ฮิวโก้ แจงหนีแกรมมี่ ไม่อยากให้ผู้ใหญ่หนักใจนิสัยขวานผ่าซาก

"ฮิวโก้" แจงหนีแกรมมี่ ไม่อยากให้ผู้ใหญ่หนักใจนิสัยขวานผ่าซาก

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2549 14:52 น.

เปิดตัวอัลบั้มชุดใหม่ เงินๆ ทองๆ ที่เป็นการร่วมงานครั้งแรกกับค่าย วอร์เนอร์มิวสิกจึงทำให้หลายฝ่ายอดสงสัยไม่ได้ว่าเพราะเหตุใดนักร้องหนุ่มมาดเซอร์ เล็ก ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงศ์ จึงได้พาผองเพื่อนวง "สิบล้อ" ขับออกมาจากตึกแกรมมี่ฯ

หนึ่งในข้อสันนิษฐานที่ดูจะมีน้ำหนักมากที่สุดคงจะเป็นกรณีที่ก่อนหน้านั้นเจ้าตัวได้ไปแสดงตนบนเวทีของกลุ่ม "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ซึ่งเป็นการประกาศชัดเจนว่ายืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับระบอบทักษิณ อย่างไรก็ตามเมื่อถามไถ่ไปยังเจ้าตัวหนุ่มเล็กบอกว่าเรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวกับการเมือง หากแต่เป็นความพอใจส่วนตัว ส่วนสาเหตุของการเดินออกจากแกรมมี่จริงๆ นั้นเป็นเพราะเกรงใจไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องมาเดือดร้อนกับนิสัยขวานผ่าซากของตน

เราอยากลองดูที่ใหม่แล้วที่สำคัญคือเราก็รู้ว่าในการอยู่แกรมมี่ก็ต้องให้เกียรติผู้ใหญ่ แกรมมี่มันเป็นระบบผู้ใหญ่ที่ต้องดูแลทุกฝ่าย ทุกด้าน เพราะฉะนั้นด้วยความที่เราสนิทสนมกับพี่ป้อม(อัสนี โชติกุล)ด้วย ผมเป็นคนบ้าโผงผางพอสมควร ผมไม่อยากให้ลูกพี่ผมลำบากใจ เพราะผมรู้ว่ามรสุมอะไรกำลังจะมาแล้ว ผมไม่อยากให้ผู้ใหญ่ที่เคารพที่แกรมมี่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของผมและเพื่อนๆ

ค่ายเพลงรับเพลงมา ชอบไม่ชอบไม่รู้ แต่ต้องพยายามขายให้ได้ นั่นเป็นสิ่งที่เราชอบโดยไม่ได้มากำหนดแนวทางและคาดหวังอะไรกับตัวเพลง ได้เพลงมาก็ปฏิบัติหน้าที่ของค่ายเพลงทำยังไงให้ชุดนี้ถึงตลาด ถึงกลุ่มคนฟังด้วยงบประมาณที่สมควรกับปริมาณเทปที่คิดว่าจะขายได้โดยไม่โปรโมตรวดเดียว พอขาดทุนก็รู้สึกไม่ดีกับวง เทปโปรโมตน้อยเกินไปแล้ววงเซ็งกับค่าย วอเนอร์น่าจะทำให้เราเจอความพอดีได้

เผยร่วมงาน วอร์เนอร์ไม่กดดัน ทางค่ายให้โอกาสในการแสดงที่เป็นตัวตนของ สิบล้อ อย่างเต็มที่ ก่อนจะย้ำทำงานกับค่ายใหม่มีความสุข ไม่ต้องมีข้อบังคับมากมาย
พอใจมาก มีความสุขมากกว่าครั้งก่อนๆ อย่างพี่เขียว(กิรติ หรหมสาขา ณ สกลนคร)ที่ลงมาช่วย เขาบอกว่าเขาเป็นแค่กรรมการ ซึ่งเขาถ่อมตัว จริงๆ แกศึกษาอยู่ตลอดเวลาเรื่องวงการดนตรีสากลและในเมืองไทยด้วย รู้จักมากกว่าเราด้วยซ้ำ เราสบายใจมันมีตราประทับการันตีอยู่แล้ว เราทำงานคล้ายชุดที่แล้ว ไม่หวังผลอะไร ไม่ได้คิดอะไรแล้วว่าทำชุดนี้จะต้องดัง ทำไงให้เพลงนี้ดังที่สุดในชีวิต

ไม่เคยวางทิศทางแนวเพลงเลย เราเล่นดนตรีอย่างที่เคยเล่นกัน ผมไม่เคยบอกพี่โด้ว่าต้องตีกลอง หรือผมไม่เคยบอกพี่เอส พี่ใหม่ว่าต้องเล่นกีต้าสไตล์ไหน และไม่เคยมาบอกเล็กให้ร้องแบบไหน ทุกคนเป็นธรรมชาติของตัวนะครับนั่นคือความน่ารักของสิบล้อ มันเป็นความผสมผสาน มันเป็นส้มตำซั่วนะครับ คือมันแปลกตรงที่มีขนมจีน แต่นี่มันแปลกตรงที่มีฝรั่งเป็นนักร้อง"

ได้อาจารย์ฝีมือดีเจ้าพ่อเพลงเพื่อชีวิตอย่าง แอ๊ด คาราบาว งานนี้ทุกอย่างเลยผ่านฉลุย
ก็แนะนำครับ พี่แอ๊ดในเรื่องของการเขียนกลอนการประพันธ์เนื้อเพลง เขาเป็นอัจฉริยะ เราเป็นนักดนตรีมันไม่ถึงขั้นนั้นนะครับ เพื่อชีวิตสำหรับผมมันไม่ได้เป็นคำชมหรือคำด่า ในความหมายของพวกเราที่เห็นด้วยคือเพื่อชีวิตเป็นแนวการแต่งเนื้อ ไม่ใช่แฟชั่นสไตล์การแต่งตัวที่มีผ้าคาดหัวแล้วใส่เสื้อลายทหาร ร้องเพลงในสำเนียงเหน่อๆ จะภาคอีสานหรือภาคใต้ก็ตาม เพื่อชีวิตน่าจะมีประโยชน์หรืออาจจะลึกซึ้งสำหรับคนที่ประสบเรื่องเหล่านั้นอยู่

ส่วนเนื้อหาของเพลงยังคงสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในสังคม แต่ยืนยันไม่ได้เป็นข้อมูลหรือเข้าข้างฝ่ายใดทั้งสิ้น
อัลบั้มนี้มันไม่ใช่ข้อมูลครับมันเป็นงานศิลปะที่สะท้อนความจริง มันคือดนตรีเราก็แค่วงดนตรีวงหนึ่งคงไม่ให้ข้อมูลอะไรมากแต่มันจะให้ความรู้สึกสนใจ สมมติว่าฟังเพลงเงินๆ ทอง หรือความจริงในจอแล้วกลับมาสนใจมากขึ้น มันคือสิ่งที่ดีแต่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ ไม่ได้ยัดเยียดความคิดเรา เพียงแต่ว่าในสถานการณ์แบบนี้คนก็เริ่มมาสนใจเนื้อหามากกว่า

แต่ไม่ว่าชุดอะไรก็ตามเราก็มีเพลงเกี่ยวกับเรื่องสังคม แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับการเมืองสักเท่าไหร่ แม้แต่เพลงเงินๆ ทองๆ หรือความจริงในจอไม่ใช่การเมือง ไม่ได้ต่อต้านไทยรักไทยหรือนายก มันเป็นเพลงเล่าความคิดเห็นของเราที่มีต่อสังคม เศรษฐกิจเป็นใหญ่ ความจริงในจอก็เน้นความไม่เป็นกลางของสื่อแล้วโทรทัศน์มันก็ไม่ได้เชื่อถือซะขนาดนั้น มันเป็นแค่ความจริงเฉพาะในจอ นั่นเป็นสิ่งที่เราพยายามจะพูด แต่เราไม่ได้พูดเรื่องนโยบาย 30 บาทหรืออะไร นั่นคงจะเป็นเพลงการเมือง ผมว่าพี่แอ๊ดคงทำได้ดีกว่า


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์