ตกหลุมรักสาวไทยคนนี้ตรงไหนคะ
มาร์ค : คงต้องใช้ หมึกเยอะกว่าจะบรรยายหมด!!
แพ็ททำให้ผมอยากเป็นคนดีขึ้น!! เราสองคนโตมาจากครอบครัวคล้ายๆกัน เธอรักพ่อแม่และน้องสาว เหมือนกับผมที่สนิทกับทุกคนในครอบครัวมาก เราสองคนคุยกันรู้เรื่อง ทุกอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องพยายามเยอะ!! ผมต้องการผู้หญิงที่เข้ามาแชร์ ชีวิตด้วย และผมสามารถซัพพอร์ตเธอได้เต็มที่
แล้วแพ็ทละคะถูกใจหนุ่มมะกันคนนี้เพราะอะไร ?
แพ็ท : พี่มาร์ค เป็นคนจิตใจดี มองโลกแง่ดี เป็นผู้ใหญ่ และใจเย็นมาก อยู่ด้วยแล้วมีความสุข รู้สึกอบอุ่น!! ที่สำคัญเขาให้เกียรติคุณแม่และครอบครัวเรา แพ็ท พูดคุยปรึกษาเขาได้ทุกเรื่อง คงเพราะเขาโตกว่าเกือบ 8 ปี
ความรู้สึกเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
มาร์ค : ทุกอย่างเริ่มจากเพื่อน ตั้งแต่วันที่ผมเจอ แพ็ท ที่สนามบิน ก็ทิ้งระยะเป็นปีกว่าจะได้เจอกันอีก!! เราคุยกันแต่ทางอีเมล์ และโทรศัพท์ แค่คุยกันแบบเพื่อนฝูง ก็น่าสนใจดี แต่ไม่รู้สึกตื่นเต้น จนกระทั่งผมได้บินมาหาเธอที่เมืองไทย ยิ่งคุยก็ยิ่งถูกคอ รู้สึกว่าเข้ากันได้ทุกอย่าง มันเป็นความ รู้สึกแบบซึมลึก...ค่อยๆเป็นค่อยๆไป จนตกหลุมรักไม่รู้ตัว!!
แพ็ท : เราเริ่มจากเพื่อน ค่อยๆใช้เวลาเรียนรู้ ซึ่งก็ตรงกับความเชื่อของเราสองคนว่า คนจะอยู่ด้วยกันได้ ต้องเริ่มจากการเป็นเพื่อน!! เราไม่เคยคบกันเป็นแฟน ต่างคนต่างรู้ในใจมากกว่า แรกๆจะอีเมล์คุยกัน 2 อาทิตย์ ครั้ง แต่พอสนิทกันมากขึ้นเริ่มเอสเอ็มเอสบ้าง 3-4 วันครั้ง พอหลังจากนั้นก็เริ่มคุยโทรศัพท์ 2 วันครั้ง พอเขาพาแม่มาดูทวิภพกลับไปก็คุยกันทุกวันเลย... วันละหลายครั้ง!! จนเขาขอแต่งงานวันที่ 23 ธ.ค. 2005
ใช้เวลาถามใจตัวเองนานกว่า 2 ปี ถึงจะบอกรัก มีอะไรคาใจหรือคะ ?
มาร์ค : ไม่ใช่อย่างนั้น ก่อนที่จะเจอ แพ็ท ผมยังคิดว่าจะครองตัวเป็นโสด เพราะไม่เจอใครที่ถูกใจ และอายุก็มากแล้ว!! แต่พอได้คุยกับ แพ็ท ทำให้ความคิดเปลี่ยนไป ยิ่งได้คุยกัน ยิ่งชัดขึ้น ไม่เคยรู้สึกกับใครเหมือนอย่างนี้!!
แต่ก็ยังไม่กล้าบอกรักหรือขอแต่งงาน เพราะคิดหนักเรื่องการใช้ชีวิตหลังแต่งงาน รู้ว่า แพ็ท ต้องอยู่เมืองไทยกับคุณแม่ ถ้าเรารักเขาก็ต้องเสียสละเพื่อเขาได้ คิดเรื่องนี้อยู่นานเกือบปี ถึงตัดสินใจจะย้ายมาอยู่เมืองไทย!!
ผมเป็นคนสนิทกับครอบครัว ต้องจากมาไกลก็อดคิดถึงและเป็นห่วงไม่ได้ ทั้งเพื่อนฝูงและคนในครอบครัว คงเป็นโรคโฮมซิคแน่ๆ โชคดีที่คนในครอบครัวเข้าใจ ถ้าผมรักใคร พวกเขาก็รักด้วย!!
ทุกอย่างเริ่มจากเพื่อน ตั้งแต่วันที่เจอที่สนามบิน ทั้งสองคุยกันแต่ทางอีเมล์ และโทรศัพท์ แค่คุยกันแบบเพื่อน แต่รู้สึกว่าเข้ากันได้ทุกอย่าง เป็นความรู้สึกแบบซึมลึก...ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป จนตกหลุมรักไม่รู้ตัว!!
เรื่องของรักแท้มิใช่มีแต่ในนิยาย!! มีสิ่งที่พิสูจน์ให้ประจักษ์แล้ว เมื่อพรหมลิขิตชักนำให้ มาร์ค แกรี่ โรดดริเกวซ หนุ่มอเมริกันเศรษฐีพันล้าน เชื้อสายโปรตุเกส-ไอริช-เยอรมัน ซึ่งครองตัวเป็นโสดเกือบ 4 ทศวรรษ โคจรมาพบกับ แพ็ท-สุธาสินี พุทธินันทน์ ลูกสาวคนโตของเต๋อ-เรวัติ พุทธินันทน์ กามเทพก็แผลงศรทันที!! ขีดเส้นคบกันแค่เพื่อนสนิทเฉียด 3 ปี ไปๆมาๆสารภาพรักกันหวานจ๋อยขนาดไหน นักร้องชื่อดังของเมืองไทยจึงยอมเซย์เยส... ตกลงฝากชีวิตไว้ในมืออดีตนักแข่งรถอาชีพระดับอินเตอร์ ผู้เป็นทายาทธุรกิจค้าที่ดินรายใหญ่สุดในแถบแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ประเทศสหรัฐอเมริกา
ผมเจอ แพ็ท ครั้งแรกที่สนามบินดีทรอยต์ เมื่อปี 2003 ยังไม่รู้สึกปิ๊งอะไร!! แค่คิดว่าผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์มาก!! วันนั้นผมไปกับเพื่อนๆทีมแข่งรถ ทุกคนอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร ผมก็เลยเข้าไปคุยก่อน แต่ยังไม่ได้คิดอะไร ผมเดินทางกับครอบครัวเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องงาน แทบไม่มีโอกาสเจอสาวๆเลย และผมก็มุ่งมั่นเรื่องความสำเร็จในหน้าที่การงาน ไม่ค่อยคิดเรื่องผู้หญิง ต้องถือว่าโชคดีมาก...เป็นพรหมลิขิตก็ว่าได้!! ที่จู่ๆได้เจอ แพ็ท โดยบังเอิญ หลังจากได้คุยกัน เราสองคนเชื่อว่าคุณพ่อของ แพ็ท ทำให้เราได้มาเจอกัน!! ได้ฟัง พี่มาร์คของน้องแพ็ท เล่าถึงตรงนี้ ทีมข่าวสตรีไทยรัฐถึงกับสะดุ้งโหยง เอ๊ะหรือว่า คุณพ่อเต๋อจะมาเข้าฝันเป็นพ่อสื่อให้ลูกสาวจริงๆ?!
แพ็ท เดาใจออก รีบเสริมทันที คือปกติ แพ็ท จะคุยกับคุณพ่อตลอด จะอธิษฐานว่า ให้คุณพ่อคุ้มครองด้วย ถ้ามีอะไรที่ดีก็ขอให้คุณพ่อพามาพบลูก แต่ถ้าสิ่งไม่ดีต่างๆก็ขอให้ออกไปจากชีวิต!! และทุกอย่างลูกก็อยากเจอสิ่งดีๆ ตรงนี้ที่ได้มาเจอกัน ก็เพราะพรหมลิขิต และคุณพ่อช่วย
https://www.facebook.com/teeneedotcom