“เพชร” รับ โดนพ่อกระทำตั้งแต่อายุ 12 เผย ญาติพุ่มพวง รู้แต่ไม่เคยช่วยอะไร

“เพชร” ย้ำ ไม่ตอบเรื่องข่าว "ไกรสร" วิปริตทางเพศ แต่รับโดนพ่อกระทำมาตั้งแต่อายุ 12 แต่ไม่บอกว่าเรื่องอะไร สาบานไม่ได้โกหก เผยญาติพุ่มพวงรู้ดีแต่ไม่เคยช่วยอะไร ซ้ำตอนนี้ยังมาเข้าข้างพ่ออีก สุดช้ำออกเทปก็โดนพ่อกับน้าๆ สกัดงาน เจ้าตัววอน ขอยุติเรื่องนี้ทุกอย่างขอเป็นคนรับไว้เอง
       
       ยังคงไม่จบง่ายๆ สำหรับเรื่องราวความบาดหมางระหว่าง “เพชร สรภพ ลีละเมฆินทร์” ทายาทคนเดียวของราชินีลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” กับผู้เป็นพ่อ “ปุ้ม ไกรสร แสงอนันต์” และญาติพี่น้องฝ่ายแม่ ที่ตอนนี้ประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจ หนีไม่พ้นสาเหตุที่ทำให้เพชรหนีออกจากบ้านเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งมีกระแสว่าปมที่แท้จริงเป็นเพราะเรื่องความผิดปกติทางเพศของผู้เป็นพ่อ ที่ทำให้เพชรรับไม่ได้ ถึงขั้นประกาศไม่สามารถจะอยู่กับพ่อได้อีกต่อไป
       
       แม้ว่าก่อนหน้านี้หนุ่มเพชรจะออกมาเคลียร์เรื่องนี้ไปแล้ว ว่าไม่ขอพูดถึง เพราะพูดไปสังคมคงรับไมได้ ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันนี้(19 มิ.ย.) หลังจากที่เจ้าตัวเดินทางไปอัดรายการ “Next station พรหมพร” ทางช่อง5 ก็ได้เปิดใจอีกครั้ง โดยยืนยันไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้อีก แต่รับว่าโดนพ่อกระทำมาตั้งแต่อายุ 12 จนทนไม่ได้ แต่ไม่ยอมบอกว่าเป็นเรื่องอะไร
       
       “ตอนบวชมีพระผู้ใหญ่บอกว่าบวชครั้งนี้จะมีผู้ใหญ่มาทำให้ผ้าเหลืองเสื่อมเสีย การบวชภายใน 15 วันครั้งนี้ ต้องสู้รบปรบมือมือกับมาร มีมารมาขัดขวางดึงผ้าเหลืองออก แต่ไม่คิดว่ามารที่จะเจอจะกลายมาเป็นญาติตัวเอง เสียความรู้สึก เสียใจ วันนั้นไมไม่มีใครฉุกคิดถึงดวงวิญญาณแม่ผึ้งเลย”
       
       “กับข่าวเรื่องราวที่ผ่านมารู้สึกผิดหวังสะเทือนใจมากกับการแถลงข่าวของญาติ ทุกคนน่าระรู้ว่าอะไรเป็นอะไร อย่าได้โกหกต่อไปเลย ความลับไม่มีในโลกนี้ อยากเก็บทุกอย่างไว้ให้เป็นเรื่องของครอบครัวดีกว่า ที่ออกมาเปิดใจวันนี้เพราะอยากยุติเรื่องราวทุกราวทุกอย่าง ไม่ขอพูดอะไรอีกต่อไปแล้ว”
       
       ส่วนกรณีที่น้าสาวฝากถามว่า เหตุใดถึงไม่ใช้เงินตัวเองในการสร้างหุ่นพุ่มพวง มาเปิดรับบริจาคทำไม? กับเรื่องนี้เพชรแจกแจงว่า เป็นเพราะตอนออกอัลบั้มโดนพ่อและญาติๆ บล็อกงาน ทำให้ไม่มีเงินเก็บ งานนี้เจ้าตัวถึงกับโพล่งขึ้นมาว่าถ้าอย่างนั้นจะขอตรวจสอบมรดกแม่ ที่ตนสมควรจะได้ เพื่อนำเงินมาสร้างหุ่นให้สำเร็จ ส่วนจะฟ้องแบ่งมรดกหรือไม่เป็นเรื่องของอนาคต
       “ตอนที่ผมเป็นนักร้องทางญาติและพ่อบล็อกงาน ก็เลยไม่ค่อยมีงาน มีแต่งานโชว์ตัวฟรี ทำให้ไม่มีเงิน ผู้ใหญ่เป็นบอกผมเองทำให้รู้ว่าทำไมเราถึงไม่มีงาน แต่เขาไม่อยากยุ่ง แต่ถ้าน้าบอกว่าทำไมไม่สร้างด้วยเงินตัวเอง ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ผมจะเอาเงินแม่มาสร้าง ผมจะขอตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมด ผมจะเอาเงินมรดกมาสร้างหุ้นแม่”
       
       “เรื่องเงินมรดกพ่อไม่เคยบอกผมเลย ไม่เคยรู้ และผมก็ไม่เคยสนใจ แต่ตอนนี้จะขอตรวจสอบแล้ว รวมทั้งเงิน 50 ล้าน ที่พ่อบอกว่าผมผลาญไปตอนที่อยู่อเมริกา ผมก็จะขอตรวจสอบด้วย ให้พ่อเอาหลักฐานที่ว่าใช้เงินแม่ไป 50 ล้านมาให้ดู เพื่อจะขอเคลียร์ เพราะยืนยันว่าไม่ได้ใช้ขนาดนั้น ส่วนเรื่องจะฟ้องหรือเปล่าให้เป็นเรื่องของอนาคต”
       
       ยืนยันไม่ขอพูดถึงกระแสความผิดปกติทางเพศของผู้เป็นพ่อ แต่เผยโดนกระทำมาตั้งแต่อายุ 12 จนทนไม่ไหว
       “ขอไม่พูดถึงเรื่องนี้เพราะจะเป็นการจุดประกายขึ้นมาอีก ต่อไปนี้ถ้าพ่อพูดอะไรก็จะไม่ตอบโต้อีกแล้ว เพราะสังคมสังคมไทยรับไปได้ที่ลูกจะออกมาตอบโต้พ่อ ทุกอย่างผมขอรับไว้เอง“
       
       “เรื่องนี้มันก็มีส่วนที่ทำให้ออกจากบ้าน ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมามันโหดร้ายหรือสะเทือนใจ เคยมีการเปิดอกพูดคุยกับพ่อแต่เขาก็บอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ พ่อสาบานผมก็สาบานเหมือนกัน ยังไงก็ตามผมเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง แต่อาจจะยังไม่เจอ ยังไงก็เชื่อว่าเจอชาตินี้แน่นอน”
       
       “เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่ผมเริ่มโต ตั้งแต่ไปเมืองนอกอายุ 12 ได้ ไปปรึกษาใครเขาก็บอกให้เงียบไว้ เพราะว่าเขาเป็นผู้ใหญ่กว่า ทางญาติๆ ก็รู้เคยบอกให้ลุงฟังแล้ว ตอนแรกเหมือนเขาโมโห แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น ยอมรับว่าตัวเองมีปัญหา มีปมด้อย อายที่จะปรึกษาคนอื่น ตั้งแต่นั้นมาเหตุการณ์มันก็เกิดขึ้นซ้ำๆ เรื่อยๆ มาตลอด เขาบอกว่าเขาจะหยุด แต่เขาก็ไม่หยุดสักที”
       
       “พ่อเขาสั่งไม่ให้พูดเรื่องนี้ แต่ใครๆ เขาก็รู้ เพื่อนสนิทกันรู้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เมืองไทยหรือเมืองนอก แต่เขาจะพูดอะไรได้ มันก็เหมือนน้ำท่วมปาก”
       
       ถูกมองว่าปมดังกล่าวทำให้เจ้าตัวรังเกียจผู้เป็นพ่อหรือเปล่า? เพราะในวันที่ทะเลาะกันที่วัด ในวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ถึงไม่ยอมให้พ่อถูกเนื้อต้องตัวแม้แต่นิดเดียว
       “ไม่ได้รังเกียจพ่อ แต่รู้สึกกลัวพ่อ อะไรที่ทำให้พ่อมีความสุขผมยอมทำทุกอย่าง เรื่องนี้คนที่ยื่นมือมาช่วยผมจริงๆ ก็คือทางฝ่ายที่บ้านของแม่บุญธรรม เพราะว่าเหตุการณ์นี้ทำให้ผมหลอน และนอนไม่หลับตลอดมา”
       
       รับโมโหที่แม่เลี้ยงใส่ความ “อ้อย” แฟนสาวว่าเคยโดนข่มขืน ซ้ำยังเป็นผู้หญิงใจแตก ท้าหาความจริงมาพิสูจน์ พร้อมบอกถึงเรื่องนี้จะจริงหรือไม่จริงก็ยังรักอ้อยเหมือนเดิม
       “ผมรู้สึกโมโหมาก จะพูดอะไรก็ขอให้มีหลักฐาน ไม่ว่าอ้อยจะเป็นยังไง จะเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าผมก็ยังรักอ้อยอยู่ ถ้าคุณโอ๊ตไม่ออกมาขอโทษจะฟ้อง หรือไม่ก็ให้หาหลักฐานมา”
       
       “ขอร้องให้ปล่อยไปเพราะผมเลือกที่จะอยู่กับทางนี้ (ยกมือไหว้เสียงสั่นเครือ) มีความสุขที่จะอยู่กับทางนี้ จากที่แย่ตอนนี้ก็มีสติขึ้น ทางนี้ช่วยให้ดีขึ้น ยอมรับว่าแต่ก่อนเป็นเด็กมีปัญหา แต่ตอนนี้รู้สึกชีวิตมีครบทุกอย่างแล้ว รู้สึกอบอุ่นตั้งแต่มาอยู่กับครอบครัวนี้ กับอ้อยยอมรับว่าผมรักอ้อยมาก ความสัมพันธ์ตอนนี้ก็คือเป็นแฟนกัน แต่ถ้าอ้อยยังไม่อยากแต่งงาน โอเคตอนนี้อาจจะมีปัญหา ขอเวลาเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน แต่ผมเป็นคนรักเดียวใจเดียว”


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์