ลูกผู้ชายตามล่าฝัน สเตฟาน-สันติ

เรียกว่าเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่ฮอตฮิตที่สุดในตอนนี้ เพราะละครเรื่อง “สายใยสวาท” กำลังเรตติ้งพุ่งติดเพดานสำหรับ “สเตฟาน-สันติ วีระบุญชัย”

และล่าสุดมีพ็อกเกตบุ๊กเป็นของตัวเองชื่อว่า “เป็นอย่างสเตฟานอยู่อย่างสันติ” ลูกผู้ชายวัย 25 ปีที่มีความฝัน และเจ้าตัวยอมรับกำลังตามล่าฝัน และมุ่งมั่นหวังสักวันฝันจะเป็นจริง ส่วนความในของเขาเป็นอะไรนั้น เราว่าเราไปพูดคุยกับเขากันเลยดีกว่า

นึกยังไง ถึงทำพ็อกเกตบุ๊ก ?

“ที่ผมทำ ผมไม่คิดว่ามันเป็นแฟชั่นนะสำหรับผม ที่ผ่านมาคนเขาทำกันเยอะเขาน่าจะมีเหตุผล พ็อกเกต บุ๊กก็เหมือนหนังสืออย่างหนึ่งที่คนเขาอ่านคลายเครียด ผมว่าทุกคนก็อยากเล่าเรื่องตัวเอง อยากมีหนังสือของตัวเองสักเล่มหนึ่ง ตอนแรกเขาอยากทำเรื่องราวชีวิตของผม แต่เห็นคนทำกันเยอะแล้ว ผมเลยบอกว่าอยากนำเสนอเรื่องที่ไม่เคยมีใครรู้สัก 10 เรื่อง ที่อ่านแล้วสบาย ๆ ครับ”

มีหนังสือเป็นของตัวเองแล้วหนึ่งเล่ม แล้วอยากจะมีอัลบั้มเป็นของตัวเองสักอัลบั้มไหม ?

“ไม่ครับ ผมร้องเพลงไม่เป็น แต่ก็แปลกนะคนไหนไม่ว่าจะทำอะไรจะต้องมีเพลงมาเกี่ยวข้องตลอด แต่ผมเชื่อว่าคนไทย 70-80 ล้านคนร้องเพลงไม่เป็นทุกคนหรอก เอาที่แบบร้องเพลงเป็นแล้วเก่งมีไม่ถึง 10 ล้าน คนหรอก ผมร้องเพลงไม่เป็นเข้าใจไม่มีพรสวรรค์เลยไม่ทำครับ”



ทุกวันนี้ชอบชีวิตตัวเองที่เป็นอยู่อย่างนี้หรือเปล่า?

“ผมว่าชีวิตผมก็ถือว่าดีนะ หลายคนมักจะบอกว่าไม่ชอบชีวิตตัวเอง คิดว่าตัวเองลำบาก ชอบมองคนอื่นว่าเขาสบายกว่าเรา แต่ผมว่าคนไทย 70-80 ล้านคน มีอยู่ 20 ล้านคน ที่เขาสบายกว่าเรา แต่อย่าลืมว่าอีก 50 ล้านคนเขาลำบากกว่าเรานะ ผมก็พอใจกับชีวิตของผมตอนนี้นะ แต่บางคนมีทุกอย่างครบมีเงินใช้เยอะแยะ เป็นร้อยล้าน แต่บอกว่าไม่มีความสุข ก็แสดงว่าเขาไม่พอ”

เป็นคนที่อยู่อย่างพอเพียงเหมือนกันนะ?

“ไม่หรอกครับ ผมแบบว่าพอครึ่งหนึ่ง แต่อีก ครึ่งหนึ่งก็ยังอยากได้โน่นได้นี่อยู่เลย ยังอยากจะมีของเล่น เยอะ ๆ ถ้ามันไม่มีเลย ชีวิตเราจะอยู่ที่เดิม มันต้องมีบ้าง เพื่อที่จะได้ดิ้นรนหา จะได้มีแรงบันดาลใจ” สิ่งที่ สเตฟาน อยากได้มากที่สุดในชีวิตคืออะไร สำหรับบตอนนี้“อยากมีเงินเยอะ ๆ ครับ จะได้ดูแลครอบครัวได้ จะได้ไม่ต้องเครียด จะได้ดูแลพ่อ แม่ ได้ดูแลคนที่เรารักทุกคนได้อย่างดี ตอนนี้ก็เลยต้องขยันทำงานมาก ๆ ครับ”

แล้วรู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเอง เป็นดาราดังมาก ๆ?

ไม่ทราบครับ แต่ว่ารู้สึกดีเวลาไปไหน มาไหนแล้วมีคนเขามาทักบอกชอบละครที่เราเล่น ทักเราแบบชื่อในละครมันรู้สึกดีนะ แต่ไอ้คำว่าดาราเนี่ย ผมก็ไม่เข้าใจความหมายของคำนี้ แต่ผมไม่ชอบคำนี้เลย ผมชอบที่จะเรียกตัวเองว่านักแสดงมากกว่านะ คำว่าดารา มันฟังดูแปลก ๆ ไปไหนมาไหนผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์นะ เพราะว่าผมใช้ชีวิตปกติมาก ชอบที่จะใช้ชีวิตให้มันเต็ม ๆ ช่วงอายุ 25-30 มันเป็นช่วงชีวิตที่เต็มที่ทำอะไรได้ทุกอย่าง ไม่มีขอบเขตเล่นกีฬาได้ทุก อย่าง แล้วเราจะมานั่งเก็บตัวอยู่ที่บ้านทำไม ใช้ชีวิตของตัวเองให้มันเต็มที่ดีกว่า อย่าไปยึดติดอยู่กับคำพวกนั้นเลย เพราะผมไม่เคยคิดว่าเป็นดาราแล้วต้องเก็บตัวหรือว่าต้องเจอยาก ๆ ผมไม่เป็นอย่างนั้น ผมคิดว่าตัวเองเหมือนเป็นดาวโรงเรียน มีคนรู้จักเยอะ แต่ก็ยังเป็นคนธรรมดาอยู่”



แล้วเคยรู้สึกอึดอัดจากการมีชื่อเสียงของเราบ้างหรือเปล่า?

“อึดอัดครึ่งหนึ่งครับ เพราะด้วยความที่เราเป็นนักแสดงไปไหนมาไหนมีคนเชื่อถือ มีคนเอ็นดูเราเยอะ แต่ที่ไม่ชอบหรือว่าทำให้ผมอึดอัดก็คือเวลาที่เราเจอคน  ที่คิดว่าเราเป็นคนของประชาชน แล้วเขาจะทำอะไรกับเราก็ได้ เพราะว่าผมเคยเจอแบบว่านั่งกินข้าวอยู่ดี ๆ แล้วเดินเข้ามาจับตัวเรา บางทีก็เดินเข้ามานั่งกินข้าวด้วยเลย ไม่ใช่ว่าผมถือตัวนะครับ แต่ว่าบางครั้งเราไปกับครอบครัว หรือว่าเราไปกับผู้ใหญ่ เราก็ต้องคอยดูแลคนที่อยู่กับเราตรงนั้นด้วย คือบางครั้งมันต้องมีเวลาของมันด้วย อยากให้คิดถึงใจเราด้วยครับ”

ถึงวันนี้คิดว่าตัวเองโต หรือยัง เพราะบางมุมดูเหมือน ฟานยังเด็กอยู่?

“ครับ ผมยังเด็ก ผมคิดว่าทุกคนแหละครับ ไม่ว่าจะโตสักอายุเท่าไร แต่ลึก ๆ แล้วยังมีมุมเด็กที่แอบซ่อนอยู่ แล้ววันนี้ผมอายุ 25 เอง ไม่รู้จะรีบแก่ไปไหน ยังมีเวลาแก่อีก 40-50 ปีครับ (หัวเราะ) ผมว่าช่วงเวลาเด็ก เนี่ย เป็นช่วงเวลาที่เราสนุกที่สุดนะ มันเป็นอะไรที่ใส ๆ และจะอยู่ในความทรงจำเราตลอดด้วยนะ แต่ถึงผมจะยังเด็ก ผมก็มีความรับผิดชอบครับ เวลาทำงานเราก็ต้องรับผิดชอบให้เต็มที่ อยากให้งานออกมาดี”



เห็นว่าสเตฟานชอบ มอเตอร์ไซค์ แล้วไม่ไปเป็นนักแข่งรถละ?

“ถ้าได้เงินเยอะก็คงเป็นแล้วครับ (หัวเราะ ) จริง ๆ นะ ผมว่าคนเราทุกคนทำอะไรเพื่อเงินทั้งนั้นแหละ เพราะเงินมันคือปัจจัยหลักของเรา อีกอย่างเป็นนักแข่งมันก็เสี่ยงนะ เพราะว่าถ้าเราพลาดนิดเดียวเราอาจจะพิการ ได้ อีกอย่างผมว่าเราจะเครียดด้วยนะ เพราะว่าเราต้องแข่ง กับคนอื่น แต่อย่างเราทำงานเป็นนักแสดง เราไม่ต้องไปแข่งกับใคร เราแข่งกับตัวเราเองพอแล้ว มันคนละแบบกันครับ ผมว่าคนเราเกิดมาเพื่ออะไรที่แตกต่างกันนะ”

แล้วถ้าวันนี้ไม่ได้เป็นนักแสดง สเตฟาน อยากทำอาชีพอะไร?

“ผมอยากจะทำงานที่แบบว่า เมื่อวันหนึ่งผมตายไปแล้ว แต่ยังมีคนจำผมได้อยู่ ผมไม่อยากจะเป็นแบบว่าตายไปแล้วก็หายไปกับเวลา แต่ไม่ได้ขอแบบว่าคนจะต้องจำผมได้ทั้งประเทศนะ ผมขอแค่แบบในสายอาชีพหรือว่าในกลุ่ม ๆ หนึ่งเท่านั้นผมพอใจแล้ว ผมถือคติครับว่า ฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง แต่ถ้าไม่ถึงฝันอย่างน้อยเราพยายามแล้ว และผมเชื่อว่าเราเดินมาเกินกว่าที่เราฝันเสียอีกถ้าเราพยายามนะ”

คำถามสุดท้าย คิดว่าตัวเองเป็นหนุ่มเนื้อหอม หรือเปล่า ?

“ไม่นะ เพราะว่าผมไม่ใช่คนที่คาแรกเตอร์  นุ่มลึก สาว ๆ ไม่ชอบแบบผมหรอกครับ”
 
ก็รู้กันไปแล้วว่าผู้ชายคนนี้ เขามีฝันแบบไหน เพราะฉะนั้นใครที่มีความฝันก็อย่าท้อแท้นะครับ สู้ต่อไป อย่างที่สเตฟานว่า ฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง.



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์