ละครแห่งปี


ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ของวงการโทรทัศน์เมืองไทยเลยทีเดียว ว่าปี 51 เป็น ปี “ทีวีขายตัว”

เพราะท่ามกลางวิกฤตการณ์การเมือง ที่มีการแบ่งพรรคแบ่งฝ่าย ประหัตประหารกันด้วยอาวุธ และความเชื่อ ในเวลาเช่นนั้น “สื่อ” สมควรทำหน้าที่นำเสนอข่าวอย่าง “เป็นกลาง” เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูล อย่างเที่ยงตรง และรอบด้าน เพื่อไม่ถูกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งครอบงำ แต่กลับกลายเป็นว่าทีวีซะเองที่เลือกข้าง ถือหางเชียร์กันอย่างไม่มียางอาย ขายทั้งตัว ขายทั้งวิญญาณ!

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางวิกฤติรุมเร้า ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ช่วยบรรเทาความเครียดขึ้ง นั่นก็คือ “ละคร”

แม้ข่าวจะขายวิญญาณ แต่ละครไม่เคยขายความเป็นตัวตน ละครก็คือละคร ไร้ความขัดแย้ง และไร้การแบ่งสี เวทีการเมืองเข้มข้น วงการละครก็ข้นคลั่กไม่แพ้กัน เพราะปีนี้มีสีสัน คึกคัก ครบเครื่อง ทั้งเรื่องรัก บู๊แอ็กชั่น ตลกโปกฮา ดราม่า เรียกว่าคนดูกำไร มีหลายสไตล์ ให้ดูกันเต็มอิ่มทำให้การจะตัดสินตำแหน่ง “ละครแห่งปี” ในปีนี้เป็นที่น่าหนักใจยิ่งกว่าทุกปี



เฉพาะละครที่ฉายทางช่อง 3 แบ่งเป็นละครค่ำก่อนข่าว 5 เรื่อง และหลังข่าว 28 เรื่อง รวมเป็น 33 เรื่อง ทาง ททบ.5 มีเฉพาะหลังข่าว 10 เรื่อง ส่วนช่อง 7 สี แบ่งเป็น 3 ช่วง มีละครเยาวชนตอนเย็น 4 เรื่อง ก่อนข่าวค่ำ 10 เรื่อง และหลังข่าวอีก 24 เรื่อง รวมเป็น 38 เรื่อง

ขณะที่โมเดิร์นไนน์ทีวีก็หันมาเอาใจคอละครบ้างเหมือนกัน โดยเอาช่วงเวลาที่ล็อกไว้ให้ “อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย” พอเลิกแข่งขัน ก็ปันเวลามาให้ละคร โดยมีออกมาแค่ 2 เรื่องเริ่มต้นจากครึ่งปีแรก ละครที่น่าสนใจในช่อง 3 ก็มีเรื่อง “จำเลยรัก” ละครรีเมก ซึ่งได้พระเอกปากแดง อั้ม-อธิชาติ มาสวมบทนายหัวจอมโหดย่ำยีนางเอกที่น่าทะนุถนอมอย่าง แอฟ-ทักษอร จนคนเทคะแนนสงสารให้หมดใจ, “ดั่งดวงตะวัน” และ “ปี่แก้วนางหงส์” ก็น่าดู

อีกเรื่องคือ “พยัคฆ์สาวแซบอีหลี”

ซึ่งได้ 3 นางเอก หน่อย-บุษกร, เบนซ์-พรชิตา, เทย่า โรเจอร์ มาสวมบทบู๊เป็น “นางแมวป่า” บู๊รัก ดราม่าครบรส, “นิมิตมาร” ละครแนวลึกลับ สยองขวัญ มี มาร์ท-กฤษฎา มาสวมบท “มารหัววุ้น”, “สวรรค์เบี่ยง” เป็นอีกเรื่องที่โด่งดังสร้างชื่อเสียงให้ช่อง 3 จากฝีมือการแสดงของ เคน-ธีรเดช และ แอน ทองประสม ซึ่งทั้งสองก็โกยถ้วยรางวัลมาได้จนเต็มตู้กับข้าวทีเดียว



ส่วน ททบ.5 ปีนี้ต้องบอกว่ามาแรงผิดหูผิดตา เริ่มด้วย “สงครามนางฟ้า” ที่ดังซะจน “นางฟ้าการบินไทย” ออกมาโวย!

นับจากนั้นเรตติ้งก็ดีมาตลอด...สำหรับวิก 7 สี สตาร์ตต้นปีอาจจะมีแผ่ว แต่พอก๊อกสอง “นางทาส” มาปุ๊บ จอร้อนฉ่าทีเดียว ดาราดังประชันกันทั้ง วีรภาพ, กบ-สุวนันท์, ป๊อก-ปิยธิดา, ยุ้ย-จีรนันท์, “ทอง 9” หนังใหญ่สู่ละครซีรีส์ที่ ฉลอง ภักดีวิจิตร ทำออกมาฉายเป็นภาคๆ กระชากเรตติ้งถล่มทลาย ไม่ทำให้ใครผิดหวัง, ขณะที่เรื่อง “ดาวเปื้อนดิน” ก็ร้อนแรงด้วยฝีมือการประชันฝีมือของ นุ่น-วรนุช กับ ชมพู่-อารยา ที่ตบเป็นตบ แบบไม่มีคีพลุคนางเอกให้เสียอารมณ์

มาย้อนดูละครในตอนครึ่งปีหลังต่อกันเลย ทางช่อง 3 เริ่มต้นได้ไม่สวยนัก ไม่ว่าจะ “บาดาลใจ” “ทองเนื้อแท้” หรือ “สู่ฝันนิรันดร”

ที่อุตส่าห์ได้ วิลลี่ มาประกบคู่ขวัญ หมิว-ลลิตา อีกครั้ง แต่ก็ไม่เปรี้ยง, เครื่องมาร้อนตอนเรื่อง “รักซ่อนแค้น” ที่ แหม่ม-จินตหรา เล่นร้ายได้แรงแซงหน้านังร้ายมืออาชีพ แต่นางเอกตัวเล็กๆอย่าง แพท-ณปภา ก็สู้ได้อย่างสูสี, “สะใภ้ลูกทุ่ง” ก็สนุกดีด้วยลีลาเฮี้ยวๆ ของ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, หรือจะเรื่อง “ผู้การเรือเร่” ที่นำกลับมาทำใหม่ก็สนุกสนานเฮฮาดูไม่ต้องคิดมาก, ขณะที่ “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” เป็นละครกลิ่นอายคนไทยเชื้อสายจีนที่น่าติดตามนำแสดงโดย อั้ม-แอฟ, ที่ฮือฮามากๆอีกเรื่องก็คือ “ใจร้าว” ที่ เคน-ธีรเดช สวมบทพระเอกใจหิน ทารุณจิตใจนางเอกสาว ผู้อ่อนแอ แอฟ ร้องไห้ตลอดเรื่อง ปิดท้ายด้วย “ดาวจรัสฟ้า” เริดหรู อลังการตามสไตล์ของ ไก่-วรายุฑ



ชะโงกไปดูละครวิกทหารช่อง 5 บ้าง สตาร์ตกลางปีก็แรงเปรี้ยงปร้างด้วยเรื่อง “ความลับของซุปเปอร์สตาร์”

นำแสดงโดย มอส-ปฏิภาณ กับนางเอกใหม่แกะกล่อง น้องเบสท์-อธิชา โดย บี-น้ำทิพย์ เล่นร้ายได้น่ากลัวมั่กๆ, และที่เรตติ้งแรงอีกเรื่องคือ “หีบหลอนซ่อนวิญญาณ” ที่นางเอกแม่ลูกสาม ปิ่น-เก็จมณี คืนจออีกครั้งด้วยบท “ผีน้ำน่ากลัว”...ไปดูทางโมเดิร์นไนน์อีกนิด ครึ่งปีหลังมีละครหลังข่าวฉาย 2 เรื่อง เน้นกลุ่มแฟนขาโจ๋อย่าง “อุบัติรักข้ามขอบฟ้า” ที่มี กอล์ฟ-ไมค์, พีค-ภัทรศยา และ เต้ย-จรินทร์พร นำแสดง กับเรื่อง “คลื่นฝัน..วันรัก”

ขณะที่วิก 7 สี ไม่ยอมให้เสียเวลาเปล่า เขย่าจอด้วยละครบู๊ย้อนยุคเรื่อง “คมแฝก” เรตติ้งกระฉูดทีเดียว

ก็ทั้งพระเอกและผู้ร้ายทุ่มเทกันเหลือเกิน ขนาด ป๋อ-ณัฐวุฒิ เข่าเสื่อมถ่ายละครเสร็จต้องเข้า รพ.ผ่าตัดทันที, นอกจากนี้ ยังมีละครบู๊ดีๆอีกหลายเรื่องตามมา อย่าง “สุภาพบุรุษซาตาน” “เย้ยฟ้าท้าดิน” โดยเฉพาะเรื่อง “สู่แสงตะวัน” ถือเป็นละครเปิดตัว เติ้ล-ธนพล กับ อ๊อฟ-ชนะพล ในฐานะ “พระเอกเต็มตัว” อย่างเป็นทางการ, “พลิกฟ้า..ล่าตะวัน” เป็นละครแนวแอ็กชั่นไซไฟที่นานๆจะมีให้ดูซักเรื่อง, ละคร “ภูตแม่น้ำโขง” ก็แรงไม่เลว, ละครแนวกลิ่นอายจีนก็มี 2 เรื่อง “หมวยอินเตอร์” กับ “เสน่ห์นางงิ้ว”,



ส่วนเรื่อง “ปมรักรอยอดีต” เป็นละครที่ดังนอกจอมากกว่าในจอซะอีก เพราะนางเอก ขวัญ-อุษามณี เล่นเปิดศึกเกาเหลากับ ปู-ไปรยา

และดารารุ่นพี่อย่าง ปู-มัณฑนา จนกลายเป็นข่าวขึ้นหน้า 1 ฮือฮาทั่วประเทศ, และละครสวย “ศิลามณี” รีเมกใหม่ได้ กบ-สุวนันท์ มาเล่นทิ้งทวน ก่อนจะบ๊ายบายไปทำหน้าที่ “แม่บ้าน”, ปิดท้ายปีด้วยเรื่อง “เจ้าหญิงลำซิ่ง” ที่ พิงกี้-สาวิกา โชว์ลีลาหมอลำซิ่งได้แซบอีหลีเด้อค่า! และสุดท้าย ไม่กล่าวถึงไม่ได้ก็คือละครเย็นที่เรตติ้งถล่มทลาย “ธิดาวานร” ขนาดนางเอกเพิ่งแกะกล่องใหม่เอี่ยม จากเวทีมิสทีนฯ อาเมเรีย จาคอป แต่ก็สวมบทสาวน้อยวานรได้อย่างน่าเอ็นดู จนช่อง 7 ต้องขยายความยาวออกไปร่วม 80 ตอนทีเดียว

นั่นคือละครเด่นๆที่เฟ้นมา แต่ หากให้เลือกเฉพาะเรื่องที่ดีเด่นเข้าชิงในรอบสุดท้ายขอให้เรื่อง “จำเลยรัก” “สวรรค์เบี่ยง” “ใจร้าว” ของทางช่อง 3

กับเรื่อง “คมแฝก” “นางทาส” “ดาวเปื้อนดิน” ของทางช่อง 7 วิกละ 3 เรื่องเท่ากันรวมแล้ว 6 เรื่อง ถือว่ามากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งทีมข่าว “บันเทิงทีวี” มองจุดดีและจุดด้อยแล้วก็ยังสูสี เรื่อง “จำเลยรัก” เรตติ้งก็สูงที่สุดของช่อง 3 กระแสก็ดี ขณะที่เรื่อง “ใจร้าว” ก็แรงสูสีกัน แต่ทั้งสองก็ยังเป็นรองเรื่อง “สวรรค์เบี่ยง” ที่ได้เรตติ้ง กระแสและรางวัล มากมาย ด้านวิก 7 สี เรื่อง “คมแฝก” แม้เรตติ้งสูงเป็นอันดับ 1 และ “ดาวเปื้อนดิน” ก็ดีทั้งตัวเลขคนดู และเสียงที่พูดถึง แต่เมื่อดูภาพรวมของละครทุกเรื่องแล้ว “นางทาส” โดดเด่นกว่า เพราะเรตติ้งสูงไล่เลี่ยกัน ขณะที่กระแสความดัง คนกล่าวขานถึงอย่างกว้างขวาง ที่สำคัญบท “สาลี่” นังร้ายตาดุ ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม เพิ่งไปคว้ารางวัล “นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม” จากเวที เอเชียน เทเลวิชั่น อวอร์ดส์ มาหมาดๆนี่เอง

ด้วยองค์ประกอบทั้งหลายนี้ ละครเรื่อง “นางทาส” จึงสมควรได้ตำแหน่ง “ละครแห่งปี” ไปครอง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์