ผู้กำกับยันไร้ฉาก 12คนข่มขืน นางร้ายดาวเปื้อนดิน



ฉากข่มขืน - "ชมพู่"อารยา เอ.ฮาร์เก็ต ผู้รับบท "รินลดา" ในละครเรื่อง "ดาวเปื้อนดิน" เปิดใจกรณีเครือข่ายองค์กรสตรีเรียกร้องให้แบนฉากถูกรุมข่มขืนตอนจบ ขณะที่ผู้กำกับฯ อ้างไม่มีฉากนี้ มีเพียงแค่กลุ่มผู้ชายเดินเข้าไปหาแล้วผู้หญิงร้องกรี๊ดเท่านั้น



ผู้กำกับละคร "ดาวเปื้อนดิน" โต้ ไม่มีฉากชาย 12 คนรุมโทรมนางร้ายตอนท้ายเรื่องเผยถ่ายทำเพียงแค่ให้กลุ่มผู้ชายเดินเข้าหา แล้วนางร้ายส่งเสียงหวีดร้องเท่านั้นก็ตัดภาพ

วอนขอให้ดูละครจริงๆ ก่อนแล้วค่อยตัดสิน ชี้ละครต้องการสื่อเรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ขณะที่นางเอกที่พลิกผันตัวเองมาเป็นนางร้ายที่ต้องโดนรุมโทรม "อารยา เอ.ฮาร์เก็ต"ครวญเสียดายฉากนี้มาก เพราะตัวเองแสดงเต็มที่เพื่อให้สะเทือนอารมณ์ ไม่ใช่เรื่องความรุนแรง ทางด้านเครือข่ายสิทธิมนุษยชนของสตรีผู้จุดประเด็นร้องเรียน เคยจะเตือนสติสังคมตอนละคร"สวรรค์เบี่ยง"มาแล้ว แต่ไม่ทันการณ์ พอ"ดาวเปื้อนดิน"ล่อแหลมซ้ำก็ต้องรีบดำเนินการ

จากกรณีเครือข่ายสิทธิมนุษยชนของสตรี ออกแถลงการณ์เรียกร้องต่อสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี
 
ทบทวนละครเรื่อง "ดาวเปื้อนดิน" ซึ่งมีบทข่มขืนรุมโทรมนางเอกสาว ชมพู อารยา เอ. ฮาร์เก็ต ที่พลิกผันบทตัวเองมาเป็นนางร้าย ในตอนท้ายเรื่อง จากจำนวนผู้ชายถึง 12 คน เป็นห่วงว่าพล็อตเรื่องดังกล่าว จะส่งสัญญาณผิดๆ ไปถึงผู้ชมละคร ที่เห็นว่าการลงโทษด้วยการข่มขืนเป็นการกระทำที่ถูกต้อง ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น


เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า
 
ส่วนตัวมีความเห็นว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ไม่ควรนำเสนอฉากข่มขืนในละครเรื่องดาวเปื้อนดิน เนื่องจากตัวแทนจากช่อง 7 ได้ร่วมเป็นคณะกรรมการจัดทำคู่มือการจัดระดับความเหมาะสมของสื่อโทรทัศน์ ขณะเดียวกันคณะกรรมการบริหารกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (กบว.) ของช่อง 7 ต้องกำกับดูแลการนำเสนอเนื้อหารายการที่ออกอากาศให้มีความเหมาะสมตามระดับของเรตติ้ง ซึ่งเนื้อหาสาระของบทละครในรูปของนวนิยายนั้น ตนเชื่อว่าผู้ผลิตละครจะมีวิธีการหลีกเลี่ยงการนำเสนอภาพไม่ให้มีความรุนแรง

"ดิฉันไม่คิดว่าช่องสถานีจะกล้าทำเกินขอบเขตเรื่อง เพศ ภาษา และความรุนแรงที่กำหนดไว้ในคู่มือการจัดเรตติ้งของรายการโทรทัศน์ ซึ่งเป็นกติการ่วมกันในการสร้างสรรค์สื่อที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ อย่างไรก็ตาม การที่องค์กรสตรีได้ร้องเรียนประเด็นดังกล่าว ก็เป็นการร่วมเฝ้าระวังสื่อที่ดี หากพบว่าฉากข่มขืนในละครดาวเปื้อนดินที่นำมาออกอากาศมีความรุนแรงเรื่องเพศมากเกินไป กระบวนการประเมินผลการจัดเรตติ้งของภาคประชาชนผ่าน www.me.or.th จะเป็นกลไกอีกขั้นในการตรวจสอบการนำเสนอเนื้อหาของสถานีโทรทัศน์ ซึ่งขณะนี้จะพบว่า สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ มีความระมัดระวังในการนำเสนอภาพและเนื้อหาไม่ให้มีความรุนแรง หรือไม่ให้ล้ำเส้นกติกาของสังคมมากเกินไป" ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าว

น.ส.นัยนา สุภาพึ่ง กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า

ละครดาวเปื้อนดิน ใช้ประเด็นข่มขืนมาสะท้อนให้เห็นว่า การข่มขืนทำได้ชอบธรรมในสถานการณ์ที่ไม่พอใจ แต่การเรียกร้องไม่ได้หมายถึงเพียงไม่ให้มีฉากรุมโทรมตัวร้ายในเรื่องเท่านั้น เพราะคณะกรรมการตรวจสอบเนื้อหารายการโทรทัศน์ย่อมไม่ให้มีฉากหรือภาพโป๊ออกมาอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือ เรื่องแนวคิดและเนื้อหาที่ใช้การข่มขืนเป็นการลงโทษผู้อื่น แม้แต่ตัวพระเอกเอง เมื่อรู้ว่าตัวร้ายถูกรุมโทรม แล้วเข้าใจผิดคิดว่านางเองเป็นคนทำ ก็มาข่มขืนนางเอกบ้าง ทำให้คนเข้าใจผิดว่าแม้เป็นสามีภรรยากัน หากไม่พอใจไม่ว่าจะเข้าใจผิดหรือถูก สามารถไปข่มขืนกันได้เพื่อลงโทษ ซึ่งเครือข่ายสิทธิมนุษยชนของสตรีที่ออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะได้เข้าอบรมผู้ผลิตสื่อมีทั้งนักวิชาการ คนทำงานด้านสิทธิมนุษยชน และทำงานด้านสื่อจำนวนมาก เห็นว่าละครสวรรค์เบี่ยงซึ่งละครจบไปแล้ว มีเนื้อเรื่องพระเอกข่มขืนนางเอก มีคนไปทำโพลสำรวจความคิดเด็กว่าคิดต่อการข่มขืนอย่างไร พบว่า เด็กแต่ละช่วงวัย โดยเฉพาะวัย 5-10 ขวบ ได้ดูละครแล้วอยากทำแบบพระเอกบ้าง สะท้อนว่าละครมีผลต่อวิธีคิดค่านิยมของคนดูชัดเจนมาก

"เราไม่ได้โจมตีผู้ผลิตทีวี แต่อยากให้สังคมถูกคิด ให้ความรู้สังคม คนดูดูละครได้ แต่ต้องรู้เท่าทัน คนที่ยังไม่มีวุฒิภาวะพอก็ไม่ควรดู น่าจะมีมุมมองพระเอกนางเอกหรือตัวละครที่ไม่ใช่แสดงออกโดยการข่มขืน เพราะถือเป็นอาชญากรรม เป็นคดีอาญาที่มีอัตราโทษสูง" น.ส.นัยนากล่าว


น.ส.วัลลภา ศารปราภา ผู้ประสานงานเครือข่ายสิทธิมนุษยชนของสตรี กล่าวว่า
 
การที่เครือข่ายออกมาเคลื่อนไหว ประเด็น คือต้องการเตือนสังคม เพราะเราเห็นละครสวรรค์เบี่ยงแล้วออกมาให้สติสังคมไม่ทันการณ์ จนละครจบไปก่อน ตอนนี้ละครดาวเปื้อนดินกำลังจะจบในวันสองวันนี้แล้ว อยากให้คนดูรับรู้ว่าดูแล้วต้องคิดอย่างไร เรารู้ว่าทางช่อง 7 มีศิลปะในการทำละคร แม้จะไม่มีฉากความรุนแรงในการรุมโทรมผู้หญิงโดยผู้ชายกลุ่มหนึ่ง แต่อยากให้ขึ้นคำเตือนเป็นตัวหนังสือ ว่าการข่มขืนเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แม้ตัวละครมีพฤติกรรมยั่วยวนก็ตาม โดยช่อง 7 เป็นด่านสุดท้ายที่จะออกอากาศละครตอนนี้ เรารู้ว่าละครก็ฮิตอยู่แล้ว เพียงแต่อยากให้ความรู้กับคนดู รวมทั้งเตือนคนทำละครทั้งบริษัทโพลีพลัสหรือบริษัทอื่นๆ ให้พึงสังวรการเขียนบท ทำละครไม่ควรใช้การข่มขืนเป็นการลงโทษใคร แต่ต้องแสดงให้เห็นว่าเราสามารถใช้กระบวนการยุติธรรมแก้ปัญหาได้

"จากการติดตามละคร 1 สัปดาห์ พบว่ามี 3 เรื่อง ที่กระทำรุนแรง เรื่องอเวจีสีชมพู ก็มีการฉุดคร่านางเอกเพื่อจะไปข่มขืน เรื่องเงาอโศก ก็มีการล่ามโซ่ขังสาวใช้ในบ้าน อยากให้ของไทยทำละครที่ไม่ใช้ความรุนแรง อย่างเกาหลีละครก็สนุกมาก โดยไม่ต้องมีฉากรุนแรงขนาดนี้" น.ส.วัลลภา กล่าว

ทางด้านนางเอกสาวดาวเปื้อนดิน "ชมพู่"อารยา เอ.ฮาร์เก็ต ผู้รับบทเป็น"รินลดา"ในเรื่อง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่อาจจะมีการตัดฉากข่มขืนตอนจบในละครเรื่องดังกล่าวออกว่า

รู้สึกเสียดาย เพราะตนทุ่มเทกับฉากนี้มาก ฉากนี้มีการเลื่อนการถ่ายทำมาแล้วครั้งหนึ่ง เพราะตนประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บที่เท้า

"เวลาแสดง ชมเต็มที่กับฉากนี้มากๆ เพราะมันเป็นฉากที่ต้องใช้พลังในการแสดงเยอะมาก และมีการถ่ายทำฉากย่อยหลายๆ ฉาก อย่างฉากปะทะคารมกับ "อาหมู"สมภพ เบญจาธิกุล ที่แสดงเป็น "ท่านสมมาตร" รวมถึงฉากที่ชมจะแก้แค้นอาหมู โดยให้คนรถของอาหมูร่วมมือกับเรา แต่คนรถไม่ร่วมมือด้วย แล้วก็ฉากที่อาหมูแก้แค้นกลับโดยให้ลูกน้องหลายคนข่มขืนเรา ตอนที่ถ่ายไม่รู้สึกเกร็งแต่เหนื่อย เพราะมันมีซีนที่ต้องใช้อารมณ์เยอะมาก และฉากที่ถ่ายเลิฟซีนก็ไม่ได้น่าเกลียด แต่ทางผู้กำกับฯต้องการให้มันเป็นฉากที่สะเทือนอารมณ์ ทางพี่โอ๋ ผู้กำกับฯเขาทำการบ้านมาเยอะมาก อยากให้ฉากนี้สะเทือนอารมณ์ แต่ไม่ได้แสดงความรุนแรง อย่างเช่นฉากที่รินลดากอดขาท่านสมมาตรเพื่อขอชีวิตอย่าทำร้ายเธอเลย และมือก็ค่อยๆ หลุดออกจากขาท่านสมมาตร ส่วนฉากข่มขืนก็ถ่ายแค่หน้าผู้ชายที่ข่มขืนเรา แล้วก็ทำเสียงหัวเราะน่ากลัวๆ ตัวเราก็ต้องทำท่าหวาดกลัว ตัดมาอีกทีตัวรินลดาก็จิตหลุดแล้ว"

สื่อข่าวถามต่อ ในฐานะนักแสดงรู้สึกเหนื่อยเปล่าไหม ที่ถ่ายฉากนี้แล้วแต่ไม่ได้ออกอากาศ ดาราสาวกล่าวว่า
 
คงไม่ได้ขนาดนั้น เพราะไม่ได้ทุ่มเทเพียงแค่ฉากนี้ฉากเดียว ตนทุ่มเทกับฉากทุกฉาก และทุกฉากก็สำคัญกับตนหมด

"เรื่องนี้ฟีดแบ็กสำหรับชมดีมาก แต่แบบออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกเขาอยากให้เราฉีกบทออกไป เล่นบทที่แตกต่างกว่าที่เราเคยเล่นมา แต่บางคนบอกว่าอย่าเล่นอีกนะ เขาไม่อยากให้นางเอกมาเล่นบทร้าย ชมก็บอกเขาไปว่านักแสดงต้องเล่นได้ทุกบท และถ้ามีบทดีๆ แบบนี้ ก็จะเล่นอีก แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นบทแบบเรื่องนี้"

ผู้สื่อข่าวสอบถามอีกว่า คิดอย่างไรที่เป็นนางเอกแล้วมาเล่นบทร้าย ซึ่งบทค่อนข้างที่จะมีเนื้อหาที่รุนแรง มีเรื่องของการตบตี จะกลายเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเด็กและเยาวชนหรือเปล่า ชมพู่กล่าวว่า
 
เรื่องนี้มันมีบทสรุปของมันอยู่แล้ว คงไม่มีผู้จัดคนไหนที่สร้างตัวละครขึ้นมาทำไม่ดีแล้วได้ดี มันไม่มีหรอก แม้กระทั่งนางเอกของเรื่องคือ "นุ่น"วรนุช วงษ์สวรรค์ พอถึงเวลาที่ขาดสติไม่มีการยับยั้งชั่งใจ ก็ได้รับบทเรียนที่เจ็บปวดเหมือนกัน

ต่อข้อถามจากกรณีของละครเรื่องดาวเปื้อนดิน ส่งผลให้รู้สึกเกร็งในการรับงานละครเรื่องต่อๆ ไปหรือเปล่า ดาราสาวกล่าวว่า ไม่เกร็งกับการทำงานเรื่องต่อๆ ไป กระแสวิจารณ์จากกลุ่มคนในสังคมมันเป็นของธรรมดา เราอยู่ในสังคมย่อมไม่พ้นคำวิจารณ์ตรงนี้


ด้านน.ส.ประไพรศรี ศรีนาชม หรือ "ไก่" ผู้เขียนบทโทรทัศน์ ละครดาวเปื้อนดิน กล่าวว่า
 
จริงๆ ถ้าเกิดใครติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น มันมีที่มาที่ไป ตนก็น้อมรับคำวิจารณ์ ตอนนี้ทราบมาว่าฉากข่มขืนถูกตัดออกไปแล้ว อย่างที่บอกว่ามันมีที่มาที่ไป การทำละครมันก็เป็นไปตามหลักความจริง ว่าคนดีต้องได้ดี คนชั่วได้รับผลตอบแทน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามตัวบทโทรทัศน์เป็นฉากที่ค่อนข้างรุนแรง ผู้เขียนบทสาวแย้งว่า

มันไม่ได้รุนแรงเลย และไม่ได้มีอะไรจริงๆ ก่อนที่จะเขียน ตนก็ได้พิจารณาแล้ว กลั่นกรองมาอย่างดี อย่างในฉากตอนจบที่นางร้ายโดนข่มขืน ตนเขียนไปว่า มีผู้ชายเดินเข้ามาหาตัวรินลดา แล้วตนก็เขียนต่อไปว่า รินลดากรี๊ดเสียงดัง แค่นั้นจบ

ต่อข้อถามที่ว่า แต่ในฉากจะต้องมีผู้ชายมาข่มขืนถึง 12 คนเลยหรือเปล่า น.ส.ประไพรศรีกล่าวว่า

"ไม่มีเลย สามารถให้ดูในบทโทรทัศน์ที่เขียนได้เลย ทั้งในบทประพันธ์ก็ไม่มี ฉากนี้มันเป็นตอนที่รินลดาจะฆ่าท่านสมมาตร แต่ท่านสมมาตรบอกว่าฉันจะไม่ฆ่าเธอ แล้วก็ให้ลูกน้องเดินเข้าไปหารินลดา ซึ่งรินลดาก็กรี๊ดสุดเสียง แค่นั้นก็จบ ส่วนภาพการกระทำเหล่านั้นมันไม่มี นำเสนอให้รู้แค่นั้น กับคำติติงเราก็น้อมรับ ซึ่งเราและทางบริษัท ไม่ได้คิดที่จะทำละครที่ไม่ดี ละครเรื่องดาวเปื้อนดินเป็นละครที่มีแง่คิด ให้เห็นว่าคนทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น"

ต่อไปนี้ถ้าจะเขียนบทละครอะไรสักอย่าง ต้องคิดเยอะมั้ย คนเขียนบทคนดังกล่าวว่า

"ต้องคิดเยอะขึ้นกว่าเดิมมาก ปกติเราก็คิดเยอะอยู่แล้วนะ แต่ว่าต่อไปเราต้องคิดเยอะขึ้น สกรีนเยอะขึ้น ต้องผ่านกระบวนการคิด เพื่อที่จะผลิตละครที่มีคุณภาพมากขึ้น"

ส่วนเจ้าของบทประพันธ์ "ดาวเปื้อนดิน" นามปากกา "อัจฉรียา" เผยว่า

ทั้งตัวหนังสือ ทั้งบทประพันธ์ มันไม่มีความรุนแรง ในบทประพันธ์เขียนถึงฉากนั้นแค่ว่า มีผู้ชายเข้ามาหาตัวรินลดา และก็ได้ยินเสียงรินลดากรี๊ดสนั่น แล้วก็จบ ซึ่งจริงๆ แล้วตัวรินลดา ถ้าติดตามตั้งแต่ต้น จะเห็นว่าตัวละครตัวนี้มีฉากที่กรีดหน้าตัวเอง มีหลายฉากที่รุนแรง ทำออกมาเพื่อสื่อว่าตัวละครตัวนี้จิตไม่ปกติ เรื่องนี้ไม่เพียงแต่นำเสนอความบันเทิง แต่ยังนำเสนอว่า ใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงที่ถูกข่มขืนเป็นคนไม่ดี ตนเพียงแค่นำเสนอตัวละครตัวนี้อย่างเดียว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์