ลีเดียมุ่งมั่นเรียนฮาร์วาร์ด ลบครหานักร้องสวยไร้สมอง

"อยากเรียนฮาร์วาร์ด"

เดียมีความใฝ่ฝันอยากไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมากๆ แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเรียนเมื่อไร แค่วางแผนไว้คร่าวๆ ว่าอยากเรียนเศรษฐศาสตร์ แล้วจะต่อโททางด้านธุรกิจ ถ้าไปเรียนจริงๆ เดียตั้งใจว่าจะให้จบภายใน 3 ปี และถ้าต้องไปจริงๆ ก็คงจะต้องมีการพูดคุยกับทางผู้ใหญ่ ว่าเราจะวางแผนการทำงานเพลงไว้ยังไง

สงสัยใช่มั้ยว่าทำไมเดียถึงอยากไปเรียนที่ฮาร์วาร์ดเอาซะมากๆ เหตุผลแรกคือเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลกในขณะนี้ เรียกว่าถ้าสามารถเข้าไปเรียนได้จะเป็นอะไรที่ภาคภูมิใจมากของนามสกุลเดียเลย เพราะในเมืองไทยเรานับคนได้เลยว่าใครจบที่ฮาร์วาร์ดบ้าง ไม่ใช่ว่าใครจะจบจากที่นี่ได้ ยากมาก มีเงินก็เข้าไม่ได้ เคยมีกระแสว่าคนมีเงินเข้าไปเรียนได้ ไม่จริงเลย ที่นี่เอาเงินไปยัดเค้าเท่าไรถ้าคุณไม่มีความสามารถเค้าก็ไม่รับ

อีกอย่างป๊าเดียบอกว่าถ้าเดียโตขึ้นอยากให้เดียเรียนที่ฮาร์วาร์ด อย่างตอนแรกที่เดียเข้านอร์ธ เวสเทิร์นได้ก็ดีใจแล้ว เพราะเป็นอันดับที่ 11 ของโลก แต่พอมานั่งคิดไปคิดมา รู้สึกว่าเราทำงานตรงนี้ก็มีประสบการณ์มากขึ้น และทำให้ตัวเราเองมีอะไรที่จะทำให้คนเค้ามาสนใจเรามากขึ้น จะมีนักร้องกี่คนที่อยากจะไปเรียนต่อฮาร์วาร์ด

"การศึกษายิ่งใหญ่"

แล้วที่ฮาร์วาร์ดเค้าต้องการเด็กที่มีความสามารถ ต้องการความหลากหลายในตัวนักเรียน อาจจะเป็นทางด้านกีฬา ศิลปะ อย่างเดียคิดว่าตัวเองมีอะไรหลายอย่างที่นำไปเสนอเค้าได้ แถมเรายังเป็นนักร้องที่เมืองไทยด้วย ในหมื่นคนที่ฮาร์วาร์ด คงมีเดียคนเดียวที่เป็นนักร้อง

เรื่องไปเรียนต่อฮาร์วาร์ด ตอนนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะได้ไปคุยกับทางมหาวิทยาลัยมาแล้ว เกรดทุกอย่างก็ได้ เลยไม่มีปัญหา ถ้าจะต้องไปคิดว่าน่าเร็วที่สุดคงเป็นปีหน้า

คงอยากรู้ว่าเดียไม่เสียดายโอกาสบ้างเหรอกับชื่อเสียงที่มีอยู่ตอนนี้ เดียคิดว่าการศึกษาจะยิ่งทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น บางคนมองดารานักร้องว่าสวยหล่ออย่างเดียวแต่ไม่มีสมอง เดียไม่อยากให้คนมองเดียแบบนั้น กับการที่เราอยากร้องเพลงก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องไม่มีสมองด้วยซะหน่อย ยิ่งถ้าเดียจบฮาร์วาร์ดได้นะ คนก็จะยิ่งรู้จักเดียมากขึ้น เป็นนักร้องก็มีกลุ่มวัยรุ่นที่รู้จักเรา แต่ถ้าจบฮาร์วาร์ดมาด้วยกลุ่มผู้ใหญ่ก็จะรู้จักเดียมากขึ้น

"มุ่งมั่นเรื่องเรียนมาก"

เดียมุ่งมั่นเรื่องการเรียนมาก ตอนเรียนเดียจะออกแนวคร่ำเคร่ง เครียด ใส่แว่นตาด้วย สนุกกับการเรียนในช่วง 2 ปีแรก แต่พอมาลงคอร์สที่เป็นระดับแอดวานซ์เพื่อเข้าระดับมหาวิทยาลัย มันเลยหนัก ตอนนั้นแทบไม่ได้นอน

เดียเป็นคนที่ให้ความสำคัญเรื่องการเรียนเอง ที่บ้านไม่ได้บังคับ เดียคิดว่าการศึกษาเป็นอะไรที่ชี้อนาคตเราได้ ถ้าเรามีการเรียนที่ดีที่ จบที่ดีๆ ก็จะหาเงินได้ง่ายขึ้น และเงินเดือนก็สูงด้วย แต่ถ้าเราเรียนไม่ได้จะเอาอะไรมาเลี้ยงตัวเองล่ะ

ส่วนว่าฝันถึงขั้นเป็นด๊อกเตอร์เลยมั้ย เดียคงต้องดูก่อนว่ามีความจำเป็นหรือเปล่า ถ้าเราเรียนจบตรีหรือโทแล้วแฮปปี้ เลี้ยงตัวเองได้ ก็ไม่รู้ว่าจะเอาด๊อกเตอร์มาทำไม ปวดหัวเปล่าๆ สู้เอาเวลาไปทำในสิ่งที่ตัวเองรัก หรืออยู่กับคนที่เรารักดีกว่า เพราะตอนที่เดียเข้ามาเป็นนักร้องก็เรียนไปด้วย ช่วงนั้นจะตายให้ได้ เรียนหนักมาก วันๆ หนึ่งนอนแค่ 4 ช.ม.เอง ทำการบ้านตั้งแต่ 7 โมงถึงตี 2 แล้งต้อง ตื่นไปเรียน 6 โมงเช้า เครียดมากๆ โชคดีที่ช่วงที่ออกเทปจริงจังเดียจบพอดี ก็เลยดร็อปที่จะเข้ามหาวิทยาลัยไว้ก่อน

"ให้ชั่งใจอันไหนดีที่สุด"

เดี๋ยวนี้น้องๆ หลายคนอยากเข้าวงการ อยากคว้าโอกาสจนลืมการเรียน เดียอยากให้ชั่งน้ำหนักว่า อย่างไหนมันบวกหรือลบมากกว่ากัน โอเค ถ้ามาได้ดีในแนวทางของวงการบันเทิง ก็ทำไปเลย แต่เราต้องคิดว่ามันจะให้ผลบวกกับเรายาวไปถึงในอนาคตรึเปล่า เพราะการเรียนเดียเชื่อว่าให้ผลดีกับคนทุกคนในระยะยาวกว่าอยู่แล้ว

ที่เดียอยากทิ้งท้ายก็คือ ความรู้เป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องการศึกษาสูงๆ เลย นักธุรกิจพันล้านหลายคนก็ไม่ได้จบมหาวิทยาลัยดีๆ ของแบบนี้มันอยู่ข้างในสมอง แล้วก็ความตั้งใจมากกว่า แค่อย่าท้อ ที่สุดเราก็จะมีอนาคตที่ได้ค่ะ

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด