ไกรสรลั่นฟ้องลูกเพชร-คนใกล้ชิด

คมชัดลึก :"พ่อไกรสร แสงอนันต์" ประกาศฟ้อง"ลูกเพชร-สรภพ ลีละเมฆินทร์" และผู้เกี่ยวข้องทุกคน ฐานกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ ระบุ ไม่ได้ฟ้องลูกเพราะเกลียดชัง แต่ฟ้องเพื่อให้ลูกพูดออกมาว่าใครเป็นคนสั่งให้กล่าวหาพ่อ

(20มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.20 น. นายไกรสร ลีละเมฆินทร์ หรือ ไกรสร แสงอนันต์ สามีของอดีตราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์

กล่าวผ่านทางรายการ"เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์" ออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ว่า ตนได้ตัดสินใจที่จะฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวหาว่าตนล่วงละเมิดทางเพศ รวมทั้งนายสรภพ ลีละเมฆินทร์ หรือน้องเพชร ลูกชายของตนด้วย เพื่อพิสูจน์ความจริง เพราะสิ่งที่ลูกพูดออกไปนั้นตนเสียหายมาก   
 
นายไกรสร กล่าวว่า เหตุที่ฟ้องลูกชายนั้นไม่ใช่เพราะเกลียดชัง ตนยังรักลูกเสมอ
 
แต่สาเหตุที่ฟ้องร้องก็เพราะต้องการให้เขาพูดออกมาว่า ใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังและสั่งให้เขาพูดอย่างนั้น ตนจำได้ว่าคนที่เปิดประเด็นเรื่องนี้เป็นสาวคนใกล้ชิดของลูกชาย ไม่ใช่ลูกชายเป็นคนพูดเอง ตนยังเชื่อเสมอว่าน้องเพชรยังให้ความเคารพพ่ออยู่ 
   



ก่อนหน้านั้นวานนี้(19มิ.ย.)นายสรภพ ลีละเมฆินทร์ หรือ"เพชร"ลูกชายอดีตราชินีลูกทุ่งพุ่มพวง ดวงจันทร์กับไกรสร ลีละเม ฆินทร์ (แสงอนันต์) ให้สัมภาษณ์ ว่า

อยากให้ทุกคนดูเทปการแถลงข่าว และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่วัดทับกระดาน และเทปงานแถลงข่าวของอีกฝ่ายเพื่อให้ประชาชนได้ตัดสิน หลังจากนั้นนายสรภพได้เปิดเทปบันทึกงานดังกล่าวทั้ง 2 งานให้ผู้สื่อข่าวดู ก่อนนำสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาลาดพร้าว ที่ระบุว่าเปิดขึ้นเพื่อให้ประชาชนร่วมบริจาค ซึ่งในบัญชีมีเงินอยู่ 11,600 บาทมาแสดง 
 
นายสรภพกล่าวว่า บัญชีดังกล่าวเป็นบัญชีของตนที่ทุกคนกล่าวหาว่าเป็นบัญชีของ น.ส.ธิดารัตน์ โดยในส่วนที่ตั้งตู้รับบริจาคไว้ยังไม่ทราบว่ามียอดเงินเท่าไหร่ เพราะเพิ่งลาสิกขาออกมาจึงยังไม่ได้นับเงิน 
 
"การที่น้าๆ ออกมาขัดไม่ให้สร้างหุ่นแม่ผึ้ง ผมถามว่าสาเหตุตรงนั้นเพราะอะไร เขาบอกว่า ยายและน้าไม่ให้สร้าง ผมจึงคิดว่าเอาอย่างนี้ดีกว่า ตอนที่ผมเป็นพระ ผมเคยออกรายการโทรทัศน์และเปิดให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน โดยโหวตเข้ามา ปรากฏว่าคนที่อยากให้ผมสร้างหุ่นมีถึงร้อยละ 93.88 ผมจึงจะต้องดำเนินการต่อไป" นายสรภพกล่าว 
 
นายสรภพยังกล่าวถึงประเด็นที่ น.ส.จันทร์จวง ดวงจันทร์ น้าสาว ออกมาบอกให้ใช้เงินตัวเองในการสร้างหุ่น ว่าเป็นการดีและขอบคุณที่ได้ชี้แนะทางออกให้

โดยตนจะขอนำเงินของแม่มาใช้ นั่นเพราะตนมีสิทธิ์ที่จะใช้เงินของแม่ ที่แม่สร้างมา และการที่น้าๆ ออกมาบอกว่า ทำไมใช้เงินตัวเองสร้าง บอกเลยว่าจะใช้เงินตรงนั้นได้อย่างไร ในเมื่อตอนที่เป็นนักร้อง พ่อก็ออกมาให้ข่าว น้าๆ ก็ออกมากีดกันเพื่อไม่ให้ตนมีงาน ส่วนตัวแทบจะไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว  
 


"ถามว่ารู้ได้อย่างไร ว่าถูกกีดกัน มีผู้ใหญ่บอกมา ซึ่งผู้ใหญ่ท่านนั้น ไม่อยากจะยุ่งเรื่องในครอบครัว

และคิดว่าหากบวชอย่างไร ต้องมีคนมาทำบุญให้อยู่แล้ว จึงจะนำเงินส่วนนี้ไปสร้างหุ่นแทน ส่วนเรื่องจะทวงสิทธิ์มรดกของแม่หรือไม่ ผมยังขอไม่พูดตอนนี้ และยังไม่มีการติดต่อคุยกับพ่อเรื่องมรดก ยังไม่ทันไร พ่อก็ออกข่าวมาแล้ว ว่าถ้าผมจะเอามรดกตรงนั้นไปใช้ก็ให้ไปฆ่าเขาเสียก่อน พ่อเขาคิดได้อย่างไร ผมจะไปฆ่าเขาได้ยังไง ผมงง คือผมไม่ได้เรียกร้องแล้วจู่ๆ พ่อมาหาว่าผมจะเอา ซึ่งเงินของพ่อผมไม่ยุ่งแน่นอน" นายสรภพกล่าว
  
นายสรภพกล่าวว่า ชาติปางก่อนไม่รู้ว่าเคยทำอะไรกับน้าๆ ญาติๆ อาจเป็นเวรกรรม แต่อยากจะบอกว่าขอให้ทุกคนหยุด ให้เห็นใจแม่ผึ้ง

ยอมรับว่า 4-5 ปีที่ผ่านมา เบื่อที่จะต้องออกมาทะเลาะกับญาติ วันนี้จึงขอยุติทุกอย่าง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทะเลาะกันอีกในปีหน้า หรือปีไหนๆ ก็ตาม ส่วนเรื่องการละเมิดทางเพศที่มีการเปิดประเด็นว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร นายสรภพตอบว่า ไม่ทราบว่าข่าวนี้ออกไปได้ยังไง ใครเป็นคนจุดประเด็นขึ้นมา เมื่อผู้สื่อข่าวตอบกลับว่า น.ส.ธิดารัตน์ อรรถรัตน์ หรือ "น้ำอ้อย" แฟนสาว เป็นคนบอก นายสรภพกล่าวเลี่ยงๆ ว่าได้รับหลายสิ่งหลายอย่างในบ้านหลังนั้น ตลอดที่อยู่มา 18 ปี หากใครไม่ใช่ตนคงไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร อีกทั้งไม่มีหลักฐานที่จะมาแสดง จึงอยากให้เรื่องยุติ และขอไม่พูด 
 
นักข่าวพยายามถามเกี่ยวกับกรณีเรื่องละเมิดทางเพศของผู้เป็นพ่อ ที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ ว่าจริงหรือไม่ เพชรพยายามตอบเลี่ยง

เพราะไม่อยากพูดถึง นักข่าวไม่ละความพยายาม ยังถามต่อด้วยว่าโดนกระทำตั้งแต่เมื่อไหร่ ทายาทอดีตราชินีลูกทุ่งเพียงคนเดียวตอบคำถามนี้ว่า ตั้งแต่เมืองนอก คนที่เมืองนอกก็รู้ และเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เคยคุยกับพ่อแล้ว และได้คำตอบว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ  นายสรภพได้กล่าวขอให้พ่อและน้าๆ ปล่อยตนไป แต่ไม่ใช่ตัดขาด เพราะถ้าตัดขาดคือการไม่เจอกัน ไม่คุยกัน อยู่ในวงการก็ต้องเจอกันคุยกันเป็นธรรมดา ปัญหาทุกอย่างขอเก็บไว้คนเดียว ยอมเจ็บคนเดียวดีกว่า หลายคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ไม่ขอพูดจากปากตนจะดีกว่า
   


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์