แหม่มเสียน้ำตาตื้นตันได้เป็นแม่

กลิ่นอายวันแม่อบอวลเข้ามาทุกที ในวาระ "วันแม่" ที่จะถึงนี้

มีโอกาสดีได้กะเทาะความรู้สึกคุณแม่วัย 36 ปี "แหม่ม"คัทลียา กระจ่างเนตร์ ที่ได้สัมผัสความเป็นแม่มาแล้ว 2 ปีกับ 10 เดือน เท่ากับอายุลูกชายวัยน่ารัก "น้องแมค"ด.ช.สิริ กระจ่างเนตร์

l เป็นคุณแม่แล้ว ชีวิตส่วนตัวน้อยลงมั้ย?

แหม่ม - "ค่ะ เป็นคุณแม่ชีวิตส่วนตัวน้อยลง แต่เป็นเรื่องที่เราเต็มใจ บางทีวิ่งเหนื่อยทั้งวัน เสร็จงานแล้วต้องรีบไปรับลูก สมัยก่อนว่างจะไปช็อปปิ้ง ทานข้าวกับเพื่อนบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ เราสามารถทิ้งทุกอย่างได้เพื่อลูก"

l ตอนนี้น้องแมค 2 ขวบกว่าแล้ว เลี้ยงยากมั้ย?

แหม่ม - "โชคดีที่แมคเลี้ยงง่าย เป็นขวัญใจ ของทั้งสองบ้าน (แมคอินทอช กับ กระจ่างเนตร์) เป็นหลานคนแรกเขาได้รับความรักความอบอุ่นเต็มที่"

l พัฒนา การของน้องแมคในวัยเรียนรู้เป็นอย่างไร?

แหม่ม - "ในช่วงนี้แมคเรียนชั้นเตรียมอนุบาล เขาพูดเยอะขึ้น บางทีที่อารมณ์ดีจะพูดไม่หยุด เขามีพัฒนาการเป็นไปตามวัย ไปโรงเรียนเขามีความสุขที่ได้เจอเพื่อนๆ ทำกิจกรรมร่วมกัน อย่างเล่นทราย เตะบอล คุณครูสอนอ่านหนังสือ ร้องเพลง แมคก็จะได้อะไรใหม่ๆ กลับเข้ามานำเสนอที่บ้านเรื่อยๆ แต่วันไหนที่เขาไม่ค่อยเล่า เราก็จะซักๆเขา พอเขาตอบคำถาม เขาก็จะมีเรื่องที่ถามเราบ้าง เวลาที่โดนเขาซักถามจะเป็นคำถามเดิมๆ ถามเรื่องเดิมๆ เราตอบมากๆ มีมึนเหมือนกันนะ ทั้งที่เมื่อก่อนเคยมีอยู่ช่วงที่เขาขวบกว่าๆ ยังไม่ค่อยพูด ก็มีคนแซวว่า เอ๊ะ...หรือว่าแม่คุยเก่งกว่า แย่งลูกพูดหมด"

l เหงาไหมช่วงที่น้องแมคไปโรงเรียน?

แหม่ม - "ยังไม่ค่อยเหงาเพราะยังเป็นช่วงสั้นๆ สิ่งที่เน้น แหม่มจะรับส่งแมคเอง โรงเรียนเข้า 9 โมงเช้า รับลูกบ่ายโมง เรื่องเหงาตอนนี้ยังไม่เหงา แต่ถ้าเขาต้องไปเรียน ต่างประ เทศเราคงเหงา เป็นเรื่องที่ดูๆไว้ แต่คงยังอีกนาน ช่วงนั้นเขา คงอายุ 10 กว่าขวบแล้ว"

l แหม่มนี่เข้าข่ายหวงหรือห่วงลูก?

แหม่ม - "แหม่มว่าห่วงมากกว่า เรื่องหวงเราหวงปกติ แต่ไม่ใช่หวงห้ามใครมาจับลูก ห้ามไม่ให้ลูกไปไหนต้องอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม แต่เป็นห่วงลูกมากกว่า เล่นแล้วจะล้มไหม เดี๋ยวไม่สบาย เป็นไข้ตัวร้อน จิปาถะ ซึ่งความกังวลเหล่านี้ไม่ได้ทำให้จิตตกหรือวิตกจริต ช่วงลูกปกติก็โอเค แต่ถ้าช่วงไหนลูกไม่สบาย เราแทบไม่ได้หลับ"

l วีรกรรมของน้องแมคที่ทำให้รู้สึก ตื้นตัน ตื่นเต้น?

แหม่ม - "เรื่องตื่นเต้นคงยังไม่มาก มายเพราะเขายังเล็ก แต่จะมีเรื่องให้ชื่นใจ เขาจะมาโดยที่เราไม่รู้ตัว อยู่ๆก็มาจับแก้ม มาจุ๊บปากแม่ ทำให้เรารู้สึกชื่นใจ บางทีไปรับที่โรงเรียน แหม่มจะชอบถามว่า แมคดีใจไหมที่แม่มารับ เขาก็จะบอกว่าดีใจ พอแหม่มใส่รองเท้าให้เขา เขาก็จะถามกลับแถมตบไหล่ "แม่ แม่ ดีใจไหม แมคมาแล้ว" เป็นคำถามที่ไร้เดียงสา มีหลายเรื่องที่เราเดาไม่ถูกหรอกว่าจู่ๆ เขาจะมาอะไรยังไง บางทีก็จะมาบอกว่า "แม่..แม่จ๋า แมครักแม่" ได้ยินแล้วตายสนิท"

l น้องแมคหล่อขึ้นนะ เริ่มสูง หน้าเรียว ผิวใส?

แหม่ม - "เหรอคะ อาจเพราะแหม่มเห็นเขาทุกวัน ช่วงก่อนที่เขายังเล็กดูอ้วนๆ หน้ากลมๆ ช่วงนี้แมคเริ่มยืดตัว หน้าเลยดูเรียว ก่อนหน้านี้จะเป็นกังวลมากเวลาที่เห็นลูกคนอื่นเขาผมดกผมหนา มองดูลูกเราทำไมผมน้อยจัง มาช่วงนี้ที่แมคเริ่มที่จะผมหนา บี่บี๋เขาก็แซวว่า แหม่มเอ๋ย ตอนนี้แมคผมเยอะกว่าพ่อแล้ว"

l วัยของแม่กับลูกตัวเลขห่างกันมาก แต่เมื่อเรามีลูกเล็ก คนเป็นแม่จะต้องขี้เล่นยอมลดวัย?

แหม่ม - "ค่ะ เราพยายามทำอะไรก็ได้ให้ลูกสนุก บางทีเวลาอยู่กับเพื่อนๆ เราจะเป็นตัวเราปกติ แต่พออยู่กับลูกเราต้องเล่านิทาน จะเล่าเสียงเรียบๆ ดูไม่สนุก ไม่ชวนติดตาม เราก็ต้องเป็นนักเล่านิทานที่มากไปด้วยลีลา และมีน้ำเสียงแปลกๆ ขนาดพี่เลี้ยงลูกยังแซวเลยว่า สมกับที่แม่เป็นนักแสดงจริงๆ เพราะเวลาที่ลูกทำท่ายิงปืนใส่เรา เราก็ต้องแสดงอาการและแกล้งล้มตัวลง คนเป็นแม่ทำได้สารพัดเพื่อให้ลูกมีความสุข"

l แล้วคุณพ่อสงกรานต์ทำบ้างไหม?

แหม่ม - "อย่างพ่อนี่จะเหลือเหรอ พ่อนี่ฮาสุด ขนาดพ่อเขามาดนิ่งๆ ขรึมๆ แต่เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อลูก"

l เรื่องเล่าของคนเป็นแม่ที่สนุกและสุขที่สุดคือเรื่องลูก จริงมั้ย?

แหม่ม - "จริงนะ เป็นเรื่องที่ตัวเองไม่รู้ตัว แต่มีหลายคนบอกว่า เวลาเล่าเรื่องนั้นก็สนุก เล่าเรื่องนี้ก็สนุก แต่พอเล่าเรื่องลูก เห็นออกที่แววตาเลยว่าเปล่งประกาย ดูมีความสุข"

l น้ำตาของแหม่ม ในความรู้สึกของคนเป็น "แม่" ไหลออกมาตอนไหน?

แหม่ม - "ตอนคลอด น้ำตาแหม่มไหลโดยอัตโนมัติ ไม่ได้ไหลเพราะเจ็บปวด หรือเศร้าหรือเสียใจอะไร แต่พอได้ยินเสียงลูกร้องแว้แรก เหมือนสายใยโยงเข้ามาถึงใจเรา ภาพในวันนั้นแหม่มยังคงจำได้ละ เอียดยิบ ไม่ลืมเลย แปลกนะบางเรื่องเรายังมีหลงลืมบ้าง แต่รายละเอียดในวันที่คลอดลูกนั้นแหม่มจำได้แม่นยำ"

วัน "ลูก" เกิด เป็นวันที่ "แม่" ทุกคนไม่มีวัน ลืมเลือน


จากใจ"แม่ยุรภรณ์"

นอกจากมีโอกาสพูดคุยกับนางเอกสาว "แหม่ม-คัทลียา" ในวาระ "วันแม่" แล้ว วันนี้ยังมีโอกาสได้พูดคุยกับ "คุณแม่ยุรภรณ์ แมคอินทอช"

คุณแม่ของ "แหม่ม" ถึงการเลี้ยงดูอบรมลูกๆ ด้วย "ช่วงที่พวกเขายังเล็ก ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ แต่จะไปรับไปส่งลูก ในขณะที่ขับรถไปเราก็พูด อย่างที่เรียกกันว่าออสโมซิต ปล่อยให้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเข้าไว้ พูดเรื่อยๆ ให้เขาซึมซับไปเอง" แม่ยุรภรณ์เกริ่นเรื่องราว

จากนั้นก็เผยถึงลูกสาวลูกชายจอมซนในวัยเยาว์ว่า

"แหม่มเป็นเด็กผู้หญิงที่เรียบร้อย แต่ถ้าพูดถึงเรื่องดื้อ เขาดื้อเงียบ ส่วนวิลลี่ซนแบบเด็กผู้ชาย จะต่างกัน แต่แม่จะบังคับให้เขาต้องดูแลน้องสาวด้วย เวลาที่เขาไปโรงเรียนสองพี่น้องจะต้องจูงมือกันไป แม่จะกำชับวิลลี่ว่าต้องดูแลน้องนะ อย่าปล่อยน้องเดินคนเดียว" ช่วงที่ลูกชายลูกสาวเข้าวงการ คุณแม่จะคอยแนะนำและเน้นย้ำให้ลูกทำในสิ่งที่ถูกต้อง กลับบ้านตามเวลา ถ้าวันไหนไม่กลับ คุณแม่จะมายืนคอย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะห่วงลูกมาก

ถามว่าระหว่าง "แหม่ม" กับ "วิลลี่" ห่วงใครมากที่สุด คุณแม่กล่าวแบบไม่ต้องคิด "ห่วงเท่ากัน ถึงโตยังไง อายุมากเท่าไหร่ ยังไงก็ลูก"

หลังลูกสาวมีลูก คุณแม่ยุรภรณ์ยังได้สอนแนวทางการเลี้ยงดูลูก โดยแนะนำว่าต้องให้ความใกล้ชิดลูกมากๆ ติดตาม คอยสั่งสอน มีอะไรก็เปรียบเทียบอุปมาอุปไมยให้ได้เห็นภาพ คอยสอนเพื่อที่ลูกจะได้ซึมซับ

ว่าแต่คุณยายล่ะ สอนอะไรหลานชายบ้าง?

คุณยายออกตัวขำๆ "ก็ต้องให้แม่เขาสอนซิ" พอถูกซักว่าเจอกันบ่อยแค่ไหนกับหลานยาย "น้องแมค" คุณยายยิ้มหวานนัยน์ตามีสุขก่อนกล่าวว่า "เจอบ่อยค่ะ เขาไม่มาหาเรา เราก็ไปหาเขา"

หลงเสน่ห์หลานชายเข้าล่ะสิ?

คุณยายยิ้มชอบใจ "เขาตาหวาน ปากหวาน แถมเจ้าเล่ห์ด้วยนะ เขาชอบโทร.มาอ้อน บอกคิดถึงคุณยาย รักคุณยายเท่านั้นเท่านี้" "แมค" คล้ายใคร ระหว่าง "วิลลี่" กับ "แหม่ม" คุณยายแจง "แมคเขาเหมือนวิลลี่ตอนเด็กๆ มาก เป็นคนตลก อารมณ์ดี ยิ้มเก่ง"

ครอบครัวสมบูรณ์พร้อมหน้า แม่ ลูก หลาน คุณยุรภรณ์บอกอย่างเป็นปลื้มว่า

"ตอนนี้มีความสุขมาก พอแล้วชีวิตเรา จะเอาแค่ไหนกัน แต่ถ้าถามว่าอยากมีหลานๆ เพิ่มบ้างไหม อยากมี ก็บอกทั้งแหม่มและวิลลี่ว่าอยากได้หลานแฝด จะเป็นหลานสาวหลานชายอยากได้หมด อยากให้มีเยอะๆ" คราวนี้ก็มาลุ้นกันว่า ระหว่าง "พี่วิลลี่" กับ "น้องแหม่ม" ใครจะมีหลานคนที่ 2 ให้แม่ชื่นชมก่อนกัน



"แหม่ม"ซึ้งหัวอก"แม่"

หลังจากที่ได้ลงมือเลี้ยงลูกเองแล้ว เลยถาม "แหม่ม"คัทลียา แมคอินทอช ถึงการที่ถูกเลี้ยงดูจากคุณแม่ "ยุรภรณ์ แมคอินทอช" ซึ่งแหม่มเล่าถึงแม่ว่า

"คุณแม่จะเลี้ยงลูกในแบบเดียวกันคือพูดตลอด ช่วงเด็กๆ เราสองพี่น้องก็จะจูงมือเดินหนีคุณแม่บ้าง คุณแม่ก็จะเดินตามไปบ่นต่อ ถ้าควบคุมไม่ได้ในขณะนั้น คุณแม่ก็จะมีวิธี คือชวนขึ้นรถ เราก็จะขึ้นรถ ถามคุณแม่ว่าจะไปไหน คุณแม่บอกว่ายังไม่ต้องรู้หรอก และตลอดทางแม่ก็จะพูดๆๆๆ ครั้งหนึ่งตอนนั้นที่ถนนยังไม่ดีมาก แม่พูดจากเอกมัยยาวไปจนถึงพุทธมณฑล หลายชั่วโมงเลยทีเดียว ที่แม่พูด บ่น อบรมสั่งสอน โดยที่ลูกๆ หนีไปไหนไม่ได้เพราะติดอยู่ในรถนั่นแหละ เรียกได้ว่าเป็นออสโมซิต ถึงแม้คำพูดจะทะลุซ้ายออกขวา แต่มันก็กลับเข้ามาที่หูซ้ายอีก และที่เด็ด แค่คุณแม่หันมามองหน้า จ้อง หรือทำเสียงกระแอม เราสองพี่น้องก็นิ่งแล้ว แต่ไม่เคยโดนตีนะ"

วันนี้ที่ "แหม่ม" ได้เป็น "คุณแม่" แล้ว เจ้าตัวยอมรับว่า ได้นำแนวทางการเลี้ยงดูของ "คุณแม่ยุรภรณ์" มาสอน "น้องแมค" ด้วย

"ทั้งหมดที่คุณแม่สั่งสอนเรามา แหม่มก็เอามาใช้กับลูกเรา บวกกับแนวทางของสมัยนี้ที่เปลี่ยนไป แต่แหม่มยังคงยึดหลักสำคัญๆ ที่คุณแม่อบรมมา มาถึงวันนี้เราได้เห็นคุณค่ามากขึ้น ซึ่งแหม่มจะเลี้ยงลูกตามเหตุและผล ผสมผสานกันระหว่างแนวทางการเลี้ยงแบบโบร่ำโบราณที่ดีมีเหตุผล กับวิธีการเลี้ยงแบบสมัยใหม่ อย่างแมคเขายังเด็กมากบางทีที่เขาเล่นเขามาจับหัวแม่ สมัยโบราณอาจจะห้าม ไม่เหมาะ แต่สมัยนี้ดูเป็นการสื่อสาร สัมผัสรักของลูก ซึ่งลูกยังเล็ก เราเองก็ไม่ได้ถือ"

รู้สึกมั้ยว่า พอมีลูกแล้วทำให้ตัวเองรักคุณแม่มากขึ้น แหม่มกล่าวว่า

"ไม่ได้รักคุณแม่มากขึ้น เพราะเรารักคุณแม่ที่สุดอยู่แล้ว และเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมในวันนั้นที่เรายังเด็ก คุณแม่จะต้องบ่นปากเปียกปากแฉะ วันนี้รู้ซึ้งแล้วเมื่อเราได้กลายมาเป็นคุณแม่เอง ได้เห็นแม่ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้แหม่มกับพี่วิลลี่ เสียสละ อดทน สารพัด"

"แหม่มเข้าใจมากขึ้นว่าที่แม่ดุแม่เฮี้ยบ เพราะแม่รัก"


ชิ้นโบแดงของ"แม่แหม่ม-ลูกแมค"

ยังไม่ทันถึงวันแม่ "12 สิงหาคม" แต่ดูว่าคุณลูกอย่างหนู "แหม่ม-คัทลียา" เกิดใจร้อน อยากทำเซอร์ไพรส์คุณแม่ "ยุรภรณ์ แมคอินทอช"


โดยร่วมมือกับหนุ่มน้อย "น้องแมค" ลูกชาย ด้วยการมอบของขวัญชิ้นโบแดงที่ทำมาจาก "มือแหม่ม" กับ "มือแมค" "คิดเยอะมากว่าจะหาของขวัญอะไรให้คุณแม่ดี หลายอย่างที่คุณแม่มีอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นของที่ทำจากฝีมือแหม่มกับแมค สองแม่ลูกเลยช่วยกัน เป็นภาพวาด "รักคุณยาย" โดยแหม่มให้แมคช่วยลงสีพื้นที่เป็นสีฟ้า ส่วนรูปเลือกวาดรูปง่ายๆ ตอนที่วาดระบายภาพนี้แมคเขาดูสนุกมากกับการใช้พู่กันระบายสี เขาละเลงได้สนุกเลยค่ะ"

ชิ้นเดียวไม่พอ แหม่มยังมอบของขวัญอีกชิ้นเป็นกระเป๋าถือกุชชี่ให้คุณแม่ แหม่มแหย่อย่างขำๆ ว่า

"99.99% คิดว่าซื้อให้ตัวเอง เพราะแหม่มชอบยี่ห้อนี้ เวลาที่คุณแม่ไปงานจะหิ้วกระเป๋าสไตล์เดิมๆ เราก็รู้สึกว่าคุณแม่แต่งตัวเรียบๆ น่าจะมีกระเป๋าที่มีสีสันหน่อย และที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แหม่มก็มักยืมกระเป๋า รองเท้าคุณแม่ใส่เพราะเราใส่ไซซ์เดียวกัน"

"เรียกว่า อยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียง" ไอเดียดีเนอะ


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์