หลายคนยังไม่รู้! ชมพู อารยา ซุปตาร์ตัวแม่ ไม่ได้เป็นแค่นักแสดง แต่ยังทำอาชีพนี้ด้วย?

สวยรวยเก่งครบสูตร สำหรับซุปตาร์ของเมืองไทย อย่าง "ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต" หลังคลอดลูกแฝดไม่ทันไร คุณแม่มือใหม่ก็หันมาเอาดีด้านธุรกิจผู้เชี่ยญชาญด้านการสร้างสรรค์กลยุทธ์สื่อสารและคอนเทนท์ ที่พึ่งเปิดตัวไปในนาม บริษัท เค โอ แอล แมนเนจเมนท์ จำกัด (KOL Management) ในการวางกลยุทธ์ดิจิทัลมีเดีย รูปแบบการสื่อสารผ่านโลกโซเชียล

ซึ่ง "KOL Management" เป็นการสื่อสารแนวใหม่ (KOL-Key Opinion Leader) ในโลกโซเชียลที่จะสร้างคอนเทนท์ออนไลน์ ดึงดูดความสนใจให้ผู้คนติดตามทางโซเชียลมีเดียได้อย่างทรงประสิทธิภาพ

อาลี ซีอานี" ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เค โอ แอล แมนเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมาในเกาหลีและจีนมี การใช้คนที่มีความคิดและความสามารถที่โดดเด่นในการสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์ ในการโปรโมทสินค้า โดยบุคคลเหล่านี้คือผู้ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ได้อย่างมีคุณภาพและน่าสนใจ และทำให้คนทั่วไปติดตามทางโซเซียลมีเดีย โดย เค โอ แอล แมนเนจเมนท์ มีสมาชิกที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์กว่า 20 รายชื่อที่พร้อมจะสนับสนุนการทำการตลาดของสินค้าต่างๆ

"ธุรกิจนี้ใหญ่และมีอัตราการเติบโตสูงมากในเกาหลีและจีน แต่ยังไม่แพร่หลายมากในประเทศไทย เราคาดหวังมากว่าเราจะสามารถสร้างการตลาดแนวใหม่นี้ได้ในประเทศไทย"

สาวชมพู่ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เค โอ แอล แมนเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า สื่อโซเชียลมีความพิเศษมากกว่าสื่ออื่นที่มีอยู่ในขณะนี้ ตรงที่สามารถสื่อสารได้หลากหลายช่องทาง เลือกตามความเหมาะสม จำกัดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน

โดยเคโอแอล แมนเนจเมนท์ มีสมาชิกที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ คนดัง อาทิ "กาละแมร์" พัชรศรี เบญจมาศ, "แต้ว" ณฐพร เตมีรักษ์, "มิ้นต์" ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง, หลุยส์ สก๊อต, แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด, "พลอย" ชวพร เลาหพงศ์ชนะ, "ก็อต" จิรายุ ตันตระกูล เป็นต้น

"คอนเทนท์ที่มีความโดดเด่นจะทำให้เราเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเมื่อมีการใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นตลาดนี้มีขนาดใหญ่มาก แต่การสร้างคอนเทนท์ที่ดี ให้คนติดตามได้มากๆ ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง วันหนึ่งเราก็ต้องประสบผลสำเร็จ เพราะเรามีการออกแบบคอนเทนท์เพื่อเป้าหมายของลูกค้าเป็นหลัก"

จากทิศทางการเติบโตด้านกลยุท์ดิจิทัลมีเดีย ผ่านโลกโซเชียล เคโอแอล ตั้งเป้าสร้างรายได้ 200 ล้านบาทในปี 2561 เชื่อแนวโน้มธุรกิจนี้ในประเทศไทยมีโอกาสเติบโตสูงไม่แพ้ในประเทศเกาหลีและจีน

ที่มา ทีนิวส์