ก้อง-ชณัฐ วุฒิวิกัยการ หนุ่มคนนี้มีดีที่สมอง

ชายหนุ่มตัวเล็ก ๆ หน้าตาทะเล้นคนนี้ เราคงคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้างในฐานะพิธีกรรายการกบนอกกะลา ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์ 2 ทุ่ม 40 นาที ทางช่อง 9
 
และวัยรุ่นหลายคนอาจเป็นแฟนคอลัมน์ “อะไรอะไรก็กู” ของเขา ที่เขียนลงใน a day หนังสือเด็กแนวแห่งยุค  โดยที่ไม่รู้ว่าเรื่องราวกวน ๆ ที่กำลังอ่าน  กลั่นมาจากสมองของหนุ่มคนนี้
 
“ก้อง-ชณัฐ วุฒิวิกัยการ” เป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด ชีวิตวัยเด็กของเค้าอาจเหมือนกับเด็กในเมืองใหญ่หลาย ๆ คน คือ ผูกพันอยู่กับบ้าน รถโรงเรียน  ทางด่วน และโรงเรียน  เขาเพิ่งขี่จักรยานเป็นตอนที่เรียนอยู่ชั้น ม.2 ในขณะที่เด็ก ป.1 ข้างบ้านสามารถขี่ปล่อยมือได้แล้ว  ก้องเลือกที่จะเล่นคนเดียวแทนที่จะเล่นกับเพื่อนวัยเดียวกัน ซึ่งก็ล้วนเป็นวงศาคณาญาติของตัวเองและที่สำคัญทั้งหมดเป็นผู้หญิง
 
การที่ก้องต้องทำกิจกรรมคนเดียวในวัยเด็ก ได้ก่อเกิดพลังจินตนาการ แต่มันเติบโตอย่างสงบภายในสมองของเขา จนกระทั่งเขาเริ่มรู้จักชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ชีวิตของก้องก็เปลี่ยนแปลงไป
 
ก้องจบชั้นมัธยมจากโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และเข้าเรียนต่อด้านออกแบบผลิตภัณฑ์ คณะสถาปัตย์ ลาดกระบัง ชีวิตในรั้วโรงเรียนและมหาวิทยาลัยจะเน้นกิจกรรมมากกว่าเกรดเฉลี่ย 

ก้อง-ชณัฐ วุฒิวิกัยการ

และที่นี่ที่ทำให้จินตนาการของเขาถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง 
 
ก้องเป็นนักกิจกรรมตัวยง ตอนเรียนมัธยมเขาชอบงานขีด ๆ เขียน ๆ จึงชอบที่จะวาดการ์ตูน และแต่งเรื่องราวลงในกระดาษ ก่อนที่จะเย็บเป็นเล่มเล็ก ๆ ไปให้เพื่อนอ่านแลกกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเพื่อน ขณะเรียนอยู่มหา วิทยาลัยเขาเข้าร่วมกิจกรรมทุกอย่างที่ขวางหน้า รวมไปถึงการเข้าไปมีส่วนร่วมและเล่นละครเวทีของคณะ ซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่เขาเรียนอย่างสิ้นเชิง
  
“ช่วงนั้นเรียกได้ว่ากำลังค้นหาตัวเอง  ถึงจะเรียนด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ แต่ก็ดันมาพบว่าตัวเอง มีความสามารถเรื่องการเขียน เรื่องการใช้ภาษาอีกอย่างหนึ่ง แต่ไม่ได้เลือกเรียนผิดนะ เพราะสิ่งที่เรียนมาเป็นเรื่องของศิลปะ ความคิดริเริ่มสร้าง สรรค์ ซึ่งผมก็สามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานปัจจุบันที่จำเป็นต้องใช้ศิลปะเข้ามาช่วย ผมว่าได้ใช้สิ่งที่เรียน มา 70-80% เลย”
 
อย่างที่บอกแล้วว่าก้องเป็นคนชอบเขียน เขาจึงสมัครเข้าไปในโครงการนักศึกษาฝึกงาน a team junior 3 ของนิตยสาร a day แทนที่จะฝึกงานในสาขาที่เรียนมา ในช่วง 3 เดือนของการฝึกงาน ก้องแสดงฝีมือด้านการเขียนแนวกวน ๆ ลงในหนังสือเล่มพิเศษที่ทีมเด็กฝึกงานจะต้องทำออกมา 1 เล่ม รวมไปถึงหาญกล้าออกพ็อกเกตบุ๊กของตัวเองอีก 1 เล่ม ชื่อ “หลุม”  ซึ่งได้รับการเขียนถึงจากบรรดาผู้คร่ำหวอดในวงการเขียนเป็นอย่างมาก และเจ้าตัวเองก็ภูมิใจสุด ๆ
 
พอเรียนจบก้องทำงานในสาขาที่เรียนมาในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ทำได้เพียง 3 เดือนก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เป้าหมายในชีวิต ก้องเข้าไปสมัครงานในบริษัท เวิร์คพอยท์ โดยที่ไม่คิดว่าตัวเองจะได้งานนี้ เพราะใช้พอร์ตงานด้านการออกแบบเป็นเอกสารในการสมัคร ในขณะที่เวิร์คพอยท์ ทำงานด้านรายการทีวีและละคร  แต่ก้องก็ผ่านเข้ามาได้  ต่อมามีโอกาสได้ไปอยู่บริษัท เอ็กแซ็กท์ และ ซีเนริโอ ทำให้เขาได้เรียนรู้ด้านการทำงานทีวี  จนกระทั่งจับพลัดจับผลูได้มาเป็นพิธีกรในรายการกบนอกกะลา

ก้อง-ชณัฐ วุฒิวิกัยการ

“งานพิธีกรเป็นอีกงาน  ที่ผมใฝ่ฝัน เพราะสมัยเรียน  ผมมักจะรับหน้าที่เป็นพิธีกร  ได้ฝึกเวลาเป็นรุ่นพี่ต้องคุย  กับรุ่นน้อง ได้ฝึกการพูดในที่สาธารณะและการเป็นพิธีกร กบนอกกะลาทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก ที่ผ่านมาผมอาจจะเหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่มีความชอบ มีความสนใจ และ รู้หลายอย่าง  แต่ไม่รู้ลึกสักอย่าง แต่พอมาทำรายการ  ทำให้ผมรู้ว่าโลกนี้ทั้งกว้างและลึกกว่าที่ผมคิดไว้มากนัก ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีมาก”
 
“ส่วนงานเขียนใน a day ผมก็ยังเป็นคอลัมนิสต์อยู่ โดยหยิบจับเรื่องรอบ ๆ ตัวมาเขียนในแนวของผม คือกวน ๆ แต่อีกไม่นาน คอลัมน์ อะไรอะไรก็กู อาจจะต้องปิดลง แต่จะมีคอลัมน์ใหม่ ซึ่งตอนนี้กำลังคุยกับพี่ทีมงานอยู่ ซึ่งก็คงจะเขียนในแนวเดิมแต่มีเนื้อหาที่ลึกและกว้างขึ้น”
 
ก้องเขียนไว้ในบทบรรณาธิการหนังสือ a day ตอนที่เขาฝึกงานว่า “หากสักวันหนึ่งเสือชีตาห์เลือกที่จะลองโดดลงไปฝึกว่ายน้ำดูบ้าง ก็อาจพบว่ามันไม่ได้มีพรสวรรค์เพียงแค่การวิ่งอย่างเดียวก็เป็นได้ ติดอยู่ที่มันยังคงยึดติดว่าสัตว์เชื้อสายตระกูลแมวอย่างมันย่อมต้องกลัวน้ำกันตามวิถีชีวิตแมว ๆ มันจึงเฝ้าภูมิใจกับการวิ่งอย่างเดียวของมันต่อไป แต่ผมไม่อยากถูกกำหนดอยู่ในวิถีชีวิตแมว ๆ แบบนั้น ถ้าผมจะต้องจมน้ำสักทีสองทีก็คงดีกว่าไม่เคยลองทำอย่างอื่นดูบ้าง”

ก้อง-ชณัฐ วุฒิวิกัยการ