ไหนว่าผู้ใหญ่จัดให้ “เมียเก่า แฉถูก “การ์ตูน” แย่งผัวไปแต่งงาน ซัดเป็นเมียน้อยตั้งแต่ม.3


ไหนว่าผู้ใหญ่จัดให้ “เมียเก่า" แฉถูก “การ์ตูน” แย่งผัวไปแต่งงาน ซัดเป็นเมียน้อยตั้งแต่ม.3



“เมียเก่า” ออกโรงแฉ “การ์ตูน” ยันผู้ใหญ่ไม่ได้เป็นฝ่ายจัดให้แต่งงานอย่างที่กล่าวอ้าง เผยเป็นเมียน้อยตั้งแต่อยู่ม.3 ใช้ชีวิตคู่เกือบ 3 ปีไม่ใช่แค่ช่วงเวลาสั้นๆ สุดแสบหอบข้าวของเข้าบ้านฝ่ายชายทั้งที่เมียยังอยู่ ก่อนจะฉกไปแต่งงานตอนอายุ 16 สุดแค้นนักแสดงชื่อดังสวมบทแม่เลี้ยงใจร้ายใช้เด็กอนุบาลถูบ้าน แถมกีดกันไม่ให้พบหน้าแม่ โชคดีภายหลังได้ไปเป็นดาราก็เลยเลิกกับผู้ชาย ทำเอาเมียเก่าอวยส่งขอให้โด่งดังร่ำรวย จะได้ไม่กลับมาทำลายครอบครัวคนอื่นอีก
       
       ก่อนหน้านี้เคยปฏิเสธข่าวลือเรื่องการแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่พอมีภาพถ่ายเวดดิ้งคู่กับเจ้าบ่ายผมยาวที่ระบุในภาพว่าชื่อ “หนึ่ง” ก็เล่นเอา “การ์ตูน อินทิรา เกตุวรสุนทร” ต้องออกมาสารภาพว่าเคยแต่งงานมาแล้วจริงๆ แต่ก็ยังไม่วายบอกเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่จัดการให้ แค่ช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ได้แย่งเจ้าบ่าวมาจากอกคนอื่นเหมือนที่ร่ำลือกัน
       
       งานนี้ “พิมพ์” ภรรยาของ “หนึ่ง” อดีตเจ้าบ่าวของการ์ตูน ก็เลยออกมาให้สัมภาษณ์ตอกกลับมันหยด แถมยังหอบหลักฐานมาเพียบไม่ว่าจะเป็นใบเสร็จที่ไปถ่ายภาพที่สตูดิโอ การ์ดงานแต่ง สมุดอวยพร ทะเบียนบ้าน ภาพถ่ายในวันหมั้นและวันแต่งงานที่การ์ตูนยืนยิ้มหวาน สวนทางกลับสิ่งที่ให้สัมภาษณ์ว่าผู้ใหญ่จัดให้
       
       “แต่งงานกับคุณหนึ่งตั้งแต่ปี 32 ก็อยู่กันมาปกติเขาก็มีกิ๊กนั่นกิ๊กนี่เป็นธรรมดา แต่ถ้าเกิดเรารู้เราก็จะไม่ยอมก็ขาวีนอยู่แล้วก็จะเลิก จนกระทั่งมาเจอเด็กคนนี้เขาไม่ยอมเลิก แล้วพ่อแม่ฝ่ายผู้หญิงเขาก็จับหมั้นจับแต่งเขาก็ไม่ยอมเหมือนกัน เขาหมั้นทั้งๆ ที่เราก็ยังอยู่ ก็คือเขาเป็นเด็กเขามีสิทธิ์ที่จะไม่ยอม เราก็อยู่ได้เท่าที่เราอยู่ได้พอทนไม่ไหวก็มูฟ ตอนที่เขาหมั้นกันคุณหนึ่งยังอยู่กับเรา แต่พอเขาแต่งงานกันก็แยกกันไปเลย”
       
       “เขาเด็กมาก ตอนที่เข้ามาแรกๆ เด็กกว่านี้อีก(เด็กกว่าในรูป) คือจริงๆ แล้วพี่สาวเขาเป็นเมียน้อยของพี่หนึ่งตั้งแต่แรกชื่อกุ้ง แล้วกุ้งจะเป็นคนส่งเสียเลี้ยงดูน้องการ์ตูนเขาก็ย้อนรอยเลย คือตอนแรกที่คุณหนึ่งเลิกกับคนชื่อกุ้งไป คือกุ้งนี่ไม่ใช่พี่สาวแท้ๆ นะคะแต่เป็นคนที่อุปการะส่งเสียเลี้ยงดูเขาตั้งแต่ ป.5 ป.6 ม.1 ม.2 การ์ตูนก็เป็นเด็กในบ้านวิ่งซื้อน้ำแข็ง”
       
       “พอกุ้งเขาเลิกกับคุณหนึ่งไป ครั้งแรกการ์ตูนก็โทรเข้ามาขอค่าเทอมคุณหนึ่ง ตอนนั้นอยู่ประมาณม.3 เขานัดเจอกันยังไงไม่ทราบแต่เขาติดต่อกันเรื่อยมา ซึ่งตอนแรกเรายังไม่รู้ว่าใครเป็นคนโทรมา พึ่งจะมารู้ตอนหลัง รู้สึกว่าลูกคนโตจะบอกว่า แม่จำได้ไหมคนที่ชื่อตูนที่เคยอยู่บ้านน้ากุ้งโทรมาขอค่าเทอมกับป๊า ตอนนั้นก็ยังไม่ได้สนใจอะไรเพราะเขายังไม่ได้เข้ามาที่บ้าน”
       

       “หลังจากนั้นจนเขาเกือบๆ จบม.3 เขาถึงเข้ามาที่บ้าน และก็พาลูกเราไปดูหนังเรื่องโรงแรมผี ลูกก็โทรไปบอกว่า แม่มีผู้หญิงยังเด็กอยู่เลยแม่มาดูหน่อยสิ ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้อยู่ที่บ้านเขาก็พากันไปดูหนังกับลูกๆ เราก็เริ่มจับได้จากการที่ลูกเล่าให้ฟังก็เริ่มระแคะระคาย แต่หนึ่งเขาก็บอกไม่มีอะไรหรอก มันยังเด็กอยู่มาขอค่าเทอมเฉยๆ ก็ให้ไปนิดหน่อยไม่ได้อะไร เราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเห็นว่าเขาพึ่งเลิกกับกุ้งไปคงจะไม่กล้าอะไรต่อ”
       
       “มาจับได้ตอนที่เราพาลูกไปเยี่ยมคุณยายที่ต่างจังหวัดแล้วกลับมาเร็วก่อนเวลา พอมาถึงก็เจอการ์ตูนเขาอยู่ที่บ้านแล้ว เขาก็เอาข้าวของมาไว้ที่ห้องนอนเราเรียบร้อย ตอนนั้นเราไปต่างจังหวัดแค่ 4-5 วันเองเขาก็คงจะเปิดตัวตอนนั้นเลย เพราะว่าทางด้านคุณแม่ก็คงจะไม่ยอมจะให้หมั้นจะให้แต่งมีสินสอดทองหมั้น อันนี้คือเราคิดอย่างนี้นะ”
       
       “เขาก็นั่งอยู่ในห้องทีวีพอเรามาถึงก็ถามเขาว่า มานั่งตรงนี้ได้ไง เขาบอกว่าพี่หนึ่งพามาจะมาอยู่ที่นี่ เราก็บอกจะมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ฉันยังอยู่ จากนั้นก็ทะเลาะกันก็ขว้างของใส่เขา คือแรกๆ ที่เจอกันหรือคุยโทรศัพท์เขาจะไม่กล้าเถียงเราเลยนะ เขาจะเงียบแต่มีอยู่วันนั้นแหละที่เราอาละวาดเขาก็ฉอดเรากลับเรา มันก็ยิ่งโมโหเราจะเอากรรไกรไปแทงคอเขาเลย รู้สึกว่าเด็กคนนี้มันจะไม่ยอมเราแล้วนะไม่เหมือนเมื่อก่อน ก็เอากรรไกรไปแทงเลยแต่ว่าไม่ได้เข้าหรอก เอาไปจี้คอเขาโมโหมาก”
       

       “จากนั้นก็โทรไปบอกแม่เขาว่า มารับลูกไปได้แล้วนะ แม่เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอกคุณพิมพ์ ตูนเขายังเด็กอยู่เขาไปอยู่เป็นเพื่อนพี่หนึ่งเฉยๆ มันไม่มีอะไรหรอก เราก็บอกว่า นี่ลูกสาวนะเอากลับไปได้แล้ว คือจริงๆ แล้วเขาก็รู้ทุกอย่างนะ แต่ตอนนั้นเขาคงไม่รู้จะปัดเรายังไง ก็เลยพูดประมาณว่า เขาคงไม่มีอะไรกันหรอกนะ เราก็รู้ว่าเด็กจริงแต่มันก็โตแล้วม.3”
       

       “เหตุการณ์วันนั้นก็จบลงด้วยการเราก็กลับการ์ตูนก็กลับ ต่างคนต่างไปอยู่กันไม่ได้ คือปกติเราก็อยู่ที่บ้านนี่แหละแต่เวลาทะเลาะกันก็จะไปอยู่ที่คอนโด เสื้อผ้าของใช้ก็อยู่ที่บ้านหมดแต่ถ้าไม่พอใจหรือทะเลาะกันจะไม่อยู่บ้านจะไปนอนคอนโด วันนั้นทะเลาะกันตั้งแต่ 3 ทุ่มครึ่งถึงตี 4 พอการ์ตูนยอมกลับเราถึงไปคอนโด ส่วนเขาก็กลับไปที่คอนโดแถวตะวันนาที่หนึ่งเช่าไว้ให้ แต่กลับไปวันเดียวรุ่งขึ้นเราก็กลับมา”
       
       “จากนั้นก็ทะเลาะกับหนึ่งอยู่เรื่อย พอทะเลาะกันหนักๆ ทางบ้านก็เลยแยกลูกออกไป คนแรกก็อยู่อีกที่หนึ่ง คนที่สองก็อีกที่หนึ่ง คนที่สามคนที่สี่ก็อยู่บ้าน คือทะเลาะกันมากๆ มันอยู่กันไม่ได้ครอบครัวก็แตกกระจาย”
       
       จากนั้นไม่นาน “การ์ตูน” ก็หมั้นกับหนึ่ง
       “เขาก็หมั้นกันเพราะตูนกับแม่ของเขาไม่ยอม คือเขาอายุแค่นี้เขาจะทำอะไรเราก็ได้ คือถ้าไม่หมั้นไม่แต่งก็อาจมีปัญหาพรากผู้เยาว์ แต่อันนี้คือพ่อแม่ฝ่ายผู้หญิงเขายินยอมไม่มีปัญหาตกลงกันได้ หนึ่งเขาก็ต้องแต่งไม่งั้นก็คงติดคุกมั๊ง อันนี้คือเราพูดเองนะ แต่จริงๆ แล้วเขาก็คงรักหลงเด็กคนนี้ด้วยในขณะนั้น”
       
       “ตอนนั้นที่เขาจะหมั้นกันหนึ่งก็ไม่ได้มาพูดอะไรกับเราเขาแอบไปหมั้น แต่ว่าเพื่อนเขาเป็นคนโทรมาบอก ความสัมพันธ์ของเราตอนนั้นคือยังไม่เลิกกันแต่ว่าเราไปอยู่ที่คอนโดเขาก็จะไปหาที่คอนโดทุกอาทิตย์ คือพอเรารู้ว่าตูนเขาเหยียบเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนั้นตอนที่เราไม่อยู่ เราก็ไม่อยากอยู่บ้านหลังนั้นแล้ว ก็เลยขอไปอยู่ที่คอนโด”
       
       สำหรับสินสอดทองหมั้นนั้นรวมๆ แล้วหลายล้านบาทเลยทีเดียว
       “ก็คงจะพอสมควร เชื่อไหมว่าจนบัดนี้ก็ยังไม่เคยถามว่าหมั้นเขาไปทั้งหมดเท่าไหร่"(โรมรัน อดีตพนักงานขับรถคนสนิทของหนึ่งรีบตอบ มีเงินสด บ้าน ทองเงินสอด 2 ล้านกว่าๆ และก็มีทอง บ้าน)”
       
       ส่วนสาเหตุการใช้ชีวิตคู่ครั้งนี้ที่ “การ์ตูน” อ้างว่า เกิดจากการจัดการของฝ่ายผู้ใหญ่นั้น “พิมพ์” บอกว่า.
       “คิดว่าไม่ใช่ น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินมากกว่าเพราะตอนนั้นเขาค่อนข้างเดือดร้อนมาก อย่างน้อยๆ เขาก็เห็นแล้วว่า ในสมัยที่เขายังเด็กอยู่ ม.2-ม.3 อยู่บ้านกุ้งเขาก็คงจะพอเห็นว่า ผู้ชายคนนี้มีเงินมีทองพอจะเลี้ยงดูได้ คิดว่าเรื่องเงินน่าจะเป็นอันดับแรกที่ทำให้เขาแต่ง และจากการที่เขาทะเลาะกันบ่อยๆ ฉะกันบ่อยๆ กับเราก็คงจะเป็นการอยากเอาชนะด้วย ส่วนเรื่องความรักเขาก็คงมีบ้างมันหลายๆ อย่างรวมกัน”
       

       ถามการ์ตูนย้ายมาอยู่กับ “หนึ่ง” เมื่อไหร่ “พิมพ์” บอกว่า จำไม่ได้แต่ได้หยิบใบทะเบียนบ้านให้ดูก่อนจะบอกว่า “การ์ตูน” ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้แทนพิมพ์หลังจากที่หมั้นกับ “หนึ่ง” แล้ว
       “รู้สึกเขาจะย้ายเข้ามาหลังจากหมั้น ย้ายมาเมื่อปี 45 มั้ง เขาย้ายเข้ามาตั้งแต่อยู่บ้านหลังเก่า พอมาซื้อบ้านหลังนี้เขาก็ย้ายเข้ามาบ้านหลังนี้ด้วย แต่ตอนนั้นหนึ่งก็ยังไม่ได้เลิกกับเรานะ แต่เราย้ายไปอยู่ข้างนอกแต่ลูกเขาก็คิดถึงพ่อหนึ่งเขาไปมาๆ ไม่ได้เลิกกันเด็ดขาด แต่ของแบบนี้มันรับกันไม่ได้หรอก ตอนนั้นลูกคนเล็กพึ่งอายุได้แค่ 6 เดือนเอง เขาหมั้นกันเรายังไม่ได้เลิกแต่พอเขาแต่งกันตอนปี 46 เราก็เลิกเลย”


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์