สุขในตัวเองอย่าง ศรีริต้า เจนเซ่น

ตอนนี้ผลงานละคร “แกะรอยรัก” ทางช่อง 3 กำลังเรตติ้งให้นางเอกสาวคนนี้ ริต้า-ศรีริต้า เจนเซ่น แม้ละครจะไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้าง

แต่ความน่ารักในอีกคาแรกเตอร์ของนางเอกสาวผู้นี้ก็โดนใจแฟนละครไปเต็ม ๆ แถมล่าสุดยังถือว่าเธอเป็นเจ้าแม่ พรีเซ็นเตอร์และรับหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้อีกหลายงาน เฉพาะ สาวริต้า เพิ่งมีผลงานใหม่เอี่ยมเปิดตัวไปหมาด ๆ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นั่นก็คือ การใช้ความสามารถในอีกรูปแบบหนึ่ง ในฐานะที่เป็นนางแบบสาวซึ่งคลุกคลีอยู่ในวงการแคตวอล์กมานาน สำหรับการออกแบบชุดชั้นในสุดเซ็กซี่ในนาม ศรีริต้า เจนเซ่น บาย ไคร่า (KYRA)
  
ด้วยความสามารถที่หลากหลายขนาดนี้ มีหรือที่จะปล่อยให้ผ่านสายตา “ดาวต่างมุม” ไป แน่นอนต้องคว้านางแบบ นางเอกสาวอย่าง ริต้า มาโฟกัสให้แฟน ๆ ชื่นชมกันหน่อย ด้วยความที่ก้าวมาเป็นนางแบบตั้งแต่อายุ 13 ปี เพราะมีใบหน้าหวาน ประกอบกับรูปร่างสูงโปร่ง ตามสไตล์สาวลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก ทำให้เธอผู้นี้มีข่าวชนิดที่หัวกระไดไม่แห้ง

ยิงคำถามแรกทันที หลังจากละครเรื่อง “แกะรอยรัก” แล้ว มีงานละครอะไรอีกบ้าง?
 
“แกะรอยรัก ออกอากาศอยู่ แล้วมีละครที่ถ่ายทำอยู่เรื่อง “สุสานภูเตศวร” ทางช่อง 3 เหมือนกัน เรื่องนี้เป็นคาแรกเตอร์ที่ไม่เคยเล่นมาก่อนเลย คิดว่าท้าทาย และเป็นบทที่ริต้าคิดว่าอยากจะเล่นบทแบบนี้ ได้ลองหลายอารมณ์มากเลย หนึ่ง คือ มันมีหลายชาติภพ อย่างแรกเลยเป็นหมอ มีดราม่าอยู่นะ ย้อนไปในอดีต มีทั้งฉากฆ่าคน ฉากบ้าอำนาจ ฉากยั่วยวน ซึ่งริต้าไม่เคยเล่นมาก่อนเลย แบบว่ามีอำนาจขู่ฆ่าคนได้ มีหลากหลายอารมณ์มาก ริต้ารู้สึกว่ามันท้าทายอ่านบทแล้วมันสนุกดี เลยเล่นค่ะ ยิ่งอ่านยิ่งสนุก แต่ก็กลุ้มใจที่สุดเลยฉากที่ต้องพูดภาษาโบราณ พูดยาว พูดเยอะมาก แล้วต้องเสียงทุ้ม ตาต้องดุกว่านี้ โห!ยาก เครียดค่ะ แต่มันก็ช่วยให้เราได้ฝึกตัวเองไปด้วยนะคะ ตอนนี้ถ่ายทำไปได้ 70% แล้ว สำหรับคิวละครเนี่ยริต้าให้กองฯเค้าไป จันทร์ อังคาร พุธ นอกนั้นก็เป็นเวลารับงานอย่างอื่นค่ะ”

นี่เพิ่งเปิดตัวงานใหม่ไปเป็นอย่างไรบ้าง?
 
“เป็นการออกแบบชุดชั้นในไคร่า ค่ะ ริต้าทำเองหมด ตั้งแต่การเลือกวัสดุ ออกแบบ สีสัน ทุกอย่างเลยค่ะ ที่ลุกขึ้นมาทำมันก็เป็นความชอบส่วนตัวอยู่แล้ว สิ่งที่เราใส่ข้างในเราควรจะลงทุนไม่ต่างจากเสื้อผ้าที่เราใส่ข้างนอกเลย ริต้าว่ามันหายากยิ่งกว่าหาเสื้อผ้าอีก อีกอย่างริต้าก็ชอบ โดยเฉพาะที่เมืองไทยเนี่ยแบบที่สวยมันน้อย ริต้าไปต่างประเทศบ่อย ๆ เห็นของเมืองนอกแล้วรู้สึกโอเค เราน่าจะลองทำดีกว่า ตัวเองอยากให้คนสนุกกับการแต่งตัว อยากให้คนรักชุดชั้นในอย่างที่ริต้ารักริต้าชอบ คิดว่าคนเรามันต้องเซ็กซี่ สวยจากข้างในด้วย พอเราใส่อะไรก็ดูดีไปหมด สวยสุดแหละ (ยิ้ม)”

ดูเหมือนว่าริต้าจะตั้งใจทำงานนี้มากเลยนะ?
  
“เป็นผลงานที่ตั้งใจทำมาก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำริต้าบอกได้เลยว่าตัวเองให้พลังเต็ม 100 ทุกงานที่ออกมา ริต้าใส่ใจทุกครั้ง อยากให้งานออกมาทุกชิ้นดีที่สุด ไม่ใช่ทำงานไปวัน ๆ แล้วต้องการให้มันออกมาดีค่ะ”

งานประเภทอื่น ๆ ตอนนี้มีอะไรอีกบ้าง?
  
“มีเรื่อย ๆ เลยค่ะ เดินแบบ ถ่ายแบบ มีเรื่อย ๆ อยู่แล้ว แต่จริง ๆ แล้วเนี่ยริต้าเป็นคนนึงที่ชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยากค้นหาตัวเอง ไม่รู้หรอกว่าอะไรมันจะออกมาดีขนาดไหน แค่รู้สึกว่าการที่เราได้ลองเนี่ย มันคือสิ่งที่ริต้าคิดว่ามีค่าที่สุดในชีวิตแล้ว มันคือประสบการณ์ชีวิตค่ะ ได้ลอง ได้เรียนรู้ ได้ศึกษา พอเราได้ศึกษาปุ๊บเราก็จะได้รู้ว่าเราชอบอะไรจริง ๆ กันแน่ อะไรเหมาะสมกับเราจริง ๆ เราไม่ลองเราไม่รู้หรอก ว่าชอบอะไร รักอะไร สิ่งที่ริต้าได้ทำตอนนี้ คือ เปิดโอกาสให้กับตัวเองได้ลอง จากการที่เราได้ลองแล้ว ได้ลองมากมายเลย”

แล้วเริ่มเจอตัวเองรึยัง?
  
“เจอแล้วค่ะ ริต้าเจอตัวเองมาตลอด หนึ่งเลยไม่มีใครบังคับให้ริต้าทำอะไรได้ คือ ริต้าจะเลือกงานในสิ่งที่ริต้าชอบ แล้วในสิ่งที่ริต้ามองว่ามันดีแล้ว จะไม่ทำมั่วซั่ว คือ เราจะดูว่าเราอยากทำงานนั้นก่อน แล้วงานนี้น่าสนใจ อยากทำนะ แต่ไม่ใช่ทำโดยผ่าน ๆ เพราะชีวิตเราเกิดมาเพื่อหาความสุข ควรที่จะมีความสุขกับสิ่งที่เราทำ ไม่ใช่เกิดมาเพื่อเป็นทุกข์ สุดท้ายแล้วเงินมันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย มันคือเรามีความสุขกับตัวเองแค่ไหน จิตใจเรามีความสุขกับการทำแค่ไหนมากกว่าค่ะ”

สิ่งที่ริต้าคิดว่าทำแล้วมีความสุขที่สุดคืออะไร?
   
“สิ่งที่ริต้าทำอยู่ตอนนี้ริต้ามีความสุขมากนะ ทุกชิ้นงาน โอเคบางทีเราอาจจะเหนื่อยเกินไป เพราะไม่ได้พักผ่อนเลย เราก็ต้องหาทางสายกลาง เพื่อให้ตัวเองได้พักผ่อนบ้าง เพราะบางทีงานมันเยอะมาก ๆ เหนื่อยนะ มีเครียดบ้างมีอะไรบ้าง เราก็ควรหาเวลาไปพักผ่อนบ้าง แต่ปีนี้แหละสิ่งที่ริต้าทำอยู่ตอนนี้ คือสิ่งที่ริต้าชอบ ริต้ารัก แล้วก็อยากหาอะไรใหม่ทำให้สังคมด้วยค่ะ อย่างงานออกแบบชุดชั้นในเนี่ย ริต้ามีตัดเย็บชุดนอนขึ้นมาโดยเฉพาะด้วยน่ารักมาก แล้วเรานำเงินจากการขายไปมอบให้มูลนิธิปรารถนาดีโดยหักค่าใช้จ่ายต้นทุนเท่านั้น ริต้ามองว่าอะไรที่ช่วยได้ ไม่ว่าจะสิ่งเล็กน้อยแค่ไหน เราช่วยได้ ตรงนี้คือสิ่งที่เราหยิบยื่นได้จริง ๆ เราไม่อยากได้กำไรเลย เราอยากให้ สิ่งที่ริต้าบอก อะไรช่วยได้ช่วย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เล็กน้อย อันนี้ก็คือสิ่งที่ริต้าหยิบยื่นขึ้นมาเพื่อสังคม”

เห็นเข้าวงการบันเทิงมาตั้งนาน ริต้าปกติวางตัวอย่างไร?
  
“ริต้าไม่ได้ระวังตัวอะไรเลยนะ แต่ริต้าเป็นคนไทยคนนึง มีคุณแม่เป็นคนไทย คิดว่าอะไรเป็นสิ่งที่ดีอะไรเป็นสิ่งที่ควร อะไรเป็นสิ่งไม่ควร อะไรคือประเพณี อะไรคือ วัฒนธรรม ริต้าเข้าใจมันหมด แล้วก็เป็นคนนึงที่ไม่ได้บอกว่าตัวเองดี แต่เรารู้ว่าอะไรควร ถามว่าตัวเองเคยทำผิดพลาดไหม บอกได้ว่าเคย แต่ก็พยายามทำสิ่งที่ถูกที่ควรที่เหมาะกับกาลเทศะเมืองไทย ริต้าเป็นคนที่ไม่ชอบแข่งขันกับใคร จะไม่เอาตัวมาแข่งขันในวงการมากกว่า คือ ทำแค่ว่าเรารับผิดชอบงานให้ดีที่สุด ทำในสิ่งที่คิดว่าเรารักและทำมันให้ดีที่สุดมากกว่า โอเค ริต้าอาจจะโชคดีที่ได้เข้ามาอยู่ตรงนี้ ตอนแรกริต้าไม่เคยคิดอยากมาเป็นดาราเลยนะ ไม่ได้อยากเลย แต่ถามว่ารักงานแสดงมั้ย รัก ชอบแสดงชอบทำโน่นทำนี่ ชอบมากเลยสนุกด้วยค่ะ”

จุดนี้แหละคิดว่ามันลงตัวแล้วใช่มั้ย?
  
“ใช่ โอเคแล้ว พยายามทำดี ๆ ไม่ชอบเป็นข่าว เป็นข่าวเป็นได้ แต่ข่าวที่ไม่จริง ไม่ชอบ เป็นข่าวที่จริงจะไม่ว่าอะไรสักคำ  ใช่ฉันเป็นแบบนั้นจริง ๆ แต่ข่าวที่มันไม่จริงเนี่ย มันรู้สึกว่ามันเป็นการดูถูกเรานะ คุณเขียนข่าวไม่มีจรรยาบรรณ มันไม่มีความจริง ไม่มีแม้แต่มูล สิ่งนั้นคือสิ่งที่ริต้าไม่ชอบ เพราะว่าคุณกำลังหยิบยื่นสิ่งที่เป็นการโกหกให้กับประชาชน มันจะดีเหรอคะ มันเป็นสิ่งที่เท็จ แต่ด้วยความที่ริต้าเจอมาเยอะ ริต้าปลงแล้ว ไม่เอามาใส่หัวเลย ไม่เอาเลย เราจะอ่านเขียนให้โกหกทำไม สิ่งที่เป็นดราม่า สิ่งที่น้ำเน่า สิ่งที่เป็นละครนอกจอ ริต้าไม่รับเลย เพราะว่าละครมีแค่ในทีวีพอแล้ว”

แล้วเคยเจอข่าวเรื่องแย่ ๆ บ้างมั้ย?
 
“ความจริงก็คือความจริง คุณจะรู้พรุ่งนี้ รู้วันนี้ รู้อนาคตคุณก็ต้องรู้อยู่ดี บอกได้เลยริต้าไม่ได้ทำค่ะพี่ ไม่จริงค่ะ ข่าวที่ไม่จริงไม่กี่วันมันก็จบ เพราะมันไม่จริง เมื่อมันไม่มีกระแสตอบมา มันก็จบ อีกอย่างหนึ่งริต้าเป็นคนที่ตรงมาก ใช่ริต้าก็จะบอกว่าใช่ ไม่เคยมาเสแสร้ง นั่นไม่ใช่ริต้า เขาก็จะรู้ นักข่าวฉลาดพอที่จะรู้ว่าใครแต่ละคนเป็นยังไง ด้วยความที่เขาเจอคนเยอะ เขาจะรู้ว่าไม่เชื่อใครหรือจะเชื่อใคร”

คราวนี้ขอหันมาเรื่องราวความรักกันบ้าง ในเมื่อรักครั้งเก่า (เต้-บรม) จบไปแล้ว ตอนนี้หัวใจเป็นอย่างไร?
  
“คนก็ถามเยอะนะ กับคนเก่าชอบมีคนมาโยงตลอด ริต้าเข้าใจ แต่ว่าไม่ได้อยากมีคนใหม่ ด้วยความที่ริต้าไม่มีเวลาเลยจริง ๆ นะ ถ้าเกิดคนที่ไม่ใช่  ริต้าบอกเลยริต้าไม่อยากเสียเวลาคบแน่นอน ริต้าไม่อยากเสียเวลากับใคร ถ้าเกิดริต้าเจอคนที่ใช่เมื่อไหร่ ริต้าก็จะบอกพี่ ๆ แน่นอนว่าคนนี้ริต้าดูใจอยู่นะ แต่ตอนนี้เนี่ย ริต้ายุ่งมาก ๆ แล้วริต้าก็ยังไม่เจอใครที่ใช่เลยด้วย”

ทำไมถึงไม่อยากโหยหาความรักตอนนี้ล่ะ?
   
“ริต้ามีความสุขในตัวเองอยู่แล้ว ริต้าไม่ต้องการใครมาเติมเต็มชีวิต ริต้า ถ้าเขาไม่ใช่ถูกมั้ยคะ ริต้าว่ามันจะเป็นการเสียเวลามาก เรากำลังเอาเวลาที่เราสามารถทำอะไรได้มากมาย เช่น อยู่กับครอบครัว ทำในสิ่งที่เราชอบ ทำในสิ่งที่เรารักไปให้เวลากับเขา และถ้าเขาไม่ใช่ด้วย ปวดหัวทันทีเลย ถ้าเจอคนที่ใช่เมื่อไหร่ ค่อยเริ่ม ตอนนี้มีความสุขแล้ว ริต้าแฮปปี้แล้ว ริต้าอยู่ในวัยที่อยากทำงานก่อน ริต้าบอกแน่นอนว่าริต้าต้องมีวัยตอนชีวิตคู่แต่งงานเหมือนคนทั่วไปแน่นอนค่ะ เกิดริต้ามีความรักแล้ว ริต้าไม่มีเวลาให้เขา มันก็น่าสงสารเขานะ มันก็เป็นสิ่งที่เศร้าอีก”

แต่ไม่ถึงกับปิดกั้นตัวเองใช่ไหม แล้วมีสิทธิรีเทิร์นกันรึเปล่า?
   
“แน่นอนวันนึงอย่างที่ริต้าบอกไม่เคยปิดกั้นตัวเอง มันต้องมีคนที่เป็นคู่ชีวิตเรา เพราะริต้าก็เชื่อเรื่องพรหมลิขิต รักแท้มีจริง ความรักที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่ดีนะคะ เรายังเป็นเพื่อน เราผ่านความรักมา ความรักป็นสิ่งที่ดี ริต้าอยากให้คนรักกัน รักมันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วค่ะ เราเกิดมาเพื่อที่จะมีความรัก แต่ว่าความรักที่ผ่านมามันดีมาก แต่ตอนนี้อาจจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เลยหยุดมันไว้ก่อน ขอทำตรงนี้ก่อน อนาคตขอว่ากันอีกที อย่างที่ริต้าบอกว่าริต้าจะไม่ค่อยมองอะไรยาวมาก โอเคทำตามรู้สึกของเราไปก่อน”

จะว่าไปแล้วริต้าเป็นคนหัวโบราณเหมือนกันนะเนี่ย?
   
“โบราณนะ ขนาดคุณพ่อริต้าเป็นคนเดนมาร์ก ยังบอกริต้าว่าริต้าเนี่ยโคตรไทยเลย เรื่องนี้คุณแม่ปลูกฝัง   ริต้ามาด้วย คนเดนมาร์กยังบอกเลยว่าทำไมยูเป็นอย่างนี้ ไม่เหมือนพวกเขาเลย แต่ในเรื่องความคิดริต้าคิดแบบฝรั่งนะ ใช้ความมีเหตุมีผล ความมั่นใจ ยิ่งในเรื่องรักนวลสงวนตัวเนี่ย เคร่งมาก”
 
 นี่แหละตัวตนที่แท้จริงของนางเอกสาวลูกครึ่งหัวใจไทย....