แตงโมรักษากำแพง ไม่ขอใช้คำว่าแฟน

"โมแคร์พ่อมากกว่าพี่ก้องอยู่แล้ว คำขาดคือคำพ่อ แต่พ่อก็ไม่เคยยื่นคำขาด"

เป็นดาราสาวคนหนึ่งที่ถูกจับตาเรื่องราวความรัก ที่คบหากับ "ก้อง"การุณ ซอโสตถิกุล ทายาทห้างดังซีคอนสแควร์ สำหรับนางเอกสาว "แตงโม"ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หลังห่างหายจากการพูดคุยกันมานาน วันนี้สบโอกาสเหมาะ เลยปรี่เข้าไปกะเทาะหัวใจน้อยๆ ของผลแตงโมลูกย่อม

- เป็นยังไงบ้างกับความรักในปัจจุบัน?

แตงโม - "เรื่อยๆ ค่ะ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ถามว่าความสัมพันธ์คงที่มั้ย ก็ต้องยอมรับว่าสนิทกันมากขึ้นอยู่แล้วเพราะเรารู้จักกันมาหลายปีแล้ว จะมาบอกว่าคงที่ก็ดูจะโกหกไปหน่อย เมื่อความสัมพันธ์มันพัฒนาก็ต้องบอกว่าพัฒนา แต่ก็ยังพัฒนาไม่ถึงคำว่าแฟน ยังต้องใช้เวลาอีก"

- อีกสักเมื่อไหร่ถึงจะใช้คำว่าแฟนได้ล่ะ?

แตงโม - "โมขอเวลา 5 ปีถึงจะใช้คำว่าแฟนได้ ที่วางยาวขนาดนี้เพราะเมื่อก่อนโมมีแฟนในอายุยังเด็ก พอผ่านมาจนถึงตอนนี้โมคิดว่าบางทีเวลามันต้องใช้เพื่อศึกษากัน ถ้าเราสรุปเร็ว ตัดสินใจเร็ว การเปลี่ยนสถานะเร็วไม่ใช่ว่าเป็นผลดี มันเหมือนเราหิวข้าวแล้วรีบกินข้าว พออิ่มก็เท่านั้น แต่ถ้าเราอยากเลือกอาหารที่เราอยากกินมากที่สุดมันก็ต้องใช้เวลา ถึงจะได้สิ่งที่ดีที่เหมาะสมกับเราที่สุดค่ะ"


- แต่ตอนนี้มีข่าวกับ "พี่ก้อง" จนจะกลายเป็นแฟนกันไปแล้ว?

แตงโม -
"โมเป็นคนขวางโลก ไม่คบเผื่อเลือก ถ้าคบเผื่อเลือกสำหรับโมดูเป็นการลดค่าผู้หญิง แล้วพี่ก้องก็ไม่คบเผื่อเลือกด้วย เราต้องให้เกียรติกันตรงนี้ การคบเผื่อเลือกแล้วมันกลายเป็นการไม่ให้เกียรติกัน อย่างนั้นความสัมพันธ์แย่นะ"

- พี่ก้องรู้มั้ยว่าโมขอเวลา 5 ปี?

แตงโม - "ไม่รู้หรอกค่ะ โมคิดขึ้นมาเล่นๆ ของโมเอง เขาไม่ต้องมารู้ก็ได้ แค่เป็นตัวของตัวเองเข้าหากันมากที่สุด ระยะเวลามันจะพาเราไปเอง"

- เป็นคำตอบแบบดาราหรือเปล่าที่บอกว่ายังไม่ใช่แฟน แต่ควงคู่ไปไหนด้วยกันบ่อย?

แตงโม - "บางทีมันเหมือนเป็นแพตเทิร์นใช่มั้ย จริงๆ ก็อาจจะมีคนจำนวนนึงที่แอ๊บ แต่ก็จะมีคนอีกจำนวนนึงอย่างเช่นโมที่ไม่แอ๊บ บางทีอาจจะแค่จีบกันอยู่ ยังไม่ทันเป็นแฟนกัน แต่พอเดินด้วยกันปุ๊บกฎของวงการบันเทิงต้องเป็นแฟนกันทันที ทั้งที่ผู้ชายอาจจะเอาชนะใจผู้หญิงไม่ได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้โมก็รู้ว่าคนมองโมไปแล้วว่าปากแข็ง โมจะปากแข็งเพื่ออะไร การปากแข็งไม่ได้ทำให้ได้เงินมากขึ้นซักหน่อย แต่ที่บอกว่าไม่ใช่แฟนเพราะอยากรักษากำแพงตรงนี้ไว้"


- พี่ก้องชนะใจโมหรือยัง?

แตงโม -
"เป็นบางเรื่องค่ะ 2 ปีที่รู้จักกันไม่ได้ทำให้เรารู้ทุกเรื่อง โมถึงบอกว่าขอเวลา 5 ปี รับรองแบบนั้นรู้ไส้รู้พุงแน่นอน"

- ปิดโอกาสทั้งคู่หรือเปล่า เพราะมีข่าวด้วยกันแบบนี้ก็ไม่มีใครเข้ามาอยู่แล้ว?

แตงโม - "โมปิดตัวเองตั้งแต่โมเลิกกับคนเก่าไป (ด็อจ-พันธุ์ธวัช) ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีแฟนอยู่แล้ว ส่วนพี่ก้องจะมีใครเข้ามารึเปล่าอันนี้ต้องไปถามเอาเอง แต่จากที่โมรู้จักเขาและเคยใช้เวลาอยู่ด้วยกัน พี่ก้องเป็นคนไม่เจ้าชู้เลย ที่มั่นใจขนาดนี้เพราะเขาพิสูจน์ตัวเองให้โมเห็นด้วยมั้ง"

- เหมือนพี่ก้องมีใจให้โมไปเยอะมากเลยนะ แต่โมยังดูกั๊กๆ?

แตงโม - "โมเป็นผู้หญิงนะ โมไม่ได้กลัวที่จะใช้คำว่าแฟน แต่โมกลัวคำว่าผิดหวังมากกว่า โมอาจจะเป็นเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ ทำอะไรถ้าไม่ดีก็ไม่ทำ ถ้าไม่ได้ที่สุดก็ไม่เอาเลย เป็นแบบนี้กับทุกเรื่อง พี่ก้องเขาคงรู้ว่าโมเป็นคนจริงจังกับชีวิต โมเลยมีกำแพงกับทุกเรื่อง อย่างเพื่อนถ้าคบแล้วไม่ดีโมหนีเลย เป็นคนไม่มีตรงกลาง รู้นะว่าไม่ดี แต่แก้ไม่ได้"


- เคยเข้าไปหาคุณพ่อคุณแม่พี่ก้องบ้างหรือยัง?

แตงโม -
"(ทำเสียงตกใจ) อุ๊ย! อย่าถลำลึกไปถึงครอบครัวเลย อาจจะเจอบ้างโดยบังเอิญ แต่ไม่ได้เป็นการเข้าไปหา เรื่องผู้ใหญ่โมไม่อยากพูด โมต้องระมัดระวังเรื่องนี้มาก เพราะข่าวทุกอย่างกระทบจิตใจพ่อโมมากที่สุด แต่พ่อเป็นคนไม่พูด อะไรก็ยอมลูก โมเลยสงสารพ่อ"

- กับพี่ก้องนี่พ่อโมโอเคมั้ย?

แตงโม - "โมไม่รู้หรอกว่าจริงๆ แล้วพ่อโอเครึเปล่า เพราะพ่อเป็นคนไม่พูด จะโอเคหรือไม่โอเคพ่อก็ไม่พูดกับโมอยู่ดี เหมือนเขาตามใจ แต่ลึกๆ แล้วพ่อไม่อยากให้โมมีแฟน เพราะกลัวว่าโมจะเอาความสนใจไปให้ความรักมากกว่าเรื่องงานกับการเรียน ที่ผ่านมาโมเป็นแบบนั้นจริงๆ มีแฟนแล้วทุ่มเท"

- รู้เองหรือพ่อเปรยๆ ว่าไม่อยากให้มีแฟน?

แตงโม - "พ่อเคยเขียนใส่จดหมายบอก โมอึ้งไปเลย แต่เรื่องเกิดมานานแล้ว หลังๆ โมเลยไม่อยากอ่านจดหมายพ่อเท่าไร อ่านแล้วเครียด"


- อย่างนี้จะศึกษาใครสักคน จะบอกพ่อก่อนมั้ย?

แตงโม -
"ปกติแล้วไม่ค่อยได้บอก เหมือนพ่อมาเห็นอีกทีก็ตอนที่เราคุยกับคนนั้นไปแล้ว พ่อเป็นคนไม่ถามไม่พูดเลย ฉะนั้น เวลาโมจะคบใครต้องระวังมากๆ โมแคร์ความรู้สึกพ่อมาก แล้วยิ่งมาไม่พูดแบบนี้โมยิ่งกลัว"

- แล้วจะมีผลต่อความรักในอนาคตหรือเปล่า?

แตงโม - "โมแคร์พ่อนะ แต่ก็รู้ว่าพ่อเชื่อว่าโมดูแลตัวเองได้ พ่อรู้ว่าโมไม่ยอมโง่ ไม่ยอมเสียเปรียบใครง่ายๆ โมจะไม่เอาเรื่องปวดหัวไปให้เขาคิดหรอก ถ้ามีปัญหาปุ๊บโมจะหยุดที่ตัวโมเอง เขารู้ว่าโมจัดการชีวิตตัวเองได้ โมแคร์พ่อมากกว่าพี่ก้องอยู่แล้ว คำขาดคือคำพ่อ แต่พ่อก็ไม่เคยยื่นคำขาด"

- คำขาดคือคำพ่อ ถ้าพ่อบอกว่าผู้ชายคนนี้ไม่เอา โมจะเลิกเลยเหรอ?

แตงโม - "โมมั่นใจว่าโมไม่เลือกคนที่พ่อไม่เอามาให้พ่อดู โมก็มีมาตรฐานของโมเหมือนกัน คนที่โมคุยต้องผ่านการคัดสรรจากโมแล้วจะไม่มีแบบอีเหละเขละขละมาให้พ่อดู แต่พ่อจะคิดแบบโมรึเปล่าไม่รู้ เพราะพ่อเคยพูดว่าโมจะต้องได้ผู้ชายแบบไหน แล้วพ่อก็ยกตัวอย่างคนที่ประสบความสำเร็จมากๆ โมรู้เลยว่าพ่อชอบคนขยันเอาการเอางาน"

- สเป๊กพ่อกับสเป๊กโมเหมือนกันมั้ย?

แตงโม -
"ใกล้เคียง เพราะโมต้องการผู้นำ ต้องการคนที่เหนือกว่าโม โมวางแผนชีวิตเป๊ะๆ ฉะนั้นคนที่เข้ามาจะอ่อนแอไม่ได้"


- ถ้าวันนึงจะมีคู่ พ่อต้องโอเคกับคู่ของเราด้วยว่างั้นเถอะ?

แตงโม - "โมก็ไม่รู้ว่าเขายังไง ตั้งแต่เด็กๆ พ่อบอกโมว่าต้องจบมหาวิทยาลัยก่อนถึงจะมีแฟนได้ โมก็แหกกฎมานานแล้ว ฉะนั้นเรื่องพวกนี้โมจะรู้สึกผิดแล้วในระดับนึงเลยไม่อยากเอาเรื่องพวกนี้ไปคุยกับพ่ออีก แต่พยายามดูแลตัวเองให้ดีๆ อยู่ในกรอบ"

- พี่ก้องมีเกร็งมั้ย เพราะบางทีอาจจะมีที่ไปไหนด้วยกัน 3 คน พ่อ โม และพี่ก้อง?

แตงโม - ไม่หรอกมั้ง เพราะโมไม่เคยพูดถึงครอบครัวของเขากับเขา พี่ก้องเองก็ไม่พูดถึงครอบครัวโมกับโม เจอก็คือเจอทักทายกันตามประสา แต่จะมานั่งพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว เราพูดกันไม่ได้ เรื่องแบบนี้เป็นการให้เกียรติกัน ไม่อย่างนั้นจะเป็นการก้าวก่าย"

- นิยามความรักของสาวที่ชื่อแตงโมเป็นอย่างไร?

แตงโม - "เปรียบคนรักเป็นเหมือนบ้านเรา ไม่ว่าเราจะออกไปไหนมาไหนก็จะรู้สึกว่าอยากกลับมาบ้าน อยู่บ้านเราแล้วรู้สึกสุขสบายและอุ่นใจ มีคนรักก็ต้องมีให้ได้เหมือนบ้านที่รองรับเราได้ตลอดเวลา บ้านเราไม่มีทางไปเป็นบ้านของใครแน่นอน เราร้องไห้ หัวเราะ เหงา ทุกเหตุการณ์มันอยู่ในบ้านของเราหมดค่ะ"

- ทุกวันนี้มองหน้าพี่ก้องเป็นบ้านหรือยัง?

แตงโม - "(หัวเราะ) ม่ายเอาม่ายพูดดดด"

แค่มองตาก็รู้ ไม่จำเป็นต้องพูดแล้วแหละ


ไร้นิยามชีวิต

เพราะอยู่ในวงการบันเทิง ย่อมมีคำถามที่แทงใจอยู่ไม่น้อย แต่อยู่ที่ว่าใครจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน แต่กับดาราสาว "แตงโม"ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ยอมรับว่า "จัดการยากมาก"

"ข้อเสียของโมคือควบคุมตัวเองไม่ได้ถ้าถูกรุกรานทางความคิด ใครจะมาก้าวก่ายสิทธิเราไม่ได้ ยิ่งถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จักโมจริงๆ แล้วมาถามเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง โมจะมีอาการว่าเธอไม่รู้อย่ามากล่าวหาฉันได้มั้ย โมถือว่าคนไหนเข้าใจโม โมก็จะให้ใจเขา 100% ถ้าแอ๊บปุ๊บโมก็รู้ว่าได้ใจ แต่จะไม่ได้ใจลึกๆ ของเราหรอก"

ปีที่แล้วเจอเรื่องร้ายๆ มาเยอะ บางคนจมกับสิ่งเหล่านั้น แต่ดูโมไม่อะไรเท่าไหร่ ดาราสาวกล่าวแจง

"ถ้าคนไหนปรับตัวเร็วก็ได้เปรียบเร็ว คนไหนจมกับอดีตก็ปรับตัวช้า โมจมกับมันนิดหน่อย แต่พยายามจะปรับตัวให้เร็วและคิดทุกอย่างในแง่บวก โมถือว่าตัวเองอายุยังน้อย ถ้าปรับตัวได้เร็วก็จะเป็นผลดีกับตัวเองเร็ว"

ต่อข้อถามถึงกรอบชีวิตของตัวเอง แตงโมกล่าวว่า

"เดี๋ยวนี้โมจะเป็นคนชัดเจนและมีจุดยืนมากขึ้น ด้วยความที่โมอยากจะเป็นคนแกร่ง อยากเป็นคนมีความคิดในสายตาคนอื่น โมเลยแสดงออกตรงจุดนี้มาเต็มที่ จนทำให้คนมองว่าโมแข็งกร้าวขึ้น โมก็ต้องยอมรับว่าบางคนรับไม่ได้หรอกที่ผู้หญิงจะมาแข็งแกร่งหรือมีความคิดเป็นผู้นำเกินไป"

แต่ก้าวร้าว กับ แข็งแกร่ง เส้นมันบางนิดเดียว แยกแยะตัวเองออกจากคำว่าก้าวร้าวยังไง?

แตงโมอธิบาย "ก้าวร้าวคือพูดจาตรง พูดจาข้ามหัวผู้ใหญ่ ไม่รู้จักกาลเทศะ ตอนเด็กๆ โมอาจจะเป็นแบบนั้นบ้าง แต่พอโตขึ้นโมยังคงพูดตรง แต่โมให้เกียรติทุกคนที่มีบุญคุณกับโม ให้เกียรติผู้ใหญ่ และโมต้องการการให้เกียรตินั้นกลับคืนมา"

ส่วนอนาคต ดาราสาววางไว้ว่าอีก 2-3 ปีข้างหน้าอยากประสบความสำเร็จในชีวิตให้ได้เท่ากับที่ทำประโยชน์ให้คนอื่น โดยเน้นย้ำสองอย่างนี้ต้องให้ได้ปริมาณมากเท่าๆ กัน

"โมจะไม่นึกถึงแต่ตัวเองและประสบความสำเร็จนำโด่งไปมากกว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำให้คนอื่น ก่อนรถคว่ำโมคิดแต่จะประสบความสำเร็จลูกเดียว ตอนนี้ย้อนกลับไปแล้วรู้สึกว่าทำไมตัวเองเห็นแก่ตัวขนาดนี้"

ดูเป็นคนคิดมากจัง

"ใช่ โมเป็นคนคิดมาก โดยเฉพาะเรื่องวางแผนชีวิต โมเป็นคนไม่ยอมเดินพลาด เดินพลาดปุ๊บจะโทษตัวเองแล้วเก็บตัวเองไม่เจอหน้าคนไม่สบตาคน ที่เป็นอย่างนี้เพราะโมเป็นเด็กมีปัญหาที่พ่อแม่เลิกกัน ทุกวันนี้ยังคิดจะไปหาจิตแพทย์ แต่ยังไม่มีโอกาส บางครั้งโมมีความรู้สึกว่าคุยกับใครก็ไม่มีใครเข้าใจเราเท่ากับเราคุยกับตัวเองค่ะ"

สุดท้ายถามเรื่องนิยามชีวิต เจ้าตัวกล่าวว่า

"โมเป็นคนไม่มีนิยามชีวิต มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ โมคิดแค่ว่าให้ตัวเองเป็นคนดีไม่ทำร้ายตัวเอง คนอื่น และสังคมค่ะ"


คงตำแหน่ง"สาวเซ็กซี่"

แม้จะสะดุดกับช่วงที่เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำไประยะหนึ่ง แต่สาววัย 23 "แตงโม-ภัทรธิดา" ก็ยังกลับมาทวงตำแหน่งสาวเซ็กซี่ในหน้าซัมเมอร์นี้ได้ทันท่วงที กับการโพสท่าชุดบิกินีลงในนิตยสารเล่มใหญ่ ที่เปิดดูแล้วต้องร้องว้าว....

ก็ความเซ็กซี่ของน้องหนูที่ดูยังคงเดิม

"ไม่รู้อ่ะ ว่ารักษาภาพเซ็กซี่ไว้เหมือนเดิมหรือเปล่า ก็ไปเรื่อยๆ ตามงาน" แตงโมออกตัว

พ่อว่าไงบ้างกับการถ่ายแบบเซ็ตนี้ เจ้าตัวส่ายหน้า

"ไม่ว่าไง พ่อก็เหมือนเดิม ไม่พูด พ่อคงเฉยๆ พอเราตัดสินใจแล้ว และทางช่องอนุญาต พ่อเลยอนุญาตตามช่องไปด้วย" แล้ว "พี่ก้อง" ล่ะ "ต้องไปถามเขาเอง โมไม่ได้เขินเขานะ แต่ตอบแทนไม่ได้จริงๆ"

ไม่คิดรับงานคู่กันบ้างเหรอ?

ดาราสาวทำตาลุกวาวก่อนพยักหน้าหงึกหงัก "อยากได้เหมือนกันนะ แต่ไม่เห็นมีใครจ้างเลย ที่ไหนมีเงินจ้างโมไปหมดแหละ"

จะมีโอกาสถ่ายแบบคู่กันบ้างมั้ยเอ่ย?

"ดูข้อเสนอก่อนสิ คือเราไม่ได้ต้องการที่จะถ่ายคู่กัน แต่สิ่งที่เราจะแพ้คือคนที่เราร่วมงาน หัวหนังสือ เราต้องรู้สึกว่าทีมงานต้องเจ๋งแบบนั้นใจไปเลย อีกอย่างนึงคือเงินจำนวนมาก ถ้ามาปุ๊บเราแพ้แน่ แต่ถ้าเงินมามากแล้วผู้ร่วมงานไม่เจ๋ง แบบนั้นก็ไม่เอาเหมือนกัน"

เรียกว่าต้องได้ทั้งเงินและใจ


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์