 รายการ และลิขสิทธิ์เพลง ซึ่งเป็นการเรียกร้องสิทธิให้น้องเพชร ตามกฎหมาย และเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดความบาดหมางกันระหว่างพ่อลูกโดยใช้วิธีการทางกฎหมาย

น้องเพชร-ภัควรรธน์ เผยว่า ที่ทำไปเพราะโมโหภรรยาใหม่ของพ่อที่ฟ้องตนและแฟนสาวเรื่องหมิ่นประมาท จนมีค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้เกี่ยวกับคดีตลอด ทั้งไม่อยากรบกวนเงินของนางสุพรรณี สุประการ แม่บุญธรรม เพราะเรื่องนี้เหมือนตนนำปัญหามาสู่ครอบครัวเขาด้วยและเป็นเรื่องไร้สาระมาก ๆ เรื่องมรดกมารดานั้น นับตั้งแต่ออกจากบ้านมาเมื่อปลายปี 2548 ไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน เพราะเกี่ยวกับเงินคุณพ่อจะดำเนินการมาตลอด

สำหรับทรัพย์มรดกทั้ง 15 รายการ ประกอบด้วย

1.เงินสดในบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนราชวงศ์ จังหวัดเชียงใหม่

2.เงินสดในบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย สาขาพหลโยธิน

3.เงินสดในบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขา ห้าแยกปากเกร็ด

4.ที่ดินในอำเภอสันทรายจังหวัดเชียงใหม่ 1 งาน 50 ตารางวา

5.ที่ดินในอำเภอเมืองลำพูน เนื้อที่ 27 ไร่ 1 งาน 26 ตารางวา

6.ที่ดินในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เนื้อที่ 17 ไร่

7.ที่ดินในอำเภอแม่สาย เนื้อที่ 4 ไร่ 2 งาน 50 ตารางวา

8.ห้องชุดสยามคอนโดมิเนียม เขตห้วยขวาง

9.ห้องชุดอาคารจุลดิศ แมนชั่น เขตพญาไท

10.ห้องชุดอาคารไอทีเอฟ-สีลมพาเลส เขตบางรัก

11.ที่ดินในเขตพญาไท

12.รถยนต์ 3 คัน

13.เครื่องประดับ

14.เสื้อผ้าใช้ร้องเพลง

และ 15.ลิขสิทธิ์เพลงบริษัท ท็อปไลน์มิวสิก

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยัง “ไกรสร” ในกรณีดังกล่าวซึ่งเจ้าตัวเผยว่า

“ ยังไม่ทราบเรื่อง และตอนนี้ก็ยังพักอยู่ที่เชียงใหม่ มีแต่พี่ ๆ น้อง ๆ สื่อ โทรฯมาสอบถาม โดยก่อนหน้านี้ไม่ได้คุยกันเลย ไม่ได้โทรฯหากันมีแต่คนรอบข้างตัวเขามา คุยแล้วเขาก็ไม่ให้ตนได้คุยกับลูกเลย จน ถึงตอนนี้ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาใช้เบอร์โทรศัพท์อะไร เพราะว่าเขาเปลี่ยนเบอร์บ่อยมาก”

เมื่อถามว่ารู้สึกยังไงที่ลูกฟ้อง

นายไกรสร กล่าวว่า “ก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไรนะ แต่ก็ปล่อยเขา เขาอยากจะทำอะไรก็ให้เขาทำ แต่ผมก็ยังเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความคิดเขา ผมเลี้ยงเขามาผมรู้จักลูกผมดี ผมว่าอาจจะเป็นเพราะคนรอบข้างของเขา ตอนนี้เขาไม่มีงาน ไม่มีเงิน ตอนนี้ผมก็เป็นห่วงเขานะ อยากให้เขาคิดได้ ญาติทางแม่เขาก็พูดแล้วอะไรแล้ว แต่เขาก็ยังอยู่แบบนี้ไม่กลัวบาปกรรมก็ไม่รู้จะทำยังไง”.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)