2สื่อบันเทิงเสนอแอนนี่ เขียนพ็อคเก็ตบุ๊ก ให้เงินหลายแสน


"แอนนี่ บรู๊ค"โต้"เมธี" ลั่นไม่เคยโกหกตั้งท้องเรียกรับเงิน ปัดมีสัมพันธ์ลึกซึ้งดาราเสื้อแดงแค่คบหา "เฮียฮ้อ" ยืนยันให้ "ฟิล์ม" กลับมาทำงานได้
 
เมื่อมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เลขาฯ สภาทนายความชี้"เมธี"แฉ"แอนนี่" เข้าข่ายหมิ่นประมาท

"แอนนี่ บรู๊ค"โต้"เมธี" ลั่นไม่เคยโกหกตั้งท้องเรียกเงิน

แอนนี่ บรู๊ค กล่าววันที่ 6 ตุลาคมถึงกรณีที่นายเมธี อมรวุฒิกุล ออกมากล่าวหาว่ามีพฤติกรรมโกหกว่าตั้งท้องและเรียกร้องเงินว่า ไม่มีพฤติกรรมโกหกว่าตั้งท้องและเรียกร้องเงินแต่อย่างใด ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ยอมรับว่าเคยคบหากับนายเมธีจริง แต่ไม่เคยกระทำสิ่งเสี่อมเสียหรือทำให้ใครเสียหายและไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแต่อย่างใด


"การออกมาพูดในลักษณะดังกล่าว ถือว่าเป็นการออกมาพูด เพื่อสร้างกระแสในสังคมอีกครั้ง ผู้ใหญ่ที่เข้ามาช่วยเหลือด้านกฎหมาย เห็นควรที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีนอกจากการพูดของเมธี อมรวุฒิกุล ที่สร้างความเสียหายแก่ตนแล้ว ยังมีอีกหลายคน ที่ควรจะดำเนินการฟ้องร้อง เชื่อว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง เพื่อหวังประโยชน์ส่วนตนโดยเฉพาะในทางธุรกิจ"


แอนนี่ กล่าวว่า เคยออกมาพูดต่อสังคมไปแล้วว่า อยากอยู่อย่างสงบ ไม่ต้องการตรวจดีเอ็นเอเด็กเพื่อพิสูจน์ว่าใครเป็นพ่อของเด็ก อีกทั้งไม่มีความต้องการยุ่งเกี่ยวกับ ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์และครอบครัว รวมถึงบุคคลใกล้ชิดของ ฟิลม์ ด้วย แต่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ด้วยสาเหตุใด จึงมีบุคคลใกล้ชิดของฟิล์ม ต่างออกมากล่าวหาและโจมตีอย่างต่อเนื่อง ไม่ยอมจบลงง่าย ๆ ทำให้บานปลายไปอีก ขอยืนยันว่าความจริงในวันนี้ และสิ่งที่เป็นจริงอยู่ในปัจจุบันคือตนไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือพูดพาดพิงถึงใครเลย รวมทั้งไม่ได้เรียกร้องอะไรจาก ฟิล์ม รัฐภูมิ ให้มารับผิดชอบอะไรด้วย ยืนยันและย้ำว่า ให้ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า




2สื่อบันเทิงยื่นข้อเสนอ 8หมื่น-1แสน ให้"แอนนี่"เขียนพ็อคเก็ตบุ๊ก


มีรายงานข่าวว่า ขณะนี้มีสองบริษัทใหญ่ซึ่งมีธุรกิจบันเทิงหลายสาขาอยู่ในเครือ รวมถึงนิตยสารแนวบันเทิงและพ็อคเก็ตบุ๊ก กำลังยื่นข้อเสนอให้ น.ส.รุ่งนภา แก้วไทรหาญ หรือ แอนนี่ บรู๊ค นักแสดงสาว ซึ่งตกเป็นข่าวมีความสัมพันธ์กับดารานักร้องหนุ่มคนดัง ฟิล์ม-นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ จนตั้งครรภ์และคลอดลูกชายน้องทีฆายุ วัย 3 เดือน เขียนเรื่องราวชีวิตตัวเองเป็นพ็อคเก็ตบุ๊ก เพื่อที่จะตีพิมพ์ให้ทันในช่วงงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติปลายเดือนนี้ โดยสำนักพิมพ์หนึ่งยื่นข้อเสนอเป็นเงินกินเปล่า 80,000 บาท ค่าลิขสิทธิ์ 10% จากยอดพิมพ์ครั้งแรก 10,000 เล่ม และอีกสำนักพิมพ์หนึ่งยื่นข้อเสนอกินเปล่า 100,000 บาท และค่าลิขสิทธิ์ 10% จากยอดพิมพ์ครั้งแรก 10,000 เล่มเช่นกัน

"เฮียฮ้อ" ยืนยันให้ "ฟิล์ม" กลับมาทำงานได้ เมื่อมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด(มหาชน) เปิดเผยเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีของฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ศิลปินในสังกัด ในส่วนของการทำงานกับอาร์เอส และกรณีข่าวที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน


นายสุรชัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันอาร์เอส เองมีเจตนาที่จะป้อนงาน ให้กับฟิล์ม รัฐภูมิ อยู่แล้ว แต่เนื่องจากภาพร่างกายและจิตใจ ของฟิล์มที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงาน ถ้าฝืนทำไปก็จะได้งานที่ไม่มีคุณภาพ ในอนาคตเมื่อฟิล์มมีความพร้อมเมื่อไรแล้วค่อยมาพูดคุยวางแผนเรื่องงานกันใหม่ได้ทันที ความเห็นส่วนตัวคิดว่าในขณะนี้ ฟิล์มควรจะพักผ่อนให้ร่างกายและจิตใจเข้มแข็งขึ้น และเชื่อมั่นว่าในไม่ช้า ฟิล์มคงจะกลับมาตั้งใจทำงานเหมือนเดิม เพราะว่าเขารักในวงการบันเทิง


นายสุรชัย กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาส่วนตัวที่เกิดขึ้นในขณะนี้ต่อจากนี้ไป ทางอาร์เอสฯ จะปล่อยให้ครอบครัวพิจารณา ดำเนินการไปตามความเหมาะสม ซึ่งทางเรายินดีจะให้คำปรึกษาในบางกรณี

"แม่แอนนี่ บรู๊ค"วอนทุกฝ่ายหยุดกล่าวหาลูกสาว ในทางที่เสียหาย

นางจันทร์คำ มีเลข อายุ 54 ปี แม่ของแอนนี่ บรู๊ค ชาวบ้าน ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่บุคคลต่างๆ ออกมากล่าวหาในลักษณะประณามและก่อให้เกิดความเสียหายกับแอนนี่ บรู๊ค ว่า แอนนี่ต้องการที่อยู่ในสังคมนี้อย่างสงบ เพื่อตั้งใจดูแลลูกและทำงานต่อไป อีกทั้งขอให้ทุกฝ่ายต่างคนต่างอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวซึ่งกันและกัน หลังจากเรื่องบานปลายขึ้น แอนนี่ บรู๊ค และลูกก็เก็บตัว แต่ทว่าก็มีบุคคลที่อยู่ข้าง ฟิล์ม รัฐภูมิ ออกมาพูดกระทบแอนนี่ บรู๊ค อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งที่ แอนนี่เองก็ไม่ได้ไปเรียกร้องเอาอะไรจากใคร เก็บตัวเงียบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น


"สำหรับข่าวที่เกิดขึ้นมาจากหลายคนที่ยังออกมาพูด ดิฉันรับรู้โดยตลอด ทุกคำพูด และยอมรับว่ารู้สึกเหนื่อยใจต่อสิ่งที่มีผู้ออกมาพูด เพื่อสร้างกระแสให้เกิดขึ้นในสังคมอีก ไม่ยอมจบ และจะยิ่งทำให้เรื่องเกิดบานปลายต่อไป ดิฉัน ในฐานะคนแก่คนหนึ่ง จึงอยากวิงวอนให้คนหนุ่มทั้งหลายหยุดการออกมาพูดกล่าวโจมตี แอนนี่ บรู๊ค อีก เพื่อให้ แอนนี่ บรู๊ค และลูก มีชีวิตต่อไป ส่วนเรื่องการฟ้องร้องผู้ที่ออกมาพูดให้ แอนนี่ บรู๊ค เกิดความเสียหาย นั้น ตนก็จะบอกกล่าวกับ แอนนี่ บรู๊ค ว่า อย่าไปทำ เพื่อให้ต่างคนต่างอยู่ จะเป็นการดีกว่า อย่าได้มายุ่งเกี่ยวกันอีกเลย ขอให้หมดเวรหมดกรรมเพียงเท่านี้"  นางจันทร์คำ กล่าว


นางจันทร์คำ กล่าวต่อว่า  อาการป่วยของตนเองนั้น ก็ยังทรงตัว มีความเครียดอย่างมากต่อเรื่องราวที่ยังคงส่งผลกระทบต่อลูกสาวของตนเองอย่างไม่จบสิ้น ทำให้อาการความดันโลหิตสูงตลอดเวลาและต่อเนื่อง แต่ก็ไม่อยากหาหมอโรงพยาบาล เพราะยังสามารถกินยา เพื่อบรรเทาอาการได้บ้าง และก็คงจะใช้ชีวิตอยู่ ตามประสาคนบ้านนอกต่อไป


นางจันทร์คำ กล่าวด้วยว่า ที่สำคัญอยากขอบคุณประชาชนคนลำปางที่เป็นห่วงตนและเป็นห่วงแอนนี่ คอยส่งกำลังใจมาให้ทางไปรษณีย์ โดยเฉพาะยาบรรเทาโรคความดันและความเครียด ซึ่งมีคนส่งมาให้เป็นจำนวนมาก และแม้ว่าหมอจะแนะนำให้งดการดูข่าวที่เกิดขึ้นกับแอนนี่ แต่ตนก็อดไม่ได้ที่จะต้องเปิดดูบ้าง เพราะเป็นห่วงลูก แต่ตนก็จะอดทน เพื่อจะได้เป็นกำลังใจให้ แอนนี่ สู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นจนกว่าทุกอย่างจะสงบและเป็นผลดีต่อแอนนี่ในที่สุด



เลขาฯ สภาทนายความชี้"เมธี"แฉ"แอนนี่" เข้าข่ายหมิ่นประมาท

นายวันชัย สอนศิริ เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวถึงกรณี นายเมธี อมรวุฒิกุล ดาราเสื้อแดง ออกมาพูดเรื่องแอนนี่ บรู๊คว่า เรื่องนี้มองได้สองประเด็นคือ 1.การที่ชายออกมาเปิดเผยการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงต่อสาธารณะอย่างนี้มันเสียมารยาท 2.ในแง่กฏหมายต่อให้เป็นเรื่องจริงก็ไม่ควรออกมาพูด เพราะไม่มีส่วนได้เสียกับเหตุการณ์ระหว่างฟิล์ม-รัฐภูมิ กับแอนนี่ การพูดออกไปของนายเมธี ถือเป็นการใส่ความผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ต่อบุคคลที่สาม ทำให้เขาถูกดูหมิ่นเกลียดชังเป็นหมิ่นประมาท แอนนี่สามารถฟ้องร้องดำเนินดคีได้ทั้งในทางแพ่ง และอาญา รวมทั้งการเรียกค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ย


"ผมเห็นว่า เขาต้องการสร้างกระแส ให้กลับมาในวงการบันเทิงมากกว่าจะไปเล่นการเมือง ให้ชื่อของตัวเองปรากฎในข่าว สภาทนายความพร้อมให้คำแนะนำช่วยเหลือหาทางออก และเยียวยาทางด้านคดีความให้แก่แอนนี่เอง เพราะอยู่ในฐานะลำบาก และไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถมาพบผม หรือเจ้าหน้าที่ในสภาทนายความได้ จะได้ช่วยเหลือทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาในทุกชั้นศาล" เลขาธิการสภาทนายความ กล่าว

กก.ปฏิรูปสื่อฯ แนะให้นำเสนอข่าวอย่างมีสติ


ด้านนางวิลาสินี อดุลยานนท์ คณะกรรมการการสื่อสารเพื่อการปฏิรูป หนึ่งในคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.) และนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน ให้ความเห็นเรื่องการทำงานของสื่อมวลชนกรณีข่าวฟิล์ม-แอนนี่ว่า สื่อส่วนหนึ่งยังนิยมทำข่าวแค่ตามกระแส มากกว่าจะเป็นผู้นำวิธีคิดให้สังคม ให้ความสำคัญกับความดังและการขายข่าวได้ ทำให้เกิดลักษณะแบบเลี้ยงข่าวไปเรื่อย อย่างในกรณีนี้จะเห็นว่าตัวละครในข่าวจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ


"สิ่งที่เกิดขึ้นคือสื่อใช้พลังไปกวนสังคม จากเรื่องหนึ่งที่อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวของคนสองคน กลายเป็นปรากฏการณ์ของสังคม คนที่รับฟังข่าวสารจะถูกทำให้กลายเป็นกองเชียร์ของแต่ละฝ่าย ขณะเดียวกันก็เกิดผลกระทบกับผู้เกี่ยวข้องจนบอบช้ำไปหมด" นางวิลาสินีกล่าว และว่า ปัญหานี้ก็มีในสื่อของต่างประเทศเช่นกัน การจะเป็นสื่อที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีกับสังคมได้จึงต้องมีการคิดใหม่ เพื่อให้ไม่ตกไปอยู่ในสภาพนั้น


"ยังดีที่มีบางสื่อออกมาบอกว่าจะพยายามหยุด ไม่นำเสนอข่าวเรื่องนี้ แต่ที่จริงก็ไม่ถึงขนาดว่านำเสนอไม่ได้เลย แต่ต้องทบทวนตัวเองว่าจะนำเสนออย่างไร เพราะหลายเรื่องในสังคมเป็นเรื่องที่ไม่มีถูก มีผิด หรือเป็นเรื่องที่ถูกผิดพอกัน เป็นสีเทา จะนำเสนออย่างไร และจะยกระดับปัญญาของคนที่ได้อ่านข่าวนี้อย่างไร" นางวิลาสินีกล่าว



กลุ่มพิทักษ์สิทธิสตรี- เด็กขอนแก่น วอนหยุดโจมตี"แอนนี่"เหยียบย่ำเป็น"หญิงสำส่อน"

ที่บริเวณสนามหญ้าโรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน ถ.ชาตะผดุง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 6 ต.ค.   นางเกื้อกูล มูลธรรม อายุ 63 ปี ประธานองค์กรอาสาสมัครพิทักษ์สิทธิสตรี และเด็กเทศบาลนครขอนแก่น นางอุบล ดีโยธา อายุ 55 ปี ประชาสัมพันธ์องค์กรอาสาสมัคร ฯ พร้อมด้วยสตรีอาสาสมัครจาก ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขมูลฐาน เทศบาลนครขอนแก่น กรรมการพัฒนาสตรีตำบลในเมืองเทศบาลนครขอนแก่น อาสาสมัครพิทักษ์สิทธิสตรีและเด็กเทศบาลนครขอนแก่น ประมาณ 100 คน รวมตัวกันภายในโรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน และออกเดินรณรงค์ปกป้องชื่อเสียง “แอนนี่ บรู๊ค” ไปตามชุมชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น


นางเกื้อกูล กล่าวว่า พวกเรากลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์สิทธิสตรีและเด็ก ฯ ที่ได้ติดตามข่าวสารจากหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และสื่อต่างๆ ที่เสนอข่าวในเรื่องของ แอนนี่ บรู๊ค มาตลอดเกือบสามสัปดาห์ ความรู้สึกของพวกเราเห็นว่าข่าวที่ได้เผยแพร่ออกมานั้น เป็นการทำลายชื่อเสียง เกียรติ สิทธิ ศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง พวกเราจึงต้องขอเดินรณรงค์ปกป้องสิทธิสตรี ศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงทั้งแม่ และลูก ขณะนี้ได้ถูกหลายฝ่ายให้ข่าวกระทำย่ำยีอย่างมากมาย

"ขอให้สังคมรับรู้เกิดความเห็นใจ ปกป้องแอนนี่ บรู๊ค ด้วย เพราะในเรื่องส่วนตัวที่เป็นด้านของกามารมณ์ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอกับทุกคน ทุกสถานที่ ดังนั้น การที่กินในที่ลับและมาเปิดในที่แจ้ง ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องแม้ว่า จะมีกฎหมายพิทักษ์สิทธิสตรีและเด็ก หรือไม่ แต่ขนบธรรมเนียมของคนอีสานบ้านของเรา เรื่องกินในที่ลับจะไม่นิยมมาเปิดเผยในที่แจ้ง โดยเฉพาะในเรื่องของเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของความเป็นลูกผู้หญิงมาสู่สาธารณชน ถ้าเป็นไปได้ทุกฝ่ายที่ให้ข่าวกับสื่อมวลชนที่ออกมาย่ำยี ทำลายศักดิ์ศรีของ “แอนนี่ บรู๊ค” ต้องให้เกียรติแอนนี่ ต้องขอให้พวกท่านหยุดให้ข่าวทำลายแอนนี่เดี๋ยวนี้ และอย่ามาให้ข่าวทำลายศักดิ์ศรีของความเป็นลูกผู้หญิงอีกต่อไป เพราะผู้หญิงถือว่าเป็นเพศแม่ที่ให้กำเนิดพวกเราขึ้นมา" นางเกื้อกูลกล่าว

ด้านนางอุบล  กล่าวว่า ผู้ชายมีหน้าที่ปกป้องดูแลรักษาผู้หญิง ไม่ใช่มีหน้าที่มาทำลายผู้หญิง เช่นสังคมปัจจุบันที่สื่อเสนอข่าว แอนนี่ บรู๊ค ฝ่ายชายให้ข่าวทำลายผู้หญิงทุกวี่วันนานมากกว่า 3 สัปดาห์ ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่าง ฟิล์ม กับ แอนนี่ บรู๊ค ทางแก้คือต่างคนต่างหยุด ขอให้เงียบไปเลย กาลเวลาก็จะทำให้สังคมไทยลืมไปเอง ส่วนปัญหาต่างๆที่เกี่ยวกับแอนนี่ไม่ยอมตรวจดีเอ็นเอ ถือว่าเป็นสิทธิของเขาย่อมทำได้ เป็นการปกป้องตนเองไม่ให้ถูกย่ำยีมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งแอนนี่ก็ไม่ต้องการให้ฟิล์มมารับว่าเป็นพ่ออีกด้วย การตรวจดีเอ็นเอจึงไม่มีความจำเป็นสำหรับแอนนี่อีกต่อไป ส่วนที่มีเจ้าของค่ายเพลง เจ้านายฟิล์มที่มีออกมาประจานแอนนี่ว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่ดี ถือว่าไม่ถูกต้อง ตนเห็นว่าอย่ามาเปิดเผย อย่ามาประจานว่าสำส่อนเรื่องผู้ชาย เพราะเป็นสิทธิของเขา ยิ่งมีคนมาประจาน หรือดาราเสื้อแดงคนหนึ่งออกมาประณามแอนนี่อย่างเสียหาย ตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของความเป็นลูกผู้หญิง ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของความเป็นลูกผู้หญิง และลูกของเขาที่เกิดขึ้นมาแล้ว จะมีความรู้สึกอย่างไร อนาคตจะเป็นเช่นไรมีใครทราบไหม ถ้าฝ่ายชายยังให้ข่าวทำลายแอนนี่แบบไม่ยอมเลิกรา



เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์