ซงจีฮโย น้องใหม่หัวใจสะเทิ้น

ซงจีฮโย ซึ่งเกิดเมื่อ 15 สิงหาคม ปี พ.ศ. 2524 สูง 168 เซนติเมตร น้ำหนัก 46 กิโลกรัม จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยยุง นัม 

เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนางแบบ ให้กับนิตยสาร KiKi เมื่อปี 2544 หลังจากนั้นเธอก็ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา โดยผ่านงานมาแล้วมากมายอาทิ  GM, LG Telecom, Shiseido, Natuur, Hite, Daum และ Lotreria นอกจากงานโฆษณาแล้วนั้น ซงจีฮโย ก็เคยมีผลงานมิว สิกวิดีโอให้กับสองนักร้องยอดนิยมของเกาหลี อย่าง J.T.L. กับ ลี โซ ยัง
 
ในปี 2546 ซงจีฮโย เริ่มเข้าสู่งานด้านการแสดงเป็นครั้งแรก 

ในภาพยนตร์แนวสยองขวัญเรื่อง Wishing Stairs ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ เธอรับบทเป็น ยุนจีซอง นักเรียนบัลเลต์ปี 2 ที่เกิดความผิดหวังอย่างรุนแรง จึงไปขอพรกับบันได ที่ซึ่งเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณอันชั่วร้าย เพื่อให้เธอได้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา
 
จากนั้นในปี 2547 ซงจีฮโย กลับมารับงานภาพยนตร์แนวแอ๊ค ชั่น, ทริลเลอร์ เรื่อง Some เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน 24 ชั่วโมง

โดยเธอมารับบทเป็นยูจิน นักข่าวสาวที่เข้าไปพัวพันคดียาเสพติด  หลังจากเรื่องนี้ ซงจีฮโย ก็พักงานแสดงไปนานถึงหนึ่งปีเต็ม ก่อนกลับมารับงานแสดงอีกครั้งในปี 2549 ด้วยผลงานละครเรื่องแรกของเธอใน Princess Hours  ซึ่งซงจีฮโย รับบทเป็นมินฮโยริน หญิงสาวที่รักการเต้นบัลเลต์เป็นชีวิตจิตใจ จากละครเรื่องนี้ ทำให้เธอได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก ในฐานะที่เป็นนักแสดงที่เล่นได้หลากหลายบุคลิก

ปลายปีเดียวกัน ซงจีฮโย ก็มีโอกาสได้ร่วมละครสุดยิ่งใหญ่เรื่อง Ju Mong

โดยรับบทเป็นภรรยาคนแรกของจูมง  ผู้ให้กำเนิดลูกคนแรกของจูมงที่ชื่อยูรี ในละครเรื่องนี้ ซงจีฮโย ต้องพลิกบทบาทครั้งสำคัญ ที่ถือว่า เป็นการท้าทายความสามารถทางด้านการแสดงที่ดีอีกครั้งหนึ่งของเธอ นอกจากนี้ ซงจีฮโย ยังมีผลงานเรื่อง Yoga Academy
 
ส่วนเรื่องความรักนั้น มีข่าวแว่วมาว่า ซงจีฮโย กำลังปลูกต้นรักกับจูจีฮุน ผู้รับบทเจ้าชายชินในเรื่องเจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา 

โดยแหล่งข่าวจากเซเลบริตี เอ็กซ์-ไฟล์ส บอกว่า เห็นสาวจีฮโย เข้า ๆ ออก ๆ ที่บ้านของหนุ่มจีฮุนบ่อย ๆ ไม่เพียงแค่นั้น แฟนๆ จำนวนหนึ่งยังอ้างว่า พวกเขาเห็นจีฮโยซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของจีฮุนอีกด้วย สำหรับเรื่อง Sex is Zero 2 หรือ “ขบวนการปิ๊ดปี้ปิ๊ด 2 แผนแอ้มน้องใหม่หัวใจสะเทิ้น” เป็นภาพยนตร์ตลกเซ็กซี่สุดฮือฮา และเป็นภาคต่อจากเรื่อง Sex is Zero ที่เคยโด่งดังดึงดูดผู้ชมถึง 4.2 ล้านคนทั่วประเทศเกาหลีเมื่อปี 2545 และติดอันดับสี่ในบ็อกซ์ออฟฟิศของปีเดียวกัน
 
โดยเรื่องนี้ นักแสดงจากภาคแรกได้มารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อมาพูดถึงเรื่องเซ็กซ์ และชมรมแอโรบิก

ได้กลายเป็นชมรมว่ายน้ำ ขณะที่ ชมรมศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวก็เปลี่ยนเป็นชมรม k-1 ซึ่งรับประกันได้ว่า มันส์หยด และมีมุกตลกที่ขำกว่าเดิม ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ดีกว่า สนุกกว่าและแหกกฎกระจาย “ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้สำหรับหนุ่มสาวพลังม้าของเกาหลี” เรื่องราวความรักอันสดใสสุดเซ็กซี่ของพวกเขากำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว ติดตาม Sex is Zero 2 ที่มีโปรแกรมฉาย 10 เมษายนนี้.