เปิดม่านหัวใจ บัวชมพู ฟอร์ด ตัวตนและคนที่เธอรัก

"บทสัมภาษณ์"


จบจาก สะดุดรัก แฟนๆ ละครก็ได้เห็นผลงานเรื่องใหม่ของเธอใน ตี๋ตระกูลซ่ง ทางช่อง 3 ต่อเนื่องทันที และเพราะความแรง และความฮอตของนางเอกนักร้องนัยน์ตาหวาน บัวชมพู ฟอร์ด ทำให้ "บันเทิง คม ชัด ลึก"

อดใจไม่ไหวเลยต้องขอนัดพูดคุย เพื่อถามไถ่ถึงชีวิตการงาน และพลาดไม่ได้กับเรื่องราวความรักของเธอคนนี้ ที่หลายคนบอกว่าเธอมีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เธอยินดีให้สัมภาษณ์...อย่ารอช้าเรามาล้วงลึกถึงชีวิต บัวชมพู ฟอร์ด กันเลยดีกว่า


ชีวิตการงานผ่านฉลุย

กระแสละคร "ตี๋ตระกูลซ่ง" ที่ออกอากาศตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ก็ดีนะ กลายเป็นอาหมวยไป แต่ส่วนตัวบัวว่าตัวเองไม่หมวยนะ (หัวเราะ) ไปไหนก็จะมีบ้าง ที่คนเข้ามาคุยด้วยบอกว่า แหม...นิสัยไม่ดีเลยนะ ตอนท้ายจะนิสัยดีขึ้นไหมเนี่ย หรือตอนที่เล่น สะดุดรัก ก็จะถามว่าแล้วตอนจบเป็นยังไง เดาไม่ออก


ในบทจะเป็นคุณหนูเอาแต่ใจตัวเองเหมือนหรือต่างกับชีวิตจริง

ไม่เป็นตัวเองขนาดนั้นหรอก ถ้าเป็นแบบนั้นในชีวิตจริงคงจะเฮี้ยวไปนิดหนึ่งนะ


ในเรื่อง สะดุดรัก จะดูแสนหวานพอมาเรื่องนี้แก่นเซี้ยวสุดๆ ส่วนตัวชอบแบบไหนมากกว่ากัน

ถ้าเป็นการแสดงบัวว่าเล่นแก่นๆ ดีกว่า เหมือนมีอะไรให้เล่นมากกว่า เล่นบทเรียบร้อยมันเหมือนต้องซ่อนอะไรอยู่ข้างใน และใน สะดุดรัก เรียบร้อยแสนดี เป็นเหมือนผู้หญิงในอุดมคติเกินไปนิดหนึ่ง ชีวิตจริงก็อาจมีเหมือนกันคนแบบนี้ แต่มันไกลตัวเรา เราไม่ได้คิดขนาดเขา


พูดเรื่องตัวเอง


แล้วตัวตนของ บัวชมพู ล่ะ เป็นแบบไหน

คงต้องเอาคาแรคเตอร์ของนางเอกสองเรื่องนี้มาแบ่งครึ่งมากกว่า คือบัวคงไม่แก่นขนาดนั้น ถ้าคนนอกมองอาจจะมองว่าเป็นคนเงียบ เฉยๆ แต่ถ้ารู้จักแล้วก็จะพูดกันพอสมควร


เพราะไม่ค่อยพูดหรือเปล่าเลยถูกมองว่า บัวชมพู เป็นคนหยิ่ง

ก็เป็นนิสัยที่ไม่ชอบยุ่งอะไรกับใคร ไม่ใช่คนที่จะคอยเซย์เฮลโหลกับใครที่ไม่รู้จัก ถ้าตรงนั้นคงจะมองว่าหยิ่งอันนี้บัวก็แล้วแต่เขาจะมองแล้วกัน


แสดงว่าบัวไม่ใช่สาวสังคมเลย

ไม่เลย ค่อนข้างจะเก็บตัวอยู่บ้าน เล่นโยคะออกกำลังกายเสียมากกว่า


จะถูกมองว่าเป็นช่วงขาขึ้นมีละครออกอากาศติดต่อกันทีเดียวสองเรื่อง

บังเอิญว่าสองเรื่องนี้มันฉายติดกันมากกว่า จริงๆ ตอนถ่าย ก็ไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะออกอากาศติดกันแบบนี้ บัวว่าถ้าทิ้งระยะอีกนิดก็ยังดี เพราะถ้าแบบนี้บัวก็จะเบรกไปเลย เพราะไม่ได้ถ่ายเรื่องอื่นเอาไว้ ส่วนว่าคนจะเบื่อหน้าไหมก็อาจคิดนิดหนึ่ง แต่พอดีว่าสองคาแรคเตอร์ที่ได้รับไม่เหมือนกันเลย


งานที่เลือกแล้ว


เรื่อง ตี๋ตระกูลซ่ง ต้องประกบกับนางเอกอีกคนคือ "แอฟ" ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ตรงนี้กลัวถูกเปรียบเทียบไหม ไม่ว่าจะฝีมือหรือความสวย

คือในเรื่องก็เป็นพี่น้องคนละแม่ คาแรคเตอร์ต่างกัน ความสวยก็ต่างกัน บัวจะออกแนวฝรั่ง แอฟก็มีความเป็นไทย ตรงนี้บัวไม่ได้ซีเรียสเรื่องการเปรียบเทียบ


ถ้าเลือกได้อยากเล่นละครแบบฉายเดี่ยวหรือว่ามีพระ-นางหลายคู่ประกบกัน

จริงๆ แล้วมันก็ได้ทั้งสองอย่าง จะดูเนื้อเรื่องโดยรวมมากกว่า ถ้าเกิดเป็นตอนถ่ายทำมีหลายๆ คนก็สนุก มีเพื่อนเยอะดี ยังไงก็ได้แล้วแต่บท บทสนุก บทดีก็เล่น


ดาราบางคนอาจจะหยุดภาพตัวเองไว้ที่นางเอกแล้วค่อยๆ ออกจากวงการ หรือไปทำอย่างอื่น สำหรับบัวมีแนวคิดแบบนี้บ้างหรือเปล่า

จริงๆ มันก็ควรจะมีจุดสิ้นสุด บัวไม่ได้คิดจะอยู่ในวงการนี้จนแก่ และก็คิดว่าตัวเองไม่ได้เหมาะกับวงการบันเทิงมาก ด้วยความที่เป็นคนมีโลกส่วนตัว แต่ตอนนี้ก็เปลี่ยนไปเยอะนะ ถ้าเทียบกับตอนแรกๆ ที่เข้าวงการ เปิดตัวเองมากขึ้น ทำตัวเป็นคนสาธารณะมากขึ้น แต่จะรู้สึกอึดอัดเวลาที่อยู่ในที่ที่มีคนเยอะๆ เลยรู้สึกว่าตัวเองคงไม่เหมาะกับตรงนี้เท่าไร


ชีวิตที่ต้องปรับตัว


ใช้เวลานานไหมกว่าจะปรับให้เข้ากับสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบัน

ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป พอมาทำเพลงได้ไปไหนมาไหนเป็นกลุ่ม ก็จะเห็นว่าคนของสาธารณะควรจะเป็นยังไง แต่จริงๆ แล้วมันก็อยู่ที่ตัวตนของเรานั่นแหละ เราก็จะไม่เสแสร้งนะ แต่ก็ต้องปรับตัวบ้าง


โดยส่วนตัวคิดว่าขอบเขตของคำว่า "บุคคลสาธารณะ" มีได้แค่ไหน

อันนี้เป็นเรื่องยากเหมือนกัน มันแล้วแต่บุคคล แต่สำหรับบัวก็คิด ว่าถ้าเราจะไปในที่สาธารณะเราต้องเจอคนมากมาย เราก็ต้องเตรียมตัวแล้ว แต่หากเราอยู่ในสถานที่ส่วนตัว แล้วเกิดมีเหตุการณ์มาทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ส่วนตัว เราก็จะรู้สึกอึดอัดเกินไป


แต่คนอื่นๆ หรือแม้กระทั่งดาราบางกลุ่มก็จะมองว่าเมื่อมาเป็นดาราแล้วคุณต้องพร้อมแชร์ความเป็นส่วนตัว ตรงนี้บัวมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง

มันก็ต้องแชร์บ้าง คือมีคนที่เขาต้องเข้ามาชอบงานเรา หรือชอบที่ตัวตนของเรา ตรงนี้เราก็ต้องเตรียมตัวแล้วในระดับหนึ่งแหละ หากเราต้องไปเจอะเจอคนข้างนอก ผู้คนมากมาย แต่หากเราต้องการความเป็นส่วนตัวเราก็ไม่ควรจะไปตรงนั้น อันนี้เราก็ต้องแยกแยะก่อนที่จะทำอะไร


มองว่าตัวเองไม่เหมาะกับวงการบันเทิงสักเท่าไร แล้วเริ่มมองหาอาชีพอื่นรองรับจากอาชีพนี้ไว้หรือยัง

คิดไว้หลายอย่างเลยค่ะ แต่ยังไม่ได้ลงมือสักอย่างเลย (หัวเราะ) แต่ตอนนี้บัวก็ถือว่าพอใจกับสิ่งที่ได้รับ เพราะบัวได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ และก็เผื่อไว้สำหรับอนาคต ไม่ได้คิดอยู่ตรงนี้ไปจนแก่ อยากลองทำอย่างอื่นบ้าง ไม่แน่วันหนึ่งบัวอาจจะไปอยู่เบื้องหลัง ตอนนี้ก็เริ่มหาที่เรียนเกี่ยวกับด้านบริหารงานแสดงเอาไว้ คือถ้าออกจากหน้ากล้องอาจจะไปอยู่เป็นคนเบื้องหลัง ถึงเวลาจริงๆ เราจะรู้เองว่าเราอยากไปทำอะไร


มุมมองความรัก...กับ "บัวชมพู"


ถูกมองว่าลัคกี้อินเกมแอนด์ลัคกี้อินเลิฟ

เป็นแบบนี้มาตลอดนะ หมายความว่าบัวเป็นคนที่มีความรักแล้วไม่ได้หวังแบบเผื่อเลือก เป็นคนจริงใจ และจริงจัง คบใครคบทีเดียว มีอะไรก็จะปรึกษากันตลอด รวมถึงเรื่องงานด้วย


จะเปิดใจให้ใครสักคนใช้เวลามากไหมสำหรับบัว

ยากมาก เพราะบัวเป็นคนระวังตัวในทุกๆ เรื่อง


ในส่วนของความรักระวังตัวเพราะกลัวผิดหวังด้วยหรือเปล่า

อาจจะด้วยส่วนหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญก็คือว่าบัวเป็นคนที่ทำอะไรแล้ว ไม่อยากมองย้อนกลับไป แล้วต้องมานั่งเสียใจ ถ้าเราเลือกคนที่ใช่ที่สุดแล้ว หากวันหนึ่งมันไม่ใช่มันก็หมายถึงเราได้ทำดีที่สุดแล้ว เพราะฉะนั้นการที่เราจะไม่เสียใจคือเราก็ต้องเลือกและดูอย่างดี


จะพูดได้ไหมว่ารักของบัวตอนนี้มันสีชมพู้...ชมพู

ไม่หรอกค่ะ มันเป็นเรื่องของคนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่แล้ว บัวคิดว่าบัวเป็นคนที่ค่อนข้างโตกว่าอายุ แล้วมันก็จะเป็นแบบนี้มาตลอด มันเป็นเรื่องของเหตุผลมากกว่าจะเป็นป๊อปปี้เลิฟ


เรียนรู้และศึกษากันมาจนถึงวันนี้มีอะไรต้องปรับให้กันเยอะไหม

คงต้องปรับกันทุกๆ คู่ เยอะ แต่ว่าเยอะในระดับที่โอเค


ความรักครั้งนี้แตกต่างจากรักในวันก่อนอย่างไรบ้าง

คงเป็นเรื่องของการที่ไม่ได้คิดถึงแต่ตัวเอง หรือเราแค่สองคน มีหลายๆ อย่างเข้ามาด้วย เพราะว่าเราก็โตขึ้นแล้ว ถามว่ามองไกลถึงเรื่องชีวิตคู่หรือครอบครัวเลยไหม ในทุกๆ ครั้งบัวก็จะมองไกลว่ามันจะเป็นไปได้ขนาดนั้นหรือเปล่า และทุกครั้งที่บัวคบกับใครบัวก็คิดว่ามันจะเป็นไปได้ แต่ถึงเวลาจริง มันจะเป็นไปได้หรือเปล่านั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะ (หัวเราะ)


เวลาได้ยินหรือเห็นข่าวดารารักร้าวมันทำให้เราหวนกลับมามองตัวเองบ้างไหม รวมถึงรู้สึกอย่างไรเมื่อได้รับรู้ข่าวพวกนี้

มันเป็นเรื่องปกติของคนทั่วไป ทุกคู่ ทุกงาน ไม่จำเป็นเฉพาะแต่ดาราเท่านั้น แต่พอเป็นดาราปุ๊บจะเป็นเรื่องของสาธารณะ ทำอะไรคนก็จะรู้ หรือบางทีอาจจะยังไม่ทันเกิดก็มีการพูดใส่ไข่ จนเกิดเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา มันก็น่าสงสารนะชีวิตตรงนี้ เพราะเวลาคนเราเกิดปัญหาเรื่องชีวิตคู่มันก็เสียใจอยู่แล้ว พอมีข่าวก็เหมือนมีคนมาช่วยตอกย้ำ


บัวเป็นคนให้ความสำคัญกับเรื่องความรักมากเลยหรือเปล่า

สำคัญในการเลือกมากกว่า เพราะถ้าเลือกคนที่ถูกต้องแล้ว มันก็จะทำให้ทุกอย่างโอเค ลงตัว


กับรักครั้งนี้คาดหวังไว้มากน้อยแค่ไหน

คืออย่างที่บอก ว่าบัวจะเป็นคนระวังตัวและเตรียมตัวไว้ในทุกด้าน คือถ้าเกิดยังแฮปปี้อยู่ เราก็รู้สึกแฮปปี้ แต่เราก็ต้องกันในส่วนไม่แฮปปี้ไว้ด้วย คือถ้าวันหนึ่งมันเกิดไม่แฮปปี้หรือผิดหวังบัวก็จะรับมันไหว


แล้วทุกครั้งที่ชีวิตไม่แฮปปี้จะหากำลังใจได้จากไหน

อันนี้ก็สำคัญ เราต้องคิดในแง่ดีไว้ มองมุมที่ดีไว้ เพราะทุกอย่าง ทุกเรื่องต้องมีทั้งมุมที่ดีและมุมที่ไม่ดี อย่างเช่นถ้าเกิดเราพลาดงานอะไรสักงานที่เราสนใจ เราก็คิดในส่วนดี ว่ามันอาจจะเป็นช่องทางที่เราจะได้ลองเรียนรู้ในสิ่งอื่นๆ หรือบางทีก็จะดูจากคนที่เขาผิดหวังมากกว่าเรา คิดว่าเราน่ะโชคดีแล้วนะ คือหากำลังใจได้จากการมองโลกในแง่บวก


มุมมองความรักของบัวในวันนี้

ค่อนข้างเป็นเรื่องของความเข้าใจ ความเหมือนกัน และในจุดหนึ่งก็ต้องรับกันได้ ก็ต้องหาคนที่มีข้อที่เรายอมรับกันไม่ได้น้อยที่สุด

นี่เป็นแค่เพียงส่วนเสี้ยวชีวิตของเธอ...บัวชมพู ฟอร์ด




แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์