แค่มีคนในครอบครัวรักก็พอแล้ว

แม้เพิ่งจะคลอดอัลบั้มเต็มชุดที่3 "มูฟวิ่ง ออน" ออกมาให้ฟังกัน

แต่ดูเหมือนว่าความสนใจที่ผู้คนมีต่อสาว "ลีเดีย" ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา จะไม่ได้หยุดอยู่ที่เรื่องงานเพลงแต่กลับเป็นเรื่องที่เธอเป็นหนึ่งในคนสนิทของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ถึงขั้นเรียกขานกันว่า "พ่อ-ลูก" มากกว่า จนเธอต้องประกาศกร้าว ว่าจะตอบคำถามเรื่องเกี่ยวกับการเมืองอีกเพราะเธออยากเป็นแค่นักร้องเท่านั้น

วันนี้ "หน้าบันเทิง คม ชัด ลึก" คว้าตัวเธอมานั่งพูดคุยกันอีกครั้ง ในห้วงเวลาที่เธอยังคงถูกสายตาหลายคนจับจ้องและให้ความสนใจ



งานในช่วงปีที่3

อัลบั้มนี้ดูเงียบๆนะ

-ไม่เงียบนะ เดียร์รู้สึกว่าเพลง "1 วินาที...ก็ช้าไป" ไปที่ไหนคนก็ร้องได้ ถ้าจะเงียบคงเพราะกระแสการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ที่ผ่านมากระแสการเมืองมาชนทุกอัลบั้มพอดี เดียร์เลยคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องด้วย มันเหมือนพื้นที่ข่าวถูกแบ่งไปเรื่องอื่น แต่ถ้าเดียร์มีเรื่องอัลบั้มอย่างเดียว พื้นที่ก็จะเป็นเรื่องอัลบั้มอย่างเดียว

เซ็งหรือเบื่อไหม ที่เป็นแบบนี้

-เหนื่อยใจบางครั้ง มันห้ามคนไม่ได้ แต่เดียร์ก็แฮปปี้นะ อย่างที่บอก เดียร์ยังรู้สึกว่ากระแสเพลงอัลบั้มนี้ดี ยังมีงานเยอะ ไปคอนเสิร์ตไหนคนก็ร้องเพลงได้ เรื่องที่ว่าจะแก้ยังไงไม่ให้มีกระแสเรื่องอื่นกลบ ก็คงต้องให้สัมภาษณ์เรื่องนี้น้อยๆ ซึ่งที่ผ่านมาเดียร์ก็ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์เรื่องการเมืองเลยนะ เพราะเราไม่เกี่ยวเลย เราเป็นนักร้อง

เห็นร้องแต่เพลงไม่คิดลองงานแสดงบ้างหรือ

-ถ้ามีโอกาสก็คงจะเล่น สนใจ แต่ที่ผ่านมาไม่รู้จะยัดงานลงไปในตารางงานยังไง ตอนนี้ 3 งานทุกวัน ถ้ารับงานแสดงอีก คงต้องแยกร่างได้ก่อน ก็ถ้ามีเวลา บทอะไรก็ได้ เคยแย็บๆ กับผู้ใหญ่ไว้บ้าง แต่ยังไม่ลงตัว ตัวเดียร์เองถนัดเป็นนักร้องมากกว่า เรามีความสามารถด้านนี้ เข้ามาเพราะอยากร้องเพลง เลยอยากยึดงานด้านนี้ งานอื่นก็คงมีบ้าง คงเป็นงานที่พิเศษๆ แต่ไม่ใช่งานหลัก



หน้าร้อนนี้ไม่คิดถ่ายแบบชุดว่ายน้ำบ้างหรือ

-คงยังดีกว่า หุ่นเดียร์ไม่เหมือนนางแบบ อีกอย่างเดียร์ไม่ได้เข้าวงการนี้มาเพราะหน้าตา เดียร์เข้ามาเพราะเสียง แถมยังมีผู้ใหญ่หลายคนที่ต้องเกรงใจ อย่าง ป๊ากับม้า รับไม่ได้แน่ๆ เวลาป๊าเห็นคนอื่นถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ ยังชี้ให้ดูแล้วหันมาบอกเดียร์ห้ามถ่ายเด็ดขาด ดูสิเห็นถึงไหน ถึงไหน นมเป็นก้อนเลย

เรื่องธุรกิจล่ะก่อนหน้านี้มองๆ อยู่ไม่ใช่หรือ

-ยังมองๆ อยู่เหมือนเดิม การเริ่มต้นต้องใช้เงินลงทุนเยอะ ซึ่งเงินที่เดียร์มีอาจไม่พอ ทำให้อาจต้องกู้ แต่เรื่องกู้เป็นเรื่องใหญ่ ต้องดูความเสี่ยง ว่าสิ่งที่จะทำโอเคไหม หากทำก็คงทำเป็นเรื่องเป็นราวเลย ถ้าจะให้มาเปิดร้านเล็กๆ ขายรองเท้า กระเป๋า เมื่อเปิดร้านเล็ก รายได้ก็ย่อมไม่เยอะ กำไรอย่างเก่งก็ไม่กี่หมื่น เดียร์ว่าเดียร์เอาเวลาตรงนั้นมาพักผ่อน นอนอยู่กับบ้าน ทำงานร้องเพลงอย่างเดียวคุ้มกว่า รับงานแค่งานเดียวก็เท่ากับขายแบบนั้นทั้งเดือนแล้ว

แล้วถ้าจะทำธุรกิจจะทำอะไร

-มองไว้เป็นเรื่องที่ดิน อยากทำรีสอร์ท ร้านอาหาร แต่ตอนนี้ยังไม่มีเวลาจริงๆ อ้อ ร้องเพลงก็เป็นธุรกิจของตัวเองแล้ว ไม่ต้องลงทุนด้วย เรื่องเล่นหุ้นก็ยังคงมีอยู่ แต่ไม่จริงจัง อัตราเสี่ยงเยอะ



ชีวิตในวันนี้
 

3 ปีในวงการบันเทิงเป็นอย่างไรบ้าง

-ส่วนใหญ่ถ้าเป็นช่วงโปรโมทก็จะทำงาน 7 วัน จะขอหยุดก็ต่อเมื่อไม่ไหวแล้ว แต่ละวันชีวิตไม่ได้ทำอะไรเลย งานอย่างเดียว ถ้าพ้นเรื่องโปรโมท ก็พอมีเวลาให้ตัวเองได้บ้าง ได้หยุดเดือนหนึ่ง 2 วัน

ทุ่มเทให้งานแต่ก็ยังมีคนไม่ชอบ

-เราไม่สามารถทำให้คนทั้ง 100 คนมาชอบเราได้หมด แต่ 100 คนนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะเกลียดเราหมดเช่นกัน เดียร์ทำดีที่สุดแล้ว คนที่ไม่ชอบก็ไม่เป็นไร เราไม่สามารถไปกำหนดได้ แต่ถ้ามีคนชอบเราเยอะกว่าเกลียดก็แฮปปี้นะ

เวลามีข่าวเยอะๆทำอย่างไร

-เดียร์จะคิดว่า แค่มีป๊ากับม้า คนในครอบครัวที่รักเรายังอยู่รอบข้างก็พอแล้ว คนภายนอกถ้าเขารักเราก็ดี แต่ถ้าเขาไม่รักก็ต้องทำใจ

คิดว่าเป็นเพราะเดียร์ดูมั่นใจเกินไปไหม

-เรื่องความมั่นใจ หรือดูโตเกินตัว ก็อาจจะมีส่วน ทำให้คนคิดว่าหยิ่ง แต่เดียร์อยากจะบอก ว่าตัวจริงเดียร์ไม่ใช่อย่างนั้นเลย การเป็นนักร้องต้องสร้างภาพใด ภาพหนึ่ง เหมือนเป็นอิมเมจให้คนติด คนจำ อย่างเดียร์ ภาพเป็นนักร้องอาร์แอนด์บี ร้องเพลงอลังการ มันก็ต้องมีภาพที่ผู้ฟังติด ไม่อย่างนั้นก็คนไม่จำ ส่วนตัวจริงนิสัยเดียร์ไม่ขนาดนั้น จะออกแนวบ้าๆ บอๆ มากกว่า เรื่องความมั่นใจก็เหมือนกัน จะมั่นใจเป็นบางเรื่อง คนเราถ้าขาดความมั่นใจเลย ก็คงทำอะไรไม่สำเร็จ



มองการทำงานในวงการนี้อย่างไร

-ทุกอย่างในวงการนี้อยู่ที่ข่าวและภาพ คนทั้งประเทศไม่มารู้จักเดียร์เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ต้องพึ่งภาพ พึ่งสื่อ ให้คนเห็น ที่ผ่านมามันแรง เพราะมีกระแสการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ทำไมถึงไม่เก็บเนื้อเก็บตัวหน่อยล่ะเวลากระแสการเมืองแรง

-เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แล้ว แต่เดียร์ทำงานตรงนี้ ถึงแม้เก็บตัว ก็ยังต้องเจอสื่อ พอเจอก็จะต้องถาม ทั้งที่เดียร์ไม่อยากยุ่งเลย ถ้าเลือกได้ ตอนที่มีเรื่องการเมืองเยอะๆ จะอยู่บ้านเฉยๆ เลย แล้วถ้ามัวหมกมุ่นมาก ก็ไม่เป็นอันทำงาน ต้องมองข้ามบ้าง เรายังมีสิ่งดีๆในชีวิตอีกเยอะ คนที่เกลียด เดียร์ก็ไม่รู้จะทำยังไง เราพยายามอธิบายแล้ว

ทุกวันนี้ยังกลัวลูกหลงโดนคนทำร้ายอยู่ไหม

-กลัวอยู่ แต่ก็คิดว่าเขาคงไม่มาทำร้ายเรา เพราะเรื่องการเมืองมั้ง แต่ก็เข้าใจ ว่าบ้านเราเวลากระแสมันแรง ทุกอย่างที่ทำก็แรงตาม ได้แต่คิด ทำใจ เราต้องออกไปเจอทุกคน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

พอใจกับชีวิตวันนี้หรือยัง

-ยัง มีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ ยังห่างไกลจากความเพอร์เฟกท์มากๆ เดียร์ยังต้องเรียนให้จบ งานในวงการบันเทิง เป็นงานที่มาเร็ว ไปเร็ว ทุกวันนี้เดียร์จะรู้สึกว่าเหมือนเป็นช่วงเวลาที่ฝันอยู่ มันอยู่กับเราไม่ได้นาน วันหนึ่งเราก็ต้องกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม ในวงการบันเทิงหาเงินง่ายมาก เลยทำให้บางครั้งไม่เห็นค่า บางครั้งก็ลืม ป๊าจะคอยเตือนเดียร์ตลอด



กลับสู่วัยเรียน
 

เรื่องเรียนไปถึงไหนแล้ว

-ตอนนี้เดียร์เพิ่งกลับมาเริ่มเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 ที่ ลอนดอน สคูล ออฟ แอคโคโนมิก เรียนด้านบริหาร คือเป็นการเรียนนอกระบบ ถ้ามีเวลาก็ไปเข้าคอร์สที่อังกฤษ แต่ถ้าไม่มีเวลาก็อ่านหนังสือทำความเข้าใจแล้วไปสอบ เดียร์คิดว่าการเรียนแบบนี้ทำให้สามารถทำงานไปด้วยได้ เป็นระบบที่ลงตัวที่สุด

ทำไมถึงเลือกเรียนบริหาร

-คิดว่าถ้าอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ เราก็น่าจะมีความรู้เรื่องการบริหาร บางคนถามเดียร์ ว่าทำไมไม่เรียนนิเทศศาสตร์ เพราะเราทำงานตรงนี้ จริงๆ แล้วเดียร์กลับมอง ว่าคนที่เรียนนิเทศน์เพราะเขาอยากเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง แต่เดียร์ทำงานอยู่ตรงนี้แล้วก็น่าจะเรียนด้านอื่นเสริมมากกว่า

วางแผนเรื่องเรียนไว้อย่างไร

-ปริญญาตรีคงใช้เวลาประมาณ 3-4 ปีถึงจะจบ ภายในระยะเวลานี้เดียร์ก็คงดูงานร้องเพลงไปก่อนว่าเป็นยังไง เดียร์คงยังกำหนดไม่ได้ ว่าจะอยู่หรือจะออกจากวงการเมื่อไร เพราะเรื่องนั้นอยู่ที่คนฟังมากกว่า ถ้าเขายังชอบอยู่เดียร์ก็จะทำไปเรื่อยๆ แต่วันไหนถ้าเกิดเขาไม่ชอบขึ้นมา เดียร์ก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร หากจบปริญญาตรีแล้วไม่มีงานก็คงจะบินไปเรียนต่อปริญญาโท แต่ว่าถ้ามีงานต่อเนื่องก็คงจะต้องเรียนระบบเดิม

ตั้งใจว่าจะเรียนถึงดอกเตอร์เลยไหม

-คงต้องดูอีกครั้ง เดียร์ยังไม่รู้ว่าการเรียนไปถึงระดับนั้นจะให้อะไรกับเราหรือเปล่า ต้องดูว่าหากเราลงทุนเสียเวลา เสียเงิน เสียงานไปแล้วได้อะไรกลับมาบ้างหรือเปล่า นำมาใช้ในชีวิตจริงได้แค่ไหน หรือได้เพียงแค่คำว่า ดอกเตอร์ นำหน้า เอาไว้ตอนนั้นก่อนค่อยคิด



หัวใจกับหนุ่มลูกครึ่ง
 

กับแมทธิวดีน ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

-แฮปปี้เหมือนเดิม ตอนนี้ก็ 3 ปีแล้ว เราคบกันเหมือนเป็นเพื่อน ไม่ได้คบกันเป็นแฟนอย่างเดียว เพื่อนไปเรียนเมืองนอกหมดแล้ว เขาก็เป็นลูกครึ่ง คุยกันรู้เรื่อง มันเลยไม่ค่อยทะเลาะกัน คบกันแบบไม่ซีเรียส ทำให้สบายใจ

ล่าสุดแมทธิวไปเปิดก้นจนโดนแชะภาพ

-แน่นอนเป็นเรื่องไม่สมควร วันนั้นเดียร์ก็อยู่ด้วย แต่เดียร์ไม่รู้ว่าเขาจะทำแบบนั้น แค่รู้ว่ามีคนถือกล้องเดินตาม แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าทำขนาดนั้น แล้วภาพที่ออกมาเป็นช่วงที่เดียร์หันไปยิ้มให้กล้องพอดี ตอนที่เขาทำเดียร์ก็ตกใจนะ ภาพนั่นที่จริงมาจากวิดีโอคลิป ถ้าได้ดูวิดีโอคลิปเต็มๆ จะเห็นเลยว่าหน้าเดียร์โคตรเอ๋อเลย แล้วพอมาเป็นภาพนิ่งดันเป็นช่วงที่ยิ้ม กลายเป็นว่าเราเองก็เล่นด้วย

แล้วพอภาพออกมาเป็นอย่างไรบ้าง

-ตอนเกิดเรื่องก็มึนๆ พอภาพออกมาก็รู้เลย สังคมไทย มันทำแบบนั้นไม่ได้ ถึงแม้จะเป็นอะไรที่ถือเป็นเรื่องธรรมดาของเมืองนอก ตัวเขาเป็นฝรั่งคงคิดว่าอะไรก็ได้ แต่เดียร์ต้องเตือนบ้าง ยังว่าไปเลย ว่าแล้วป๊ากับม้าเดียร์จะว่ายังไง ท่านต้องไม่แฮปปี้แน่ๆ แล้วก็เป็นจริงๆ ท่านเห็นจากเอสเอ็มเอส ก่อนหนังสือออกอีก งานนี้เลยโดนด่า

ตัวแมทธิวล่ะเป็นอย่างไร

-เขาก็คงรู้สึกไม่ค่อยดี คนไทย ผู้ใหญ่หลายๆ คนรับไม่ได้ เขาเองก็ไม่ได้คิดก่อนที่จะทำ

คบกันมาสักพักมีวางแผนอะไรไว้บ้างไหม

-ไม่ได้วางแผนอะไร ทำงานทุกวัน เจอกันก็เหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า ไปเรื่อยๆ ไม่ได้อะไรมาก หลายคนชอบถามจะแต่งงานเมื่อไร เดียร์ยังมีอะไรที่จะทำอีกเยอะ แล้วก็อายุแค่ 20 เอง


อนาคตจะเอาดีด้านบันเทิงหรือเป็นนักธุรกิจ อย่างไรก็ขอเอาใจช่วยให้เธอประสบความสำเร็จ
 


เธอชื่อ...ศรัณย์รัชต์วิสุทธิธาดา

ชื่อเล่น...ลีเดีย

เกิดวันที่...7กรกฎาคม 2530

ปัจจุบันอายุ21 ปี

ผลงานที่ผ่านมาอัลบั้มที่ 1 ลีเดีย อัลบั้มพิเศษDream II : a little dream project (ร้องร่วมกับเมย์และฝ้าย Am fine)

ผลงานปัจจุบันอัลบั้มที่ 3 "มูฟวิ่ง ออน"



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์