เปิดประตูใจ : ?แทค-พิตต้า? แต้มสี..เติมรัก

เปิดประตูใจ : แทค-พิตต้า แต้มสี..เติมรัก

เปรียบ ความรัก เป็น สีขาว ที่สามารถเอาสีอื่นมาแต้มแต่งสีสันได้ เพราะความรักหลากหลายอามรณ์ นี่คือคำนิยามของพระเอกหนุ่ม แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม ที่บ่มรักกับ วีเจสาวหน้าใส Channel V Thailand พิตต้า ณ พัทลุง มาปีกว่า จนหลายคนมองว่าเป็นความรักฉูดฉาด ว่าแล้วเราก็เลยคว้าตัว หนุ่มแทค มาเป็นแขกรับเชิญนั่งพูดคุยกันในคอลัมน์ เปิดประตูใจ

เราทั้งสองคนมาสบตาปิ๊งกันได้ยังไง

ฟังดูแล้วมันเหมือนน้ำเน่านะครับ เรื่องของเรื่องคือ ช่วงนั้นเขาเพิ่งเลิกกับแฟนมาได้ 2-3 เดือน จากที่คบกันตอนแรกมันก็ไม่มีอะไรหรอก เขาก็เล่าให้ฟังว่าเขาโดนอะไรมาเยอะ ผมก็คิดในใจว่า เราอยากจะให้ผู้หญิงคนนี้มีความสุข อยากให้ผู้หญิงคนนี้ยิ้มได้อีกครั้ง อยากให้ผู้หญิงคนนี้หัวเราะได้อีกครั้ง และร่าเริงอีกครั้ง เพราะเวลาที่เขายิ้ม มีความสุขผมก็ดีใจ

สองคนมาจากคนละที่ เลี้ยงดูกันคนละแบบ แน่นอนว่าต้องมีการปรับตัว

แน่นอนครับว่าต้องมีการปรับตัว ส่วนผมเองเจ้าชู้ลดลง ยอมรับว่าเมื่อก่อนเป็นคนที่เจ้าชู้ ผู้ชายทุกคนเจ้าชู้ครับ แต่มันจะมากน้อยก็เท่านั้นเอง สำหรับผมขออยู่กลาง ๆ อย่างเขาเองค่อนข้างที่จะใจ ร้อน และอยู่เมืองนอกมานานก็ต้องปรับตัว เพราะสังคมต่างประเทศกับสังคมบ้านเราก็ต่างกันอยู่แล้ว

ทั้งสองคนมีอะไรที่ต่างและเหมือนกันบ้าง

เป็นคนใจร้อน ขี้หึง รักครอบครัว อันนี้คือสิ่งที่เราสองคนเหมือนกัน ส่วนเรื่องความต่างเขาจะเป็นคนที่อยู่เมืองนอกมานานไม่ค่อยคิดอะไรมาก แต่ผมเป็นคนที่คิดมาก และคิดมากกว่าเขา ส่วนเรื่องความขี้หึงน่าจะพอ ๆ กันนะ ซึ่งถ้ามีทะเลาะกันบางส่วนก็จะเป็นผมที่ห่าง แต่เขาเองก็มีถอยบ้าง แล้ว แต่ว่าใครทำผิด ให้ใจเย็นแล้วค่อยพูดกันดีกว่า ถ้าใจร้อนก็ไม่ไหว ถามว่าทะเลาะกันบ่อยมั้ย ก็ไม่บ่อยนะ เรื่องแบบนี้เหมือนลิ้นกับฟันที่มีกระทบกันบ้างเป็นบางเวลา

ต้องถามว่าความรักในช่วงแรกกับตอนนี้อันไหนมีความสุขมากกว่ากัน

จริง ๆ มันก็มีความสุขหมดแหละ แต่ผมชอบช่วงแรกมากกว่าหน่อย เพราะเรามีเวลาให้กันตลอด พอช่วงหลังเขาก็งานเยอะ ผมก็งานเยอะก็เริ่มห่าง ๆ กัน ก็ต้องทำใจ

จริง ๆ ความรักของแทคและพิตต้าจะโดนจับตามองมาตลอดตรงนี้มันทำให้เรากดดันหรือเปล่า

ตอนแรกกดดันครับ แต่ตอนนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาแล้ว คบกันมาปีกว่า ๆ แล้ว หลายคนอาจจะมองว่าความรักของเราเป็นรักแบบวัยรุ่น ๆ ไม่ค่อยจริงจัง แต่สิ่งที่ทำให้เราประคับประคองความรักมาได้ปีกว่า เราต้องบอกตัวเองก่อนเลยว่าเราอย่าเครียด มีอะไรก็บอกกัน มีอะไรไม่ชอบก็ต้องพูด เราทั้งสองคนพอมีอะไรก็จะพูดกันเลย

อีกอย่างหนึ่งหลายคนมองว่าความรักของคู่เราค่อนข้างจะฉูดฉาด

ไม่รู้สิ เพราะเราอยู่ในวงการด้วยมั้ง เลยถูกมองว่าฉูดฉาดไปนิดหนึ่ง ด้วยความที่เราเป็นคนที่ค่อนข้างเปิดเผยด้วย แต่ถามว่าทำไมต้องเปิดเผย ผมต้องบอกว่าปิดยังไงสักวันหนึ่งก็ต้องรู้ เพราะว่าความลับไม่มีในโลก หลายคนอาจจะคาดหวังกับความรักของเรา แต่ผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต แต่แอบคาดหวังนิด ๆ ว่าอยากจะให้มันอยู่อย่างนี้ไปตลอด แต่ก็ต้องเตรียมใจไว้บ้าง เพราะมีพบก็ย่อมมีจาก

อย่างที่บอกคนมักจะมองว่าคู่เราฉูดฉาดและโดนจับตามองมาตลอด มันทำให้การดำเนินชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปมั้ย

มันเป็นธรรมชาตินะครับ ผมเองก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต เขาเองก็เหมือนกัน เราทำตัวเป็นธรรมชาติ ไม่มีอะไรมาก ถามว่าเราสองคนคบกันอย่างนี้มีข้อห้ามหรืออะไรมั้ย อยากจะบอกว่ามันไม่ใช่ข้อห้ามหรอก แต่เป็นเรื่องที่ขอกันมากกว่า เขาขอให้ผมอย่าเจ้าชู้ มีอะไรขอให้บอก เพราะผมมีอะไรมักจะชอบเก็บไว้คนเดียว คิดคนเดียว ส่วนเขาผมก็ขอให้อย่าใจร้อน และรักษาสุขภาพของตัวเองบ้าง

ถ้าให้เรียงลำดับ 1 2 3 4 ความรักอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่

อันดับแรกเลยต้องเป็นครอบครัว การงาน ตัวเองและก็ความรัก ถามว่าทำไมให้เขาเป็นอันดับ 4 แน่นอนว่าครอบครัวต้องมาก่อน การงานต้องตามมา และถ้ารักตัวเองก็ต้องรักคนอื่นได้อยู่แล้ว ผมไม่อยากมาทำให้คนอื่นทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รักตัวเอง คนเราอยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่รักตัวเอง

ถ้าเกิดบันไดมี 10 ขั้น ความรักของเราตอนนี้ก้าวมาถึงขั้นที่เท่าไหร่แล้ว

ขั้นที่ 2 ครับ จริง ๆ ความรักมันเปรียบไม่ได้กับบันไดหรอกครับ มันมาก ความรักมันยิ่งกว่าอะไรเสียอีก ถ้าให้ผมเปรียบเทียบ ผมก็เปรียบเป็น น้ำกับแก้ว ใส่น้ำทุกวัน ถ้าวันไหนเราไม่ได้ใส่น้ำก็จะลด เราต้องเติมตลอด ให้มากดีกว่าให้น้อย ถ้ามี 100 ผมให้ 70-80 เผื่อไว้หน่อย ผมว่าความรักเป็นสิ่งที่ดี ไหน ๆ ก็รักแล้วให้ไปเลยดีกว่า

ขออีกคำถามหนึ่ง ถ้าให้เปรียบความรักเป็นสี แทคเปรียบเป็นสีอะไร

เป็นสีขาวครับ เพราะเราสามารถเอาสีอื่นมาแต้มได้ ถ้าให้เลือกผมจะเอาสีฟ้า สีเหลือง สีดำ และเกือบทุกสีมาแต้ม เพราะความรักมีหลายอารมณ์มาก สีฟ้ามันสดใส สีเหลืองมันอบอุ่น สีดำบางครั้งมันก็มีมาดนิดหนึ่ง

เคยคิดเล่น ๆ มั้ยว่าเราจะแต่งเมื่อไหร่

เคยคิดครับ ทุกวันนี้ก่อนนอนก็มีคิด ผมคิดว่าน่าจะ 30 ไม่เกิน 35 อยากมีครอบครัว ตอนนี้ผมอายุ 20 เอง ชีวิตนี้อะไรไม่เคยทำก็ทำให้หมด อยากได้อะไรที่ไม่เคยได้ ผมก็เอาสิ่งเหล่านั้นให้ลูกทุกอย่าง จะแต่งงานยังไง ผมขอแต่งงานแบบล้านนาก่อน เพราะผมเป็นคนเชียงใหม่ ส่วนคุณจะแต่งยังไงก็แล้วแต่ ผมไม่ว่า ผมชอบทะเลด้วย อาจจะแต่งหลายแบบก็ได้ อยากมีลูกกี่คน ผมขอ 2 คน ชายก็ได้หญิงก็ได้ ผมรู้การมีลูกคนเดียวมันเหงา เพราะว่าผมเป็นลูกคนเดียว

ณ วันนี้ถือว่าแทคปิดกั้นตัวเองเลยหรือเปล่า

ปกติครับ เขามาก็คุยไม่มีอะไร เขามาก็คุยได้เป็นเพื่อน แต่ไม่มีคิด คือ เหมือนเรามีส้มอยู่ลูกหนึ่ง ลูกนี้อาจจะไม่ดีมาก ไม่สวยมาก แต่ว่ามันก็เป็นส้มที่หามาได้ และอยู่กับเราทั้งเวลาทุกข์ และเวลาสุข มันไม่ดีที่สุด แต่มันสำคัญที่สุด พูดอย่างนี้ดีกว่า

คบกันมาปีกว่าแล้ว ทั้งสองครอบครัวรับรู้สิ่งตรงนี้มั้ย

รู้ครับ คุณพ่อบอกผมว่าแล้วแต่ลูกครับ แต่ที่ผ่านมาคุณพ่อบอกว่าข่าวเยอะมาก อีกอย่างหนึ่งช่วงนี้ผมก็กำลังเดินตามหาความฝันของตัวเองอยู่ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นอะไร เรายังมีอีกหลายอย่างที่เราอยากจะทำ ส่วนอันที่จะทำเร็ว ๆ นี้เป็นสิ่งที่แทค ใฝ่ฝันอยากจะทำมันมานานแล้ว และเป็นงานในวงการ

แหม!!! ต้องบอกว่าเป็น ความรัก ที่น่าอิจฉาจริง ๆ ยังไงเราก็ขอเอาใจช่วยให้ ต้นรัก ที่ทั้งคู่หมั่นรดน้ำ พรวนดิน เจริญเติบโตเร็ว ๆ นะจ๊ะ.


กามเทพ..ตัวดำ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์