น้ำผึ้งทิ้งภาพดารา มุ่งแสดงมืออาชีพ

ติดกันงอมแงม กับละครแนวตบจูบ "สวรรค์เบี่ยง" ทางช่อง 3 ที่ได้พระนางคู่ขวัญ "เคน-ธีรเดช" กับ "แอน ทองประสม" มาปะทะบทบาทในบทของ "คาวี" และ "นาริน"

นอกจาก 2 ดาราเจ้าบทบาทที่ว่านี้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งตัวละครที่ทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้นนั่นคือ "ลีลา" พี่สาวของ "นาริน" ที่ได้ดาราสาว "น้ำผึ้ง"ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ มาตีบทแตกกระจุย วันนี้จังหวะเหมาะ แหวกอากาศร้อนๆ รับลมเย็นๆ มานั่งพูดคุยกับเธอที่ NATIRIKA ร้านเสื้อผ้าแอนธีคของแม่ค้าสาว "น้ำผึ้ง" ซึ่งเป็นอีกบทบาทยามที่อยู่นอกจอ


-อยู่ในวงการมานานเท่าไร?

น้ำผึ้ง - "15 ปีแล้ว เขาบอกว่าอะไรที่อยู่เกิน 10 ปีนี่เรียกว่าอมตะแล้วนะ น้ำผึ้งเข้าวงการเร็ว แล้วน้ำผึ้งหน้าแก่ตั้งแต่เด็กก็เลยเหมือนเดิม เอาจริงๆ เลย หน้า 25 ตอนอายุ 15 ปี หน้าคงที่อยู่ตลอด น้ำผึ้งเล่นละครเเรื่องแรก "ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน" ต่อด้วย "มนต์รักลูกทุ่ง" และ "มงกุฏดอกส้ม" จากนั้นก็มีละครช่อง 7 มาเรื่อยๆ จนย้ายบ้านมาเล่นให้ช่อง 3 ในละคร "ระเบียงรัก" เมื่อ 3 ปีก่อน"

-อยู่บ้านเก่าเบอร์ต้น มาบ้านใหม่ไม่ใช่เบอร์ต้น วางตัวเองอย่างไร?

น้ำผึ่ง - "มันกลายเป็นว่าพอเราอายุเยอะขึ้น เข้าใจอะไรง่ายขึ้น แล้วความยึดติดมันน้อยลง มุมมองที่เป็นสากลมันก็มากขึ้น แทนที่จะเป็นนางเอกน่าสงสารเบอร์หนึ่งตลอด กลายเป็นว่าเรื่องราวบางเรื่อง ตัวร้ายเด่นกว่าก็มี อยู่ที่ว่าขอเป็นเมนหลักของเรื่อง มันเป็นวิธีคิดที่ร่วมสมัยมากขึ้น น้ำผึ้งเชื่อว่าการเป็นนางเอกเมืองไทยมันจะมีช่วงอายุ แต่งงานก็จบเลย ซึ่งอายุก็จะประมาณ 25-27 ปี เริ่มหมดอายุงานแล้ว ซึ่งการที่เรายึดติดกับบทนางเอกแสนดี มันอาจจะทำให้ระยะการทำงานเราสั้น"


-หลายคนมองว่า ความจริงแล้วเป็นเพราะเริ่มตกหรือร่วง?

น้ำผึ้ง - "น้ำผึ้งเลือกที่จะให้มันเป็นอย่างนั้น ไม่มีใครหรอกที่จะครองตำแหน่งได้ตลอดปีตลอดชาติ ใจน้ำผึ้งไม่ได้รู้สึกภูมิใจว่าเราต้องเป็นนางเอกเบอร์หนึ่ง แต่เราจะภูมิใจที่เป็นนักแสดงคุณภาพ รู้สึกมันเป็นอาร์ตติส มันต่างกันนะคะ คำว่าดารากับศิลปิน"

-ภาพน้ำผึ้งจากนางเอก มาตอนนี้ดูมีความหลากหลายมากขึ้น?

น้ำผึ้ง - "ค่ะ นี่คือเป้าหมาย น้ำผึ้งยึดติดน้อยลง มันมีเรื่องนึงที่ทำให้น้ำผึ้งเริ่มใจแตก คือก่อนหน้านั้นน้ำผึ้งก็เล่นเป็นนางเอกมาตลอด ไม่รู้หรอกว่าบทอื่นเป็นอย่างไร จนมาเล่นเรื่อง "พิษกุหลาบ" เป็นฆาตกร รู้สึกว่ามันช่างมีรสชาติ อินเนอร์มันสูงเหลือเกิน แล้วมันยาก แต่สนุกมาก ก็เลยทำให้เริ่มเปิดใจ เล่นอะไรที่ไม่ต้องเป็นแพทเทิร์นตายตัวว่าจะต้องเป็นนางเอกน่าสงสารอย่างเดียว มันเลยทำให้พลิก ซึ่งมันดีนะ การที่เราทำแบบนี้มันทำให้เราพัฒนาอาชีพของเราได้มากขึ้น"


-ผ่านงานละครมาหลายเรื่องล้วนโดดเด่นเล่นได้ดีจนหลายคนชม ตรงนี้มีวิธีอย่างไร?

น้ำผึ้ง - "ซื่อสัตย์กับบทค่ะ น้ำผึ้งรู้สึกดีกับการแสดงมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนมุมมองความคิด จากเดิมที่เคยคิดว่าเป็นดารา เป็นคนดัง แต่ตอนนี้น้ำผึ้งคิดว่าตัวเองเป็นคนธรรมดาที่มีอาชีพรับจ้างแสดง แล้วมันก็ทำให้เราสลัดความเป็นณัฐริกา แล้วการเอาตัวละครนั้นมาสิงตัวเรา แทนที่จะเป็นตัวเราพยายามที่จะแสดงเป็นคนนั้น มันก็ถูกสิงง่ายขึ้น"

-แล้วฟีดแบคของ "ลีลา" ในละคร "สวรรค์เบี่ยง" ที่ได้รับเป็นอย่างไร?

น้ำผึ้ง - "ดีเกินคาดค่ะ ชื่นใจ คนรอบข้างก็ลุ้น เพราะเขาเห็นเราทำการบ้านเยอะมาก น้ำผึ้งไม่ใช่นักแสดงที่มีพรสวรรค์ เก่งมาแต่กำเนิด แต่สิ่งที่มีตอนนี้คือขยัน ตั้งใจ น้ำผึ้งความจำสั้น แต่ต้องดึงตัวเองให้ได้ แล้วได้คำนึงจากพี่หมู ดิลก(ทองวัฒนา) คือท่องบทให้เป็นลมหายใจ ท่องมันไปจนไม่ต้องนึกแล้วว่ามันคืออะไร แล้วพอไปถึงช่วงเวลานั้น บทมันจะอยู่ในความจำลึกๆ ของเราโดยที่เราไม่ต้องนึก แต่สิ่งที่เราคิดในเวลานั้น จะได้ทุ่มกับแอ๊คติ้ง เล่นเรื่องนี้ได้วิชาเยอะเลย ส่วนแฟนละครก็ชอบ แต่ก็มีบางคนที่คิดประทุษร้าย(หัวเราะ) วันนั้นเอาเสื้อไปให้ช่างเย็บ ช่างก็บอกเดี๋ยวๆ รอแป๊บนึงนะคะ คนซอย 5 บอกว่า ถ้าคุณน้ำผึ้งมาช่วยไปบอกเขาหน่อย เขาจะเดินมาตบ หรือมีแบบไปซื้อทุเรียนเขาก็จะบอกว่าซื้อเนื้อทุเรียนแล้วเอาเปลือกทุเรียนไปด้วยมั้ยคะ(หัวเราะ)"


-คนติดภาพกับฉากที่ "ลีลา" ทำร้ายตัวเองในเรื่อง เล่นได้เหมือนมากๆ?

น้ำผึ้ง - "คือมันไม่ได้ว่าเล่นได้เหมือนนะ แต่มันคือทำจริง มันเล่น 2 เทค เทคแรก เขาลองให้ตบหลอก แต่น้ำผึ้งว่ามันไม่ใช่มันยังไม่ได้ ผู้กำกับฯเลยกระซิบว่าน้ำผึ้งมันจะต้องค่อยๆ อย่างนี้ๆ แล้วก็มากๆ ขึ้น น้ำผึ้งก็รู้กันกับผู้กำกับฯ เราก็โอเค.พี่ ขอครั้งเดียว แล้วตบตัวเองจริงๆ เลย ยอมรับว่าเจ็บ หน้าสะเทือนเลย เล่นเรื่องนี้น้ำผึ้งถือว่าทำงานเต็มที่ ไม่มีวอกแวก ไม่มีเกเร ตั้งใจทำให้มันเป็นอาชีพ อยากลองที่เขาเรียกว่าเป็นมืออาชีพ อยากเป็นอย่างนั้นบ้าง ไม่รู้ว่าจะเป็นได้มั้ย แต่มันเป็นช่วงที่น้ำผึ้งพยายามทำ"

-ถือว่าประสบความสำเร็จมั้ย?

น้ำผึ้ง - "ก็ถือว่าสำเร็จ ณ จุดหนึ่ง มีคนยอมรับในงานที่ทำก็ถือว่าดีและภูมิใจ มีกำลังใจทำให้ดีต่อไป แต่มันก็เริ่มเป็นภาระแล้วไงเพราะเราไม่อยากให้ใครผิดหวัง อยากทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ"

อย่างนี้คำว่า "มืออาชีพ" จะไปไหนเสีย


"ติสต์"แต่ไม่"เพี้ยน"

อายุอานามเข้าเลขในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว สำหรับดาราสาว "น้ำผึ้ง-ณัฐริกา" ซึ่งเจ้าตัวเผยถึงอายุอานามที่มากขึ้นว่า


"น้ำผึ้งชอบมากนะที่ตัวเองอายุมากขึ้น เราจะทำอะไรผิดพลาดน้อยลง เราจะทำอะไรโง่ๆ น้อยลง เพราะเรามีประสบการณ์แล้วว่าทำอย่างนี้แล้วไม่ดี ทำอย่างนั้นแล้วไม่ดี เราก็จะเลือกทำแต่สิ่งที่มันเกิดผลดี"

จากนั้นก็กล่าวอีกว่า "คือน้ำผึ้งไม่รู้ว่าคนอื่นมองยังไง แต่ความคิดน้ำผึ้งโตกว่าอายุ น้ำผึ้งผ่านอะไรมาแบบสุดขั้ว เด็กๆ น้ำผึ้งไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตวัยเด็กเลย

อยู่ดีๆ ก็มาเป็นดารา แล้วดังอยู่ช่วงหนึ่ง มันมีความสุขหรือเปล่า มันใช่หรือเปล่า แล้ววันหนึ่งก็ได้มาเป็นดารากลางๆ แล้วก็เลิกเป็นดารา น้ำผึ้งได้เรียนรู้ว่าระหว่างที่เป็นดาราเป็นยังไง กับการที่ไม่เป็นดาราเป็นยังไง แล้วพอกลับมาเป็นอีกทีมันเป็นยังไง ตอนเลิกเป็นดาราได้ไปอยู่ต่างประเทศบ้างชนบทบ้าง ไปค้นหาตัวเอง สิ่งที่คนชมนักชมหนาว่าเจ๋ง แต่พอเราไปอยู่อเมริกายุโรป เขาไม่สนใจเราหรอก เขามองว่าเราเป็นเด็กเจ๊กเด็กจีนคนนึง พอเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ก็เข้าใจว่า อ๋อ...ไอ้ความเป็นดารามันไม่ใช่ตัวเราหรอก"

แล้วตอนนี้ค้นหาตัวตนเจอหรือยัง

"เจอส่วนหนึ่งแล้ว แต่มีอีกหลายส่วนยังไม่เจอ ส่วนที่เจอนี่น้ำผึ้งมีความสุขในการให้มากกว่าการรับ ไม่ได้ยึดติดกับความสุขที่วัตถุอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เหมือนเผื่อแผ่ไปให้กับสัตว์ น้ำผึ้งเป็นคนที่รักสัตว์ตั้งแต่เด็ก รู้สึกว่าสัตว์เป็นเพื่อนซี้ ขณะเดียวกันก็อยากขอบคุณตอบแทนเพื่อนๆ ในโลกบ้าง เรารู้สึกผิด มนุษย์เราเอาเปรียบโลกมาเยอะแล้ว ที่อยู่ของเขาเราก็เอามาอยู่ ก็เลยอยากขอโทษสัตว์แทนเพื่อนมนุษย์ อยากชดเชยให้"


เพราะอย่างนี้ ดาราสาวเลยผุดโครงการช่วยสัตว์ป่าและสัตว์บ้าน

โดยโครงการช่วยสัตว์ป่ามีชื่อว่า ปันน้ำใจให้สัตว์ป่าถูกทิ้ง SECOND CHANCE FOR WILDLIFE ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ส่วนสัตว์บ้านเธอจะเอาเงินส่วนหนึ่งในร้านกับกล่องบริจาคในร้านช่วยทำหมันหมา หรือบางทีก็นำไปสมทบกับหน่วยงานที่ช่วยเหลือสุนัข

แย๊บว่าไม่ใช่ทำเพราะสร้างภาพ ดาราสาวกล่าวเสียงเข้ม

"น้ำผึ้งไม่เชื่อเรื่องการสร้างภาพ ทำไมต้องรักษาภาพ เราไม่ให้เกียรติตัวเองเลยเหรอ เราเป็นคนเลวมากถึงขนาดต้องปิดตัวเองถึงกับต้องสร้างภาพในจินตนาการให้คนอื่นชอบ น้ำผึ้งว่ามันหลอกคน ไม่ซื่อสัตย์ น้ำผึ้งขอไม่สร้างแล้วกัน ถ้าวันนึงจะไม่ทำ น้ำผึ้งก็จะบอกว่าไม่ทำแล้ว"

ซึ่งความสุขของเธอนั้นเธอบอกว่า

"อยู่ที่ได้ตอบแทนอะไรให้โลก ฟังดูเหมือนซูเปอร์ฮีโร่เนอะ แต่เชื่อมั้ยว่ามันเป็นจริงๆ จำได้เลยว่ามันเป็นความสุขอันดับต้นๆ ของชีวิตเลยตอนที่น้ำผึ้งปล่อยลิงลมเข้าไปในคอกใหญ่ จากคอกเล็กๆ ที่เราหาตังค์สร้างเอง จากที่มันถูกขังในที่เล็กๆ จนขามันจะเสีย พอมันปีนขึ้นไปมันไม่สนใจอะไรเลย การรีบปีนขึ้นต้นไม้ แล้วไปใช้ชีวิตปกติของมัน มันเหมือนคำขอบคุณ เราก็เลยรู้สึกว่าเราอยากทำอย่างนี้คือ ติดความดี"

สิ่งเหล่านี้ ถ้าคนไม่เข้าใจคิดว่าเราอารมณ์ติสต์

"ก็มองได้ ไม่เป็นอะไร แต่อย่ายัดคำว่าติสต์แตกเลย คือไม่แตกนะ ขอบอกว่าไม่ได้แตก แต่มีอยู่ในระดับหนึ่ง ไม่ได้แตกไม่ได้เพี้ยนแต่แค่ติสต์ บางคนเรียกว่าเซอร์ ก็มีความถูกต้อง แต่ไม่ได้หลุกโลกค่ะ"

อันนี้ขอยืนยัน


"เป้"รักสัตว์-ได้ใจ"น้ำผึ้ง"

"ไม่รู้กี่ปีนะ วันก่อนเพิ่งถามเขาเองนะว่าเราคบกันมากี่ปีแล้ว จำไม่ได้จริงๆ น่ะ" สาว "น้ำผึ้ง-ณัฐริกา" บอกกล่าว

เมื่อถูกถามว่าคบหากับแฟนหนุ่ม "เป้"ฐิติ สิริโสดา มากี่ปีแล้ว แย๊บแซวว่าที่ไม่นับนี่กลัวอาถรรพ์เลข 7 หรือเปล่า น้ำผึ้งรีบแย้ง "ไม่กลัวหรอก แหม...จะเลิกกันไปตั้งแต่ปีแรกก็เลิกได้"จากวันแรกที่คบจนถึงวันนี้ ดาราสาวกล่าวว่า ได้เรียนรู้จนเกือบถึงแก่นแล้ว เข้าใจจิตใจของแฟนหนุ่ม

"คือปีแรกๆ ที่คบน้ำผึ้งขี้หึงมาก โทร.จิกตาม

แต่พอมาปีหลังๆ กลับกลายว่า เขาอยากทำอะไรก็ได้ ทำเถอะ เพราะเราก็เห็นว่าชีวิตคนเราไม่ยาว ถ้าทำอะไรแล้วไม่ได้ทำร้ายจิตใจเรามากนัก หรือเขาสนุกสนานของเขา เพราะเขาก็เป็นผู้ใหญ่ รู้ว่าถึงระดับไหนเขาจะหยุด น้ำผึ้งก็ปล่อยให้เขามีความสุขค่ะ"

จัดสรรเวลาที่จะเรียนรู้และคบกันยังไง

"แทบไม่ได้เจอกันเลยค่ะ เจอกันน้อยแต่คุยกันเยอะ ใช้โทรศัพท์สื่อรัก(หัวเราะ)"

บางคนชอบให้คนเทคแคร์ น้ำผึ้งส่ายหน้า

"น้ำผึ้งไม่ต้องการให้ใครเทคแคร์ค่ะ น้ำผึ้งขี้รำคาญ ยอมรับเลยว่าเป็นคนสันโดษ คือถ้าใครมาตัวติดกับน้ำผึ้ง น้ำผึ้งจะรำคาญ และเขาก็เป็นเหมือนน้ำผึ้งเป๊ะเลย ก็เลยต่างคนต่างดูแลตัวเอง คอยช่วยเหลือกันดีกว่า"

มองอนาคตเรื่องแต่งงานมีครอบครัวบ้างหรือยัง เพราะมันก็ถึงวัยแล้ว

"น้ำผึ้งว่ามันเลยไปแล้วนะ คือมันยังไม่ใช่อารมณ์นี้มั้ง น้ำผึ้งอาจจะเต็มเปี่ยมไปด้วยสัตว์รอบตัว และมีสัตว์ที่ต้องให้น้ำผึ้งเทคแคร์ตลอดเวลา น้ำผึ้งมีภาระของน้ำผึ้งตลอดอยู่แล้ว"

"คือทุกวันนี้น้ำผึ้งพอใจแล้ว ไม่ได้ต้องการมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้

แต่ถ้าวันนึงอยากจะแต่งงานมากๆ น้ำผึ้งอาจจะแต่งก็ได้ แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่ มันทำอะไรตามอารมณ์น่ะ มันเหมือนยังมีภารกิจอื่นต้องทำอยู่ ดูเหมือนเป็นละครเลยนะ แต่มันจริงๆ เลย มันจะเป็นไปได้ยังไง มีสัตว์ที่เลี้ยง 50-60 ตัว มีลูกอีก 1 คน เล่นละคร มีร้าน เปิดโรงเรียนวาดรูป โอ้โห มันเป็นไปไม่ได้ หรือจะให้เราหลุดจากการเล่นละคร ซึ่งน้ำผึ้งมองว่ามันได้ประโยชน์น้อยกว่า ตรงนี้เราพูดแทนได้เยอะกว่า ไปอยู่ตรงนั้นก็อดตายกันหมดทั้งสัตว์ทั้งคน"

แล้ว "เป้" เขามาเติมส่วนไหนให้เรา

"เขาก็ช่วยเราเลี้ยงสัตว์ สิ่งที่ดีที่สุดที่ทำให้คบกันได้ยาวคือเขาเป็นคนรักสัตว์ เห็นเขาพูดจาหวานกับลิง เรียกลิงเบบี๋ๆ เราก็เฮ้ย...เบบี๋น่ะฉัน(หัวเราะ) เขารักสัตว์มาก มันทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนจิตใจดี มันซื้อใจเลย"

เรียกว่าได้ใจทั้งคนและสัตว์เลี้ยง


ชิ้นโบแดง

โลดแล่นอยู่ในวงการมายามา 15 ปีเต็ม มีผลงานเข้ามือมามากมาย แต่ผลงานที่ดาราสาว "น้ำผึ้ง"ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ ถือว่าเป็นชิ้นโบแดงนั้น ไม่ใช่เรื่องไกลอื่น เป็นละคร "สวรรค์เบี่ยง" ที่กำลังออกอากาศอยู่ทางช่อง 3 ในตอนนี้

โดยน้ำผึ้งเผยว่า "น้ำผึ้งชอบละครเรื่อง "สวรรค์เบี่ยง" เพราะว่าไม่เคยตั้งใจหนักมากขนาดนี้มาก่อนเลย ตั้งใจจริงๆ เรื่องอื่นก็ตั้งใจ แต่เรื่องนี้ไม่ตั้งใจแล้วตายแน่ๆ"

"ละครเรื่อง "มงกุฎดอกส้ม" ก็ชอบ เรื่องนั้นอาดาว (ดวงดาว จารุจินดา) ส่งเสริมอาชีพการงานจริงๆ เพราะน้ำผึ้งไม่รู้เรื่องอะไรเลย อาดาวสอนตลอดประกบตลอดเวลา ได้อาชีพมาจากอาดาวเลย ยกให้เป็นครูคนแรกของชีวิตการแสดงของน้ำผึ้งเลยค่ะ"


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์