ผู้ชาย ที่เคยรักไม่เป็น ณัฏฐ์ เทพหัสดิน

เรียกว่าปีที่ผ่านมา “ภูมิ-ณัฏฐ์ เทพหัสดิน” ก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงที่ต้องจับตามองมากที่สุดเลยก็ว่าได้

ซึ่งหนุ่มคนนี้เราเคยเปิดใจเขามาแล้วครั้งหนึ่ง สมัยที่ภูมิ ยังไม่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นพระเอกเต็มตัว แต่ก็เนื้อหอมไม่เบาในตอนนั้น และในวันนี้ก็ยังต้องยอมรับว่าความเนื้อหอมของพ่อหนุ่มคนนี้ นับวันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น เพราะด้วยเรื่องของงานและเรื่องของความรัก ซึ่งเสาร์นี้ ภูมิ จะกลับมาเปิดใจกับเราอีกครั้งหนึ่งกับมุมมองชีวิตที่เปลี่ยนไป
 
เป็นพระเอกเต็มตัวแล้ว
 
“ครับ ในเรื่อง อาทิตย์ชิงดวง เรื่องนี้ได้มาเป็นพระเอกเต็มตัวแล้ว จากเรื่องแรกคือ เปลือกเสน่หา ตอนนั้นเป็นพระรอง คู่กับ จั๊กจั่น (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) คือมันมีพัฒนาการมาถึงเรื่องที่สองคือ ความลับของซุปเปอร์สตาร์ เรื่องนี้ก็มาเล่นร้ายเลย แล้วก็มา อาทิตย์ชิงดวง เรื่องนี้ได้กลับมาเป็นคนดี เป็นพระเอกเต็มตัว ถ้าถามว่ากดดันไหม ก็มีบ้างครับ คือผมเองเป็นประเภทค่อย ๆ มา ผมว่าผมยังดีกว่าคนที่อยู่ ๆ ก็มาเป็นพระเอกเลย แต่ผมก็ยังมีความกังวลเล็กน้อย ในเรื่องของบทบาทการแสดงเพราะอยากจะให้ออกมาดีที่สุด ก็รู้ตัวว่าเวลามาเล่นกับคน เก่ง ๆ มันก็ต้องมีถูกเปรียบเทียบอยู่แล้ว”



จากเรื่อง ความลับของซุปเปอร์สตาร์ ถือว่าภูมิประสบความสำเร็จในเรื่องนั้นมากเลยนะ
 
“ดีใจมาก เพราะก่อนที่จะเล่นเรื่องนี้ ผมได้คุยกับผู้กำกับ พี่เขาบอกว่า ภูมิต้องหาให้เจอว่าคาแรกเตอร์จะเล่นยังไงให้คนดูแล้วรักที่เราร้าย ไม่ใช่เกลียดเรา ผมก็กังวลมากนะตอนนั้น แต่โชคดีที่ว่าเราเคยเล่นบทที่น่าสงสารมาแล้ว แล้วพอมาพลิกบทคนก็เลยดูว่าอืม เล่นร้ายได้นะ มันเลยทำให้ไม่เกลียดเราด้วย และอีกอย่างผมเล่นไม่ได้เหมือนจริง แต่ผม เล่นให้น่าหมั่นไส้มากกว่า แล้วก็ได้คำแนะนำจากนักแสดงหลาย ๆ คน ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้เราพัฒนาในการแสดง แต่ก็ต้องมีอีกเยอะที่เราต้องพัฒนา”
 
ตอนนี้ กลายเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามอง
 
“ก็ดีใจครับ ที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจ เราก็ไม่มองที่ตรงนั้น เราตั้งใจทำงานทุกชิ้นมากกว่า ด้วยเรื่องของการที่คนจะให้เราเป็นอะไรก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้แล้วกัน เพราะเป้าหมายหลักในการทำงานของเราคือตั้งใจให้มันออกมาดีที่สุด คำชมถือเป็นกำไรของเรา เป็นอะไรที่ทำให้เราดีใจ”
 
ถึงวันนี้กับอาชีพนักแสดงสำหรับ ภูมิ มันยากไหม
 
“มันยากนะ เพราะมันมีสองอย่าง คือการทำงานกับชีวิตส่วนตัว มันต้องแยกให้ออกและเท่าเทียมกันด้วย การทำงานมันก็กินเวลาไปเยอะ แล้วเราจะต้องทำยังไงกับเวลาส่วนตัวทำยังไงกับเวลาที่เหลือ และเป็นอะไรที่ค่อนข้างท้าทาย”


มาถึงวันนี้ ภูมิ เคยชินกับการมีชื่อเสียง  แล้วยัง
 
“อืม...ภูมิต้องปรับตัวเยอะมากเลยครับ ตอนแรกไม่ชินกับการเดินไปไหนแล้วมีคนมอง แต่หลัง ๆ เริ่มชิน แต่แรก ๆ ก็มีคิดมองอะไรนักหนา แล้วก็มีอารมณ์โกรธบ้างนะ แต่หลัง ๆ ก็เริ่มคิดว่ามันก็ปกติ การที่เขาเห็นคนที่อยู่ในทีวีมาเดินในชีวิต เขาก็ต้องมอง เป็นเรา เราก็มอง ก็เลยไม่เครียด ถ้าเขายิ้มมาเราก็ยิ้มให้ มันดีกว่าที่เราจะมานั่งเครียดหรือว่ากังวลว่าเขาจะมองยังไง”
 
ภูมิ หาความเป็นส่วนตัวได้ที่ไหน
 
“บ้านครับ เป็นที่เราไว้พักกายพักใจ ทำอะไรที่หลาย ๆ คนไม่เห็น (หัวเราะ) เดินอยู่ในบ้านด้วย   บ๊อกเซอร์ตัวเดียว หรือว่าลงมาล้างรถด้วยบ๊อกเซอร์ตัวเดียวเดือนละครั้ง และอีกอย่างผมก็จะจัดห้องเองทุกวัน ผมต้องแยกว่าเสื้อตัวไหนอยู่ตรงไหน ผมจะซีเรียส มากกับการจัดเสื้อ มีแบบแยกสีด้วยนะครับ แล้วกางเกง รองเท้า ถุงเท้า แยกหมดครับ อันนี้ผมว่าผมได้มาจากคุณพ่อ แล้วจัดกระเป๋า เอาของที่จะใช้ในวันพรุ่งนี้ใส่ มีอะไรบ้าง บท ขนม หรือว่าอะไรที่จำเป็น คือภูมิว่าการมีสเต็ปในการใช้ชีวิตมันสะดวกนะ ดีกว่าอยากจะต้องการหรือว่าอยากจะหาอะไรไม่ต้องมาปวดหัว”
 
เป็นคนเนี้ยบมากเลยนะ
 
“ครับ เนี้ยบมากนิดหนึ่ง เจ้าระเบียบ คือติดมาจากคุณพ่อครับ ผมจะเป็นคนแยกทุกอย่างเป็นหมวดหมู่ ใช้เวลาก็จริง แต่พอมันเข้าที่ปุ๊บ เราจะใช้ชีวิตสะดวกสบายมาก”


อย่างนี้ซีเรียสกับการใช้ชีวิตไหม
 
“ก็ค่อนข้างครับ แต่ไม่คาดหวังกับอะไร แต่จะทำให้ดีที่สุด โอกาสมารับไว้แล้วทำให้ดีที่สุดเท่านั้นพอ ไม่ต้องหวังว่าจะประสบความสำเร็จ แต่ลึก ๆ ก็ยอมรับว่ามีคาดหวัง แต่เราคือเราทำให้ดีที่สุด จริงใจกับมัน ให้เกียรติกับงานของเรา ซื่อสัตย์ ซื่อตรงกับงานของเรา นี้คือสิ่งที่คุณพ่อสอนเอาไว้”
 
แล้วกับการถูกโฟกัสเรื่องความรักล่ะ
 
“อันนั้นมันก็เป็นชีวิตส่วนตัวของเรานะ แต่ก็ไม่ได้ปิดบังอะไร เพราะถือว่าเราเป็นคนของประชาชน แต่ก็อยากให้โฟกัสเรื่องของงานมากกว่า เพราะว่าบางทีข่าว ออกมาเรื่องส่วนตัวมากเกินไปมันก็ดูเหมือนกับว่าแล้วงานเราล่ะ ไม่มีคนเชียร์งานเราบ้าง แต่ก็ไม่ได้น้อยใจนะก็เข้าใจว่า วุ้น (วิริฒิพา ภักดีประสงค์) ก็เป็นคนในวงการบันเทิงเหมือนกันก็อาจจะดูน่าจับตามองเป็นพิเศษ ก็อยากจะให้เป็นเรื่องปกติเลยไม่ได้ปิดบังอะไร เลยปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ให้เกียรติวุ้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขาเป็นผู้หญิงทำงานในวงการ ถ้ามีข่าวมาก ๆ มันก็ไม่ดี ก็เลยพยายามจะเน้นด้วยว่าโฟกัสเรื่องงานด้วยนะ”
 
ภูมิให้ความสำคัญกับความรักมากน้อยแค่ไหน
 
“ความรักน่าจะเป็นอันดับ 3 ครับ เพราะคนเรามีครอบครัว ต้องมาอันดับหนึ่ง อันดับสองคืองาน อันดับสามน่าจะเป็นความรัก คือทุกอย่างมันก็ต้องควบคู่กันไป จริง ๆ ทุกอย่างสำคัญหมดอยู่ที่ว่าเราแบ่งเวลาให้ทุกอย่างยังไงมากกว่า แต่ถามว่าความรักจำเป็นกับเราไหม ก็จำเป็นนะ แต่ว่าถ้าเรารักไม่เป็นมันก็ทำร้ายเรานะ 


เมื่อก่อนผมเป็นคนรักไม่เป็นครับ เห็นแก่ตัวไม่ได้เอาแต่ได้นะ เห็นแก่ตัวในเรื่องที่ว่าเอาแต่ความรู้สึกของตัวเองจะเอาแต่สิ่งที่ตัวเองอยากได้

เอาแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการเท่านั้น ต้องเป็นแบบที่ฉันต้องการเท่านั้นไม่คิดถึงความรู้สึกของคนอื่น ก็เลยทำให้เกิดการทะเลาะ เรื่องราวมากมาย ผมผ่านเรื่องแย่ ๆ มาเยอะ เคยทำสิ่งไม่ดีมาเยอะ แต่อย่างที่บอกว่าทุกคนมันต้องมีอดีต แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย แต่ว่าถ้าเราย้อนเวลาได้ เราก็อยากจะไปแก้ไขมัน แต่เราย้อนเวลาไม่ได้ เราก็ถือว่ามันเป็นครูแล้วกัน เป็นประสบการณ์ชีวิตของเรา ผมว่าดีแล้วนะที่เราได้ผ่านอะไรที่มันหนักในช่วงอายุน้อย พอโตขึ้นมาจะได้ไม่ต้องเจออะไรหนัก ๆ แล้ว”
 
แล้วตอนนี้รักเป็นแล้วยัง
 
“เป็นแล้วครับ เราต้องรักตัวเองด้วย แล้วก็นอกเหนือจากความรักที่ต้องให้คนอื่นแล้ว มันต้องมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน การให้อภัย การเสียสละบ้าง มันมีหลายอย่างมันมากกว่าความรัก ตอนนี้ผมตามใจคนอื่นมากขึ้น เอาแต่ใจตัวเองน้อยลงแล้ว (หัวเราะ) แต่เราก็ยังมีความเป็นตัวเองอยู่”
 
คิดว่าตัวเองเป็นหนุ่มเนื้อหอมไหม
 
“ผมว่าเป็นพัก ๆ ครับ ช่วงไหนละครออกอาจจะเนื้อหอมหน่อย (หัวเราะ)”
 
หนุ่มเนี้ยบคนนี้ คนที่เคยถูกมองว่าเป็นคุณหนูไฮโซ ที่อยากจะเข้ามาหาชื่อเสียงในวงการ แต่วันนี้เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความพยายามในการทำงานนั้นทำให้เขากลายเป็นพระเอกเนื้อหอมได้อย่างภาคภูมิใจจริง ๆ.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์