เป๊กกี้ตกงานผับดังไล่ออก

“อลิส คริสตัน” ยื่นมือช่วยเหลือ “เป๊กกี้ บิ๊กบราเธอร์” หลังรู้ข่าวโดนผจก.ผับดังอาร์ซีเอ ไล่ออกจากงานเรียบแล้ว

อดีตนางเอกนักร้องสาวมาดแมน โทรศัพท์ไปหาที่ขอนแก่น ปลอบใจจะเร่งช่วยเหลือหางานให้ทำ ขณะที่นักร้องสาวครวญ ตอนนี้หมดอนาคตยังคิดอะไรไม่ออก ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นชนวนเหตุ เตรียมพาเพื่อนสาวคนสนิท เข้าพบตร.มักกะสันชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด ด้านเจ้าของร้านสปาฯ เริ่มสงสารพอรู้ข่าวตกงาน ใจอ่อนยินดีเคลียร์ปัญหา นึกถึงหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน แต่คู่กรณีต้องยอมมาขอโทษเสียก่อน



ภายหลังจาก “เป๊กกี้ บิ๊กบราเธอร์ 1” หรือ น.ส.วริศรา บุตรเขียว อายุ 29 ปี ปัจจุบันเป็นนักร้องอยู่ที่ผับซีต้า ย่านอาร์ซีเอ

ได้ถูก   น.ส.รุ่งทิวา ตังคโนภาส เจ้าของร้านสปาเข้าแจ้งความตำรวจ สน.มักกะสัน ให้ดำเนินคดี “เป๊กกี้” ข้อหาทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดที่หน้าผับซีต้า ช่วงคืนวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ “เป๊กกี้” ได้ถูกทางร้านพักงาน 7 วัน จึงกลับไปอยู่บ้านที่ จ.ขอนแก่น พร้อมออกมาขอความเป็นธรรมยืนยันว่าไม่ได้ก่อเหตุเพราะตนเองและเพื่อนสาวถูกทำร้ายใช้รองเท้าส้นสูงตบจนบาดเจ็บ อีกทั้งยังถูกมือดีข่มขู่และกรีดรถยนต์ได้รับความเสียหาย จึงไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเช่นเดียวกัน
 
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 เม.ย. ร.ต.อ.ชูเกียรติ มีสุวรรณ พงส. (สบ 1) สน.มักกะสัน กล่าวว่า 

จนถึงขณะนี้ทาง น.ส.วริศรา ยังไม่ได้ติดต่อมาให้ปากคำเนื่องจากทางพนักงานสอบสวนยังไม่มีการแจ้งข้อหาหรือออกหมายเรียกแต่อย่างใดเพราะยังขาดพยานหลักฐาน ในส่วนของพยานทางตำรวจกำลังดำเนินการติดต่อเพื่อเชิญมาให้ปากคำ แต่คาดช่วงนี้ยังติดอยู่ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ พยานคงยังไม่ค่อยสะดวกเดินทาง   มาในส่วนของ น.ส.วริศรา ที่ได้เข้าร้องทุกข์ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายต้อง  ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน


ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวของ  “เป๊กกี้” หลังจากกลับไปพักผ่อนอยู่กับนางสมทรง สาสม มารดาที่บ้านเลขที่ 46/40 ซอยศิลปสนิท 5 หมู่บ้านสามเหลี่ยม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็เลยถือโอกาสตระเวนรดน้ำดำหัวขอพรจากมารดาและบรรดาญาติที่ อ.บ้านไผ่ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากตนต้องตกเป็นข่าวมา 2 วัน ล่าสุด   ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาทางผู้จัดการผับได้โทรศัพท์มา หาแสดงความเห็นใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่จำเป็นต้องให้ตนออกจากงานแบบถาวรไม่อยากให้กลับมาร้องเพลงที่เดิมอีกเพราะหลังเกิดเรื่องเป็นข่าวทำให้ชื่อเสียงของผับได้รับความเสียหาย
 
“เป๊กกี้” กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า เมื่อทางผู้จัดการให้ออกก็ต้องออก ตอนนี้เลย กลายเป็นคนตกงานยังไม่รู้อนาคตว่าจะทำงานอะไรต่อไปดี

เพราะปัจจุบันทำงานเป็นนักร้องอยู่ที่ผับซีต้า ย่านอาร์ซีเอแห่งเดียว ส่วนการเดินแบบแฟชั่นจะมีเพียงในครั้งคราวเท่านั้น ด้านงานละครก็ยังไม่มีให้แสดง ยอมรับว่าเสียใจอย่างมากที่ถูกไล่ออกจากงานทั้งที่ได้เข้าไปช่วยเหลือเพื่อนที่ถูกรุมทำร้ายร่างกายอยู่ด้านหน้าผับ ทำให้ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกเพราะหากไม่มีงานร้องเพลงก็หมด  รายได้ ทั้งไม่มีเงินส่งค่างวดรถยนต์ ค่าเช่าห้องคอนโดฯ ถือว่าถูกทำร้ายจิตใจอย่างมากเพราะเป็นการตัดอนาคตกันเลย


อย่างไรก็ตามตนคงต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในวันที่ 16 เม.ย. เพราะต้องไปส่งน.ส.เล็ก (นามสมมุติ) เพื่อนสนิทที่เดินทางมา ด้วยกัน

ส่วนตนคงต้องเคว้งคว้างออกหางานทันที อย่างไรก็ดีล่าสุดได้มีพี่ในวงการบันเทิง “อลิส   คริสตัน” อดีตนางเอกสาวและนักร้องชื่อดัง ได้โทรศัพท์มาพูดคุยให้กำลังใจพอทราบข่าวว่าตนถูกไล่ออกจากงาน “พี่อลิส” บอกว่า ไม่ต้องตกใจเดี๋ยวพี่จะช่วยหางานให้ทำเพราะเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการทำไม่ถูกต้อง เมื่อเป็นผู้น้อยต้องยอม ทำตามคำสั่งจึงขอให้อดทนจะช่วยหางานให้ทำโดยเร็วที่สุด
 
“ปัญหาทะเลาะวิวาทครั้งนี้ต่างฝ่ายต่างบอบช้ำไม่มีใครบาดเจ็บสาหัส ตอนแรกนึกว่าจะจบลงไปแล้ว

ทั้งที่ปัญหาดังกล่าวต้นตอเกิดจากการกระทบกระทั่งกันระหว่าง น.ส.รุ่งทิวา และ น.ส. เล็ก แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นตัวเราที่ต้องมาตกงานเพราะเรื่องนี้ ถ้าคู่กรณีจะเอาเรื่องมากกว่าที่เป็นอยู่จริง เป๊กกี้อาจตัดสินใจแจ้งความกลับเอาผิดเช่นกันเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีหลังจากถูกหมิ่นประมาทอย่างแรง พร้อมจะพาเพื่อนสาวไปให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดกับทางตำรวจด้วย” นักร้องสาว กล่าวทิ้งท้าย


ต่อมาช่วงหัวค่ำวันเดียวกัน น.ส.รุ่งทิวา เจ้าของร้านสปา หลังออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่บ้านพัก

ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ชี้แจงยืนยันว่าไม่เคยใช้รอง “เท้าส้นสูง” ไปตบทำร้ายใครตามที่เป็นข่าว การออกมาพูดเช่นนี้ทำให้ตนถูกสังคมประณามว่าทำรุนแรง วันนั้นตนใส่รองเท้าส้นเข็มรัดข้อ สูง 3 นิ้วคงยากแก่การที่จะถอดออกไปตบใคร ถ้าทำคงต้องมีบาดแผลเจาะลึกแน่นอน ส่วนที่เป๊กกี้เล็บฉีกน่าจะมาจากการพยายามจิกข่วนขย้ำร่างกายเราจนเป็นบาดแผลยับ สาเหตุที่ต้องไปแจ้งความเพราะเราประกอบอาชีพสปามีธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ด้านผิวพรรณก็จำเป็นต้องรักษาร่างกายเอาไว้
 
น.ส.รุ่งทิวา กล่าวต่อว่า จริง ๆ แล้วไม่อยากมีเรื่องเพราะเราเป็นผู้ใหญ่กว่า

ยิ่งมาทราบข่าวว่าต้องมาถูกไล่ออกจากงานเพราะเรื่องนี้ก็เริ่มรู้สึกสงสารเพราะอย่างน้อยเป็นลูกผู้หญิงเหมือนกันและทราบว่าต้องมีภาระรับผิดชอบหลายด้าน อย่างไรก็ดีหากเป๊กกี้คิดได้รู้สึกสำนึกผิดถ้ามาขอขมาก็ยินดีพร้อมจะให้อภัย หรืออยากจะให้ช่วยอะไรก็บอกได้ ยอมรับว่าวันนั้นรู้สึกทั้งโกรธและเจ็บใจมากที่ถูกกระทำจึงอยากจะเตือนเป็นอุทธาหรณ์ต่อไปจะทำอะไรอย่าใช้อารมณ์.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์