แด๊ก บิ๊กแอส เศร้า! โดนรุมสกรัมด่า หมามันยังรักลูก

ในที่สุดก็ยอมปรากฎกายออกมาเผยความรู้สึก หลังทำตัวเงียบหายไปจนมีข่าวลือว่า ค่ายแกรมมี่ฯ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ แด๊ก บิ๊กแอส หรือเอกรัตน์ วงศ์ฉลาด ได้ยัดเงินให้อดีตนางแบบนู้ด ฝ้าย-ฟารีดา เพื่อปิดคดีฟ้องร้องที่แด๊ก บิ๊กแอส ได้ไปทำสาวฝ้ายท้องแล้วไม่ยอมรับเป็นพ่อของเด็ก โดยก่อนหน้านี้สาวฝ้ายได้ออกมายันว่าไม่ได้รับเงินปิดปากแต่อย่างใด ล่าสุดหนุ่มแด๊กได้ออกมาเผยตัวในออกรายการ "ที่นี่หมอชิต" ทางช่อง 7 และยอมเปิดใจถึงผลกระทบที่ได้รับหลังตกเป็นจำเลยของสังคม ทั้งที่เจ้าตัวยังไม่ถูกศาลตัดสิน

ทั้งนี้หนุ่มแด๊กยอมรับว่า อยากให้เรื่องราวจบลงเร็วที่สุด และอยากให้สาวฝ้ายพาลูกชาย "จัสติน" ไปตรวจดีเอ็นเอเร็วๆ เรื่องยุ่งๆ ทั้งหลายจะได้จบลงสักที

"ผมเป็นคนแรกเลยที่อยากรู้ว่า ลูกของเขาเนี่ยเป็นลูกผมหรือเปล่า เขาบอกว่าเป็นลูกผม ผมก็ไปเจาะเลือดที่นิติเวชมาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เท่าที่ทราบเขายังไม่ได้นำเด็กมาพิสูจน์ดีเอ็นเอ แล้วอยู่ดีๆ เรื่องก็เงียบหายไป คือผมไปพิสูจน์มาให้แล้ว อยู่ที่เขาจะพาไปเมื่อไหร่ ผมว่าเขาก็อยากรู้เหมือนที่ผมอยากรู้เหมือนกัน"

"ภาพสุดท้ายที่มันถูกตัดคือ ผมเบี้ยวการตรวจดีเอ็นเอ ก็ในเมื่อสังคมอยากรู้ว่าใช่ลูกผมหรือเปล่า ผมก็ไปตรวจแล้ว ผมอยากยืนยันความบริสุทธิ์ไปเลยว่าเป็นยังไง แต่ว่าความคลาดเคลื่อนของวันคือ นัดวันศุกร์ แต่เขาไปแจ้งความก็เลยเกิดความคลาดเคลื่อนเป็นว่านัดวันพฤหัสฯ คือเราคุยกันตอนวันพุธว่าจะนัดตรวจดีเอ็นเอวันศุกร์ พี่ๆ นักข่าวก็ไปกันวันพฤหัสฯ คนเราอยากรู้ก็ต้องรู้กันเดี๋ยวนั้นไงครับ ซึ่งมันไม่ใช่ การที่เราจะนัดหน่วยราชการเราก็ต้องนัดก่อนล่วงหน้า เราเลยขอนัดวันศุกร์เพราะสะดวกกว่า"

ผมพร้อมที่จะทำทุกอย่างให้มันชัดเจน ให้มันแน่ชัดมากขึ้น ที่มีปัญหามากที่สุดคือเรื่องของการทำงาน ความจริงมันไม่ใช่เรื่องที่หลายคนเข้าใจนะครับว่า พอมีปัญหาอย่างนี้แล้วแกรมมี่จะตัดหางปล่อยวัด พรีเซ็นเตอร์จะถอด ถ้าเป็นเรื่องนี้ไม่เป็นไรหรอกเพราะผมมาจากคนที่ไม่มีอะไรอยู่แล้ว ปัญหาคือเราจะไม่สามารถทำเพลงต่อไปได้ ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างยังค้างคาอยู่แบบนี้ เพราะทุกคนรู้ว่าบิ๊กแอสจะเอาชีวิตจริงมาทำเพลง ซึ่งถ้าเราไม่สนใจก็ได้ จะออกเทปต่อไปแล้วไม่พูดเรื่องนี้เลยก็ได้ แต่หลายคนจะข้องใจมาก เรื่องมันมาอย่างนี้แล้วจะไม่พูดเลยหรอ สรุปแล้วมันยังไง คือผมอยากได้บทสรุปเท่านั้นเอง อยากให้มันกระจ่างมากกว่านี้ ตอนนี้ผมไม่สามารถไปบอกเล่าอะไรได้เลย เพราะพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อว่าความจริงเป็นยังไงกัน"

ได้ติดต่อกับฝ้ายบ้างมั้ย???
"ไม่ได้ติดต่อ การสื่อสารทุกอย่างมันนิ่ง คือผมเป็นลูกผู้ชายพอนะ จะให้ผลมันเป็นยังไงก็ได้ ขอให้มันมีบทสรุปสักที ไม่ใช่ว่ามาอย่างนี้แล้วอยู่ๆ ก็เงียบหายไป ถ้าเกิดเป็นลูกผม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรก็พร้อมที่จะรับเลี้ยงดู แต่ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ต้องห่วงว่าผมจะไปซ้ำเติมอะไร ผมไม่มานั่งฟ้องกลับอยู่แล้ว แต่ว่าไอ้ผลกระทบที่คนยังติดภาพอยู่ว่า ผมเป็นพ่อใจร้าย พ่อใจดำ มันยังอยู่ ซึ่งมันไม่ใช่อย่างนั้นไงครับ"

"มีคนหลายคนเชื่อไปแล้ว เขาบอกว่าผมเป็นพ่อใจดำ พ่อใจร้าย หมามันยังรักลูกเลย แล้วทำไมผมไม่อุ้มลูก ผมรู้สึกแย่นะ แต่ก็รู้อยู่แล้วว่า เราต้องพร้อมรับสถานการณ์ทุกอย่าง และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรารู้กันอยู่สองคน จะให้มานั่งบอกทุกคนว่าเหตุการณ์เป็นยังไงก็ไม่ได้ ที่ผ่านมามันเหมือนที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะว่ามันไม่ใช่แค่หนังสือพิมพ์บันเทิงอย่างเดียว มันเป็นหนังสือพิมพ์หัวใหญ่หลายๆ เล่มที่ลงข่าวนี้ คือผมไม่เข้าใจว่าทำไมทุกอย่างมันถึงถูกตัดสินก่อนที่จะรู้ความจริงซะอีก เพียงแค่มีคนมาบอกว่ามันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เหมือนกับที่มีข่าวว่าน้องคนนี้เขาบอกว่ามีเด็ก คุณก็เชื่อกันแล้ว ตอนนี้ภาพของผมเสียไปแล้วครับ"

"ผลกระทบตอนนี้มีหลายด้านเลย อย่างแรกเลยคือตัวผมกลายเป็นจำเลยของสังคมไปแล้ว มีแต่คนบอกว่าเราแย่อย่างนั้นอย่างนี้ โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไร ผมเองก็ยังไม่รู้ที่เขามาบอกว่าผมเป็นพ่อเด็ก ตอนนี้ผมยังไม่รู้อะไรเลย แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตัวผมมันยังไม่เท่าไหร่ แต่คนรอบข้างผมสิครับ พ่อกับแม่ผมช่วงแรกเครียดมาก ผมไม่อยู่บ้านเลยนะ คือเรื่องด้านไม่ดีเนี่ยคนรอบข้างอยากรู้อยากเห็นมาก ถ้าผมไปบอกเขาว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขายิ่งรู้คำตอบ เราก็ต้องคอยตอบคำถามของคนหลายคนมากขึ้น ผมแค่เดินไปบอกพ่อแม่ว่า ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวผมจัดการเอง เพราะผมโตแล้ว ไม่ใช่ว่าเป็นวัยรุ่นตอนต้น แต่เป็นวัยรุ่นตอนปลาย แล้วเราก็มีวุฒิภาวะพอที่จะรู้ว่าควรแก้ไขปัญหายังไง เพื่อนร่วมวงเนี่ยเครียดยิ่งกว่าผมอีก คือผมไม่ได้บอกที่วงว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังมีคนที่คอยให้คำปรึกษาอยู่"

ตอนนี้คดีคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว???
"ตอนนี้ผมมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการ เรื่องคดียังอยู่ที่ตำรวจ ยังไม่ถึงขั้นศาล ซึ่งถ้าถึงขั้นศาลก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ คดีนี้เป็นคดีอาญา ตอนนี้ผมยังไม่ได้รับการติดต่ออะไรเลย"