แพ็ท-สุธาสินี กับ มาร์ค-แกรี่ หนุ่มสาวต่างเชื้อชาติร่วมพิสูจน์รักแท้

ทุกอย่างเริ่มจากเพื่อน ตั้งแต่วันที่เจอที่สนามบิน ทั้งสองคุยกันแต่ทางอีเมล์ และโทรศัพท์ แค่คุยกันแบบเพื่อน แต่รู้สึกว่าเข้ากันได้ทุกอย่าง เป็นความรู้สึกแบบซึมลึก...ค่อยเป็นค่อยๆไป จนตกหลุมรักไม่รู้ตัว



เรื่องของรักแท้มิใช่มีแต่ในนิยาย!! มีสิ่งที่พิสูจน์ให้ประจักษ์แล้ว เมื่อพรหมลิขิตชักนำให้ มาร์ค แกรี่ โรดดริเกวซ หนุ่มอเมริกันเศรษฐีพันล้าน เชื้อสายโปรตุเกส-ไอริช-เยอรมัน ซึ่งครองตัวเป็นโสดเกือบ 4 ทศวรรษ โคจรมาพบกับ แพ็ท-สุธาสินี พุทธินันทน์ ลูกสาวคนโตของเต๋อ-เรวัติ พุทธินันทน์ กามเทพก็แผลงศรทันที!! ขีดเส้นคบกันแค่เพื่อนสนิทเฉียด 3 ปี ไปๆมาๆสารภาพรักกันหวานจ๋อยขนาดไหน นักร้องชื่อดังของเมืองไทยจึงยอมเซย์เยส... ตกลงฝากชีวิตไว้ในมืออดีตนักแข่งรถอาชีพระดับอินเตอร์ ผู้เป็นทายาทธุรกิจค้าที่ดินรายใหญ่สุดในแถบแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ผมเจอ แพ็ท ครั้งแรกที่สนามบินดีทรอยต์ เมื่อปี 2003 ยังไม่รู้สึกปิ๊งอะไร!! แค่คิดว่าผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์มาก!! วันนั้นผมไปกับเพื่อนๆทีมแข่งรถ ทุกคนอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร ผมก็เลยเข้าไปคุยก่อน แต่ยังไม่ได้คิดอะไร ผมเดินทางกับครอบครัวเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องงาน แทบไม่มีโอกาสเจอสาวๆเลย และผมก็มุ่งมั่นเรื่องความสำเร็จในหน้าที่การงาน ไม่ค่อยคิดเรื่องผู้หญิง ต้องถือว่าโชคดีมาก...เป็นพรหมลิขิตก็ว่าได้!! ที่จู่ๆได้เจอ แพ็ท โดยบังเอิญ หลังจากได้คุยกัน เราสองคนเชื่อว่าคุณพ่อของ แพ็ท ทำให้เราได้มาเจอกัน!! ได้ฟัง พี่มาร์คของน้องแพ็ท เล่าถึงตรงนี้ ทีมข่าวสตรีไทยรัฐถึงกับสะดุ้งโหยง เอ๊ะหรือว่า คุณพ่อเต๋อจะมาเข้าฝันเป็นพ่อสื่อให้ลูกสาวจริงๆ?!

แพ็ท เดาใจออก รีบเสริมทันที คือปกติ แพ็ท จะคุยกับคุณพ่อตลอด จะอธิษฐานว่า ให้คุณพ่อคุ้มครองด้วย ถ้ามีอะไรที่ดีก็ขอให้คุณพ่อพามาพบลูก แต่ถ้าสิ่งไม่ดีต่างๆก็ขอให้ออกไปจากชีวิต!! และทุกอย่างลูกก็อยากเจอสิ่งดีๆ ตรงนี้ที่ได้มาเจอกัน ก็เพราะพรหมลิขิต และคุณพ่อช่วย



คุณแม่ว่าอย่างไรบ้าง ที่ลูกสาวจะแต่งงานกับฝรั่ง?!



แพ็ท : คุณแม่เป็นคนคอนเซอร์เวทีฟ และหวงลูกมาก จะประคบประหงมอย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่เด็กๆ แรกๆรู้ว่าคบ พี่มาร์ค ก็ตกใจเหมือนกัน แต่จะคอยดูลูกอย่างใกล้ชิด จะคอยแนะนำ แต่ปล่อยให้ลูกตัดสินใจเองตอน แพ็ท บอกคุณแม่ว่า ลูกอยากแต่งงาน คุณแม่ก็ถามว่าลูกคิดดีแล้วหรือ ตัดสินใจและคิดจนแน่ใจหรือยัง ให้ไปคิดให้ดีก่อนแล้วค่อยมาบอก!!

แพ็ท ก็คิดดีแล้วทุกอย่าง รู้สึกสบายใจ แพ็ท มีความสุขที่เขาเป็นผู้ใหญ่ ทำให้เราสามารถคุยได้ทุกอย่าง น่าจะดูแลเราได้ดี เข้ากับครอบครัวเราได้ คุณแม่ เห็นว่าลูกตัดสินใจจริงๆ ลูกรักใครแม่ก็รักด้วย แต่แม่เพิ่งมาบอกว่า จะเป็นคนชาติไหนไม่สำคัญ ขอให้เป็นคนดีและรักเราก็พอ!!



มาร์คทราบไหมคะว่าแพ็ทเป็นนักร้องดัง ของเมืองไทย



มาร์ค : แพ็ท กับคุณแม่เป็นคนถ่อมตัวมาก!! รู้จักกันปีกว่าๆ ผมถามว่า แพ็ท ทำอะไร เขาบอกว่าเป็นนักร้อง ผมก็อ๋อเหรอ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะตอนอยู่อเมริกาแถวฮอลลีวูด ไปไหนก็เจอแต่คนแนะนำตัวว่าเป็นดารานักร้อง เพราะอยากเป็นสตาร์!!

เราก็นึกว่า แพ็ท คงชอบร้องเพลงเฉยๆ ไม่ได้ร้องเป็นเรื่องเป็นราว แต่พอเขาส่งซีดีเพลงอัลบั้มแรกมาให้ ผมอ้าปากค้างเลย...นี่มันมืออาชีพชัดๆ!!

ยิ่งพอได้พาแม่ผมมาดูเขาเล่นละครเวทีเรื่องทวิภพ ก็ทึ่งในพรสวรรค์เขาจริงๆ ผมรักเธอเพราะเป็นเธอ... ไม่ใช่เพราะเป็นดารานักร้อง!! ก็เหมือนกับเธอที่ไม่ได้รักผมเพราะเงิน ทั้งๆที่ผมเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ!!


ตกหลุมรักสาวไทยคนนี้ตรงไหนคะ


มาร์ค : คงต้องใช้ หมึกเยอะกว่าจะบรรยายหมด!!
แพ็ททำให้ผมอยากเป็นคนดีขึ้น!! เราสองคนโตมาจากครอบครัวคล้ายๆกัน เธอรักพ่อแม่และน้องสาว เหมือนกับผมที่สนิทกับทุกคนในครอบครัวมาก เราสองคนคุยกันรู้เรื่อง ทุกอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องพยายามเยอะ!! ผมต้องการผู้หญิงที่เข้ามาแชร์ ชีวิตด้วย และผมสามารถซัพพอร์ตเธอได้เต็มที่

แล้วแพ็ทละคะถูกใจหนุ่มมะกันคนนี้เพราะอะไร ?

แพ็ท : พี่มาร์ค เป็นคนจิตใจดี มองโลกแง่ดี เป็นผู้ใหญ่ และใจเย็นมาก อยู่ด้วยแล้วมีความสุข รู้สึกอบอุ่น!! ที่สำคัญเขาให้เกียรติคุณแม่และครอบครัวเรา แพ็ท พูดคุยปรึกษาเขาได้ทุกเรื่อง คงเพราะเขาโตกว่าเกือบ 8 ปี

ความรู้สึกเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

มาร์ค : ทุกอย่างเริ่มจากเพื่อน ตั้งแต่วันที่ผมเจอ แพ็ท ที่สนามบิน ก็ทิ้งระยะเป็นปีกว่าจะได้เจอกันอีก!! เราคุยกันแต่ทางอีเมล์ และโทรศัพท์ แค่คุยกันแบบเพื่อนฝูง ก็น่าสนใจดี แต่ไม่รู้สึกตื่นเต้น จนกระทั่งผมได้บินมาหาเธอที่เมืองไทย ยิ่งคุยก็ยิ่งถูกคอ รู้สึกว่าเข้ากันได้ทุกอย่าง มันเป็นความ รู้สึกแบบซึมลึก...ค่อยๆเป็นค่อยๆไป จนตกหลุมรักไม่รู้ตัว!!

แพ็ท : เราเริ่มจากเพื่อน ค่อยๆใช้เวลาเรียนรู้ ซึ่งก็ตรงกับความเชื่อของเราสองคนว่า คนจะอยู่ด้วยกันได้ ต้องเริ่มจากการเป็นเพื่อน!! เราไม่เคยคบกันเป็นแฟน ต่างคนต่างรู้ในใจมากกว่า แรกๆจะอีเมล์คุยกัน 2 อาทิตย์ ครั้ง แต่พอสนิทกันมากขึ้นเริ่มเอสเอ็มเอสบ้าง 3-4 วันครั้ง พอหลังจากนั้นก็เริ่มคุยโทรศัพท์ 2 วันครั้ง พอเขาพาแม่มาดูทวิภพกลับไปก็คุยกันทุกวันเลย... วันละหลายครั้ง!! จนเขาขอแต่งงานวันที่ 23 ธ.ค. 2005


ใช้เวลาถามใจตัวเองนานกว่า 2 ปี ถึงจะบอกรัก มีอะไรคาใจหรือคะ ?

มาร์ค : ไม่ใช่อย่างนั้น ก่อนที่จะเจอ แพ็ท ผมยังคิดว่าจะครองตัวเป็นโสด เพราะไม่เจอใครที่ถูกใจ และอายุก็มากแล้ว!! แต่พอได้คุยกับ แพ็ท ทำให้ความคิดเปลี่ยนไป ยิ่งได้คุยกัน ยิ่งชัดขึ้น ไม่เคยรู้สึกกับใครเหมือนอย่างนี้!!

แต่ก็ยังไม่กล้าบอกรักหรือขอแต่งงาน เพราะคิดหนักเรื่องการใช้ชีวิตหลังแต่งงาน รู้ว่า แพ็ท ต้องอยู่เมืองไทยกับคุณแม่ ถ้าเรารักเขาก็ต้องเสียสละเพื่อเขาได้ คิดเรื่องนี้อยู่นานเกือบปี ถึงตัดสินใจจะย้ายมาอยู่เมืองไทย!!

ผมเป็นคนสนิทกับครอบครัว ต้องจากมาไกลก็อดคิดถึงและเป็นห่วงไม่ได้ ทั้งเพื่อนฝูงและคนในครอบครัว คงเป็นโรคโฮมซิคแน่ๆ โชคดีที่คนในครอบครัวเข้าใจ ถ้าผมรักใคร พวกเขาก็รักด้วย!!

ทุกอย่างเริ่มจากเพื่อน ตั้งแต่วันที่เจอที่สนามบิน ทั้งสองคุยกันแต่ทางอีเมล์ และโทรศัพท์ แค่คุยกันแบบเพื่อน แต่รู้สึกว่าเข้ากันได้ทุกอย่าง เป็นความรู้สึกแบบซึมลึก...ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป จนตกหลุมรักไม่รู้ตัว!!

เรื่องของรักแท้มิใช่มีแต่ในนิยาย!! มีสิ่งที่พิสูจน์ให้ประจักษ์แล้ว เมื่อพรหมลิขิตชักนำให้ มาร์ค แกรี่ โรดดริเกวซ หนุ่มอเมริกันเศรษฐีพันล้าน เชื้อสายโปรตุเกส-ไอริช-เยอรมัน ซึ่งครองตัวเป็นโสดเกือบ 4 ทศวรรษ โคจรมาพบกับ แพ็ท-สุธาสินี พุทธินันทน์ ลูกสาวคนโตของเต๋อ-เรวัติ พุทธินันทน์ กามเทพก็แผลงศรทันที!! ขีดเส้นคบกันแค่เพื่อนสนิทเฉียด 3 ปี ไปๆมาๆสารภาพรักกันหวานจ๋อยขนาดไหน นักร้องชื่อดังของเมืองไทยจึงยอมเซย์เยส... ตกลงฝากชีวิตไว้ในมืออดีตนักแข่งรถอาชีพระดับอินเตอร์ ผู้เป็นทายาทธุรกิจค้าที่ดินรายใหญ่สุดในแถบแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ผมเจอ แพ็ท ครั้งแรกที่สนามบินดีทรอยต์ เมื่อปี 2003 ยังไม่รู้สึกปิ๊งอะไร!! แค่คิดว่าผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์มาก!! วันนั้นผมไปกับเพื่อนๆทีมแข่งรถ ทุกคนอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร ผมก็เลยเข้าไปคุยก่อน แต่ยังไม่ได้คิดอะไร ผมเดินทางกับครอบครัวเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องงาน แทบไม่มีโอกาสเจอสาวๆเลย และผมก็มุ่งมั่นเรื่องความสำเร็จในหน้าที่การงาน ไม่ค่อยคิดเรื่องผู้หญิง ต้องถือว่าโชคดีมาก...เป็นพรหมลิขิตก็ว่าได้!! ที่จู่ๆได้เจอ แพ็ท โดยบังเอิญ หลังจากได้คุยกัน เราสองคนเชื่อว่าคุณพ่อของ แพ็ท ทำให้เราได้มาเจอกัน!! ได้ฟัง พี่มาร์คของน้องแพ็ท เล่าถึงตรงนี้ ทีมข่าวสตรีไทยรัฐถึงกับสะดุ้งโหยง เอ๊ะหรือว่า คุณพ่อเต๋อจะมาเข้าฝันเป็นพ่อสื่อให้ลูกสาวจริงๆ?!

แพ็ท เดาใจออก รีบเสริมทันที คือปกติ แพ็ท จะคุยกับคุณพ่อตลอด จะอธิษฐานว่า ให้คุณพ่อคุ้มครองด้วย ถ้ามีอะไรที่ดีก็ขอให้คุณพ่อพามาพบลูก แต่ถ้าสิ่งไม่ดีต่างๆก็ขอให้ออกไปจากชีวิต!! และทุกอย่างลูกก็อยากเจอสิ่งดีๆ ตรงนี้ที่ได้มาเจอกัน ก็เพราะพรหมลิขิต และคุณพ่อช่วย



เป็นลูกชายคนโตย้ายรกรากมาอยู่เมืองไทย ทางบ้านยอมหรือคะ ?



แพ็ท : เท่าที่รู้เขาใช้เวลาตัดสินใจนานมาก!!

มาร์ค : ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก...ผมตัดสินใจย้ายมาอยู่เมืองไทยเพื่อแพ็ท!! เพราะอยากซัพพอร์ตเธอเต็มที่ กำลังมองๆอยู่ว่าจะลงทุนธุรกิจอะไรในเมืองไทย ต้องเป็นธุรกิจที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยด้วย ตอนนี้กำลังหัดพูดภาษาไทยกับคุณยายของ แพ็ท และตั้งใจว่าจะต้องเขียนและอ่านภาษาไทยให้ได้

มาร์คเติบโตมาในครอบครัวแบบไหนคะ ?

มาร์ค : คอนเซอร์เวทีฟและโพรเทคทีฟมาก!! ตอนวัยรุ่น เวลาผมจัดปาร์ตี้ที่บ้าน ชวนเพื่อนๆมาเที่ยว พ่อแม่ผมก็จะอยู่ด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าปาร์ตี้สนุก แต่ต้องปลอดแอลกอฮอล์!! ซึ่งถือว่าผิดปกติสำหรับอเมริกันชน คนอเมริกันจะปล่อยให้ลูกๆช่วยเหลือตัวเอง แต่ครอบครัวผมค่อนข้างหัวโบราณ และหวงลูกชายมาก!!

รูปหล่อพ่อรวยอย่างนี้ คงมีสาวๆรุมล้อมเยอะ?!


มาร์ค : ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่!! ในชีวิตผมเดทอยู่ไม่กี่ครั้ง มีกิ๊กครั้งแรกก็ตอนอยู่ไฮสกูล อายุ 16 ปี พอเข้าวิทยาลัยก็มัวแต่เรียนจนไม่มีเวลาเหล่สาวที่ไหน ผมมีเพื่อนเยอะ แต่ไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน แค่คบกันคุยกัน แต่ไม่เคยตกหลุมรัก หรืออยากจะแต่งงานด้วยเหมือน แพ็ท!! เป็นความรู้สึกที่แตกต่างและชัดเจนมาก!!

เวลาอยู่ด้วยกันจะเป็นคู่รักสไตล์ไหนคะ ?

มาร์ค : เป็นเหมือนเพื่อน!! แพ็ท จะเป็นคนขี้เล่น น่ารักและตลก ไม่ค่อยซีเรียสกัน จะคุยกันตรงไปตรงมา เป็นตัวของตัวเอง ไม่มีฟอร์ม!!

แพ็ท : เราตกลงกันว่าเวลาทะเลาะกัน จะไม่ปล่อยให้ข้ามคืน ต้องเคลียร์กันเปิดอกเดี๋ยวนั้น!! เราสัญญาว่าจะไม่โกหกกัน พูดความจริงดีกว่ามารู้ทีหลัง!!





ตอนขอแต่งงานโรแมนติกขนาดไหน?

แพ็ท : โรแมนติกมากค่ะ แพ็ท น้ำตาไหลเลย เพราะไม่เคยนึกมาก่อนว่า จะสวยงามขนาดนี้!! ตอนนั้น แพ็ท บินไปฉลองคริสต์มาสกับน้องพีชที่อเมริกา พี่มาร์ค ขออนุญาตคุณแม่ พาไปดินเนอร์สองต่อสองเป็นครั้งแรก!! เขาเอารถลีมูซีนมารับที่บ้าน บอกว่าเดี๋ยวไปทานดินเนอร์กัน แล้วพี่มาร์ค ก็พาไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัว ไปดินเนอร์ถึงลาสเวกัส แพ็ท รีบโทร.บอกคุณแม่ก่อนเลย เพราะคิดว่าคงไม่อนุญาต ปรากฏว่าคุณแม่ไม่ว่าอะไรสักคำ แค่บอกว่า ให้ดูแลตัวเองให้ดีและอย่ากลับดึก!! พอดินเนอร์ใต้แสงเทียนกันเสร็จ พี่มาร์ค ก็ขอตัวไปทำธุระ แล้วให้พนักงานโรงแรมมาพา แพ็ท ไปห้องๆหนึ่ง เดินเข้าไปเจอแต่ดอกไม้ กับเทียนหอมเต็มไปหมด และมีกุหลาบโรยตามทางเดิน เขาเดินเข้ามาหา แล้วสารภาพว่ารัก แพ็ท บอกว่ารู้สึกประทับใจตั้งแต่แรกเริ่ม พร้อมกับคุกเข่าลงหยิบแหวนออกมาขอ แพ็ท แต่งงาน!! ตอนนั้นมีความสุขมาก รีบโทร.บอกคุณแม่ ปรากฏว่า พี่มาร์ค ปรึกษาท่านตลอด

หลังจากแต่งงานแล้ว ตั้งใจจะมีลูกสักกี่โหลดี?!

มาร์ค : ผมอยากสร้างครอบครัวให้อบอุ่นเหมือนกับปู่ย่าและพ่อแม่ ซึ่งคบเป็นแฟนกันตั้งแต่มัธยม และยังใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันถึงทุกวันนี้ผมมองหาคนจะมาเป็นคู่ชีวิต ไม่อยากด่วนตัดสินใจ เพราะกลัวพลาด!! อยากมีลูกสัก 2 คน เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง และผมก็จะทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดี ให้ความรักและการสนับสนุนทุกอย่าง เหมือนกับพ่อและปู่ที่ดูแลครอบครัวและเลี้ยงพวกเรามาอย่างดี

แพ็ท : ขอเว้นไว้สัก 2-3 ปีค่อยมีลูก อยากจะใช้ชีวิตแบบคู่รัก เรียนรู้ซึ่งกันและกันไปก่อน เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ยังไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกันมากนัก

เมื่อคู่กันแล้ว ย่อมไม่แคล้วกัน...อยู่ไกลคนละฟากฟ้า ยังโคจรมารักกัน!!


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์