ผมขาดความรักไม่ได้ จากใจคาสโนวา ฟลุค เกริกพล มัสยวาณิช

ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าวงการบันเทิง กับละครเรื่องแรก "ทอฝันกับมาวิน" ดูเหมือนจะไม่มีใครไม่รู้จักผู้ชายชื่อ "ฟลุค" เกริกพล มัสยวาณิช

  เพราะข่าวคราวเกี่ยวกับความเจ้าชู้ของหนุ่มคนนี้ เป็นต้นกำเนิดให้คนที่อ่านข่าวบันเทิง เริ่มชินกับคำว่า "คาสโนวา" กระทั่ง ฟลุค ได้หายไปมีครอบครัวอยู่กับ "โบ" ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์ แต่แล้ว คาสโนวา ก็คืนชีพอีกครั้ง เมื่อถึงคราวยุติชีวิตครอบครัว และเวลานี้ความรักของพ่อม่ายเนื้อหอม เริ่มงอกงามอีกครั้งกับ "แพง" ขวัญข้าว เศวตวิมล รักครั้งนี้จะอยู่ทนแค่ไหน หรือ คาสโนวา (จะ) ฆ่าไม่ตาย ติดตามได้ที่นี่... รักฉบับร้อน



ระดับความสัมพันธ์กับ แพง เวลานี้

 ก็ดีขึ้นมาอีกวันแล้ว เจอคุณพ่อน้องเขามาแล้ว ไปกินข้าวกันมา คุณพ่อเขาก็เป็นคนอบอุ่นดี คุยเก่ง เป็นคนพูดคมดี ชอบ ผมก็ไม่เกร็งนะ เพราะผมเป็นคนไม่ค่อยกลัวใครอยู่แล้ว และก็ค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดี ก็เลยไม่ค่อยกลัวใคร ก็ถือว่าดีกว่าที่คิด

 มีข่าวทำให้ความสัมพันธ์พัฒนาช้าไหม

 มันทำให้มีปัญหานะ เพราะถ้าสมมติ ว่าเป็นข่าวเร็วไป ก็ไม่ดี เนื่องจากว่า มันยังไม่ทันถึงไหนเลย เขาก็อาจจะหลีกหนีไปก่อน ซึ่งอย่างแพงเขาก็หนีผมตลอด ผมก็ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจตลอดเวลา

 อะไรที่ทำให้ ฟลุค อยากรู้จักกับ แพง

 (คิดพักหนึ่ง) มันเป็นความคล้ายกัน ในการที่ได้คุยกัน เรารู้สึกว่าคนคนนี้คล้ายเราในหลายๆ เรื่อง คุยกันเข้าใจ นั่นคือสิ่งแรกที่ทำให้รู้สึกว่า อย่างน้อยเราเป็นเพื่อนกับคนคนนี้ได้แน่ๆ อย่างน้อยมันก็มีภาษีเยอะกว่า เท่าที่รู้จัก เขาเป็นคนมากมายเหมือนผมเลย เป็นคนเยอะ อย่างจะกิน ก็ต้องกินให้อร่อย ดีๆ อย่างจะแต่งตัวแพง ก็จะพิถีพิถันในการแต่งตัวมาก นัดทีหนึ่งก็จะช้า เลือกเสื้อที 2 ชั่วโมง แต่ก็น่ารักดี เพราะผมก็เป็นเหมือนกัน เขาก็เป็นคนที่คล้ายผมที่สุด ก็หวังว่าการคล้ายจะเป็นสิ่งที่ดี เพราะหลายๆ คนอาจจะมองว่า คล้ายมากเกินไปก็ไม่ดี แต่เขาคล้ายผมมาก มันก็มีความสุขดีนะ แต่หวังว่ามันคงจะไม่ส่งผลเสีย



 จริงจังกับความรักครั้งนี้ขนาดไหน

 คบกับใครก็ตาม ผมก็จริงจังทุกคน ไม่เคยไม่จริงจัง แน่นอน ผมมองไปถึงบั้นปลายเลย ทุกคนที่ผ่านมา ถ้าเกิดได้เป็นแฟนกัน ผมมองไปถึงวันนั้นแน่นอน ไม่เคยมองอะไรสั้นๆ

 กับที่ "โบ" ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ารู้สึกแปลกที่คนเคยรู้จักมาคบฟลุค

 ผมกับแพงก็พอที่จะรู้จักกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมกับคุณโบเลิกกันมา 3 ปีแล้ว ก็เป็นเรื่องปกติ ไม่น่าจะมีอะไร

 แพงรู้จัก "น้องอชิ" ลูกชายหรือยัง

 เจอแล้ว น้องอชิ ก็เหมือนเดิมน่ารัก เข้าได้กับทุกคนเหมือนเดิม



 ก่อนหน้านี้ ฟลุค ก็เคยแนะนำ แป้ง (อรจิรา แหลมวิไล) ให้รู้จัก อชิ เหมือนกัน

 คือผมจะต้องเจอลูกทุกอาทิตย์ ถ้าใครที่จะคบกับผม เขาก็ต้องเจอลูกผมทุกอาทิตย์เหมือนกัน ไม่เกี่ยวกับว่าอยากจะให้คนที่คบมาทำความคุ้นเคยกับลูก แต่เป็นเพราะผมต้องเจอลูกอยู่แล้ว และถ้าเกิดวันนั้นเขาว่าง เขาอยู่กับเรา ก็ต้องเจอลูกเราเป็นธรรมดา ผมจะไม่เอาเวลาของลูกไปให้คนอื่นอยู่แล้ว เวลาของลูกของผม ก็คือเวลาของลูกผม แล้วถ้าใครจะมาแจม นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนที่ได้เจอลูกผมก็โอเค ไม่มีปัญหาอะไร

คุยกันเรื่องลูกชาย

 น้องอชิหวงฟลุคไหม

 ไม่ เพราะเขารู้ว่าพ่อรักเขามาก ไม่หวงเลย

 ให้ความอบอุ่นกับลูกอย่างไร

 ผมว่าอชิเขาอบอุ่นมากนะ เพราะเวลาเขาอยู่กับแม่ก็อยู่เต็มที่ อยู่กับผมก็เต็มที่มากๆ เพราะผมไม่ให้อยู่กับพี่เลี้ยงมาก อชิก็จะได้ความอบอุ่นเต็มที่เลย กินข้าว อาบน้ำ นอนกอดกัน เถียงกันว่าวันนี้จะกินอะไร ต้องไปดูหนังกัน แล้วอชิก็จะลงไปดูปลาในโอเชี่ยนเวิร์ล อยู่ได้ 10 ครั้งก็จะดูอยู่ 10 ครั้ง ก็ต้องทะเลาะกับอชิทุกครั้งว่า ไม่เอาแล้ว ไม่ดูแล้ว ไปดูอย่างอื่นบ้างก็ได้ แต่เขาก็จะเหมือนเดิม เราก็ต้องทำเหมือนเดิมทุกอาทิตย์ (หัวเราะ) ผมมั่นใจ ว่าถึงแม้ผมกับโบไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่อชิเขาจะไม่มีขาดแน่นอน มีแต่เกิน เพราะทุกวันนี้ก็แย่งเลี้ยงกันจะตายอยู่แล้ว



 นอกจากหน้าตาที่เหมือน น้องอชิยังมีอะไรที่เหมือน ฟลุค อีก

 ก็เหมือนนะ ผมเองก็จำตัวเองตอนเด็กไม่ได้หรอก แต่อชิน่าจะเป็นเด็กที่เยอะกว่าพ่อ เป็นคนช่างคิด ช่างถาม ตอนเด็กๆ ผมไม่ค่อยเยอะหรอก เพราะอยู่กับคุณย่า

 เจอสื่อสัมภาษณ์ถึงเรื่องส่วนตัว ขณะอุ้มน้องอชิบ่อยๆ

 สัมภาษณ์เรื่องไหนก็ไม่เป็นไร ยกเว้นสัมภาษณ์เรื่องที่เกี่ยวกับลูก เขาน่าจะไม่สัมภาษณ์ เพราะผมว่าควรจะรู้อยู่แล้ว ว่าไม่ควรพูด ก็แค่นั้นเอง แต่เรื่องอื่นก็ไม่มีปัญหา เฉยๆ น้องอชิเขาก็ชินกับกล้องอยู่แล้ว เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาเกิดมาวันแรก ก็เจอถ่ายรูปขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์แล้ว จนทุกวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม ฉะนั้นผมว่าสำหรับตัวอชิเอง เขาคงไม่รู้สึกแปลกกับการที่มีกล้องมาถ่ายเขา

เขาหาว่าผมเจ้าชู้?

 ทำไมทำอะไรต้องถูกจับตามองตลอด

 เพราะว่าในประเทศไทย มันไม่มีคนอื่นเท่านั้นเอง เหมือนกับเขาเลือกมาแล้ว ว่าเป็นคนนี้มันสนุกดี จริงๆ แล้วชีวิตคนอื่นก็เป็นมากกว่านี้เยอะแยะไปหมด แต่บังเอิญมันลงล็อกที่เป็นผม แล้วมันก็เป็นมานานแล้ว แล้วจะสร้างคนใหม่ขึ้นมาให้เป็นอย่างนี้ มันก็ยาก ก็ไม่ต้องสร้างหรอก คนนี้ยังเป็นได้อยู่ก็เป็นไปก่อน มันเป็นเรื่องของกลไกการตลาด เรื่องธรรมดา หนังสือพิมพ์เยอะ หน้าบันเทิงมันหนาขึ้น มันก็ต้องมีตัวยืนพื้นบ้างล่ะ อย่างมีผม มีอั้ม (พัชราภา ไชยเชื้อ) มีน้องพลอย (เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์) หมดจากตัวยืนพื้นไป ก็มีข่าวสะเปะสะปะมาบ้าง ถ้าข่าวตัวยืนพื้นเกิดแรงช่วงนั้น ก็จะหนักหน่อย ข่าวตัวยืนพื้นไม่มี ก็ไปเอาตัวอื่นมาเสริม ผมก็เป็นแค่หนึ่งในคนบันเทิง ที่เป็นตัวยืนพื้นในข่าวแค่นั้น



ดูเหมือนไม่แคร์ที่มีข่าว

 ก็เป็นมาจนชินแล้ว เป็นมา 10 กว่าปีแล้ว เป็นมาครึ่งชีวิต มันจะไปแคร์อะไร ถ้าแคร์ก็ตายแล้ว เราไม่ต้องไปเปลี่ยนความคิดใคร เรารู้ว่าตัวเองเป็นคนยังไง เรารู้ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นเพราะอะไร แล้วเราทำอะไรลงไป ถ้าไปนั่งเปลี่ยนความคิดของทุกคน ก็ตายกันพอดี ทำตัวสบายๆ ดีกว่า

 กับฉายา "คาสโนวา ฆ่าไม่ตาย"

 ก็ดี ก็เอามาเป็นแบรนด์ได้ ทำรองเท้าได้ ทำคาสโนวานัมเบอร์ ขายเบอร์โทรศัพท์ได้ เดี๋ยวก็จะมีทำเช่ารถด้วย คาสโนวาคาร์ เช่าใช้รายวันได้ เป็นซูเปอร์คาร์ล้วนๆ เร็วๆ นี้ได้รู้กัน

 ภูมิใจในฉายานี้

 ไม่ได้ภูมิใจหรอก แต่ถ้าเกิดจะสร้างแบรนด์ขึ้นมา ไม่รู้ว่าต้องใช้เงินค่าโฆษณาเท่าไร กว่าคนจะจำได้ แต่ชื่อ คาสโนวา มันลงข่าวทุกวัน ถึงไม่ใช่ผม ก็มีคนเอาไปยืมใช้ช่วงหนึ่ง สะเปะสะปะไปหมด จนคาสโนวามั่วไปมีคาสโนวีด้วย มันไม่ใช่เรื่อง ไม่มีเล้ย...ย แค่เป็นผู้หญิงก็ให้เป็นคาสโนวีแล้ว ไหนๆ ชื่อมันก็ได้ขนาดนี้แล้ว ก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ไปเลย ในเมื่อคนจำได้หมดแล้ว ผมก็ใช้คำนี้กับตัวเอง



เคยรับไม่ได้ไหม

 ผมไม่เปลี่ยนวิธีคิดคนอื่น แต่เราเปลี่ยนความคิดตัวเองได้ เรารู้อยู่แล้ว ว่าตัวเองเป็นยังไง สังเกตว่าโบกับแป้ง จะไม่เคยพูดว่าผมเจ้าชู้ เพราะผมไม่เคยเจ้าชู้ในระหว่างที่เป็นแฟนเขาเลย และรักเขาที่สุด ตอนที่เป็นแฟนเขา เขารู้ดีที่สุด ดังนั้นเราตอบโจทย์ตัวเองได้ คนที่คบกับเรามาก่อน รู้ว่าเราเป็นยังไง ดังนั้นต่อให้คนทั้งโลกจะพูดอะไรก็ตาม ผมรู้ตัวผมดี ว่าผมเป็นคนยังไง

 ถ้าเป็น ฟลุค จะตั้งฉายาให้ตัวเองว่าอะไร

 เป็นคุณชาย เพราะผมเยอะ มากมาย เป็นคนละเอียด ก็มีนะ คนไม่เข้าใจ น้องแป้งไง ไม่งั้นเขาจะเลิกเหรอ มันก็เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุ เพราะเขายังเด็ก ยังอยากไปเจออะไรที่ตื่นเต้น ไปเจอเพื่อน แต่ผมไม่อยากแล้ว ผมผ่านจุดเที่ยวมาแล้ว

 เป็นคนทุ่มเทเรื่องความรัก

 ใช่ เพราะเป็นคนต้องการความรัก ก็เลยเป็นคนให้เยอะ เพราะพื้นฐานครอบครัว พ่อแม่เลิกกัน ขาดความอบอุ่นนิดหน่อย คุณย่าให้เยอะนะ คุณพ่อก็ยังรักอยู่ แต่ว่ามันไม่เหมือนกับคนที่มีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้าตลอดเวลาหรอก แล้วผมไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็ก อยู่คนเดียวก็เหงา ยิ่งทุกวันนี้ ตั้งแต่แต่งงานแล้วหย่ามา ระบบชีวิตผมคุ้นเคยกับการมีคนอยู่ด้วยตลอดเวลา ตอนแต่งงานก็เซตไว้ ว่าชีวิตนี้ไม่ต้องอยู่คนเดียวแล้ว แล้วมาวันนี้ต้องหย่า ก็เลยยิ่งรู้ว่า เอ๊ย...มันขาดความรักไม่ได้



 ยอมรับว่าเป็นคนรักคนง่าย แล้วเวลาลืมล่ะ

 ผมเป็นคนที่ยอมเจ็บจนถึงจุดที่มันไม่ไหวแล้ว เมื่อมันสุดแล้ว ก็จะล็อกกุญแจ แล้วโยนกุญแจทิ้ง แต่เราเกิดมาคนเดียว ตายคนเดียวไม่ใช่เรื่องแปลก อย่าไปคิดว่าทุกคนคือของของเรา อย่างตัวผมเองมองความรัก ถ้ามีผู้หญิงที่รักสักคน จะเหมือนนกที่เอามาเก็บในกรงทองของเรา ล็อกกุญแจไว้อย่างดี อยากให้เขาทำสิ่งที่ดีที่สุดต่อตัวเขา ต่ออนาคต แต่เราเอากุญแจไว้ให้เขา ถ้าเขาอยากไปเมื่อไร เมื่อเราไม่ใช่คนที่เขาอยากอยู่ด้วย เขาก็ไขออกมาแล้วก็ไป

 มองว่าตัวเองเจ้าชู้ไหม

 ถ้าตอนที่ไม่มีแฟน กำลังจีบอยู่ หรือยังไม่ลงตัวกับใครสักคน ก็จะคบแล้วออกเดทไปเยอะ ช่วงนั้นคงเป็นคาสโนวาแหละ แต่ถ้าผมคบใครเป็นแฟนแล้ว ก็จะมีแค่คนเดียว แล้วถ้ามั่นใจแล้ว ก็จะยิ่งไม่ไปไหนเลย

 คิดจะมีครอบครัวอีกครั้งไหม

 คิดตลอดแหละ

 เจ้าสาวคนต่อไปของ "ฟลุค" เกริกพล จะชื่ออะไร ติดตามตอนต่อไป ของ "คาสโนวา ฆ่าไม่ตาย" อย่ากะพริบตา... 

เขาคนนี้ชื่อ  เกริกพล มัสยวาณิช

ชื่อเล่น   ฟลุค

เกิดวันที่  1 มกราคม 2521

ผลงานแสดงชิ้นแรก ละคร ทอฝันกับมาวิน

ผลงานสร้างชื่อ ละคร ทอฝันกับมาวิน



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์