ยู่ยี่พ้นวังวน ทลายปมชีวิต



"ถ้าเรายังรักกัน ยังต้องการมีกัน เราควรแยกกันในวันที่รู้สึกว่าความอดทนเราถึงที่สุด"



สร้างความตะลึงงันให้กับแฟนๆ เมื่ออดีตสาวเซ็กซี่ "ยู่ยี่"อลิสา เกวสต้า ออกมาแถลงข่าวหย่าร้างกับสามีฝรั่ง แฟรงค์ เกวสต้า ครูสอนเทนนิสที่อยู่กินกันมา 6 ปี จนมีหนุ่มน้อย "ตาเป้" และ "โตโร่"

วันนี้สาวม่ายป้ายแดงสลัดคราบน้ำตา มาเล่าเรื่องราวชีวิตรักและชีวิตร้าง ให้แฟนๆ ได้รับทราบ ผ่านคอลัมน์ "คุยกับดาว"

ยี่ได้มาพบรักกับอดีตสามีได้ยังไง?

ยู่ยี่ - "ยี่มาเจอเขาเหมือนโชคชะตา ตอนแรกรู้สึกไม่ชอบหน้า ไม่ใช่สเป๊ก เราพยายามหนี แต่เขาพยายามตาม จนวันหนึ่งยี่บอกเขาว่าถ้ายูหาบ้านยี่ได้ ยี่จะยอมออกเดตด้วย ไม่กี่วันเขาหาบ้านเราเจอ เขาชักชวนให้ยี่เล่นกีฬา ตีเทนนิส คบกันได้ 6 เดือน เขาอยากมีครอบครัว เขาคิดว่ายี่คือคนที่ใช่ ยี่แพ้ความดีของเขา เขาพยายามทำให้ยี่เลิกดื่ม เพราะเขาเป็นคนไม่ดื่ม เขาเป็นผู้ชายที่เก็บทุกรายละเอียด มีความเป็นพ่อบ้านมากกว่ายี่ซะอีก พอรู้ว่ามีลูก ยี่ดีใจมากเพราะไม่คิดว่าสุขภาพแย่ๆ ของยี่จะมีลูกได้ ยี่เบรกทุกอย่างหมดทั้งเหล้า บุหรี่ และเราก็ได้ข่าวดีว่ามีลูกแฝดชาย คลอดลูกแฝด "ติปปี้-ตาเป้" แต่ติปปี้แฝดคนโตอยู่ได้แค่อาทิตย์เดียวก็เสียชีวิตเพราะหัวใจไม่สมบูรณ์"

หลายคนสงสัยว่าสาวเซอร์จะมีวิธีเลี้ยงลูกอย่างไร?

ยู่ยี่ - "เปิดตำราเลี้ยงลูกเลย ยี่ได้นิสัยหลายอย่างมาจากพ่อ ยี่เลี้ยงลูกคนแรกแบบเข้มงวดกับวินัยมากๆ จนพอมีลูกคนที่สองเราเริ่มรู้สึก รู้สึกสงสารตาเป้ที่ยี่เข้มงวดกับเขามากไป พอเลี้ยงโตโร่ยี่เลยพยายามปรับ ลด และชดเชยให้ตาเป้ที่ตอนนี้เขาเพิ่ง 4 ขวบ 4 เดือน ยี่หวังว่ายังคงทัน ตอนที่ยี่อายุเท่าตาเป้ ยี่ยังจำอะไรได้ไม่ชัดเจน จำได้แค่บางอย่างที่ฝังใจ อย่างตอนที่พ่อแม่ทะเลาะกัน ตอนนี้ยี่เลยพยายามปรับหลายอย่าง"


6 ปีที่อยู่กินกับแฟรงค์เป็นอย่างไร?

ยู่ยี่ - "พี่แฟรงค์เป็นคนที่ซีเรียสกับงาน ยี่รู้ว่าเขาทำงานหนัก และบางทียี่รู้สึกหงุดหงิดที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว บ่อยครั้งที่ต่างคนต่างโมโหแล้วพูดกันไม่เข้าหู ทะเลาะกัน แรกๆ ความอดทนมีให้กันเยอะ แต่หลังๆ น้อยลง ยอมรับว่าเงินก็มีส่วนเกี่ยว เพราะหลังจากที่มีลูก ยี่เบรกงานในวงการ ซึ่งเป็นข้อตกลงของเราว่ายี่เป็นคนเลี้ยงลูก แล้วเขาเป็นคนหาเงิน ทั้งยังมีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เข้ามาเยอะ ยี่อยากไปไหนไกลๆ ก็ไม่ค่อยได้ ยี่รู้สึกอึดอัด อยากทำงาน อยากช่วยครอบครัว เขาไม่เห็นด้วย เพราะเขาไม่ชอบวงการ เวลาที่มีปัญหา ทะเลาะกัน เราเลือกที่จะแยกกันชั่วครู่ โดยเขาจะขับรถวนอยู่แถวๆ บ้าน"

"มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาขนสัตว์มาเลี้ยงที่บ้านทั้งๆ ที่เขาไม่มีเวลาดูแลพวกมัน บ้านยี่มีสารพัดสัตว์ สุนัข กระต่าย งู กิ้งก่า เต่าดิน ฯลฯ ยี่เองแค่เลี้ยงลูกก็วุ่นอยู่แล้ว นี่ยี่ยังต้องมามีลูกๆ เป็นสารพัดสัตว์อีก ต้องทำความสะอาดให้พวกเขา เคยรู้สึกว่าฉันจะบ้าตาย ตัวนั้นก็ตายตัวนี้ก็ตาย มันรู้สึกหดหู่มากๆ"

ดูชีวิตครอบครัวน่าจะมีความสุข เพราะแฟรงค์ก็เป็นคนที่รักครอบครัว ไม่เกเร?

ยู่ยี่ - "เขาดูเป็นคนที่สมบูรณ์ รักครอบครัว แต่คนสองคนพอมาอยู่ด้วยกันเราถึงจะรู้ว่าอะไรที่ยังขาดหรือเกินไป หรือเติมไม่เต็ม หรือถ้าจะเติมให้เต็มต้องใช้เวลา และอย่างที่เลิกกัน ไม่ใช่ว่าเราเกลียดกัน เราเลิกกันทั้งที่ยังผูกพันกัน แต่การแยกกันอยู่มันจำเป็น เรื่องเลิกกันเราคุยกันนานแล้ว ยี่เป็นคนเริ่ม แต่เขาไม่ยอม เขาพยายามทำให้ทุกอย่างดีขึ้นให้ได้ แต่หลังจากที่เขาไปคุยกับจิตแพทย์ ซึ่งยี่คุยมานานแล้ว เขาเริ่มรู้สึกว่าเขาขังยี่ไว้ในลูกบอลลูนกลมๆ ยี่ก็ไม่รู้ว่าอารมณ์ไหน เขาเข้ามาพูดกับยี่ว่าเราควรจะหย่ากัน"

มีข้อตกลงอะไรหลังตัดสินใจเลิก?

ยู่ยี่ - "หลักๆ แล้ว ลูกๆ มาก่อน เพื่อที่จะทำให้ลูกๆ รู้สึกว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไป สิทธิ์ของลูกอยู่ที่พ่อและแม่ ส่วนเรื่องหย่ายังไม่สมบูรณ์เพราะต้องไปเดินเรื่องที่สถานทูตสเปน ส่วนเรื่องที่อยู่ ยี่อยู่บ้านวันจันทร์-อังคาร และวันพุธ-ศุกร์ ยี่มานอนที่อะคาเดมี่ แยกห้องนอน ไปรับไปส่งลูกๆ ให้เวลากับลูกเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่รู้สึกอะไรมาก แล้ววันศุกร์ก็พาลูกๆ กลับบ้านที่สุขาภิบาล 3"


ความสัมพันธ์ ณ วันนี้กับแฟรงค์เป็นอย่างไร?

ยู่ยี่ - "ทุกวันนี้เรายังคุยกันอยู่ เป็นการคุยดีต่อกัน ให้เกียรติกันมากขึ้น ไม่ทะเลาะกัน ดูทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น ทำให้ยี่หวังว่าครอบครัวเราจะกลับมาเป็นครอบครัวได้อีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้อยู่ที่ยี่คนเดียว ขึ้นอยู่กับเขาด้วย ดีไม่ดียี่อาจจะมีงานแต่งงาน ที่ผ่านมายี่ไม่มีงานแต่งงาน ยอมรับว่าตอนที่ท้องแรกยี่เซ็นซิทีฟมาก แอบน้อยใจที่ตัวเองไม่มีงานแต่งงานเหมือนคนอื่น"

ยี่เป็นคนหนึ่งที่ทำให้หลายคนรู้จักอาการดีเพรสชั่นหรือโรคซึมเศร้า?

ยู่ยี่ - "มั้งค่ะ ยี่มีอาการซึมเศร้ามาตั้งแต่ยี่สูญเสียลูกคนแรก จนเราเลี้ยงลูกแล้วเขามาถูกพ่อถูกตายายตามใจจนเราควบคุมเขาไม่ได้ ปัญหาหลายๆ อย่างมันทำให้เรารู้สึกแย่กับชีวิต ทำอะไรก็ล้มเหลว ผิดพลาด เราจะโทษตัวเอง กดดันตัวเอง เอาปัญหาหลายเรื่องมารวมกันสับสนไปหมด ซึ่งตอนนั้นยี่ควรแก้ปัญหาไปทีละอย่าง"

อยากฝากอะไรถึงคนที่เผชิญชีวิตเช่นเดียวกัน?

ยู่ยี่ - "ยี่ว่าสถานภาพของยี่คงมีแม่บ้านหลายคนเข้าใจ บางคนตกอยู่ในสถานภาพจำยอม อดทนเพื่อลูก แต่ สำหรับยี่ ถ้าเรายังรักกัน ยังต้องการมีกันอยู่ เราควรแยกกันอยู่ในวันที่เรารู้สึกว่าความอดทนเราถึงที่สุด ยี่อยากฝากบอกถึงคนที่กำลังรู้สึกเหมือนยี่ อย่าอยู่กับตัวเอง อย่าอยู่กับความทุกข์ มันจะยิ่งสะสม ควรหาอะไรทำ อย่าจมอยู่กับความคิดที่ว่าต้องทนอยู่เพื่อลูก บางทีการทนเพื่อลูกมันอาจจะทำร้ายลูกของเราก็ได้"

"วันนี้ยี่เข้าใจถึงความรู้สึกของพ่อแม่ที่แยกทางกัน เข้าใจความรู้สึกของพ่อแม่ที่ทะเลาะกัน และสำหรับคนที่มีปัญหา กำลังรู้สึกว่าตัวเองขาดความอบอุ่น ยี่อยากแนะนำให้ไว้ใจคุณพ่อ คุณแม่ พี่ ป้า น้า อา หรือใครก็ได้ในครอบครัว ปรึกษาพูดคุยในสิ่งที่เรารู้สึกทุกข์ใจ อีกข้อคืออย่าเอาปัญหาอะไรมาใส่ตัวเองมากจนเกินไป และดูดีๆ ก่อนตัดสินใจ ที่ว่าดูคือดูตัวเราใจเราดีๆ ค่ะ"

เพราะปัญหาบางอย่างก็หนักเกินจะแบกเพียงลำพัง


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์