นางร้ายรู้ชะตา! จุดจบรับผลกรรม


10ปีในโลกมายา ดาราสาว "ชมพู่"อารยา เอ.ฮาร์เก็ต ใฝ่ฝันว่าอยากให้คนดูยอมรับกับการเป็น "นักแสดง" ของเธอ

และแล้วเธอก็ทำได้ เมื่อพลิกมารับบทร้าย "รินลดา" ในละคร "ดาวเปื้อนดิน" ทางช่อง 7 จนชาวบ้านชาวช่องติดกันงอม เรียกว่าเป็น "นางร้ายมือใหม่" แต่ฝีมือน่ะเก๋า เข้าถึงบทบาทจนหาตัวจับยาก " ขอบคุณที่ชื่นชมค่ะ เพราะเรื่องนี้เหนื่อยมาก แต่ฟีดแบ็กที่กลับมาถือว่าคุ้มมากค่ะ" ชมพู่กล่าวขอบคุณในคำชม ก่อนที่จะเข้าหัวข้อสนทนาอื่นๆ ที่วันนี้ได้นั่งคุยชนิดไม่เมื่อยไม่เลิก

l เส้นทางการเป็นนักแสดงที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง?

ชมพู่ - "ค่อยเป็นค่อยไปค่ะ ไม่ได้แบบแป๊บเดียวดัง ของชมต้องใช้เวลา แต่มันก็ดีนะ มันสอนให้เราดิ้นรน ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ และทำให้ไม่ลืมว่าเรามาจากไหน มันจะเห็นคุณค่าของทุกๆ อย่างที่ผ่านมา เห็นคุณค่าทุกสิ่งที่ทำ มันจะเห็นคุณค่าหมด เพราะทุกอย่างค่อยๆ สั่งสมให้คนยอมรับและทำให้เราแกร่งขึ้น ชมว่าตรงนี้เป็นภูมิต้านทานที่โอเคสำ หรับชม มาไวมากเราจะไม่เข้าใจเมเจอร์ของวงการ เหมือนเราไม่แข็งแรงไม่มีวัคซีน เราค่อยๆ เรียนรู้ธรรมชาติของวงการ ถ้ามาไวมากเราก็ไม่รู้รสชาติของมันค่ะ"

l แล้วจุดเปลี่ยนในเรื่องชื่อเสียงอยู่ตรงไหน?

ชมพู่ - "น่าจะตอนเล่นละคร "หมอลำซัม เมอร์" ตอนนั้นมีคนรู้จักเยอะขึ้น มีงานเยอะขึ้นและมีสม่ำเสมอ จากนั้นอีกพักใหญ่ก็ถ่ายแบบเซ็กซี่ ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าพลิกภาพนะ ชมรู้สึกว่าดารากับการถ่ายแบบเป็นของคู่กัน ซึ่งแฟชั่นเดี๋ยวนี้ก็ต้องมีเปิดตรงนั้นนิดเปิดตรงนี้หน่อย ชมว่าอาจจะเป็นเพราะหลังๆ มีหนังสือแบบนี้ให้ถ่ายเยอะขึ้น ทำให้คนติดตากับเราบนแผงหนังสือ"



l หลังๆ รับงานเดินแบบถ่ายแบบเยอะขึ้น ระหว่างงานแสดงกับเดินแบบถ่ายแบบชอบอย่างไหนมากกว่ากัน?

ชมพู่ -
"บอกได้เลยว่าแคต วอล์กไม่ใช่ที่ของชม ถ่ายแบบก็ไม่ใช่ เพราะเวลาที่ชมอยู่ในกลุ่มสังคมนางแบบเรารู้สึกแปลกแยก รู้สึกว่าเราทำได้ไม่ดีเท่าเขา แต่ถ้าบางครั้งห้องเสื้อนึกถึงเรา สไตลิสต์นึกถึงเรา หรือคนทำแฟชั่นโชว์นึกถึงเรา เราก็รู้สึกเป็นเกียรติ ถ้ามีคิวก็จะไปเดินบ้าง"

"ถามว่ารักงานแสดงหรืองานเดินแบบมากกว่ากัน แน่นอนว่าเป็นงานแสดง งานแสดงมันเป็นอาชีพ เรื่องที่ทำให้ชมชอบและเข้าใจงานแสดงจริงๆ คือละคร "ลูกไม้ไกลต้น" บทที่ได้รับค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่หน่อย ตอนนั้นชมยังเด็ก แต่พอมารวมตัวกับนักแสดงเก่งๆ ในเรื่อง มันเหมือนสนามแม่เหล็ก มีแต่พลังดึงดูดเข้าไป"

l ณ วันนี้คิดว่าการแสดงของตัวเองเป็นอย่างไรบ้าง?

ชมพู่ - "ยังอยู่ในจุดที่ต้องปรับปรุงไปเรื่อยๆ ทุกวันที่มาทำงานหรือเวลาที่ดูงานตัวเองจะเจอจุดบกพร่องตลอด มีจุดที่ต้องแก้ไขทุกวัน ณ วันนี้ ถามว่าพอใจมั้ยกับงานแสดง มันก็คงไม่ได้เต็มร้อย แต่ก็ภูมิใจกับมัน มันอาจจะไม่ใช่สิ่งสมบูรณ์แบบที่สุด แต่ตอนนี้ก็กล้าบอกทุกคนว่าอย่าลืมดูละครที่ชมเล่นนะ เพราะเราเต็มที่แล้ว โดยเฉพาะ "ดาวเปื้อนดิน" เสียงตอบรับดีมาก มันเป็นความตั้งใจแต่แรกก่อนจะเล่นแล้วว่าอยากให้คนดูยอมรับเราว่าเราเป็นนักแสดง เราทำได้ค่ะ"

l ชีวิต 10 ปีในวงการบันเทิง วันนี้ลงตัวหรือยัง ?

ชมพู่ - "ชมว่าถ้าพูดถึงการบาลานซ์ระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัวมันก็มีทั้งช่วงลงตัวและไม่ลงตัว เพราะงานของเราไม่ใช่เป็นงานที่เราเลือกได้ตลอดว่าหยุดก่อน ขอพักสักพักแล้วค่อยว่ากัน มันไม่ได้ บางครั้งช่วงนี้อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่อาทิตย์หน้าอาจจะว่างทั้งอาทิตย์ก็ได้ใครจะรู้ มันไม่ได้ดั่งใจทุกอย่างหรอกค่ะ เราต้องปรับใจของเราให้เข้ากับธรรมชาติของงานมากกว่าค่ะ"


l เห็นว่าตอนนี้เรียนโท คณะจิตวิทยา จุฬาฯ?

ชมพู่
- "ชมไปลาออกมาแล้วเมื่อต้นปี เราเก็บวิชาเรียนหมดแล้วแต่ไม่มีเวลาทำธีซิส(วิทยานิพนธ์) ชมคิดว่าถ้าไปต่อแล้วไม่ผ่าน ที่เก็บไว้ทั้งหมดมันจะสูญ เลยขอไปลาออกแล้วเก็บหน่วยกิตไว้ พอเราว่างจริงๆ ค่อยไปทำเรื่อง แล้วก็เรียนเพิ่มอีกนิดเดียวแล้วทำธีซิส เสียดายเหมือนกัน แต่ถ้าให้หยุดงานในวงการบันเทิง 3 เดือนแล้วไปลุยธีซิสมันก็คงไม่ได้"

l รู้สึกภูมิใจมั้ย ที่มาถึงวันนี้ได้?

ชมพู่ - "ภูมิใจนะ จากวันแรกๆ ที่ได้ตำแหน่งรองมิสมอเตอร์โชว์ปีที่เข็ม(รุจิรา ช่วยเกื้อ)ได้ตำแหน่ง ณ ตอนนั้นก็ภูมิใจแล้วนะ เงินรางวัล 80,000 บาท ถือว่าเยอะแล้วสำหรับเด็กอายุ 16-17 มันเป็นความภูมิใจเป็นสเต็ปๆ ของมัน พอมองย้อนกลับไปก็รู้สึกดี เพราะชมไม่ใช่ประเภทเข้ามหาลัยแล้วพ่อแม่ซื้อรถให้ ทุกบาททุกสตางค์มาจากหยาดเหงื่อของเราเอง และที่ภูมิใจคือพ่อแม่เราสบายด้วย"

l มาถึงวันนี้วางแผนให้กับชีวิตตัวเองอย่างไร?

ชมพู่ - "ชมวางแผนชีวิตว่าเราอย่าวางแผนว่าจะมีคนมาดูแลเรา ถ้าโชคดีมีคนที่มาดูแลเราได้มันก็ดีและที่เราทำไว้มันก็คือกำไรของเรา แต่ถ้าไม่มีล่ะ เราก็ต้องไม่ประมาทกับชีวิตค่ะ"

และนี่คือบทสรุปของสาวแกร่งที่ชื่อ "ชมพู่-อารยา"


รู้ซึ้งคำว่า"เสียสละ"

พ้นวิกฤตมาได้อย่างโล่งใจ สำหรับดาราสาว "ชมพู่-อารยา" หลังคุณพ่อชาวอังกฤษเกิดภาวะหัวใจวาย ต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วนและฮือฮาเมื่อมีการประชาสัมพันธ์ข่าวในการขอเลือดกรุ๊ป เอ เนกกาทีฟ เพื่อมาช่วยชีวิต "พ่อ"โดยชมพู่เผยถึงภาวการณ์ปัจจุบันว่า "ตอนนี้โอเคค่ะ กำลังใจทั้งครอบครัวดีหมด เรียกว่าผ่านช่วงที่หนักที่สุดมาแล้ว พ่อทำบายพาส ผ่านพ้นวิกฤตแล้ว"

กับเหตุการณ์ครั้งนี้ ดาราสาวยอมรับว่า ทำให้เธอเห็นคุณค่าของปัจจุบัน ทำให้เข้าใจคำว่า "HERE AND NOW"

ต้องอยู่กับปัจจุบัน อดีตช่างมันและอนาคตอย่าเพิ่งไปพุ่งเป้า "ตอนนี้ชมเห็นคุณค่าของทุกวินาทีจริงๆ ค่ะ เหตุการณ์นี้ทำให้ชมต้องหาเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น อาจจะลำบากหรือเหนื่อย แต่ก็ต้องตั้งใจจัดสรรเวลาให้มากขึ้นค่ะ"

ย้อนไปวันวาน ความสัมพันธ์ของชมพู่กับคุณพ่ออาจจะมีปัญหากันบ้าง เพราะเธอทำงานและมีเวลาให้พ่อน้อย แต่ถ้ามีโอกาสสำคัญก็ไม่ได้ละเลย

"ชมพู่" จะสนิทกับคุณแม่มากกว่าคุณพ่อ เนื่องจากคุณพ่อเป็นคนป่วยหงุดหงิดง่าย จึงมีกระ ทบกระทั่งทะเลาะกันตามประสาพ่อ-ลูก แต่มา ณ วันนี้ ชมพู่ให้สัญญากับตัวเองว่าจะทำอย่างนั้นไม่ได้แล้วเพราะหัวใจของพ่ออ่อนแอ และอายุท่านก็ 71 ถือว่าแก่แล้ว จะมาปล่อยให้พ่อปรี๊ดความดันขึ้นไม่ได้แล้ว ชมคุยกับแม่ว่าตอนนี้จะคุยกันดีๆ พูดกันเพราะๆ และถ้าพ่อหงุดหงิดใส่ เราก็เดินออกจากห้องไปก่อน แล้วค่อยเดินกลับมาใหม่ ตอนนี้ต้องใช้น้ำเย็นอย่างเดียวค่ะ" ชมพู่กล่าว

จากเหตุการณ์ที่คุณพ่อล้มป่วย ดาราสาวบอกว่า

"ชมรู้ซึ้งถึงคำว่าเสียสละเลยค่ะ มันเป็นความเป็นความตายเลยเรื่องของเลือด ชมมีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งญาติเขาเสียก็เพราะรอเลือด"

ถึงจะผ่านช่วงเวลาที่วิกฤต แต่ชมพู่ก็ยังถือว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นมรสุมร้ายของตนเอง

"สำหรับชมมันก็มีมุมดีๆ ให้เราได้เห็น คิดว่าถ้าเราไม่ได้ทำงานตรงนี้ไม่ได้เป็นเรา และเผชิญกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก มันก็คงไม่ใช่แบบนี้ คงไม่รู้จะเอากำลังใจตรงไหนมาสู้กับมัน ชมว่าบนความโชคร้ายก็มีสิ่งดีๆ อยู่ค่ะ" ดาราสาวกล่าวทิ้งท้าย


"ศรัทธา"สำคัญต่อ"ชีวิตคู่"

"สงสัยมากว่าข่าวออกมาได้ยังไงว่าไปดินเนอร์กับพี่หนึ่ง คนมาถาม ชมก็งง อยากรู้ว่าข่าวมาจากปากใคร"

ดาราสาว "ชมพู่-อารยา" เปรยขึ้นอย่างสงสัย เมื่อถูกถามเรื่องรัก ที่ข่าวว่าจะรีเทิร์นกับหนุ่ม "หนึ่ง"ธนวัฒน์ วณิชานนท์ อดีตแฟนจากนั้นก็ระบายให้ฟังว่า "ชมไม่เจอพี่หนึ่งนานมาก จะ 2 ปีแล้ว อย่างพ่อป่วย เขาก็โทร.มาหาคุณแม่และแสดงความจำนงว่าอยากมาเยี่ยม แต่แม่บอกไม่ต้องมาหรอก เพราะพ่ออยู่ซีซียู ไม่ใช่ว่าทุกคนเข้าไปเยี่ยมได้หมด"

ดาราสาวยังกล่าวอีกว่า "พี่หนึ่งยังไม่ได้มาขอคืนดี(หัวเราะ) แต่ไม่ต้องมาขอหรอก ชมขอเดินหน้าอย่างเดียว เพราะระยะเวลาที่ผ่านมามันตั้ง 8 ปีที่พิสูจน์แล้ว"

เหมือนเจ็บแล้วจำใช่ปะ ชมปฏิเสธ

"มันไม่ใช่เจ็บแล้วจำ แต่ชมมีเป้าหมายใหม่แล้ว เราเดินหน้าเกียร์ห้า(หัวเราะ) ณ วันนั้นเราได้ไตร่ตรองด้วยเหตุและผลแล้ว ไม่ใช่เป็นเรื่องของอารมณ์ เราตัดสินใจดีที่สุดแล้ว มันไม่มีแล้วความหวั่นไหวสำหรับตัวเรา"

แสดงว่าจากนี้ไปจะไม่อินกับความรักแล้ว ชมแย้ง

"ไม่ถึงขนาดนั้น แต่เราต้องโตขึ้น เหตุผลและความเป็นไปได้ต้องมาก่อนความเพ้อฝันค่ะ"

ที่ผ่านมามีข่าวทั้งหนุ่มไฮโซและลูกนักการเมืองมาจีบ มีทั้งที่มีมูลและไม่มีมูล ซึ่งคนที่มีมูลนั้นตอนนี้ยังไม่มีใครเข้าตา

"ใครที่คุยเป็นเพื่อนได้ก็คุยเป็นเพื่อน แต่ถ้าคุยเป็นเพื่อนไม่รู้เรื่องก็ไม่คุยค่ะ" ดาราสาวกล่าว

"ชมพู่" เป็นคนจริงจังกับความรัก ไม่ได้คบใครไว้แก้เหงา แต่เธอมองถึงอนาคตที่จะมีร่วมกัน

"ตอนนี้เรามีวัคซีนแล้ว รู้ว่าอย่างไรก็ต้องผ่านไปได้ ไม่ใช่แบบว่าโอเคลองดูๆ ไปก่อน ถ้าไม่เวิร์กค่อยเลิกกัน ชมว่าการเลิกกันมันเลิกยาก แต่ถ้าตัดสินใจไปมันง่ายอยู่แล้ว ชมเป็นคนที่เชื่อในเรื่องพรหมลิขิตและโซลเมต ส่วนสเป๊กหนุ่มก็ยังคงชอบแนวตี๋ค่ะ"

โดยหนุ่มที่จะมาเป็นคู่ชีวิตนั้น เธอว่า

"ไม่ต้องรวยล้นฟ้าหรอกค่ะ แต่ต้องไม่มาเป็นภาระของเรา เวลามีปัญหาอะไรเขาสามารถช่วยแก้ปัญหาให้เราได้ เราต้องพึ่งพาและเกื้อกูลกันได้ ชมชอบคนที่เก่งกว่า ชมว่าศรัทธามันสำคัญนะสำหรับชีวิตคู่ ในทัศนคติของชมคิดว่าผู้หญิงยังไงก็อยากเป็นช้างเท้าหลัง ถ้าเลือกได้ก็อยากมีแฟนเป็นผู้นำ แมนๆ ดูแลเรา ลึกๆ แล้วผู้หญิงก็เป็นเพศที่อยากและต้องการคนปกป้อง เพราะฉะนั้นศรัทธามันสำคัญ ถ้าไม่มีศรัทธาในตัวเขาก็จบ"

ถามว่าตั้งเป้ามั้ยว่าแต่งงานเมื่อไหร่?

ชมพู่หัวเราะก่อนตอบว่า "ตั้งไม่ได้เลยล่ะ เพราะยังหาไม่ได้"

หาไม่ได้ หรือไม่ได้หากันแน่จ๊ะ


"ดาวเปื้อนดิน"ชิ้นโบแดง

คร่ำหวอดอยู่วงการบันเทิงมาร่วม 10 ปี แสดงละครมาแล้วหลากหลายรส แต่รสที่ดาราสาว "ชมพู่"อารยา เอ.ฮาร์เก็ต ยกให้เป็นชิ้นโบแดง คงไม่พ้นรสร้ายในละคร "ดาวเปื้อนดิน"

"ละครเรื่อง "ดาวเปื้อนดิน" ถือเป็นชิ้นโบแดงสำหรับชม บทในเรื่องเป็นบทที่ชมชอบมาก เพราะรินลดามีความซับซ้อนในเรื่องของอารมณ์และความคิด ชมว่าทั้งบทประพันธ์และบทละครดีหมด ผู้กำกับฯพี่โอ๋-กฤษฎา เก่งมาก เขาละเอียดและเข้าใจในตัวละคร ประ ทับใจผู้กำกับฯคนนี้ และถ้าไม่ใช่ พี่โอ๋กำกับเรื่องนี้ ชมก็ไม่แน่ใจว่าชมจะออกมาได้ดีขนาดนี้หรือเปล่าค่ะ"



ชื่อเล่น : ชมพู่

ชื่อ/นามสกุล : อารยา อัลเบอร์ต้า ฮาร์เก็ต

บิดา/มารดา : เจมส์ อัลเบิร์ท เอ.ฮาร์เก็ต/วารี เอ.ฮาร์เก็ต

วัน/เดือน/ปีเกิด : 28 มิถุนายน 2524

พี่น้อง : เป็นลูกโทน

การศึกษา : ประถมฯที่ร.ร.กาญจน์มณี(ปิดกิจการไปแล้ว) มัธยมฯที่ร.ร.บดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) อุดมศึกษาปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ ม.รังสิต


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์