มือโทรฯป่วนบลู-เอลิกามอบตัวตำรวจ

มือโทรฯป่วน"บลู เอลิกา"มอบตัว อ้างเป็นช่างภาพอิสระ โทรติดต่อเรื่องงานครั้งเดียว ปฏิเสธไม่ได้พูดเกินเลย ด้านเหยื่อสาวโวย มือป่วนให้ข่าวเท็จ เผย หากยอมรับผิดจะไม่เอาความ


(2มิ.ย.) 00.25 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าคดี น.ส.เอลิกา พลอยอัมพร หรือบลู วัย 23 ปี นักแสดง-นางแบบได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสน.ทองหล่อ กรณีถูกหนุ่มโรคจิตโทรศัพท์ก่อกวน ล่าสุดพ.ต.อ.มานพ สุคนธนพัฒน์ ผกก.สน.สุทธิสาร เปิดเผยว่า นายปริญญา โทรพันธุ์ อายุ 27 ปี พนักงานบริษัทสยามซานทราแวร์ อินดาสตี้ อยู่บ้านเลขที่ 18/37 หมู่บ้านท่าทรายนิเวศน์ ถ.สามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้เดินทางเข้าพบหลังทราบข่าวดังกล่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์



นายปริญญา กล่าวว่า เมื่อทราบข่าวรู้สึกตกใจมาก เพราะตนเป็นคนโทรศัพท์ไปเอง และไม่มีเจตนาที่จะทำให้นางแบบสาวเกิดอาการกลัว

โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยอมรับว่าได้โทรศัพท์เข้าเบอร์ส่วนตัวห้องพักภายในคอนโดมิเนียมจริง และยืนยันว่าเป็นครั้งแรกที่โทรศัพท์ สำหรับก่อนหน้านี้ที่นางแบบสาวให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ตนไม่ได้เป็นคนโทรศัพท์ไปแต่อย่างใด “ผมเป็นช่างภาพอิสระ และมีเจตนาที่จะโทรฯไปติดต่อให้น้องเขามาถ่ายแบบ โดยได้ขอเบอร์จาก1133 ผมได้บอกนามสกุลน้องเขากับทาง1133 ไป จากนั้นจึงได้โทรหา แต่ไม่ได้พูดคุยเกินเลยจนน่าเกลียด ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับการรับงาน ยอมรับว่าบางคำพูดที่น้องเขาได้ให้ข่าวไปเป็นการเจรจาระหว่างผมกับน้องเขาจริง แต่ไม่คิดว่าน้องเขาจะคิดเกินเลยว่าผมจะคิดแบบนั้น หลังจากผมเห็นข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ก็รู้สึกตกใจมาก”นายปริญญากล่าว
 
 นายปริญญา กล่าวต่อว่า เมื่อข่าวได้เผยแพร่ออกไปไม่นาน ก็ทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบการเคลื่อนไหวทางโทรศัพท์ของตน

จึงรู้ สึกกลัว และเดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะตนไม่ได้โทรไปพูดจาลวนลาม และชวนถ่ายรูปโป๊ แต่ยอมรับว่าชวนถ่ายรูปบอดี้แพนท์จริง วันนี้ที่ตนเดินทางมายังสน.สุธิสรา เพราะใกล้กับที่ทำงาน และอยากขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วยด้านนางสาวเอลิกา กล่าวว่า หลังจากที่นายปริญญาเข้าพบผู้กำกับสน.สุทธิสาร จากนั้นได้มีการโทรศัพท์แจ้งให้ตนทราบ จึงเดินทางมา เมื่อมาถึงได้เข้าพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ซึ่งตอนนั้นรู้สึกโล่งใจมากเพราะนายปัญญาได้รับสารภาพทั้งหมด รวมถึงยอมรับผิดว่าเขาเป็นคนพูด เรื่องอย่างว่าทั้งหมดจริง แต่เมื่อมาให้ข่าวกับผู้สื่อข่าวกลับกลายเป็นว่าคนละเรื่องกัน
 
 “เขาพูดถึงเรื่องในร่มผ้าของหนู พูดถึงเรื่องความขาวของผิว แถมยังชวนคุยลึกไปถึงเรื่องส่วนตัว แอบอ้างเป็นช่างภาพนิตยสารFHM ซึ่งขณะที่คุยกันเป็นการส่วนตัวก่อนผู้สื่อข่าวจะมาเขาก็ยอมรับแต่โดยดี กระทั่งถึงตอนนี้กลับกลายเป็นบอกว่าเป็นเพียงช่างภาพอิสระ ทั้งๆที่ตัวเขาเองไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับช่างภาพเลย หนูจึงกลับมากลุ้มใจอีกครั้งเมื่อเขากลับคำ”นางสาวเอลิกากล่าวนางสาวเอลิกา กล่าวต่อว่า ตนยืนยันว่านายปัญญา ได้พูดทุกคำพูดตามที่ได้ให้ข่าวไป ซึ่งหากนายปัญญารับผิดทั้งหมดตนจะไม่เอาความ แต่หากยังยืนยันว่าไม่ได้พูดไม่ได้ทำก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
 ด้านนายจักรพัชร บูรณะบุตร บรรณาธิการบริหารนิตยสารFHM เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องจากนางสาวเอลิกาว่ามีคนแอบอ้างเป็นช่างภาพของทางนิตยสาร

ตนก็ไม่นิ่งดูดาย ได้ให้ทางบริษัทลองโทรกลับไปตรวจสอบตามหมายเลขที่ก่อเหตุ ปรากฏว่า รับสายแล้ววาง ไม่มีการพูดโต้ตอบ อย่างใดก็ตามบ่อยครั้งที่มีคนโทรแอบอ้างไปหลอกดาราว่า เป็นช่างภาพจากนิตยสารของเรา ซึ่งต้องขอให้บรรดานางแบบตรวจสอบให้แน่ชัดอย่าหลงเชื่อ “หากว่าทางนิตยสารFHM ติดต่อไปทุกอย่างจะมีหลักฐานตัวตนชัดเจน แม้กระทั่งชื่อของคนติดต่อไป ทีมงานทุกคนมีชื่อปรากฏอยู่ในนิตยสารทุกเล่ม ส่วนที่นายปัญญาอ้างว่าเขาชื่อเอก ขอยืนยันตรงนี้ว่าบริษัทเราไม่เคยมีคนชื่อเอกเลย ทั้งนี้หากนางแบบท่านใดไม่แน่ใจถึงการติดต่อขอขึ้นปก ก็สามารถโทรกลับมาเช็คกับทางนิตยสารได้ตลอด”นายจักรพัชรกล่าว
 
 ด้านพ.ต.อ.มานพ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และส่งต่อไปยังสน.ทองหล่อ เจ้าของท้องที่เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์