เมษ์ไม่ลืมกำพืด ภูมิใจนางเอกภูธร

บ้างเรียก "นังบุญมี" บ้างเรียก "อีบุญมี" บ้างเรียกว่า "บุญมี" แล้วแต่น้ำหนักของความอินในละคร "นางทาส" ทางช่อง 7

ที่แฟนละครได้ติดตามชมการถ่ายทอดบทบาทร้ายดังกล่าวของดาราสาว "เมษ์"อรวรรษา ฐานวิเศษ เข้าวงการมาแล้ว 7 ปี แต่ชื่อเสียงของ "เมษ์-อรวรรษา" ไม่ได้หวือหวาไปตามเทรนด์ของข่าวแต่เธอดังแบบกินเงียบ โดยเฉพาะแฟนๆ ต่างจังหวัดที่ชื่นชอบเธอนัก

-ชีวิตวัยเด็กเป็นอย่างไรบ้าง?

เมษ์ - "บ้านเกิดเมษ์อยู่ จ.ชัยภูมิ ค่ะ เมษ์เป็นลูกอีสาน คุณพ่อรับราชการแต่ตอนนี้เกษียณแล้ว คุณแม่เป็นอาจารย์ ส่วนพี่ชายเป็นคุณหมอค่ะ ตอนเด็กๆ เมษ์จะอยู่กับคุณตาคุณยายตลอด จนถึงอนุบาลก็เริ่มมาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ ตอนเด็กๆ จะซนมาก ด้วยความที่เมษ์ไม่ค่อยมีเพื่อนผู้หญิง เพราะโตมากับพี่ชาย อยู่กับพี่ชายตลอด มีแต่เพื่อนผู้ชายทำให้เมษ์ติดห้าวๆ ลุยๆ ออกนักเลงนิดๆ ชอบปีนต้นไม้ วิ่งเล่นตามทุ่ง แต่ถึงจะซนยังไงคุณตาคุณยายก็ไม่หนักใจเพราะเมษ์เป็นหลานรักมาก เป็นหลานคนเล็กของตระกูล ญาติพี่น้องทุกคนจะคอยโอ๋เมษ์"

-มีแววเป็นนักแสดงตั้งแต่เด็กมั้ย?

เมษ์ - "ไม่มีเลย เมษ์ได้ถือป้ายครั้งเดียวตอนม.ปลาย ตอนเด็กๆ จะซนมาก ตัวดำปี๋ คุณแม่ไม่ให้ไว้ผมยาว จะให้ตัดผมทรงกะลาครอบ ตอนเด็กมีกระโปรงนับชุดได้เลย เมื่อก่อนไม่มีแววสวยเลย (หัวเราะ) พอขึ้นมัธยมก็ดัดฟันและใส่แว่นตาหนามาก สายตาสั้นมากประมาณ 500 หาเค้าความสวยไม่ได้เลย ทุกคนเพิ่งเห็นแววความสวยของเมษ์ตอนม.ปลาย เพื่อนๆ และอาจารย์ลองจับเมษ์ถอดแว่นและแต่งชุดไทย ซึ่งมันก็เปลี่ยนไปมากเลย"

-เข้าวงการบันเทิงมาในช่วงไหน?

เมษ์ - "ช่วงเรียนอยู่ มศว ปี 1 มีแมวมองมาดักรออยู่หน้าห้องน้ำ เขาอยากให้เมษ์ไปแคสต์โฆษณาดู ซึ่งพอไปแล้วก็ไม่ได้ (หัวเราะ) และเขาก็ให้ไปแคสต์ละครอาฉลอง (ฉลอง ภักดีวิจิตร) แต่ก็ไม่ได้ เหตุการณ์นี้ทำให้เมษ์หยุดไปเลย 1 ปี รู้สึกเสียความมั่นใจ แต่พี่ๆ ญาติๆ ที่บ้านคะยั้นคะยอให้ไปประกวดนั่นประกวดนี่ จนมีการประกวดโตโยต้า โซลูน่า ตอนนั้นเรียนปี 2 จะขึ้นปี 3 เมษ์เลยไปสมัครแล้วก็ประกวด ปรากฏว่าได้ตำแหน่ง โมเดลลิ่งก็ชวนไปแคสต์งาน ซึ่งตอนนั้นไปเรียนการแสดงของบางกอกการละคร พอเรียนแล้วเวลาไปแคสต์โฆษณาก็รู้สึกมั่นใจและเริ่มได้งานบ้าง โมเดลลิ่งพาไปแคสต์งานหนังเรื่อง "โก๋หลังวัง" ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นงานแสดงเรื่องแรก ตื่นเต้นมากค่ะ"

-แล้วมาเป็นนักแสดงสังกัดช่อง 7 ได้อย่างไร?

เมษ์ - "พอถ่าย "โก๋หลังวัง" เสร็จ เพื่อนของเมษ์คือ ยุ้ย (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) เขามาเป็นนักแสดงที่ช่อง 7 ก่อน แล้วเมื่อก่อนเมษ์มีคนดูแลคนเดียวกัน ยุ้ยก็ชวนให้เมษ์เข้ามาแคสต์ดู ซึ่งเมษ์ไม่คิดว่าเมษ์จะได้ เมษ์รู้สึกว่าจอแก้วมันเป็นอะไรที่ไกลเกินฝัน ไม่หวังว่าจะได้มายืนอยู่ตรงนี้ ปรากฏว่าอาทิตย์ต่อมาช่อง 7 เรียกให้เซ็นสัญญาเลย พอเซ็นปุ๊บคุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีดิ์) บอกว่าอาทิตย์ต่อไปให้เมษ์ลงเล่นละคร "ขุมทรัพย์แม่น้ำแคว" ปรากฏละครออกอากาศก่อนหนังอีก หลังจบ "ขุมทรัพย์แม่น้ำแคว" แล้วก็ต่อด้วย "ช็อปปิ้งปิ๊งรัก" แล้วก็มีละครเรื่องอื่นๆ ตามมาอีกหลายเรื่อง มาถึงตอนนี้ก็ประมาณ 20 เรื่องค่ะ ซึ่งเมษ์จะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เล่นละคร มีคนบอกว่าเป็นนักแสดงไม่ตื่นเต้นหรอกเวลาที่เจอคนเยอะๆ ตรงนี้ไม่จริงเลย เมษ์ยังตื่นเต้นทุกวัน"

-รู้สึกอย่างไรกับฉายา"เจ้าแม่ละครเย็น" หรือ "นางเอกภูธร"?

เมษ์ - "ดีใจค่ะและแฮปปี้มากกับฉายานี้ เพราะถือเป็นที่สุดของด้านนั้น อีกอย่างคือบ้านเกิดเมษ์คืออีสาน เมษ์ไม่ใช่คนกรุงเทพฯ เมษ์ไม่ลืมกำพืดของเมษ์ เมษ์ขอแค่คนดูสนุกและมีความสุขกับงานละครที่เมษ์เล่นก็พอใจแล้ว เวลาไปต่างจังหวัดเมษ์รู้สึกเป็นกันเองดี รู้สึกเข้าถึงแฟนๆ ดี เมษ์ไปสนามบินดอนเมืองกับสุวรรณภูมิเดือนละหลายครั้งมาก ที่เมษ์ไปโชว์ตัวบ่อยที่สุดน่าจะเป็นภาคอีสาน รองลงมาคือภาคใต้ และภาคเหนือ เมษ์ว่าเมษ์ไปลงทุกสนามบินที่มีอยู่ในประเทศไทย แม้จะเป็นสนามบินเล็กๆ เมษ์ก็ไปมาแล้วค่ะ"

-บางคนมองว่ารับงานโชว์ตัวตามต่างจังหวัดจะเหนื่อยกว่าในกรุงเทพฯ ทำไมเมษ์ถึงรับ?

เมษ์ -"เพราะงานโชว์ตัวที่ต่างจังหวัดเวลาเขาดิวจะดิวเป็นล็อตใหญ่ รวมถึงเงินได้เยอะด้วย ซึ่งงานโชว์ตัวตามต่างจังหวัดมันเป็นผลพวงจากละคร "ชะชะช่า ท้ารัก" และ "หนุ่มผมยาว สาวโปงลาง" เมษ์ก็กินงานโชว์ตัวเงียบๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ เมษ์รู้สึกว่าเมษ์ไม่ใช่ดาราที่หวือหวาอยู่ในเทรนด์ข่าว เมษ์ขออยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียงดีกว่า เมษ์ไม่รู้ว่าในอนาคตเมษ์จะเป็นดาราอยู่หรือเปล่า ก็ต้องเก็บเงินเผื่อเอาไว้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นงานต่างจังหวัดหรือในกรุงเทพฯ เมษ์ไม่เกี่ยงค่ะ"

"บางครั้งรับงานโชว์ตัวตามต่างจังหวัดก็เหมือนได้ไปเที่ยว ได้เช็กเรตติ้ง อย่างล่าสุดช่วงสงกรานต์ไปแม่สายไปเชียงราย ที่นั่นไม่มีใครเรียกเมษ์สักคน ทุกคนจะเรียกเมษ์ว่า "นังบุญมี" หรือ "อีบุญมี" (หัวเราะ) เมษ์รู้สึกดีและปลื้มมากที่แฟนๆ เข้ามาแซวว่าอย่าร้ายได้มั้ย อย่ารังแกอีเย็นนะ บางคนก็ชอบฉากที่เมษ์ทะเลาะกับสาลี่ พอเมษ์สัมผัสกับแฟนละครตามต่างจังหวัดแล้ว เมษ์รู้สึกว่าเขาจริงใจ ไม่เสแสร้ง อยากจะพูด อยากจะกอด อยากจะหอม เขาก็จะเข้ามาเลย เมษ์รู้สึกมีความสุขมากๆ เวลาไปทำงานตามต่างจังหวัดค่ะ"

-7 ปีในวงการบันเทิงของเมษ์ดูไม่หวือหวา?

เมษ์ - "ค่ะ เมษ์อยู่แบบเรียบๆ เมษ์ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันชีวิตเมษ์คงไม่เรียบ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับนักแสดงในวงการด้วยกัน เมษ์ถือว่าเมษ์เป็นดาราที่อยู่แบบเงียบๆ สมถะ ไปเรื่อยๆ ไม่หวือหวา ไม่ต้องตามเทรนด์ อาจเป็นเพราะเมษ์ระวังตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง และอีกอย่างคือเมษ์ไม่ค่อยออกงานสังคมเท่าไหร่"

-เมษ์มีเพื่อนในวงการบ้างหรือเปล่า?

เมษ์ - "มีแต่น้อยมาก ไม่ใช่ไม่ไว้ใจเขา คือเมษ์ไว้ใจแต่ในระดับที่ไม่ทำให้เมษ์เสียใจ เพราะบางครั้งการที่เมษ์ไว้ใจใครมากๆ แล้วมาโดนทีหลังก็รู้สึกแย่ บางคนจะมีการเม้าธ์ มีการว่าลับหลัง มีการเผากันซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่บางครั้งเมษ์ก็รับไม่ได้ ซึ่งเพื่อนสนิทในวงการบันเทิงของเมษ์ที่พอจะคุยได้บ้างก็จะมียุ้ย-จีรนันท์ กับอ้อม-ประถมาภรณ์ ทั้งสองคนนี้เมษ์รู้สึกว่าเขาไม่เสแสร้ง อยู่ในวงการไม่ต้องสวมหน้ากาก เขาทำอะไรแล้วมันเป็นสิ่งที่ดีโดยตัวเขาเอง ไม่ต้องเสแสร้งเพื่อให้คนอื่นรับรู้ว่าเป็นคนดี ไม่ต้องพรีเซนต์ตัวเอง เขาดีด้วยตัวเอง ไม่ใช่ดีเพราะการสร้างภาพ เมษ์คุยกับเขาแล้วสบายใจค่ะ"

-เข้าวงการ พ่อแม่ห่วงมากมั้ย?

เมษ์ - "ห่วงมากเลยค่ะ ห่วงจนตอนนี้เลิกห่วงไปแล้ว ห่วงจนเมษ์บอกว่าแม่เลิกห่วงได้แล้ว เพราะเขาห่วง เมษ์ก็ห่วงเขาอีก พ่อแม่ห่วงเมษ์กลัวว่าจะเจอเพื่อนไม่ดี เจอเพื่อนชวนไปทำอะไรเสียหาย"

-เคยเห็นถ่ายแบบเซ็กซี่มาก่อน ตอนนี้จะมีอีกหรือเปล่า?

เมษ์ - "เมษ์เคยถ่ายนานมากแล้ว กับเอฟเอชเอ็ม เซ็กซี่เล็กๆ ความจริงถ่ายแล้วออกมาสวยนะทุกคนแฮปปี้ แต่เมษ์รู้สึกว่ามันไม่ใช่แนวทางของเมษ์ อาจจะเป็นว่าช่วงนั้นเมษ์เห็นเพื่อนๆ ในช่อง 7 ถ่ายกันเยอะมาก ก็เลยลองดู แต่พอลองแล้วก็รู้ว่าไม่เกิด (หัวเราะ) ความจริงชุดว่ายน้ำมีติดต่อมาทุกปี แต่เมษ์ไม่อยากถ่าย เพราะตอนที่เมษ์ถ่ายเซ็กซี่ตอนนั้นคุณแม่ไม่ปลื้ม บ่นใหญ่เลย เพราะท่านเป็นอาจารย์ด้วย ซึ่งเมษ์ก็ไม่ถ่ายอีกเลยเพราะเป็นคำขอของแม่ค่ะ"

-มาวันนี้มองวงการบันเทิงเป็นอย่างไร?

เมษ์ - "มองวงการเป็นอะไรที่หวือหวา เหมือนกับการขับรถแข่ง รู้สึกตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา ต่อถ้าให้เมษ์ขับนิ่งๆ ไม่แซงไปแซงมาบางครั้งมันก็อาจจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้โดยที่เมษ์ไม่ตั้งใจ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ เมษ์ต้องไม่ประมาท ทุกวันนี้เมษ์มีหน้าที่แสดงเมษ์ก็แสดงให้ทุกคนดูแล้วแฮปปี้และก็ทำในสิ่งที่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนค่ะ"

จริงใจ ไม่เสแสร้ง เลยได้ใจแฟนละครภูธรไปเต็มๆ

เปิดตัว"แฟน"

ผวาอาถรรพณ์"เลิก"

เป็นนักแสดงสาวที่มีเรื่องราวความรักไม่ค่อยหวือหวา สำหรับ "เมษ์"อรวรรษา ฐานวิเศษ ซึ่งเจ้าตัวออกตัวว่า "เรื่องความรักของเมษ์จะเงียบมาก (หัวเราะ) แต่เมษ์ไม่ได้ปิดนะคะ ไปไหนกับใครก็ไม่ได้ปิด แต่ก็ไม่เคยโดนปาปาราซซี่ถ่าย"

ไม่ปิดแต่ไม่เปิด โดยดาราสาวยอมรับว่าไม่กล้าเปิดตัว เพราะกลัวอาถรรพณ์

"อย่างเมื่อก่อนมีคนรู้ใจอยู่เมืองนอก พอจะเปิดตัวรอให้เขากลับมาก่อนแต่ก็เลิกกันไปก่อน จากคนนั้นแล้วก็มีคนอื่นที่ลองคบกันบ้าง พอเริ่มโอเคกับเขาและสัมภาษณ์ว่ามีคนกำลังดูใจอยู่ สักพักก็มีอาถรรพณ์อีกทำให้เมษ์ไม่กล้าเปิดตัว เมษ์รู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนที่โชคดีในเรื่องความรัก อาจจะเป็นเพราะเมษ์คาดหวังในเรื่องความรักค่อนข้างสูง"

"เมษ์เชื่อนะคะกับคำพูดที่ว่าคนในวงการบันเทิงมักจะถูกสาปในเรื่องความรัก เวลาที่เมษ์จะมีแฟนมันไม่ใช่เรื่องของคนสองคน มันเป็นเรื่องของสาธารณะ จนบางครั้งเมษ์รู้สึกเหนื่อยที่ต้องให้คนมารับรู้ และถ้าเมษ์คบกับใคร คนที่เมษ์คบด้วยก็จะต้องโดนขุดมาว่าเป็นใครมาจากไหน เมษ์สงสารเขานะ"

ถึงไม่มีใครในวันนี้ "เมษ์-อรวรรษา" ก็ไม่ได้ยี่หระกับขื่อกับคานที่สาวหลายๆ คนกลัว เพราะเธอขอเลือกสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง ทั้งช่างเลือกทั้งไม่กล้า เหมือนเจ้าสาวที่กลัวฝน

"ถามว่าอยากมีความรักมั้ย อยากมีแต่ไม่กล้า กลัวการผิดหวัง กลัวการทะเลาะ กลัวการนอกใจ ซึ่งเมษ์รับไม่ได้ และด้วยความที่เมษ์เป็นนักแสดงบางครั้งก็กลัวว่าเขามาคบกับเมษ์เพราะเมษ์มีชื่อเสียงหรือเปล่า" ดาราสาวบอกว่า ถ้าหากมีแฟนเธอไม่ขอคบคนในวงการด้วยกัน "เพราะแค่จัดตารางเวลาให้ตัวเองยังไม่ได้เลย ถ้ามีแฟนในวงการ ก็ไม่รู้ว่าจะจัดตารางเวลาอย่างไร แค่เมษ์เป็นนักแสดงคนหนึ่งก็มีคนสนใจเมษ์มากอยู่แล้ว ถ้ามีแฟนเป็นนักแสดงอีกก็ยิ่งกลายเป็นแพ็กคู่ใหญ่"

สุดท้ายเมษ์เผยสเป๊กหนุ่มว่า "ตอนนี้ขอแค่คบแล้วสบายใจ ไม่งอแง เข้าใจงานของเมษ์ ต้องไว้ใจกันได้ ซึ่งตอนนี้ยังหาไม่ได้เลยค่ะ"

สวยๆ อย่างนี้อีกไม่นานก็เจอ

ชิ้นโบแดง

ละคร "ชะชะช่า ท้ารัก" - "ชอบเพราะเป็นละครเรื่องแรกที่ได้ร้องเพลงและได้เล่นเป็นนางเอกเจ้าน้ำตา เรื่องนี้ได้ร่วมงานกับอู๋-นวพล และนักแสดงเก่งๆ อีกหลายคน"

ละคร "หนุ่มผมยาว สาวโปงลาง" - "เมษ์ชอบเพราะเมษ์ได้เทรนการรำ เมษ์ชอบเซิ้งแบบอีสาน ได้ทำอะไรที่โชว์ความเป็นบ้านเกิดของเมษ์ ได้เรียนโปงลางและตีโปงลางค่ะ"

ละคร "นางทาส" - "เรื่องนี้ได้พลิกบทบาทมาร้ายแบบเต็มๆ และเป็นเรื่องแรกที่ได้เล่นพีเรียดเต็มตัว ผลตอบรับดีมาก เรื่องนี้เมษ์เต็มที่กับมัน รู้สึกภูมิใจมากกับละครที่มาทำใหม่ ความกดดันมีสูงเป็นธรรมดา พอผลตอบรับออกมาดีก็รู้สึกดีใจมากๆ ค่ะ"



ประวัติ

ชื่อเล่น : เมษ์

ชื่อจริง : อรวรรษา ฐานวิเศษ

ชื่อในวงการ : บัณฑิตา ฐานวิเศษ

วัน/เดือน/ปีเกิด : 19 เม.ย. 2524

บิดา/มารดา : วิชิต-สงวนจิต ฐานวิเศษ

พี่น้อง : มีพี่ชาย 1 คน ฐานันท์ ฐานวิเศษ (แม็ค)

การศึกษา : มัธยมฯร.ร.สตรีชัยภูมิ, อุดมศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มศว